ตามหัวข้อคือ เราเป็นพนักงานบริษัทเงินเดือนเบ็ดเสร็จหลังจากหักประกันสังคมกองทุนสะสมแล้วตามสลิปเหลือ35k ช่วงโควิดเป็นช่วงที่ไม่มีงาน เลยไม่มีเบี้ยเลี้ยง ถ้าได้เบี้ยเลี้ยงด้วยก็ได้ประมาณ 38-39k แต่ละเดือนไม่มีรายได้อื่นเลยนอกจากโบนัสตอนสิ้นปีที่ได้ไม่เกิน2.5เดือน ทำงานมาเกือบจะ 10 ปีแล้ว ยังไม่มีเงินเก็บเลย มีแต่ทรัพสินที่เป็นรถยนต์ซึ่งผ่อนหมดแล้ว และทองบาทสองบาท (ที่ใช้เงินโบนัสซื้อเก็บไว้ ส่วนนึงก็นำไปจ่ายกยศ.รายปี) มีหนี้สินจากบัตรเครดิตที่เป็นแบบผ่อนสินค้าและกดเงินสดตั้งแต่เริ่มทำงานอยู่ 2-3ใบ วงเงินเต็มทุกใบแต่ละเดือนจ่ายขั้นต่ำอยู่และมอเตอร์ไซต์1คัน ผ่อนเดือนละ 4พันบาท ช่วงนี้โควิดข้าวของเครื่องใช้ต่างๆก็แพงขึ้นค่าน้ำค่าไฟค่าหอพักช่วงโควิดไปใหนไม่ได้ก็ช่างแพงเหลือเกิน พอสะสมนานวันเข้าเงินเริ่มไม่พอใช้ เริ่มเอาทองไปขาย เริ่มนำเงินในบัตรออกมาหมุนใช้ และตอนนี้ยังมีหนี้มรดกเพิ่มขึ้นมา คือหนี้ที่พ่อกับแม่เคยนำฉโนดที่ดินไปกู้เงินกับทาง ธ. ยอดหนี้ 4แสนบาท แล้วเปลี่ยนมาเป็นชื่อเราเพราะพ่อแม่อายุมาก 70 ปีแล้ว ทาง ธ.จึงมองว่าไม่มีกำลังจะชำระหนี้แล้วจึงโอนเป็นมรดกแก่ลูก ซึ่งตอนนี้ถึงช่วงจ่ายดอกเบี้ยแล้ว4หมื่นกว่าบาท  แต่ไม่สามารถหาเงินได้เลย ตอนนี้ไม่สามารถทำบัตรเคดิตกับธ.ใหนได้เลยเพราะข้อมูลการผ่อนชำระของเราเกินข้อกำหนดของธนาคารแล้ว เราลองคำนวนดู รวมๆแล้วปาไป70-80%ของเงินเดือนแล้ว แต่เราจ่ายตรงตลอดนะ ส่งให้พ่อแม่ใช้อีก 5พันบาท ตอนนี้หนี้ตัวเองก่อ 3แสนหนี้มรดกอีก4แสนรวมเป็น7แสน 😭😭😭 เราจึงอยากขอคำแนะนำจากเพื่อนๆพี่ๆให้ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ ถ้าเรานำทรัพย์สินชิ้นเดียวที่มีอยู่คือรถยนต์ไปเข้าไฟแนซ์ ไฟแนซ์จะรับพิจาราณามั๊ย จะให้ผ่านมั้ย จะให้กู้มั้ย คือเรื่องนี้เราคิดมาสักพักแล้ว คิดมาตั้งแต่เดือนเมษาแล้ว แต่ยังชั่งใจอยู่ เพราะคิดมาตลอดว่าถ้าเอาเข้าแล้วจะผ่อนไหวใหม กว่าจะหมดงวดก็ทุลักทุเลมากพอแล้ว เกิดมาจน วางแผนชิวิตการใช้เงินผิดพลาดตั้งแต่เริ่มทำงาน พอถึงช่วงคับขัน เงินไม่พอใช้ กลับบ้านนอกไปหาของป่ามาใช้กินใช้อยู่ก็ไม่ได้ 😭😭 กำลังหาทางออก อยากให้ผ่านช่วงนี้ไวๆ ความคิดวกวนหาทางออก หาคนปรึกษา เหมือนคนกำลังจะเป็นโรคประสาท