กับเจ้า City HB .. ยางเป็นสิ่งแรกๆเลยที่คิดจะเปลี่ยน คิดตั้งแต่ไปดูรถบนโชว์รูมละ
- รุ่น S+ / SV .. ล้อขอบ 15 จะได้ยาง Maxxis MA-P3
- รุ่น RS .. ล้อขอบ 16 จะได้ยาง Yokohama BluEarth
รถผม ดันเป็นตัว SV ซะด้วยสิ เคยสัมผัสกับ Maxxis MA-P1 ในสมัยติดรถ Optra (ตาตี่) มา จำได้ว่า "หลอน" มาก คือ ดัง กระด้าง แต่รีดน้ำไม่ดี เจอน้ำเป็นเหิน เหินง่ายมาก
มองหายางใหม่
- ด้วยกำลังเครื่องของรถคันนี้ เลยมองว่า ยางขนาด 185/60-15 มันดูจะเล็กไปหน่อย อีกทั้ง ยางเบอร์นี้ ตัวเลือกในตลาดค่อนข้างน้อย ก็เลยขยับมาเป็น 195/55-15 ซึ่งขนาดจะเล็กลงนิดนึง (แต่ถ้าขาซิ่ง ให้ดูหล่อ จัดทรงสวยๆ เห็นนิยม 195/50-15) แต่ยังได้แก้มยางที่หนาใกล้เคียงกับของเดิม ส่วนล้อติดรถ หน้ากว้าง 6 นิ้ว สามารถจับยาง 195 ได้แบบไม่มีปัญหาครับ
- ยืมใช้ตารางเทียบเบอร์ยาง ของร้านติวานนท์ หน่อย (ใช้งานง่ายดี) จะเห็นว่า ถ้าผมใส่ 195/55-15 ไมล์จะขี้โม้เพิ่มขึ้น 1.24% ครับ
ทีนี้ มาดูตัวเลือกกัน ...
- Concept ผม คือ ต้องการยางที่เกาะถนนดี รีดน้ำเก่ง อันนี้คือ ประเด็นหลัก ส่วนเรื่องเสียง เรื่องนุ่ม มันคือ ประเด็นรอง ไม่ค่อยสนใจนัก ดังนั้น ยางที่ตรง concept นี้ ก็คือ ยาง sport ครับ
1. Dunlop DZ102 .. ไม่ประทับใจคุณภาพยางยี่ห้อนี้เท่าไหร่ ไปเร็วมาก ดังสุดๆ
2. Goodyear F1 Sport .. รุ่นใหม่เพิ่งออก แถมราคาเบาๆ เส้นละ 2,100 บาท แต่ ยี่ห้อเค้า "ดีปีเดียว" รุ่นก่อนๆในตระกูล F1 ทำชื่อปีเดียวไว้แบบนี้หมด
3. Yokohama AD08-R .. จริงๆสนใจตัวนี้มาก ค้นดู รุ่นใหม่ มี R ตามหลัง พอไปได้ในทางเปียกละ แต่เสียงก็ยังสุดๆเหมือนเดิม ราคายางปี 20 อยู่เส้นนึง 3,500 บาทเอง แต่คิดไปคิดมา ทำเครื่องเสียงมาตั้งแพง แต่เวลาขับ ต้องมาฟังเสียงยางแทนเหรอ ไม่ไหวมั้ง ?
4. Bridgestone Potenza RE004 .. กลับมาตายรังที่มันแหละ อย่างที่หลายท่านทราบ บ้านผมใช้มาตั้งแต่รุ่นพ่อ RE71 ใน 230E Code A W124 ที่ตอนนั้นใส่ล้อ AMG พอมารุ่นผม ก็ RE711 / GIII / RE001 / RE002 / RE003 ไล่มาแทบครบ (ขาด RE710 มั้ง) ดังนั้น เสียงของมัน ผมรับได้ (ยังไงก็เบากว่า DZ101) การรีดน้ำ ที่หลายคนบ่นว่า บางรุ่น รีดไม่เก่ง สำหรับผม ยังไงก็ดีกว่า PS4
- งั้นจบที่มันละกันเนอะ
เลือกร้าน
- หลายท่านบอก ก็ไม่เห็นต้องคิดมาก ขับเข้า cockpit หรือ ติวานนท์ ไปเลย ก็ได้ จบดี .. มันก็ใช่ครับ แต่สำหรับคน "เรื่องเยอะ" แบบผม ก็ต้องคิดมากหน่อย
1. ถอดใส่ล้อไม่เป็นรอย
2. ถ่วงนิ่งสนิท
3. ไม่สนใจเรื่องตั้งศูนย์ (ยังไงก็ บางพลัด)
- ติวานนท์ .. ปกติ ถ้ารถน้อง รถพ่อ ก็ไปติวานนท์แหละ ราคาถือว่า ใช้ได้ เทิร์นยางเดิมได้ (ให้ 4 เส้น 2 พัน) ถ่วงล้อ พอรับได้ คือ นิ่งใช้ได้ แต่จะมีนิดนึง แถวๆ 100 - 110 ถ้าคนทั่วไป คงไม่รู้สึก แต่คนเรื่องเยอะอย่างผม รำคาญ ครับ ทั้งนี้ยังไงก็ดีกว่าร้านที่ไปเปลี่ยนล้อ Lenso ให้ Pulsar มานะ อันนั้น สั่นเละเทะ .. ตั้งศูนย์ไม่ผ่าน กี่คันก็เละ ปรับแต่ Toe ไม่ลองวิ่ง .. ถอดล้อ ต้องเฝ้า ต้องเน้น ไม่งั้น ช่างบางคนก็แถมแผลมาให้ .. ลมไนโตร
- United Tire .. ร้านคุ้นเคย ถ่วงดี ถอดใส่ไม่มีปัญหา มีลมไนโตร ราคากลางๆแพงกว่าติวานนท์หน่อย ไม่รับเทิร์น .. แต่พอดี วันที่ 3 ที่ผ่านมา ร้านปิด เลยตกไป
- Nsport .. ราคายางพอกับ United Tire แหละ / ลมธรรมดา / จุ๊บลมไม่เปลี่ยน แลกกับ เครื่องถ่วงเทพๆของเค้า เทพจริงครับ นิ่งสนิทจริงๆ (ก่อนหน้านี้หลายปี เครื่องถ่วงเก่าเค้า ถ่วงไม่จบ แต่เครื่องใหม่นี้ เจอตอนเปลี่ยนล้อ Pulsar ชอบมาก นิ่งสนิทจริงๆ) เรื่องถอดใส่ หายห่วง ไม่รับเทิร์น
สรุปว่า ไป Nsport แหละ .. ยางเดิมก็ขายพี่ที่ทำงานไป 4 เส้น 1,000 บาท แต่พี่แก โอนมาให้ 1,500 บาท อิอิ (เพราะถ้าพี่แกไม่เอา ผมก็โยนทิ้งไว้ที่ร้านนั่นแหละ 55+)
ลองขับ
- จริงๆนัดร้านไว้ 13.00 น. แต่พอดีโดนเลื่อนนัด ก็เลยเข้ามาตอน 9.30 น. โผล่เข้ามาก็ .. ร้านโล่ง รอดไป ไม่ต้องรอคิว นั่งรอสักครู่ จนท ก็จะเอายางมาให้ดูว่า ผลิตสัปดาห์ 17 ปี 2021 นะ / ยาง RE004 เบอร์ 195/55-15 นะ จากนั้น ถามเรื่องแรงดันลมยาง ว่า ให้เติมเท่าไหร่ สุดท้าย ..
"รับตะกั่วสีอะไรครับ มีเงิน กับ ดำ"
"ดำ ครับ"
แล้วก็นั่งมอง ของยั่วกิเลส ไป
นั่งรอสัก 30 นาที รถก็ออกมาละ
ว่ากันถึง ฟิลลิ่ง กันมั่ง ..
- จุดเหลืองที่ยาง ตรงกับ จุ๊บลม / แรงดันลมยาง ตามสเปคโรงงาน
ความนุ่มนวล
- ขับออกมา .. เฮ้ยยย มันดี แฮะ คือ แต่เดิม เหมือน Maxxis แก้มมันนุ่ม นุ่มแอบเด้ง เวลาขับ ก็จะเหมือนเรือ คือ มันโยกเยกไปมา ซ้ายขวา ตลอดเวลา คนชอบนุ่ม ขับไม่เร็ว อาจจะชอบ แต่คนขับรถเร็ว รถทำช่วงล่าง ใส่ยางสปอร์ตมา (แบบผม) ผมส่ายหน้า "มันย้วย"
- พอได้ RE004 .. อาการโยกซ้าย โยกขวา หายไปเกือบหมด กลายเป็นวิ่งนิ่งๆ ขับแล้วดูมั่นใจ (ซึ่งเจ้าของรถ มาลองนั่ง ก็ยืนยันว่า ดีกว่าเดิมมาก)
- แต่แน่นอน ข้อแลกเปลี่ยนก็คือ หลุม ทางขรุขระ ที่คุณเคยรูดผ่านได้แบบไม่รู้สึกอะไร .. คราวนี้ต้องเบรค เพราะถ้าไม่เบรค ก็จะกระแทกค่อนข้างแรงครับ (ก็เหมือน CRV / Pulsar ตามปกติ)
เสียงรบกวน
- อันนี้ยังบอกอะไรไม่ได้ เพราะที่เคยใช้มา ยางตระกูลนี้ ต้องพ้น 1 หมื่นกม.ไปก่อนครับ เปลี่ยนมาใหม่ๆก็เงียบดีเหมือนกันหมด (ยกเว้น S007a ดังตั้งแต่ ยางแตะพื้น)
- โดยรวม วิ่งถนนเรียบๆ มีเสียงรบกวนดังกว่า Maxxis เล็กน้อย เหมือนเสียง "ฮัม" เบาๆ ส่วนถ้าวิ่ง ถนนลาดยางหยาบๆ ที่ Maxxis เคยร้องลั่น เจ้านี่ เสียงเงียบกว่าเล็กน้อยครับ
การบังคับควบคุม
- พวงมาลัยคมขึ้นแน่นอน จากการที่แก้มมันไม่ย้วย
- เข้าโค้ง รถเป็นกลางมากขึ้น จากเดิมที่โยกเยก คล้ายจะหลุด ก็เข้าไปนิ่งๆ มีอาการจิกโค้งเล็กน้อย ตามประสายางยี่ห้อนี้ .. แต่คงไม่ถึงกับ S007a ที่หักแล้ว เหมือนยางมันดูดโค้ง ทุกอย่าง กลายเป็น "ขนม" หมด (ยางมันคนละคลาสเนอะ)
แถมอีกนิด
- ออกจาก ร้านยาง ก็วิ่งไปหาของเล่น CAG Standalone มาใส่สักหน่อย คาใจ อยากรู้ CVT Temp จ่ายไป 3,900 บาท
- HONDA จะเรื่องเยอะหน่อย มีแค่ยี่ห้อ Lufi (2 พันบาท) กับ CAG (3.9 - 5 พัน) เท่านั้นที่ อ่าน CVT Temp ได้ นอกนั้น บางยี่ห้อ ใช้วิธีเอา Water Temp มาลบ 5 แล้วโชว์เป็น CVT Temp (ดูดีๆนะ) แต่ถ้าเป็น Nissan ขอแค่ Adapter ELM327 อันนึง 300 มาเสียบ แล้วลง app Torque Pro หรือ CVTz50 ก็อ่านได้ละ
ผลงานก็ ...
1. วิ่งในเมือง นนทบุรี - รัชดา - พระราม 9 รถเยอะ ช้าบ้าง เร็วบ้าง แต่ไม่ติดขัด
- ช่วงรถวิ่ง จะอยู่ 73 องศา
- ช่วงรถติด(ไฟแดง) จะอยู่ 74 - 75 องศา
2. วิ่งทางไกล มอเตอร์เวย์ - นิคม 304 ความเร็ว 100 - 110 กม./ช.ม.
- ช่วงแรก outsite temp โชว์ 38 องศา (บ่ายสาม) CVT Temp อยู่ 70 องศา นิ่งๆ
- ช่วงสอง ออกมอเตอร์เวย์ เข้าฉะเชิงเทรา ฟ้าครึ้ม ข้างนอกเหลือ 31 - 33 องศา CVT Temp จะอยู่ 66 - 67 องศา
ต้องบอกว่า แผง Oil Cooler SETRAB ใบนี้ ทำงานได้สมราคา 19,500 บาท มากๆ เพราะถ้าหันไป Pulsar รถติดนี่ 85 - 92 องศา ถ้าวิ่งยาวก็ 78 - 82 องศา ครับ
อีกอย่าง ก่อนติด Oil Cooler วันที่เอาไปทำเบรคที่กิจเจริญชัย ลองรถกับพี่เสว เอา OBD2 จับ CVT Temp อยู่ 99 - 105 องศา เลยครับ
..............
คันนี้ ก็จะเหลือ
1. ตั้งศูนย์ล้อ .. ผมว่า ศูนย์ล้อมันแปลกๆ รถมันไม่นิ่ง
2. เบรค .. ในบางถนน (ที่เอียงซ้าย) เบรคแล้วมันแถซ้ายหนักเลย
3. กล่องคันเร่ง .. ผมว่า คันเร่งมันหน่วงตอนแซง แม้จะไม่เท่า CRV G3 แต่เล่นเอาเสียจังหวะเหมือนกัน เดี๋ยวนี้กล่องนึงพันกว่าบาท ไว้หามาลอง
ช่วงนี้ หมดคิวในการทำคันนี้ละ (CRV รอคิวซ่อมเบรคอยู่ / รอจานเบรค Dixcel / รอคาลิปเปอร์) .. ต้องรอเดือนหน้า ค่อยเอาลงมาตั้งศูนย์ ตั้งเสร็จ เดี๋ยวเลี้ยวเข้าศูนย์ข้างๆเช็คเบรคอีกที เตรียมรถลงใต้ละ
ขอบคุณครับ
...............
13/06/21 อัพเดทเรื่องการรีดน้ำ
พอดีติดกล่องคันเร่งเสร็จ ฝนตก ถือโอกาสลองทั้งกล่องคันเร่ง ทั้งยางไปเลย
บนถนนเปียก
ฝนตกค่อนข้างหนัก เปิดปัดน้ำฝนเบอร์แรงสุด ใช้ความเร็วพอสมควร .. ที่ชัดเจนคือ รถนิ่งกว่า Maxxis มากครับ นิ่งสนิท นิ่งเป๊ะ
การรีดน้ำ
ลองหักซ้าย ลงแอ่งน้ำเล่น รถนิ่งใช้ได้ครับ มีรู้สึกสะดุดตอนลงแอ่งเล็กน้อย แต่ไม่เหิน ไม่ลอย พวงมาลัยนิ่ง
ดีกว่า Michelin Pilot Sport 4 (80 นี่เหินตลอด เหินน่ากลัว)
ดีกว่า Yokohama Parada spec-x (แอบเหินหน่อย ที่ 80)
ดีกว่า Toyo T1 Sport SUV (น้องๆ PS4)
แต่ ...
เป็นรอง Bridgestone Potenza S007a รายนี้ต้องยอมรับ นิ่งสนิท นิ่งจริงๆ
เป็นรอง Michelin Latitude Sport 3 ยางใหญ่ๆหน้ากว้างๆ แต่รีดน้ำนิ่งดีจริง ไม่เคยเห็นมันเหินเลย
เป็นรอง Bridgestone Dueler H/P Sport นี่ก็นิ่ง นิ่งกว่า Latitude Sport 3 อยู่หน่อยนึง
สรุปประมาณนี้ครับ
[CR] * * * กลับมาหา เพื่อนเก่า .. Bridgestone Potenza RE004 * * *
- รุ่น S+ / SV .. ล้อขอบ 15 จะได้ยาง Maxxis MA-P3
- รุ่น RS .. ล้อขอบ 16 จะได้ยาง Yokohama BluEarth
รถผม ดันเป็นตัว SV ซะด้วยสิ เคยสัมผัสกับ Maxxis MA-P1 ในสมัยติดรถ Optra (ตาตี่) มา จำได้ว่า "หลอน" มาก คือ ดัง กระด้าง แต่รีดน้ำไม่ดี เจอน้ำเป็นเหิน เหินง่ายมาก
มองหายางใหม่
- ด้วยกำลังเครื่องของรถคันนี้ เลยมองว่า ยางขนาด 185/60-15 มันดูจะเล็กไปหน่อย อีกทั้ง ยางเบอร์นี้ ตัวเลือกในตลาดค่อนข้างน้อย ก็เลยขยับมาเป็น 195/55-15 ซึ่งขนาดจะเล็กลงนิดนึง (แต่ถ้าขาซิ่ง ให้ดูหล่อ จัดทรงสวยๆ เห็นนิยม 195/50-15) แต่ยังได้แก้มยางที่หนาใกล้เคียงกับของเดิม ส่วนล้อติดรถ หน้ากว้าง 6 นิ้ว สามารถจับยาง 195 ได้แบบไม่มีปัญหาครับ
- ยืมใช้ตารางเทียบเบอร์ยาง ของร้านติวานนท์ หน่อย (ใช้งานง่ายดี) จะเห็นว่า ถ้าผมใส่ 195/55-15 ไมล์จะขี้โม้เพิ่มขึ้น 1.24% ครับ
ทีนี้ มาดูตัวเลือกกัน ...
- Concept ผม คือ ต้องการยางที่เกาะถนนดี รีดน้ำเก่ง อันนี้คือ ประเด็นหลัก ส่วนเรื่องเสียง เรื่องนุ่ม มันคือ ประเด็นรอง ไม่ค่อยสนใจนัก ดังนั้น ยางที่ตรง concept นี้ ก็คือ ยาง sport ครับ
1. Dunlop DZ102 .. ไม่ประทับใจคุณภาพยางยี่ห้อนี้เท่าไหร่ ไปเร็วมาก ดังสุดๆ
2. Goodyear F1 Sport .. รุ่นใหม่เพิ่งออก แถมราคาเบาๆ เส้นละ 2,100 บาท แต่ ยี่ห้อเค้า "ดีปีเดียว" รุ่นก่อนๆในตระกูล F1 ทำชื่อปีเดียวไว้แบบนี้หมด
3. Yokohama AD08-R .. จริงๆสนใจตัวนี้มาก ค้นดู รุ่นใหม่ มี R ตามหลัง พอไปได้ในทางเปียกละ แต่เสียงก็ยังสุดๆเหมือนเดิม ราคายางปี 20 อยู่เส้นนึง 3,500 บาทเอง แต่คิดไปคิดมา ทำเครื่องเสียงมาตั้งแพง แต่เวลาขับ ต้องมาฟังเสียงยางแทนเหรอ ไม่ไหวมั้ง ?
4. Bridgestone Potenza RE004 .. กลับมาตายรังที่มันแหละ อย่างที่หลายท่านทราบ บ้านผมใช้มาตั้งแต่รุ่นพ่อ RE71 ใน 230E Code A W124 ที่ตอนนั้นใส่ล้อ AMG พอมารุ่นผม ก็ RE711 / GIII / RE001 / RE002 / RE003 ไล่มาแทบครบ (ขาด RE710 มั้ง) ดังนั้น เสียงของมัน ผมรับได้ (ยังไงก็เบากว่า DZ101) การรีดน้ำ ที่หลายคนบ่นว่า บางรุ่น รีดไม่เก่ง สำหรับผม ยังไงก็ดีกว่า PS4
- งั้นจบที่มันละกันเนอะ
เลือกร้าน
- หลายท่านบอก ก็ไม่เห็นต้องคิดมาก ขับเข้า cockpit หรือ ติวานนท์ ไปเลย ก็ได้ จบดี .. มันก็ใช่ครับ แต่สำหรับคน "เรื่องเยอะ" แบบผม ก็ต้องคิดมากหน่อย
1. ถอดใส่ล้อไม่เป็นรอย
2. ถ่วงนิ่งสนิท
3. ไม่สนใจเรื่องตั้งศูนย์ (ยังไงก็ บางพลัด)
- ติวานนท์ .. ปกติ ถ้ารถน้อง รถพ่อ ก็ไปติวานนท์แหละ ราคาถือว่า ใช้ได้ เทิร์นยางเดิมได้ (ให้ 4 เส้น 2 พัน) ถ่วงล้อ พอรับได้ คือ นิ่งใช้ได้ แต่จะมีนิดนึง แถวๆ 100 - 110 ถ้าคนทั่วไป คงไม่รู้สึก แต่คนเรื่องเยอะอย่างผม รำคาญ ครับ ทั้งนี้ยังไงก็ดีกว่าร้านที่ไปเปลี่ยนล้อ Lenso ให้ Pulsar มานะ อันนั้น สั่นเละเทะ .. ตั้งศูนย์ไม่ผ่าน กี่คันก็เละ ปรับแต่ Toe ไม่ลองวิ่ง .. ถอดล้อ ต้องเฝ้า ต้องเน้น ไม่งั้น ช่างบางคนก็แถมแผลมาให้ .. ลมไนโตร
- United Tire .. ร้านคุ้นเคย ถ่วงดี ถอดใส่ไม่มีปัญหา มีลมไนโตร ราคากลางๆแพงกว่าติวานนท์หน่อย ไม่รับเทิร์น .. แต่พอดี วันที่ 3 ที่ผ่านมา ร้านปิด เลยตกไป
- Nsport .. ราคายางพอกับ United Tire แหละ / ลมธรรมดา / จุ๊บลมไม่เปลี่ยน แลกกับ เครื่องถ่วงเทพๆของเค้า เทพจริงครับ นิ่งสนิทจริงๆ (ก่อนหน้านี้หลายปี เครื่องถ่วงเก่าเค้า ถ่วงไม่จบ แต่เครื่องใหม่นี้ เจอตอนเปลี่ยนล้อ Pulsar ชอบมาก นิ่งสนิทจริงๆ) เรื่องถอดใส่ หายห่วง ไม่รับเทิร์น
สรุปว่า ไป Nsport แหละ .. ยางเดิมก็ขายพี่ที่ทำงานไป 4 เส้น 1,000 บาท แต่พี่แก โอนมาให้ 1,500 บาท อิอิ (เพราะถ้าพี่แกไม่เอา ผมก็โยนทิ้งไว้ที่ร้านนั่นแหละ 55+)
ลองขับ
- จริงๆนัดร้านไว้ 13.00 น. แต่พอดีโดนเลื่อนนัด ก็เลยเข้ามาตอน 9.30 น. โผล่เข้ามาก็ .. ร้านโล่ง รอดไป ไม่ต้องรอคิว นั่งรอสักครู่ จนท ก็จะเอายางมาให้ดูว่า ผลิตสัปดาห์ 17 ปี 2021 นะ / ยาง RE004 เบอร์ 195/55-15 นะ จากนั้น ถามเรื่องแรงดันลมยาง ว่า ให้เติมเท่าไหร่ สุดท้าย ..
"รับตะกั่วสีอะไรครับ มีเงิน กับ ดำ"
"ดำ ครับ"
แล้วก็นั่งมอง ของยั่วกิเลส ไป
นั่งรอสัก 30 นาที รถก็ออกมาละ
ว่ากันถึง ฟิลลิ่ง กันมั่ง ..
- จุดเหลืองที่ยาง ตรงกับ จุ๊บลม / แรงดันลมยาง ตามสเปคโรงงาน
ความนุ่มนวล
- ขับออกมา .. เฮ้ยยย มันดี แฮะ คือ แต่เดิม เหมือน Maxxis แก้มมันนุ่ม นุ่มแอบเด้ง เวลาขับ ก็จะเหมือนเรือ คือ มันโยกเยกไปมา ซ้ายขวา ตลอดเวลา คนชอบนุ่ม ขับไม่เร็ว อาจจะชอบ แต่คนขับรถเร็ว รถทำช่วงล่าง ใส่ยางสปอร์ตมา (แบบผม) ผมส่ายหน้า "มันย้วย"
- พอได้ RE004 .. อาการโยกซ้าย โยกขวา หายไปเกือบหมด กลายเป็นวิ่งนิ่งๆ ขับแล้วดูมั่นใจ (ซึ่งเจ้าของรถ มาลองนั่ง ก็ยืนยันว่า ดีกว่าเดิมมาก)
- แต่แน่นอน ข้อแลกเปลี่ยนก็คือ หลุม ทางขรุขระ ที่คุณเคยรูดผ่านได้แบบไม่รู้สึกอะไร .. คราวนี้ต้องเบรค เพราะถ้าไม่เบรค ก็จะกระแทกค่อนข้างแรงครับ (ก็เหมือน CRV / Pulsar ตามปกติ)
เสียงรบกวน
- อันนี้ยังบอกอะไรไม่ได้ เพราะที่เคยใช้มา ยางตระกูลนี้ ต้องพ้น 1 หมื่นกม.ไปก่อนครับ เปลี่ยนมาใหม่ๆก็เงียบดีเหมือนกันหมด (ยกเว้น S007a ดังตั้งแต่ ยางแตะพื้น)
- โดยรวม วิ่งถนนเรียบๆ มีเสียงรบกวนดังกว่า Maxxis เล็กน้อย เหมือนเสียง "ฮัม" เบาๆ ส่วนถ้าวิ่ง ถนนลาดยางหยาบๆ ที่ Maxxis เคยร้องลั่น เจ้านี่ เสียงเงียบกว่าเล็กน้อยครับ
การบังคับควบคุม
- พวงมาลัยคมขึ้นแน่นอน จากการที่แก้มมันไม่ย้วย
- เข้าโค้ง รถเป็นกลางมากขึ้น จากเดิมที่โยกเยก คล้ายจะหลุด ก็เข้าไปนิ่งๆ มีอาการจิกโค้งเล็กน้อย ตามประสายางยี่ห้อนี้ .. แต่คงไม่ถึงกับ S007a ที่หักแล้ว เหมือนยางมันดูดโค้ง ทุกอย่าง กลายเป็น "ขนม" หมด (ยางมันคนละคลาสเนอะ)
แถมอีกนิด
- ออกจาก ร้านยาง ก็วิ่งไปหาของเล่น CAG Standalone มาใส่สักหน่อย คาใจ อยากรู้ CVT Temp จ่ายไป 3,900 บาท
- HONDA จะเรื่องเยอะหน่อย มีแค่ยี่ห้อ Lufi (2 พันบาท) กับ CAG (3.9 - 5 พัน) เท่านั้นที่ อ่าน CVT Temp ได้ นอกนั้น บางยี่ห้อ ใช้วิธีเอา Water Temp มาลบ 5 แล้วโชว์เป็น CVT Temp (ดูดีๆนะ) แต่ถ้าเป็น Nissan ขอแค่ Adapter ELM327 อันนึง 300 มาเสียบ แล้วลง app Torque Pro หรือ CVTz50 ก็อ่านได้ละ
ผลงานก็ ...
1. วิ่งในเมือง นนทบุรี - รัชดา - พระราม 9 รถเยอะ ช้าบ้าง เร็วบ้าง แต่ไม่ติดขัด
- ช่วงรถวิ่ง จะอยู่ 73 องศา
- ช่วงรถติด(ไฟแดง) จะอยู่ 74 - 75 องศา
2. วิ่งทางไกล มอเตอร์เวย์ - นิคม 304 ความเร็ว 100 - 110 กม./ช.ม.
- ช่วงแรก outsite temp โชว์ 38 องศา (บ่ายสาม) CVT Temp อยู่ 70 องศา นิ่งๆ
- ช่วงสอง ออกมอเตอร์เวย์ เข้าฉะเชิงเทรา ฟ้าครึ้ม ข้างนอกเหลือ 31 - 33 องศา CVT Temp จะอยู่ 66 - 67 องศา
ต้องบอกว่า แผง Oil Cooler SETRAB ใบนี้ ทำงานได้สมราคา 19,500 บาท มากๆ เพราะถ้าหันไป Pulsar รถติดนี่ 85 - 92 องศา ถ้าวิ่งยาวก็ 78 - 82 องศา ครับ
อีกอย่าง ก่อนติด Oil Cooler วันที่เอาไปทำเบรคที่กิจเจริญชัย ลองรถกับพี่เสว เอา OBD2 จับ CVT Temp อยู่ 99 - 105 องศา เลยครับ
..............
คันนี้ ก็จะเหลือ
1. ตั้งศูนย์ล้อ .. ผมว่า ศูนย์ล้อมันแปลกๆ รถมันไม่นิ่ง
2. เบรค .. ในบางถนน (ที่เอียงซ้าย) เบรคแล้วมันแถซ้ายหนักเลย
3. กล่องคันเร่ง .. ผมว่า คันเร่งมันหน่วงตอนแซง แม้จะไม่เท่า CRV G3 แต่เล่นเอาเสียจังหวะเหมือนกัน เดี๋ยวนี้กล่องนึงพันกว่าบาท ไว้หามาลอง
ช่วงนี้ หมดคิวในการทำคันนี้ละ (CRV รอคิวซ่อมเบรคอยู่ / รอจานเบรค Dixcel / รอคาลิปเปอร์) .. ต้องรอเดือนหน้า ค่อยเอาลงมาตั้งศูนย์ ตั้งเสร็จ เดี๋ยวเลี้ยวเข้าศูนย์ข้างๆเช็คเบรคอีกที เตรียมรถลงใต้ละ
ขอบคุณครับ
...............
13/06/21 อัพเดทเรื่องการรีดน้ำ
พอดีติดกล่องคันเร่งเสร็จ ฝนตก ถือโอกาสลองทั้งกล่องคันเร่ง ทั้งยางไปเลย
บนถนนเปียก
ฝนตกค่อนข้างหนัก เปิดปัดน้ำฝนเบอร์แรงสุด ใช้ความเร็วพอสมควร .. ที่ชัดเจนคือ รถนิ่งกว่า Maxxis มากครับ นิ่งสนิท นิ่งเป๊ะ
การรีดน้ำ
ลองหักซ้าย ลงแอ่งน้ำเล่น รถนิ่งใช้ได้ครับ มีรู้สึกสะดุดตอนลงแอ่งเล็กน้อย แต่ไม่เหิน ไม่ลอย พวงมาลัยนิ่ง
ดีกว่า Michelin Pilot Sport 4 (80 นี่เหินตลอด เหินน่ากลัว)
ดีกว่า Yokohama Parada spec-x (แอบเหินหน่อย ที่ 80)
ดีกว่า Toyo T1 Sport SUV (น้องๆ PS4)
แต่ ...
เป็นรอง Bridgestone Potenza S007a รายนี้ต้องยอมรับ นิ่งสนิท นิ่งจริงๆ
เป็นรอง Michelin Latitude Sport 3 ยางใหญ่ๆหน้ากว้างๆ แต่รีดน้ำนิ่งดีจริง ไม่เคยเห็นมันเหินเลย
เป็นรอง Bridgestone Dueler H/P Sport นี่ก็นิ่ง นิ่งกว่า Latitude Sport 3 อยู่หน่อยนึง
สรุปประมาณนี้ครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้