สวัสดีครับ ช่วงนี้เป็นช่วงที่หลายๆท่านน่าจะได้ Work From Home กัน ตัวผมเองก็เช่นกันครับ พออยู่บ้านนานๆก็พยายามหาอะไรทำแก้เบื่อ หลังจากที่พยายามทำงานให้มากขึ้นและนานขึ้นเพื่อแก้เบื่อก็แล้ว ดูซีรีย์ก็หลายเรื่องก็แล้ว เลยกลับมานั่งนึกว่าเขียนรีวิวอะไรดีแก้เบื่อ #ความว่างเป็นเหตุสังเกตุได้ ก็นึกได้เรื่องหนึ่งครับ เป็นเรื่องที่ไม่ต้องช้อป ไม่ต้องอัพเกรดอะไรก็น่าจะพอทำได้ ก็คือที่มาของรีวิวชิ้นนี้นั่นเองครับ

ผมใช้รถ Altis ปี 2004 วางเครื่อง 2ZZ-GE เกียร์ธรรมดา 6 สปีด นะครับ ซึ่งทุกเช้าช่วง 6 โมงผมจะต้องตื่นขับรถไปส่งแฟนที่ทำงานเป็นประจำ จึงได้ลองทดสอบดูเล่นๆว่าระหว่างการจอดรถปิดกระโปรงหน้าแบบปกติ เทียบกับจอดแบบเปิดกระโปรงหน้าค้างไว้ การระบายความร้อนจะดีกว่ากันมากน้อยแค่ไหนครับ และมีทดลองเพิ่มอีกเคสที่เปิดกระโปรงจอดในช่วงกลางคืนแถมให้ด้วย โดยทั้ง 3 เคส ผมเลือกเก็บข้อมูลในวันที่ฟ้าเปิดมีแดดตามปกตินะครับ จะได้เปรียบเทียบได้ไกล้เคียงกันที่สุด

โดยการทดลองนี้ ผมจอดรถไว้ที่หน้าบ้าน พื้นด้านล่างเป็นปูนซีเม็นต์ (ไม่ได้ปูกระเบื้อง) เคสกลางวัน เริ่มจับเวลาในช่วงเช้า และกลับมาดูค่าอีกครั้งทุกๆ 1 ชม. เคสกลางคืนจะเริ่มจับเวลาในช่วงหัวค่ำ และกลับมาดูค่าทุกๆ 1 ชม. เช่นกัน แต่เคสกลางคืนผมจะเก็บค่าแค่ 5 ชม. แรกเท่านั้นนะครับ (เพราะผมง่วงนอนนั่นเอง 55+) โดยผมจะใช้ Monster Gauge (ต่อ OBD2) ในการอ่านค่าอุณหภูมิน้ำยาหล่อเย็นครับ หลังจากเก็บข้อมูลครบทั้ง 3 เคสแล้ว สรุปเป็นตารางได้ดังนี้ครับ

รูป - ตารางแสดงค่าอุณหภูมิน้ำยาหม้อน้ำหลังจากดับเครื่องยนต์ แต่ละ ชม.

หมายเหตุ: ใน ชม. ที่ 5 และ 7 ของเคสที่ 1 อ่านค่าเลทเกินเวลามาเล็กน้อยครับ อุณหภูมิอาจจะต่ำกว่าความเป็นจริง (ตรงเวลา) เล็กน้อย

อธิบายเพิ่มเติมเล็กน้อยว่าทำไมอุณหภูมิเริ่มต้นถึงเป็น 100 นะครับ ปกติก่อนดับเครื่องอุณหภูมิที่อ่านได้จากเกจจะอยู่ที่ประมาณ 95 องศา แต่หลังจากดับเครื่องแล้วรอสัก 2-3 นาทีจึงค่อยเริ่มอ่านค่าในช่องแรก (Begin) ณ ตอนนี้ ความร้อนจะเพิ่มจาก 95 เป็น 100+- แล้วทำไมดับเครื่องแล้วอุณหภูมิถึงเพิ่มขึ้นละ? เหตุผลก็คือ ปกติแล้วความร้อนจะเกิดที่เครื่องยนต์ใช่ไหมครับ แล้วจะถ่ายเทมาที่น้ำมันเครื่องที่อยู่รอบๆเครื่องยนต์ และถ่ายเทมาที่น้ำยาหล่อเย็นอีกที โดยเมื่อตอนเครื่องยนต์ทำงาน มันได้ไปปั่นให้ปั๊มน้ำทำงาน ทำให้เกิดน้ำวนในระบบ เอาน้ำร้อนๆออกมาจากเครื่องมาระบายที่หม้อน้ำนั่นเอง แต่พอเราดับเครื่อง ทำให้ปั๊มน้ำไม่ทำงาน น้ำหยุดวนแล้ว แต่ความร้อนจากเครื่องยังไม่หมดทันที ยังถ่ายเทมายังน้ำมันเครื่อง และยังถ่ายเทต่อมายังน้ำยาหล่อเย็น จึงทำให้น้ำยาหล่อเย็นมีโอกาสที่จะร้อนขึ้นในช่วงสุดท้ายนี้นั่นเองครับ

จากตารางจะเห็นได้ว่า (เคสที่ 2) การจอดแบบบเปิดกระโปรงสามารถช่วยระบายความร้อนได้ดีขึ้นจริง แต่อุณหภูมิที่ลดลงเร็วและต่างกันชัดเจนจะอยู่ใน ชม. แรกๆ ช่วง ชม.ที่ 1-4 เท่านั้น แต่หลังจาก ชม. ที่ 5 เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเปิดหรือปิดกระโปรงหน้ารถ ความร้อนก็จะลดลงประมาณ 1 หรือ 2 องศาเซลเซียสต่อ ชม. พอๆกันครับ แตกต่างจากเคสที่ 3 หากเปิดกระโปรงรถค้างไว้ในตอนกลางคืน ช่วง 5 ชม. แรก การระบายความร้อนจะดีกว่า 2 เคสแรกอย่างเห็นได้ชัดครับ เมื่อนำค่าต่างๆมาพลอตกราฟก็จะได้ออกมา ประมาณนี้ครับ

รูป - กราฟแสดงค่าอุณหภูมิน้ำยาหม้อน้ำหลังจากดับเครื่องยนต์ แต่ละ ชม.

หมายเหตุ: ตัวเลขในแนวนอน เป็นตัวเลขของตำแหน่งข้อมูล (1-11) ไม่ใช่ตัวเลขชั่วโมงนะครับ

ผมได้จัดทำคลิปรวมรวบเรื่องราวการเก็บข้อมูลและการสรุปผลไว้เป็นคลิปสั้นๆ ทุกท่านสามารถรับชมได้ด้านล่างนี้ครับ..


สุดท้ายนี้ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจ เอาไว้อ่านแก้เหงาในช่วง WFH ก็ได้ครับ หากมีสิ่งใดผิดพลาด มีการใช้คำไม่เหมาะสม หรือมีการใช้คำผิด ผมต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ..

ฝากติดตามผลงานที่เพจ Need For Slow ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/