สวัสดีค่ะ เราเป็นคนนึงที่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เราเคยไปฉีดตัวนึงที่ที่จมูก กับหมอกระเป๋า ซึ่งสารตัวนี้คนที่ฉีดแจ้งว่าเป็น ฟิลเลอร์ซึ่งสามารถสลายไปเองใน 1-2 ปี ตอนนั้นต้องบอกก่อนเลยว่าเราเองไม่ได้เข้ามาศึกษาหาข้อมูลของสารตัวนี้เลย เห็นเพื่อนของเพื่อนไปฉีดมาเราก็ไปถามว่าทำไปเสริมจมูกมาหรอ เขาบอกป่าวไปฉีดจมูกมาตอนนั้นเราก็แบบมันมีแบบนี้ด้วยหรอ ดีจังไม่เจ็บตัว ส่วนตัวเป็นคนกลัวการผ่าตัด เลยให้เพื่อนของเพื่อนพาไปฉีดจร้า
ครั้งแรกเขาฉีดให้เราไม่เยอะบอกว่ามันเหมือนต้องปรับฐาน จมูกก่อน ฉีดออกมาก็เริมมีสันนิดๆละสวยดีไม่ต้องผ่าตัด พอผ่านไป 1 เดือน เราเลยไปฉีดครั้งที่ 2 ครั้งนี้ ขึ้นไปสันสวยเลย ตอนนั้นชอบมากๆ แล้วคิดว่าเด้วมันก็สลายไป .... พอเวลาผ่านไป 5-6 หลังจากที่ฉีดมา มันไม่สลายไปแบบที่คิด แถมมันยังดูโด่งขึ้นเรื่อยๆ จนมีหลายคนทักว่าไปเสริมจมูกมาหรอ จากนั้นเราก็เริ่มสังเกตตัวเอง เออออ มันโด่งขึ้น จริงๆ แล้วมันก้ดูเหมือนโต ขึ้นด้วย ตอนนั้นเราเครียดมากๆ เพราะเราว่ามันผิดปกติแล้วแหละ แล้วด้วยที่ความกลัวว่ามันจะเป็นอันตรายไหม ก็หาข้อมูล ในเนตว่าต้องทำยังไงได้บ้าง มีหลากหลายที่หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น ฉีดสลาย ดูดออก ขูด คือทุกอย่างมันดูน่ากลัวไปหมดสำหรับเราในตอนนั้น หาข้อมูลอยู่หลายปีนะ 2-3 ปีได้ ตอนนั้นไม่มั่นใจในตัวเองเลย เครียดกลุ้ม เป็นทุกข์มันทรมานมาก จริงๆ และคิดว่าตัวเองจะอยู่กับไอเจ้าสารฉีดนี้ได้แต่ความจริงไม่ใช่เลยนานวันมันยิ่งมีความรู้สึกว่าสันจมูกมันใสๆ เวลาส่องแดดคือเห็นชัดมาก ตอนนั้นร้องไห้เกือบทุกวัน ฮ่าๆๆๆๆ จนเราไปเจอกระทู้ในพันทิพ กระทู้นึง ที่เค้าเขียนไว้น่าจะประมาณปี 2558 เขาก็มีอาการแบบนี้เดียวกันกับที่เราเจอปัญหา คือ จมูกแลดูบวมใหญ่ ผิดรูป จากเดิม เราก็อ่านดูว่าเขาทำที่ไหนยังไง เขาแชร์ให้ฟังว่าทำที่ ณพลักษณ์ ศัลยกรรมคลีนิค ต้นปี เราเลยไปศึกษาดูใน Facebook สิ่งแรกที่เราอึ้งคือ คุณหมอ เขียนประวัติตัวเองที่ละเอียดมากๆที่ Facebook เราก็รู้สึกว่าคุณหมอท่านนี้เรารู้สึกประทับใจมาก .. บวกกับการที่ได้อ่านประสบการณ์จากที่มีคนมาแชร์ไว้ที่ พันทิพด้วย เราเลยลองแอดไลน์ที่ ณพลักษณ์ ศัลยกรรมคลีนิค เพื่อประเมินค่าใช้จ่ายในการรักษา พอเราเห็นราคาค่ารักษาตอนนั้นเรารู้สึกราคาสูงมากเลยจะเก็บเงินยังไงเนี่ย ซึงในตอนนั้นเราก็เลยลองแอดไลน์ไปกับอีกที่นึงดูดังเลยเป็นโรงพยาบาล เราส่งภาพให้เค้าประเมิน เค้าบอก 60,000 บาทใช้เวลาผ่าตัด 2 ชม ตอนนั้นเราช่างใจมากๆเลย เพราะราคาถูกว่าที่ ณพลักษณ์ ศัลยกรรมคลีนิค มากๆๆๆๆ ตอนนั้นก็คิดว่าจะเลือกที่ไหนดีก่อน เราเลยลองเลือกที่แรกเป็นไปปรึกษาที่ ณพลักษณ์ ศัลยกรรมคลีนิค
ครั้งแรกเลยเราเข้าไปปรึกษาวันที่ 10 ตุลา 2563 เพื่อประเมินค่าใช้จ่ายจริงๆของเคสเรา เมื่อเราไปถึงทางคลีนิกจะให้เราอ่านเอกสารฉบับนึง ซึ่งเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับสารฉีดทั้งหมดและอันตรายของมัน เราอ่านอยู่นาน
เราต้องบอกก่อนว่าแต่ละเคสค่าใช้จ่ายไม่เท่ากันนะคะ วันแรกที่เราไปถึงเราได้พบกับคุณเฟียตก่อนค่ะ คุณเฟียตใจดีมากๆ ตอบทุกคำถามที่เราอยากรู้ ได้กระจ่างหมดแล้วก็ประเมินค่าใช้จ่ายทั้งหมด ของเราโชคดีมากที่ได้ค่ารักษาราคาเริ่มต้นที่ 120,000 ค่ะ
หลังจากที่เราตกลงทำกับที่นี่แน่นอนแล้วและได้วันผ่าตัดเป็นวันที่ 21 กุมภา 2564 โดยวันที่ 7 กุมภา 2564 เราจะได้พบกับคุณหมอ อรรถพันธ์ และคุณ เฟียตเพื่อออกแบบรูปทรงจมูกถ้าเราสามารถใส่ซิลิโคนเสริมได้เลยหลังจากการผ่าตัดคุณเฟียตจะเป็นคนเหลาซิลิโคนค่ะ คุณเฟียตดูรูปเราก่อนที่จะฉีดสารเหลวแล้วก็ออกแบบตามรูปทรงจมูกทรงเดิมค่ะ พูดคุยแล้ววางมัดจำพร้อมทั้งรับยามาทานก่อนผ่าตัดวันนั้น ที่นี่คุณหมอสอนวิธีแกะยาทานเอง บอกอธิบายยาตัวท่านเองหมดเลยค่ะเราประทับใจมากกกกกกกก
อ่ออออ ... ของเรามีต้องไปโควิดก่อนการผ่าตัดด้วย 1 วันนะคะ โดยทางคลีนิคจะมีใบส่งตัวให้เราไปตรวจที่ รพ มงกุฏวัฒนะ ค่ะ (ส่วนนี้เราต้องออกค่าใช้จ่ายเองนะคะ)
……… …….. และแล้วก็มาถึงวันที่ต้องผ่าตัดตื่นเต้นสุดๆๆ ไปเลย เราไปถึงประมาณเที่ยงๆ นั่งอ่านเอกสารชุดเดิม และ ก้เข้าพบคุณหมอ ต่อไปก็ล้างหน้า 5 รอบ, แปรงฟัน 2 รอบ, บ้วนปาก 2 รอบ และใช้สำลีแบบก้านที่จุ่มน้ำยาฆ่าเชื้อเอาไว้ทำความสะอาดจมูกอีก 3 รอบ
แล้วก็เข้าห้องไปนั่งฟังเพลง เพลินมากค่ะ เพลงเพราะมากๆค่ะ เป็นเพลงรุ่นเก่าๆ ฟังสบายๆ จากนั้นคุณหมอก็สวมชุดผ่าตัดที่เป็นชุดผ่าตัดจริงๆ คุณหมออธิบายทุกขั้นตอนก่อนลงมือทุกครั้ง ว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ ที่นี่คุณหมอเป็นคนทำเองหมดทุกขั้นตอนเลยจริงๆค่ะ
เริ่มฉีดยาชาเข็มแรก รุ้สึกแค่เข็มจิ้มจริงๆ คุณหมอมือเบามากกกกกกก เราว่าฉีดยาชาตอนผ่าฟันคุดยังเจ็บกว่าเลย จากนั้นก็ไม่รุ้อะไรเลยค่ะ ของเราฉีดยาชาน่าจะประมาณเกือบ 200 เข็มได้เพราะหลังจากเข็มแรกแล้วก็ไม่รุ้สึกอะไรเลยค่ะ พอฉีดยาชาครบแล้วเราก็เคลิ้มๆ ด้วยเสียงเพลง แอร์เย็นๆ เหมือนไปนอนฟังเพลง ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดดดดดด ระหว่างนั้นคุณหมอเริ่มขูดนำสารเหลวตัวร้ายยยยยย ออกมาจากจุดต่างๆ คุณหมอท่านอธิบายหมดว่ามันไหลไปที่ไหนบ้าง ขูดออกตรงไหน อยากจะบอกว่าคุณหมอมือเบามากเรารู้สึกตัวตลอด แต่ไม่เจ็บเลยจริงงงงงงงงงง หลังจากนำสารออกมาหมดแล้ว ผ่านไปประมาณ 5 - 6 ชั่วโมงได้ คุณหมอแจ้งพี่พยาบาลให้ตามคุณเฟียตขึ้นมาเรา อยากจะบอกว่าดีใจที่สุด เพราะมันหมายความว่าเราสามารถใส่ซิโคนเสริมเข้าไปได้ค่ะ คุณเฟียตทำการวัดจมูกเราแล้วก็เหลาซิลิโคนให้เหมาะกับเรา หลังจากเสร็จ เราก็มีมึนๆ นิดหน่อย ออกจากห้องผ่าตัดมาคุณหมอก็เอาสารที่ขูดออกมาให้ดูซากกก OMG !!!!! เราสงสารตัวเองมากเลย เพราะสารที่เราฉีดเข้าไปจากหมอกระเป๋าในตอนนั้นไม่ใช้ฟิลเลอร์แต่อย่างใด มันคือ "พาราฟิน" ใหญ่มากเว่อออ ที่มันอาศัยอยู่ในจมูกของเรามา 10 กว่าปี !!!!!!!! แล้ววันนี้เราก็ได้นำมันออกไป เหมือนเราได้เกิดใหม่เลย !!!!!
สำหรับใครที่อยากสอบถามอะไรเพิ่มเติมสามารถพิมพ์มาสอบถามได้เลยนะคะ ยินดีมากกกๆๆ ค่ะ
[CR] นำสารฉีดที่จมูกออกได้จริงเหมือนเกิดใหม่ที่นี่ที่เดียว ณพลักษณ์ ศัลยกรรมคลีนิค นพ.อรรถพันธ์ พรมณฑารัตน์ และคุณเฟียต
ครั้งแรกเขาฉีดให้เราไม่เยอะบอกว่ามันเหมือนต้องปรับฐาน จมูกก่อน ฉีดออกมาก็เริมมีสันนิดๆละสวยดีไม่ต้องผ่าตัด พอผ่านไป 1 เดือน เราเลยไปฉีดครั้งที่ 2 ครั้งนี้ ขึ้นไปสันสวยเลย ตอนนั้นชอบมากๆ แล้วคิดว่าเด้วมันก็สลายไป .... พอเวลาผ่านไป 5-6 หลังจากที่ฉีดมา มันไม่สลายไปแบบที่คิด แถมมันยังดูโด่งขึ้นเรื่อยๆ จนมีหลายคนทักว่าไปเสริมจมูกมาหรอ จากนั้นเราก็เริ่มสังเกตตัวเอง เออออ มันโด่งขึ้น จริงๆ แล้วมันก้ดูเหมือนโต ขึ้นด้วย ตอนนั้นเราเครียดมากๆ เพราะเราว่ามันผิดปกติแล้วแหละ แล้วด้วยที่ความกลัวว่ามันจะเป็นอันตรายไหม ก็หาข้อมูล ในเนตว่าต้องทำยังไงได้บ้าง มีหลากหลายที่หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น ฉีดสลาย ดูดออก ขูด คือทุกอย่างมันดูน่ากลัวไปหมดสำหรับเราในตอนนั้น หาข้อมูลอยู่หลายปีนะ 2-3 ปีได้ ตอนนั้นไม่มั่นใจในตัวเองเลย เครียดกลุ้ม เป็นทุกข์มันทรมานมาก จริงๆ และคิดว่าตัวเองจะอยู่กับไอเจ้าสารฉีดนี้ได้แต่ความจริงไม่ใช่เลยนานวันมันยิ่งมีความรู้สึกว่าสันจมูกมันใสๆ เวลาส่องแดดคือเห็นชัดมาก ตอนนั้นร้องไห้เกือบทุกวัน ฮ่าๆๆๆๆ จนเราไปเจอกระทู้ในพันทิพ กระทู้นึง ที่เค้าเขียนไว้น่าจะประมาณปี 2558 เขาก็มีอาการแบบนี้เดียวกันกับที่เราเจอปัญหา คือ จมูกแลดูบวมใหญ่ ผิดรูป จากเดิม เราก็อ่านดูว่าเขาทำที่ไหนยังไง เขาแชร์ให้ฟังว่าทำที่ ณพลักษณ์ ศัลยกรรมคลีนิค ต้นปี เราเลยไปศึกษาดูใน Facebook สิ่งแรกที่เราอึ้งคือ คุณหมอ เขียนประวัติตัวเองที่ละเอียดมากๆที่ Facebook เราก็รู้สึกว่าคุณหมอท่านนี้เรารู้สึกประทับใจมาก .. บวกกับการที่ได้อ่านประสบการณ์จากที่มีคนมาแชร์ไว้ที่ พันทิพด้วย เราเลยลองแอดไลน์ที่ ณพลักษณ์ ศัลยกรรมคลีนิค เพื่อประเมินค่าใช้จ่ายในการรักษา พอเราเห็นราคาค่ารักษาตอนนั้นเรารู้สึกราคาสูงมากเลยจะเก็บเงินยังไงเนี่ย ซึงในตอนนั้นเราก็เลยลองแอดไลน์ไปกับอีกที่นึงดูดังเลยเป็นโรงพยาบาล เราส่งภาพให้เค้าประเมิน เค้าบอก 60,000 บาทใช้เวลาผ่าตัด 2 ชม ตอนนั้นเราช่างใจมากๆเลย เพราะราคาถูกว่าที่ ณพลักษณ์ ศัลยกรรมคลีนิค มากๆๆๆๆ ตอนนั้นก็คิดว่าจะเลือกที่ไหนดีก่อน เราเลยลองเลือกที่แรกเป็นไปปรึกษาที่ ณพลักษณ์ ศัลยกรรมคลีนิค
ครั้งแรกเลยเราเข้าไปปรึกษาวันที่ 10 ตุลา 2563 เพื่อประเมินค่าใช้จ่ายจริงๆของเคสเรา เมื่อเราไปถึงทางคลีนิกจะให้เราอ่านเอกสารฉบับนึง ซึ่งเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับสารฉีดทั้งหมดและอันตรายของมัน เราอ่านอยู่นาน
เราต้องบอกก่อนว่าแต่ละเคสค่าใช้จ่ายไม่เท่ากันนะคะ วันแรกที่เราไปถึงเราได้พบกับคุณเฟียตก่อนค่ะ คุณเฟียตใจดีมากๆ ตอบทุกคำถามที่เราอยากรู้ ได้กระจ่างหมดแล้วก็ประเมินค่าใช้จ่ายทั้งหมด ของเราโชคดีมากที่ได้ค่ารักษาราคาเริ่มต้นที่ 120,000 ค่ะ
หลังจากที่เราตกลงทำกับที่นี่แน่นอนแล้วและได้วันผ่าตัดเป็นวันที่ 21 กุมภา 2564 โดยวันที่ 7 กุมภา 2564 เราจะได้พบกับคุณหมอ อรรถพันธ์ และคุณ เฟียตเพื่อออกแบบรูปทรงจมูกถ้าเราสามารถใส่ซิลิโคนเสริมได้เลยหลังจากการผ่าตัดคุณเฟียตจะเป็นคนเหลาซิลิโคนค่ะ คุณเฟียตดูรูปเราก่อนที่จะฉีดสารเหลวแล้วก็ออกแบบตามรูปทรงจมูกทรงเดิมค่ะ พูดคุยแล้ววางมัดจำพร้อมทั้งรับยามาทานก่อนผ่าตัดวันนั้น ที่นี่คุณหมอสอนวิธีแกะยาทานเอง บอกอธิบายยาตัวท่านเองหมดเลยค่ะเราประทับใจมากกกกกกกก
อ่ออออ ... ของเรามีต้องไปโควิดก่อนการผ่าตัดด้วย 1 วันนะคะ โดยทางคลีนิคจะมีใบส่งตัวให้เราไปตรวจที่ รพ มงกุฏวัฒนะ ค่ะ (ส่วนนี้เราต้องออกค่าใช้จ่ายเองนะคะ)
……… …….. และแล้วก็มาถึงวันที่ต้องผ่าตัดตื่นเต้นสุดๆๆ ไปเลย เราไปถึงประมาณเที่ยงๆ นั่งอ่านเอกสารชุดเดิม และ ก้เข้าพบคุณหมอ ต่อไปก็ล้างหน้า 5 รอบ, แปรงฟัน 2 รอบ, บ้วนปาก 2 รอบ และใช้สำลีแบบก้านที่จุ่มน้ำยาฆ่าเชื้อเอาไว้ทำความสะอาดจมูกอีก 3 รอบ
แล้วก็เข้าห้องไปนั่งฟังเพลง เพลินมากค่ะ เพลงเพราะมากๆค่ะ เป็นเพลงรุ่นเก่าๆ ฟังสบายๆ จากนั้นคุณหมอก็สวมชุดผ่าตัดที่เป็นชุดผ่าตัดจริงๆ คุณหมออธิบายทุกขั้นตอนก่อนลงมือทุกครั้ง ว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ ที่นี่คุณหมอเป็นคนทำเองหมดทุกขั้นตอนเลยจริงๆค่ะ
เริ่มฉีดยาชาเข็มแรก รุ้สึกแค่เข็มจิ้มจริงๆ คุณหมอมือเบามากกกกกกก เราว่าฉีดยาชาตอนผ่าฟันคุดยังเจ็บกว่าเลย จากนั้นก็ไม่รุ้อะไรเลยค่ะ ของเราฉีดยาชาน่าจะประมาณเกือบ 200 เข็มได้เพราะหลังจากเข็มแรกแล้วก็ไม่รุ้สึกอะไรเลยค่ะ พอฉีดยาชาครบแล้วเราก็เคลิ้มๆ ด้วยเสียงเพลง แอร์เย็นๆ เหมือนไปนอนฟังเพลง ไม่น่ากลัวอย่างที่คิดดดดดด ระหว่างนั้นคุณหมอเริ่มขูดนำสารเหลวตัวร้ายยยยยย ออกมาจากจุดต่างๆ คุณหมอท่านอธิบายหมดว่ามันไหลไปที่ไหนบ้าง ขูดออกตรงไหน อยากจะบอกว่าคุณหมอมือเบามากเรารู้สึกตัวตลอด แต่ไม่เจ็บเลยจริงงงงงงงงงง หลังจากนำสารออกมาหมดแล้ว ผ่านไปประมาณ 5 - 6 ชั่วโมงได้ คุณหมอแจ้งพี่พยาบาลให้ตามคุณเฟียตขึ้นมาเรา อยากจะบอกว่าดีใจที่สุด เพราะมันหมายความว่าเราสามารถใส่ซิโคนเสริมเข้าไปได้ค่ะ คุณเฟียตทำการวัดจมูกเราแล้วก็เหลาซิลิโคนให้เหมาะกับเรา หลังจากเสร็จ เราก็มีมึนๆ นิดหน่อย ออกจากห้องผ่าตัดมาคุณหมอก็เอาสารที่ขูดออกมาให้ดูซากกก OMG !!!!! เราสงสารตัวเองมากเลย เพราะสารที่เราฉีดเข้าไปจากหมอกระเป๋าในตอนนั้นไม่ใช้ฟิลเลอร์แต่อย่างใด มันคือ "พาราฟิน" ใหญ่มากเว่อออ ที่มันอาศัยอยู่ในจมูกของเรามา 10 กว่าปี !!!!!!!! แล้ววันนี้เราก็ได้นำมันออกไป เหมือนเราได้เกิดใหม่เลย !!!!!
สำหรับใครที่อยากสอบถามอะไรเพิ่มเติมสามารถพิมพ์มาสอบถามได้เลยนะคะ ยินดีมากกกๆๆ ค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้