กรณีศึกษา
ปัจจุบันนางสาวก.อายุ 41 ปี สถานะโสด ประกอบอาชีพเป็นอาจารย์สอนภาษาจีนที่ม.เอกชนแห่งหนึ่งมาสามปีแล้ว ก่อนหน้านี้นางสาวก.ก็เป็นอาจารย์สอนภาษาจีนที่วิทยาลัยแห่งหนึ่งมา สรุปได้ว่าตั้งแต่เรียนจบป.ตรีโทเอกด้านภาษาจีน นางสาวก.ก็ประกอบอาชีพเป็นอาจารย์สอนภาษาจีนมาโดยตลอด อายุงานประมาณ 12 ปีแล้ว จึงทำให้นางสาวก.รู้สึกอิ่มตัวกับอาชีพอาจารย์สอนภาษาจีน นางสาวก.จึงได้ลองไปสัมภาษณ์งานล่ามภาษาจีนที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ผลปรากฏว่าโรงพยาบาลรับนางสาวก.เข้าทำงานตำแหน่งล่ามภาษาจีน
จึงทำให้นางสาวก.ลังเลใจว่าจะตัดสินใจลาออกจากอาชีพอาจารย์สอนภาษาจีนดีไหม
ปัจจุบันนางสาวก.ไม่มีหนี้สินผูกพันกับทางมหาวิทยาลัย รายได้ประมาณสามหมื่นบาทต่อเดือน ใจหนึ่งก็อยากเป็นอาจารย์สอนภาษาจีนต่อไป อีกใจหนึ่งก็อยากลาออกไปเป็นล่ามภาษาจีนที่โรงพยาบาล
สรุปว่า นางสาวก.ควรเลือกเส้นทางอาชีพไหนดีคะ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกๆข้อคิดเห็นค่ะ
อาชีพ "อาจารย์สอนภาษาจีนในม.เอกชน" กับ "ล่ามภาษาจีนในรพ.เอกชน" อย่างไหนจะมั่นคงกว่ากันคะ
ปัจจุบันนางสาวก.อายุ 41 ปี สถานะโสด ประกอบอาชีพเป็นอาจารย์สอนภาษาจีนที่ม.เอกชนแห่งหนึ่งมาสามปีแล้ว ก่อนหน้านี้นางสาวก.ก็เป็นอาจารย์สอนภาษาจีนที่วิทยาลัยแห่งหนึ่งมา สรุปได้ว่าตั้งแต่เรียนจบป.ตรีโทเอกด้านภาษาจีน นางสาวก.ก็ประกอบอาชีพเป็นอาจารย์สอนภาษาจีนมาโดยตลอด อายุงานประมาณ 12 ปีแล้ว จึงทำให้นางสาวก.รู้สึกอิ่มตัวกับอาชีพอาจารย์สอนภาษาจีน นางสาวก.จึงได้ลองไปสัมภาษณ์งานล่ามภาษาจีนที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ผลปรากฏว่าโรงพยาบาลรับนางสาวก.เข้าทำงานตำแหน่งล่ามภาษาจีน
จึงทำให้นางสาวก.ลังเลใจว่าจะตัดสินใจลาออกจากอาชีพอาจารย์สอนภาษาจีนดีไหม
ปัจจุบันนางสาวก.ไม่มีหนี้สินผูกพันกับทางมหาวิทยาลัย รายได้ประมาณสามหมื่นบาทต่อเดือน ใจหนึ่งก็อยากเป็นอาจารย์สอนภาษาจีนต่อไป อีกใจหนึ่งก็อยากลาออกไปเป็นล่ามภาษาจีนที่โรงพยาบาล
สรุปว่า นางสาวก.ควรเลือกเส้นทางอาชีพไหนดีคะ ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกๆข้อคิดเห็นค่ะ