>>> 1 ควรใช้ access point หรือ wireless router (ที่เอา lan จาก ONU มาต่อ wan ของเราเตอร์ตัวใหม่) ดีคะ มันดีกว่ากันยังไง

1• Access Point คือ อุปกรณ์แปลงสาย LAN เป็น WiFi / มักจะมีช่อง LAN ช่องเดียว เสียบแล้วก็จบ ๆ ไป ไม่เหลือช่องให้เสียบพ่วงไปอย่างอื่นอีก / จะต้องพึ่งพา Router หลักในการบริหาร IP / เป็นวงเดียวกันกับ Router หลัก
(Access Point หลัก ๆ แล้วจะมี LAN 1 ช่อง ยกเว้น เพียงบางรุ่น จะมี LAN มากกว่า 1 ช่อง)

2• Wireless Router : มักจะมีช่อง WAN=1, LAN=4 (บางรุ่นก็ไม่ตรงตามนี้) ถ้าเสียบสายขาเข้า จาก Router หลัก เข้าทางช่อง LAN  และปิด DHCP ผลก็คือ ทำงานเป็นแค่ Access Point ได้เลย / ช่อง LAN ที่เหลือ สามารถต่อพ่วงไปอุปกรณ์อื่นได้อีก สบาย ๆ (ห้ามใช้ช่อง WAN) / จะต้องพึ่งพา Router หลักในการบริหาร IP / เป็นวงเดียวกันกับ Router หลัก

3• Wireless Router : (อีก) แต่ถ้าเสียบสายขาเข้า จาก Router หลัก เข้าทางช่อง WAN  และ เปิดใช้ DHCP ผลก็คือ ทำงานเป็น Router เสริม สร้างวงใหม่อีกวง  / ได้ IP กลุ่มใหม่ บริหารจัดการอะไรต่าง ๆ ง่าย(เช่น พ่วง Router หลักในบ้าน ไปแบ่งให้บรรดาลูกค้าร้านกาแฟชั้น  1 ใช้งาน) / ช่อง LAN ที่เหลือ สามารถต่อพ่วงไปอุปกรณ์อื่นได้อีก สบาย ๆ


ไม่มีแบบไหน ที่ดีกว่ากัน มีแต่ว่า จะอยากใช้แบบไหน หรือ จำเป็นต้องใช้แบบไหน
เช่น
- ถ้าทั้งบ้าน มี WIFi Printer , NAS ที่ต้องแบ่งกันใช้งานทั้งบ้าน ควรใช้แบบ 1 หรือไม่ก็ 2  เพราะจะได้เป็นวงเดียวกัน มองเห็น Printer ทั้งบ้าน แชร์ข้อมูล จาก NAS ได้ทั้งบ้าน
- ถ้ามีการแบ่งให้คนอื่นใช้งาน แบบนี้ ควรสร้างวงใหม่ จะได้บริหารจัดการได้ง่าย อย่างเช่น ที่ยกตัวอย่าง ถ้าหน้าบ้าน เปิดร้านกาแฟ แล้วจะ แบ่งให้ลูกค้า ที่มากินกาแฟ ได้ใช้ ... กรณีนี้ ก็ไม่ควรให้เขาได้เข้าถึงไฟล์ข้อมูลที่แชร์กันเองในบ้าน หรือ แม้แต่ Printer ของที่บ้าน
ครับ

---

>>> 2 แล้วความเร็วเน็ตที่ขยายมาจากตัวอุปกรณ์อันใหม่ที่กำลังจะซื้อ จะมีความเร็วเท่ากับตัวเดิมไหมคะ


ถ้าเชื่อมต่อกัน ทางสาย LAN และสายคุณภาพดี อีกทั้ง  Router / Access Point รองรับความเร็วเกินกว่าค่าที่ขอบริการ
เช่น ขอบริการความเร็ว  300/300
แล้ว Router / Access Point / สาย LAN รองรับความเร็ว 1000
แบบนี้ สบาย ๆ ครับ    ความเร็วแทบไม่เปลี่ยนไปจากต้นทางครับ
ไม่ว่าจะใช้ Access Point หรือ Router ก็ตาม
สั้น ๆ คือ ขึ้นอยู่กับ SPec ของอุปกรณ์ น่ะครับ

---

>>> 4 สายควรใช้สายแบบไหนคะ ระยะห่างที่ต่อจากตัวเดิมประมาณ 20 เมตรค่ะ

ระยะทางของการเดินสาย คือ 80-100 เมตร ไม่ควรเกินกว่านี้
ระยะ 20 เมตร ถือว่า สบายมาก ครับ
สายควรใช้เป็น CAT6 ครับ

---

>>> อยากได้ตัวที่ราคาไม่แพงมากค่ะ แล้วก็สัญญาณที่บ้านเป็นแบบ 2.4GHz ค่ะ

สัญญาณ WiFi แบบ 2.4GHz (อาจเรียกว่า N หรือ 802.11n ) ข้อดีคือ ทะลุทะลวงได้ดี ไปได้ไกล  อุปกรณ์เกือบทั่วโลก รองรับ
ข้อเสีย คือ ความเร็วไม่สูงมากนัก(แต่ก็เหลือเฟือ สำหรับการใช้งานทั่วไป)  และ แบ่งซอยช่องสัญญาณได้แค่ 11 ช่อง (จริง ๆ คือ 14 ช่อง แต่ 12-13-14 จะไม่ได้เป็นมาตรฐานกลาง บางอุปกรณ์อาจไม่รองรับ) ทำให้มีโอกาสชนกับเพื่อนบ้าน

สัญญาณ WiFi แบบ 5GHz (อาจเรียกว่า  AC หรือ 802.11ac )  ข้อดีคือ เร็ว และมีการซอยช่องสัญญาณได้มาก
ข้อเสียคือ ความถี่สูง ก็ไม่ค่อยทะลุผนัง แทบไม่ทะลุเลยก็วาได้ และ ไปไม่ไกล / ดังนั้น หากจะใช้ 5GHz ให้สบายใจ ควรนั่งใช้งาน ในห้องเดียวกันกับตัวอุปกรณ์ที่ปล่อยสัญญาณ / อุปกรณ์ ที่รองรับ แม้จะเรียกได้ว่า มีมากมายในปัจจุบัน แต่ก็ยังไม่เท่า 2.4GHz

(อุปกรณ์ที่รองรับ 5GHz จะรองรับ 2.4GHz ด้วยอยู่แล้ว  ซึ่งอาจเรียกด้วยคำว่า Dual Band
อันนี้ยังไม่กล่าวถึง ax หรือ ที่เรียกว่า WiFi6 ซึ่งเริ่มจะมีใช้งานบ้างแล้ว)

ดังนั้น หากจะซื้อของใหม่ แล้ว งบพอ
ก็น่าจะซื้อเป็น Dual Band ไว้ เป็นอย่างน้อย ครับ

---

้ข้อ 3
สังเกตดู อุปกรณ์ที่คุณสนใจ คือกลุ่ม 2.4GHz
และ งบ ไม่เกิน 1,000
ผมเสนอ เป็นพวกนี้ ให้ลองนำไปพิจารณา ครับ

https://www.advice.co.th/product/modem-router-wireless/modem-router/router-totolink-n302r-plus-wireless-n300-lifetime-forever-

https://www.advice.co.th/product/modem-router-wireless/modem-router/router-totolink-n300rt-wireless-n300-lifetime-forever-

https://www.advice.co.th/product/modem-router-wireless/modem-router/router-totolink-n600r-wireless-n600-lifetime-forever-

(เรียงตามราคาให้แล้ว)
และ คุณสามารถ  ลองใช้งานดูก่อน ได้ครับ ว่า ถูกใจไหม
เพราะว่า ทางศูนย์บริการ เขามี นโยบายให้ยืมไปลองใช้ก่อนได้
เข้าไปหาศูนย์บริการใกล้บ้าน ใน
http://www.kit.co.th
แล้วไปติดต่อขอยืม ไปลองใช้ดูก่อน ได้ครับ

---

กลับมา ที่หัวกระทู้ คุณถามว่า

>>> อยากขยายสัญญาณเน็ตให้คลุมทั่วบ้านควรใช้ access point หรือ wireless router ดีคะ

ถ้าต้องการคุณภาพความเร็วที่ดี
ให้เดินสาย LAN กระจายจาก Router หลัก ไปทั่วบ้าน ให้ทั่วทุกชั้น ทุกจุด ที่อับสัญญาณ ครับ
(สัญญาณ WiFi จะออก รอบ ๆ  เสา ... ทางที่เสาชี้ปลายไป จะได้สัญญาณน้อย / ใครอยู่ข้าง ๆ เสา .. รอบ ๆ เสา จะได้สัญญาณเยอะ)
แล้วหา Wireless Router วางกระจายให้ทั่วบาน  ครับ

---