สวัสดีค่ะ จะเริ่มเล่าตั้งแต่ต้นเลยนะคะ (เค้า=จขกท. )
เค้ามีแม่บุญธรรมคนนึงเขาอาศัยอยู่กรุงเทพ แม่บุญธรรมเค้าเป็นคนทำงานค่ะ เป็นครูสอนโยคะออกกำลังกายให้ลูกคนรวยๆในกรุงเทพ ต้องทำงานทุกวันวันละหลายชั่วโมงมากดึกกว่าจะทำงานเสร็จ ซึ่งแม่บุญธรรมเค้าอะมีแม่ที่ตามองไม่เห็น(เป็นต้อหินในตา)ตอนนี้คือมองไม่เห็นอะไรแล้ว ซึ่งบ้านที่แม่บุญธรรมเค้าอยู่เป็นบ้าน4ชั้น แคบๆ คล้ายกะตึกแถวอะค่ะ แม่ของแม่บุญธรรมเขาก็อยู่ชั้นสอง เป็นห้องปิดไม่มีลมเขามีหน้าต่างบานเดียว ไม่มีใครไปคุยกับเขาเลยแบบนอนอย่างเดียวเลยค่ะ กินข้าววันละมื้อเพราะลูกสาวเขาไม่มีเวลา ตอนเช้าลูกสาวไม่มีเวลาเลยทำไมโลโอวันตินกินตอนเช้าทุกวันในหลายสิบปีที่เขาอยู่ที่นั่น วันๆไม่ได้คุยกับใครไม่ได้ออกไปไหน ขาก็เดินไม่ค่อยได้เพราะหกล้มพึ่งไปผ่าตัดใส่สะโพกเทียม เขาอยู่แบบนั้นมา20ปีแล้ว จนเขาได้มาเจอกับครอบครัวของเค้า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาแม่ของแม่บุญธรรมเค้าหกล้มแล้วเดินไม่ได้แล้วทีนี้ พอเดินไม่ได้ดูแลตัวเองไม่ได้แม่บุญธรรมเค้าเลยไม่สามารถทำงานได้ แม่บุญธรรมเค้าเลยเห็นว่าจะให้เอาแม่เขามาอยู่ที่นี้(บ้านเค้า) เพราะที่บ้านเค้ามีคนเยอะ อากาศถ่ายเทบ้านหลังใหญ่กว้างขว้าง มีคนดูแลแล้วมีหลานคอยคุยเป็นเพื่อน แม่บุญธรรมเขาก็เป็นคนมีตังค์ เขาเลยให้ค่าตอบแทนในการเลี้ยงดูเป็นเงิน ตอนที่แม่ของแม่บุญธรรม(ขอเรียกว่า เน่ นะคะ) มาถึงเราก็ชวนเขาคุยเล่นดูแลอย่างดี เปลี่ยนผ้าอ้อม กินข้าวสามมื้อ อาบน้ำ เช็ดตัว ป้อนข้าวป้อนน้ำดูแลอย่างดี คอยรักษาขาเขาจากที่ปวดก็หาย หลังก็หายปวดแล้ว (ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายใน1อาทิตย์นะคะ) เน่เขาชอบบอกว่าแม่บุญธรรมเขาอะเอาเน่มาทิ้งที่นี้ เค้าก็พยามจะบอกว่าที่เขาเอามานี้เพราะเขาเป็นห่วงเน่นั่นแหละ
แต่พอเขามาอยู่นานเข้าพอหายปวดสบายตัว เขาเริ่มดื้อขึ้น ชอบลุกออกจากเตียงตอนกลางคืนดึกๆ ลุกมาหาของ บางทีก็จะลุกเดินไปนู้นนี่ คือเค้าไม่อยากให้เน่เดินไปไหนเองกลัวเขาจะหกล้ม และตอนเช้าเน่เขาก็ไม่เดินนะ ชอบมาเดินตอนกลางคืนตอนที่คนในบ้านนอนหมดแล้ว บางที่ของหล่นจะลุกก้มลงไปเก็บ เค้าก็พยามบอกว่า เน่ห้ามลุกไปไหนนะ เดี๋ยวหกล้มเน่จะเดินไม่ได้อีกเลยนะ หมอเขาไม่รับแล้ว แต่เขาก็ไม่ค่อยฟัง เมื่อคืนนี้ช่วงตี3 เขาลุกมาจากเตียงแล้วเดินออกแล้วทีนี้เขาล้มแต่โคตรโชคดีที่ตอนนั้นเค้าเอาโวฟาไปกันไว้ตรงนั้นพอดี เขาเลยล้มใส่โซฟา แล้วเน่ก็ชอบบ่นว่าเบื่อ อยากกลับบ้านอยู่ที่นี้มันไกลบ้าน ทั้งๆที่เราก็คุยเป็นเพื่อนเขาไม่ให้เหงา ก่อนหน้านั้นเขายังหัวเราะยิ้มแยมอยู่เลย แต่ทำไมช่วงนี้เขาดูดื้อจังคะ จะทำยังไงดีคะไม่ให้เขาเบื่อ แล้วจะทำยังไงไม่ให้เขาดื้อดีคะ
ปล.อาจจะสงสัยนะคะว่าทำไมแม่บุญธรรมถึงเอาเน่มาไว้ที่นี้แล้วไม่ยอมดูแลเอง เนื่องจาก พอแม่บุญธรรมเค้าเป็นลูกสาวในตระกูลคนจีนแล้วเขามีน้องชายคนนึง พ่อเขาเลยเถิดถูลลูกชายมากกว่าลูกสาว แม่บุญธรรมเค้าเลยต้องทำงานตั้งแต่ตอนเด็กเรียนวิชา ส่งเสียตัวเองไม่เรียนโยคะ เรียนเรื่องกล้ามเนื้อต่างๆ เกือบ20ปี จนมีลูกค้าคนรวย อย่างลูกสาวเจ้าสัวบางคนต้องมาเรียน เขาไต่เต้าด้วยน้ำพักน้ไแรงตัวเองจนมาเป็นอาจารย์ให้ของสุดยอดครู ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถปล่อยให้ลุกค้ารอได้ ถ้าเขาเอาเวลาไปดูแลแม่เขา เขาจะต้องเสียการงานแน่ๆเพราะลูกคนรวยเขาไม่รอหรอกเขาก็จะไปหาคนอื่น ทำให้เขาจำเป็นต้องทำแบบนี้จริงๆ ไม่งั้นสิ่งที่เขาเรียนรู้สู้มาด้วยตัวเองหลายสิบปีมันจะหายไปเลย
คนสูงอายุดื้อ ขี้เบื่อ เหงา ทำไงดีคะ?
เค้ามีแม่บุญธรรมคนนึงเขาอาศัยอยู่กรุงเทพ แม่บุญธรรมเค้าเป็นคนทำงานค่ะ เป็นครูสอนโยคะออกกำลังกายให้ลูกคนรวยๆในกรุงเทพ ต้องทำงานทุกวันวันละหลายชั่วโมงมากดึกกว่าจะทำงานเสร็จ ซึ่งแม่บุญธรรมเค้าอะมีแม่ที่ตามองไม่เห็น(เป็นต้อหินในตา)ตอนนี้คือมองไม่เห็นอะไรแล้ว ซึ่งบ้านที่แม่บุญธรรมเค้าอยู่เป็นบ้าน4ชั้น แคบๆ คล้ายกะตึกแถวอะค่ะ แม่ของแม่บุญธรรมเขาก็อยู่ชั้นสอง เป็นห้องปิดไม่มีลมเขามีหน้าต่างบานเดียว ไม่มีใครไปคุยกับเขาเลยแบบนอนอย่างเดียวเลยค่ะ กินข้าววันละมื้อเพราะลูกสาวเขาไม่มีเวลา ตอนเช้าลูกสาวไม่มีเวลาเลยทำไมโลโอวันตินกินตอนเช้าทุกวันในหลายสิบปีที่เขาอยู่ที่นั่น วันๆไม่ได้คุยกับใครไม่ได้ออกไปไหน ขาก็เดินไม่ค่อยได้เพราะหกล้มพึ่งไปผ่าตัดใส่สะโพกเทียม เขาอยู่แบบนั้นมา20ปีแล้ว จนเขาได้มาเจอกับครอบครัวของเค้า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาแม่ของแม่บุญธรรมเค้าหกล้มแล้วเดินไม่ได้แล้วทีนี้ พอเดินไม่ได้ดูแลตัวเองไม่ได้แม่บุญธรรมเค้าเลยไม่สามารถทำงานได้ แม่บุญธรรมเค้าเลยเห็นว่าจะให้เอาแม่เขามาอยู่ที่นี้(บ้านเค้า) เพราะที่บ้านเค้ามีคนเยอะ อากาศถ่ายเทบ้านหลังใหญ่กว้างขว้าง มีคนดูแลแล้วมีหลานคอยคุยเป็นเพื่อน แม่บุญธรรมเขาก็เป็นคนมีตังค์ เขาเลยให้ค่าตอบแทนในการเลี้ยงดูเป็นเงิน ตอนที่แม่ของแม่บุญธรรม(ขอเรียกว่า เน่ นะคะ) มาถึงเราก็ชวนเขาคุยเล่นดูแลอย่างดี เปลี่ยนผ้าอ้อม กินข้าวสามมื้อ อาบน้ำ เช็ดตัว ป้อนข้าวป้อนน้ำดูแลอย่างดี คอยรักษาขาเขาจากที่ปวดก็หาย หลังก็หายปวดแล้ว (ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายใน1อาทิตย์นะคะ) เน่เขาชอบบอกว่าแม่บุญธรรมเขาอะเอาเน่มาทิ้งที่นี้ เค้าก็พยามจะบอกว่าที่เขาเอามานี้เพราะเขาเป็นห่วงเน่นั่นแหละ
แต่พอเขามาอยู่นานเข้าพอหายปวดสบายตัว เขาเริ่มดื้อขึ้น ชอบลุกออกจากเตียงตอนกลางคืนดึกๆ ลุกมาหาของ บางทีก็จะลุกเดินไปนู้นนี่ คือเค้าไม่อยากให้เน่เดินไปไหนเองกลัวเขาจะหกล้ม และตอนเช้าเน่เขาก็ไม่เดินนะ ชอบมาเดินตอนกลางคืนตอนที่คนในบ้านนอนหมดแล้ว บางที่ของหล่นจะลุกก้มลงไปเก็บ เค้าก็พยามบอกว่า เน่ห้ามลุกไปไหนนะ เดี๋ยวหกล้มเน่จะเดินไม่ได้อีกเลยนะ หมอเขาไม่รับแล้ว แต่เขาก็ไม่ค่อยฟัง เมื่อคืนนี้ช่วงตี3 เขาลุกมาจากเตียงแล้วเดินออกแล้วทีนี้เขาล้มแต่โคตรโชคดีที่ตอนนั้นเค้าเอาโวฟาไปกันไว้ตรงนั้นพอดี เขาเลยล้มใส่โซฟา แล้วเน่ก็ชอบบ่นว่าเบื่อ อยากกลับบ้านอยู่ที่นี้มันไกลบ้าน ทั้งๆที่เราก็คุยเป็นเพื่อนเขาไม่ให้เหงา ก่อนหน้านั้นเขายังหัวเราะยิ้มแยมอยู่เลย แต่ทำไมช่วงนี้เขาดูดื้อจังคะ จะทำยังไงดีคะไม่ให้เขาเบื่อ แล้วจะทำยังไงไม่ให้เขาดื้อดีคะ
ปล.อาจจะสงสัยนะคะว่าทำไมแม่บุญธรรมถึงเอาเน่มาไว้ที่นี้แล้วไม่ยอมดูแลเอง เนื่องจาก พอแม่บุญธรรมเค้าเป็นลูกสาวในตระกูลคนจีนแล้วเขามีน้องชายคนนึง พ่อเขาเลยเถิดถูลลูกชายมากกว่าลูกสาว แม่บุญธรรมเค้าเลยต้องทำงานตั้งแต่ตอนเด็กเรียนวิชา ส่งเสียตัวเองไม่เรียนโยคะ เรียนเรื่องกล้ามเนื้อต่างๆ เกือบ20ปี จนมีลูกค้าคนรวย อย่างลูกสาวเจ้าสัวบางคนต้องมาเรียน เขาไต่เต้าด้วยน้ำพักน้ไแรงตัวเองจนมาเป็นอาจารย์ให้ของสุดยอดครู ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถปล่อยให้ลุกค้ารอได้ ถ้าเขาเอาเวลาไปดูแลแม่เขา เขาจะต้องเสียการงานแน่ๆเพราะลูกคนรวยเขาไม่รอหรอกเขาก็จะไปหาคนอื่น ทำให้เขาจำเป็นต้องทำแบบนี้จริงๆ ไม่งั้นสิ่งที่เขาเรียนรู้สู้มาด้วยตัวเองหลายสิบปีมันจะหายไปเลย