แทนที่จะมานั่งเล่นเกมโจมตีกันในทางการเมือง ควรจะช่วยกันเสนอประเด็นในการพัฒนาประเทศในระยะยาวได้แล้วในเวลาเช่นนี้
สำหรับ พวกสามกีบ เป็นห่วงประเทศชาติด้วยความจริงใจขอให้ตาสว่างและตระหนักได้แล้วว่า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายนรัฐบาลได้พิสูจน์ประสิทธิภาพในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินได้เป็นที่ประจักษ์ เราควรจะมั่นใจได้แล้วเมื่อเทียบกับนานาประเทศประเทศไทยมีโรงงานผลิตวัคซีนอยู่ในประเทศ ดังนั้นปัญหาในระยะยาวไม่น่าจะมีอะไรในประเด็นของวัคซีนอีกแล้ว
ที่เหลือคือปัญหาในภาคปฏิบัติเล็กน้อยเช่นการสั่งวัคซีนทางเลือก เพื่อให้สามารถให้ครบทุกกลุ่มอายุ และสามารถให้กับประชากรในกลุ่มที่แพ้วัคซีนบางประเภท เป็นต้นซึ่งปัญหาเหล่านี้จะเป็นปัญหาเล็กน้อย
.............
สิ่งที่สำคัญกว่าคือการถอดบทเรียน ในการปฏิบัติที่ผ่านมา คำถามสำคัญที่จะต้องถามสังคมไทยคือ ทำไมรัฐบาลอังกฤษรัฐบาลสหรัฐอเมริกาหรือ อิสราเอล ซึ่งเป็นประเทศชั้นนำของโลก สามารถจองวัคซีนได้ 2 -3- 4 เท่าของจำนวนประชากร โดยไม่ถูกฝ่ายค้านตรวจสอบหรือไม่ถูกหน่วยงานตรวจสอบความโปร่งใสทุจริตคอรัปชั่นตรวจสอบว่าใช้เงินผิดประเภทหรือใช้งบประมาณในการจองโดยไม่มีสินค้าที่ผลิตเสร็จแล้ว
แน่นอนว่า ภาวะวิกฤติ จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต อาจจะเป็นสิบปีข้างหน้า ห้าสิบปีข้างหน้า อาจจะมีการขาดแคลนอาหาร, ยารักษาโรค หรือสินค้าใดก็ตามในระดับโลก ที่เราพอพยากรณ์ได้เหมือนกับตอนที่ไวรัสเริ่มระบาด
เกิดอะไรขึ้นกับระบบระเบียบราชการของประเทศไทยระบบระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของประเทศไทย เราจะแก้ไขได้ไหมที่จุดไหนเพื่อที่จะทำให้ฐานะทางระบบกฎหมายของประเทศไทยพัฒนาที่จะรองรับวิกฤตการณ์ในอนาคต ซึ่งถ้าเราไม่ขุดรากถอนโคนให้ถึงรากของปัญหาไม่ว่ารัฐบาลฝ่ายไหนขึ้นมาบริหารก็จะเจอปัญหาเดียวกันคือมีกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างที่ตึงตัวเกินไปเมื่อเทียบกับประเทศที่เจริญแล้วทำให้ไม่สามารถรับมือวิกฤตได้
ต่อไปนี้จงหยุดด่ารัฐบาลได้แล้วเรื่องวัคซีน ถ้าหวังดีกับประเทศจริงควรจะมองปัญหาระยะยาว
สำหรับ พวกสามกีบ เป็นห่วงประเทศชาติด้วยความจริงใจขอให้ตาสว่างและตระหนักได้แล้วว่า เมื่อวันที่ 7 มิถุนายนรัฐบาลได้พิสูจน์ประสิทธิภาพในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินได้เป็นที่ประจักษ์ เราควรจะมั่นใจได้แล้วเมื่อเทียบกับนานาประเทศประเทศไทยมีโรงงานผลิตวัคซีนอยู่ในประเทศ ดังนั้นปัญหาในระยะยาวไม่น่าจะมีอะไรในประเด็นของวัคซีนอีกแล้ว
ที่เหลือคือปัญหาในภาคปฏิบัติเล็กน้อยเช่นการสั่งวัคซีนทางเลือก เพื่อให้สามารถให้ครบทุกกลุ่มอายุ และสามารถให้กับประชากรในกลุ่มที่แพ้วัคซีนบางประเภท เป็นต้นซึ่งปัญหาเหล่านี้จะเป็นปัญหาเล็กน้อย
.............
สิ่งที่สำคัญกว่าคือการถอดบทเรียน ในการปฏิบัติที่ผ่านมา คำถามสำคัญที่จะต้องถามสังคมไทยคือ ทำไมรัฐบาลอังกฤษรัฐบาลสหรัฐอเมริกาหรือ อิสราเอล ซึ่งเป็นประเทศชั้นนำของโลก สามารถจองวัคซีนได้ 2 -3- 4 เท่าของจำนวนประชากร โดยไม่ถูกฝ่ายค้านตรวจสอบหรือไม่ถูกหน่วยงานตรวจสอบความโปร่งใสทุจริตคอรัปชั่นตรวจสอบว่าใช้เงินผิดประเภทหรือใช้งบประมาณในการจองโดยไม่มีสินค้าที่ผลิตเสร็จแล้ว
แน่นอนว่า ภาวะวิกฤติ จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต อาจจะเป็นสิบปีข้างหน้า ห้าสิบปีข้างหน้า อาจจะมีการขาดแคลนอาหาร, ยารักษาโรค หรือสินค้าใดก็ตามในระดับโลก ที่เราพอพยากรณ์ได้เหมือนกับตอนที่ไวรัสเริ่มระบาด
เกิดอะไรขึ้นกับระบบระเบียบราชการของประเทศไทยระบบระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของประเทศไทย เราจะแก้ไขได้ไหมที่จุดไหนเพื่อที่จะทำให้ฐานะทางระบบกฎหมายของประเทศไทยพัฒนาที่จะรองรับวิกฤตการณ์ในอนาคต ซึ่งถ้าเราไม่ขุดรากถอนโคนให้ถึงรากของปัญหาไม่ว่ารัฐบาลฝ่ายไหนขึ้นมาบริหารก็จะเจอปัญหาเดียวกันคือมีกฎหมายจัดซื้อจัดจ้างที่ตึงตัวเกินไปเมื่อเทียบกับประเทศที่เจริญแล้วทำให้ไม่สามารถรับมือวิกฤตได้