มาแล้วว... เกณฑ์ใบขับขี่ Bigbike ล่าสุด(2 มิ.ย.64) สำหรับรถที่เกิน 400cc.... เตรียมแก้ไขเกณฑ์อายุเป็น 24 ปีบริบูรณ์
วันที่ 2 มิ.ย.2564 นายยงยุทธ นาคแดง รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการกำหนดเกณฑ์การอบรม และทดสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ หรือรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดความจุของกระบอกสูบมากกว่า 400 ซีซี ว่า กรมได้นำเสนอหลักเกณฑ์ดังกล่าวไปให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาแล้วกระทรวงคมนาคมพิจารณาเห็นชอบได้ภายในสัปดาห์หน้า หากกระทรวงเห็นชอบ คาดว่ากรมจะสามารถออกประกาศ และบังคับใช้เกณฑ์ได้ภายในเดือนมิ.ย.นี้แน่นอน” นายยงยุทธ กล่าว
สำหรับเกณฑ์การขอรับใบอนุญาตขับขี่บิ๊กไบค์ จะแบ่งผู้ขับขี่ออกเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1. ผู้ที่มีใบขับขี่รถจักรยานยนต์ปกติอยู่ก่อนแล้ว และมีการครอบครองรถบิ๊กไบค์ ไม่น้อยกว่า 2 ปี สามารถมายื่นขอใบขับขี่ได้อัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องทดสอบการขับขี่ หรืออบรมภาคปฏิบัติ เนื่องจากมีประสบการณ์แล้ว โดยเจ้าของใบขับขี่จะต้องมีชื่อและนามสกุลตรงกับชื่อผู้ครอบครองของรถบิ๊กไบค์
ส่วนเกณฑ์การอบรมนั้นจะต้องผ่านการอบรมกับกรมจำนวนรวม 12 ชั่วโมง แบ่งออกเป็นการอบรมภาคทฤษฎี จำนวน 2 ชั่วโมงและปฏิบัติจำนวน 10 ชั่วโมง
โดยภาคทฤษฎี จำนวน 2 ชั่วโมง จะแบ่งการอบรมออกเป็น 5 บท คือ
บทที่ 1 ผู้ขับขี่ จะอบรมเกี่ยวกับ การแต่งกายขณะขับขี่ การเตรียมความพร้อมด้านร่างกาย จิตใจและมารยาทในการขับขี่ เทคนิคการขับขี่ที่ถูกต้อง
บทที่ 2 ยานพาหนะ ต้องศึกษาคู่มือก่อนการใช้งาน ส่วนประกอบและพื้นฐานการทำงานของรถ การตรวจเช็กก่อนการขับขี่ และการตรวจเช็กรถตามระยะทาง และการปรับแต่งรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ที่มีผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่
บทที่ 3 สภาพแวดล้อมในการขับขี่ เกี่ยวกับเครื่องหมายจราจร และพื้นผิวถนน การขับขี่ในช่วงจราจรแออัดและสภาพอากาศไม่ปกติ และการศึกษาเส้นทาง และการใช้ระบบนำทาง
บทที่ 4 การคาดการณ์อุบัติเหตุขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่บนท้องถนน
และบทที่ 5 การปฐมพยาบาลและการช่วยเหลือเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
ส่วนภาคปฏิบัติ 10 ชั่วโมง จะมีการอบรม และทำการทดสอบท่าขับขี่จำนวน 11 ท่า (สอบใบขับขี่บิ๊กไบค์)
1.การเบรกตามระยะที่กำหนด
2.การเบรกกะทันหัน
3.การทรงตัวบนทางคดเคี้ยวที่มีสิ่งกีดขวาง
4.การเข้าโค้งรูปแบบต่าง ๆ
5.การทรงตัวบนลูกระนาดและพื้นที่ขรุขระ
6.การทรงตัวบนกระดานแคบ
7.การทรงตัวบนพื้นที่ทางแคปรูป S
8.การทรงตัวบนพื้นที่ทางแคบรูป Z
9.การทรงตัวบนพื้นที่ทางแคบรูป 8
10.การหยุดและการขึ้นทางลาดชัน
11.การเปลี่ยนเกียร์ก่อนเข้าโค้ง
กลุ่มที่ 2. ผู้ที่มีใบขับขี่รถจักรยานยนต์ปกติอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งมีอายุไม่น้อยกว่า 2 ปี จะต้องเข้ารับการทดสอบขับขี่ และอบรมหลักสูตรการขับขี่บิ๊กไบค์ก่อน
และกลุ่มที่ 3. กลุ่มที่ไม่เคยมีใบขับขี่รถจักรยานยนต์ประเภทใดมาก่อนเลย จะต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 24 ปีเต็ม จึงจะยื่นขอรับใบขับขี่บิ๊กไบค์ได้ และจะต้องเข้ารับการทดสอบขับขี่ และอบรมหลักสูตรการขับขี่บิ๊กไบค์ก่อน
มาแล้วว... เกณฑ์ใบขับขี่ Bigbike ล่าสุด(2 มิ.ย.64)
วันที่ 2 มิ.ย.2564 นายยงยุทธ นาคแดง รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการกำหนดเกณฑ์การอบรม และทดสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ หรือรถจักรยานยนต์ที่มีขนาดความจุของกระบอกสูบมากกว่า 400 ซีซี ว่า กรมได้นำเสนอหลักเกณฑ์ดังกล่าวไปให้กระทรวงคมนาคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาแล้วกระทรวงคมนาคมพิจารณาเห็นชอบได้ภายในสัปดาห์หน้า หากกระทรวงเห็นชอบ คาดว่ากรมจะสามารถออกประกาศ และบังคับใช้เกณฑ์ได้ภายในเดือนมิ.ย.นี้แน่นอน” นายยงยุทธ กล่าว
สำหรับเกณฑ์การขอรับใบอนุญาตขับขี่บิ๊กไบค์ จะแบ่งผู้ขับขี่ออกเป็น 3 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1. ผู้ที่มีใบขับขี่รถจักรยานยนต์ปกติอยู่ก่อนแล้ว และมีการครอบครองรถบิ๊กไบค์ ไม่น้อยกว่า 2 ปี สามารถมายื่นขอใบขับขี่ได้อัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องทดสอบการขับขี่ หรืออบรมภาคปฏิบัติ เนื่องจากมีประสบการณ์แล้ว โดยเจ้าของใบขับขี่จะต้องมีชื่อและนามสกุลตรงกับชื่อผู้ครอบครองของรถบิ๊กไบค์
ส่วนเกณฑ์การอบรมนั้นจะต้องผ่านการอบรมกับกรมจำนวนรวม 12 ชั่วโมง แบ่งออกเป็นการอบรมภาคทฤษฎี จำนวน 2 ชั่วโมงและปฏิบัติจำนวน 10 ชั่วโมง
โดยภาคทฤษฎี จำนวน 2 ชั่วโมง จะแบ่งการอบรมออกเป็น 5 บท คือ
บทที่ 1 ผู้ขับขี่ จะอบรมเกี่ยวกับ การแต่งกายขณะขับขี่ การเตรียมความพร้อมด้านร่างกาย จิตใจและมารยาทในการขับขี่ เทคนิคการขับขี่ที่ถูกต้อง
บทที่ 2 ยานพาหนะ ต้องศึกษาคู่มือก่อนการใช้งาน ส่วนประกอบและพื้นฐานการทำงานของรถ การตรวจเช็กก่อนการขับขี่ และการตรวจเช็กรถตามระยะทาง และการปรับแต่งรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ที่มีผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่
บทที่ 3 สภาพแวดล้อมในการขับขี่ เกี่ยวกับเครื่องหมายจราจร และพื้นผิวถนน การขับขี่ในช่วงจราจรแออัดและสภาพอากาศไม่ปกติ และการศึกษาเส้นทาง และการใช้ระบบนำทาง
บทที่ 4 การคาดการณ์อุบัติเหตุขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่บนท้องถนน
และบทที่ 5 การปฐมพยาบาลและการช่วยเหลือเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
ส่วนภาคปฏิบัติ 10 ชั่วโมง จะมีการอบรม และทำการทดสอบท่าขับขี่จำนวน 11 ท่า (สอบใบขับขี่บิ๊กไบค์)
1.การเบรกตามระยะที่กำหนด
2.การเบรกกะทันหัน
3.การทรงตัวบนทางคดเคี้ยวที่มีสิ่งกีดขวาง
4.การเข้าโค้งรูปแบบต่าง ๆ
5.การทรงตัวบนลูกระนาดและพื้นที่ขรุขระ
6.การทรงตัวบนกระดานแคบ
7.การทรงตัวบนพื้นที่ทางแคปรูป S
8.การทรงตัวบนพื้นที่ทางแคบรูป Z
9.การทรงตัวบนพื้นที่ทางแคบรูป 8
10.การหยุดและการขึ้นทางลาดชัน
11.การเปลี่ยนเกียร์ก่อนเข้าโค้ง
กลุ่มที่ 2. ผู้ที่มีใบขับขี่รถจักรยานยนต์ปกติอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งมีอายุไม่น้อยกว่า 2 ปี จะต้องเข้ารับการทดสอบขับขี่ และอบรมหลักสูตรการขับขี่บิ๊กไบค์ก่อน
และกลุ่มที่ 3. กลุ่มที่ไม่เคยมีใบขับขี่รถจักรยานยนต์ประเภทใดมาก่อนเลย จะต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 24 ปีเต็ม จึงจะยื่นขอรับใบขับขี่บิ๊กไบค์ได้ และจะต้องเข้ารับการทดสอบขับขี่ และอบรมหลักสูตรการขับขี่บิ๊กไบค์ก่อน