สำนักวิปัสสนาจะสอนว่า สิ่งใดเป็นสุขสิ่งนั้นเป็นอนัตตา

พระนครสาวัตถี. 
ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์เข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
 ถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว
 ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ 
ความดับเรียกว่านิโรธ ความดับแห่งธรรมเหล่าไหนแล
 เรียกว่า นิโรธ. พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
ดูกรอานนท์
 รูปแลเป็นของไม่เที่ยง 
อันปัจจัยปรุงแต่ง อาศัยปัจจัยเกิดขึ้น มีความสิ้นไปเป็นธรรมดา
 มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา มีความคลายไปเป็นธรรมดา
 มีความดับไปเป็นธรรมดา ความดับแห่งรูปนั้น เรียกว่านิโรธ.
 เวทนาไม่เที่ยง ฯลฯ
 สัญญาไม่เที่ยง ฯลฯ 
สังขารไม่เที่ยง ฯลฯ 
วิญญาณไม่เที่ยง
 อันปัจจัยปรุงแต่งอาศัยปัจจัยเกิดขึ้นมีความสิ้นไปเป็นธรรมดา 
มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา มีความคลายไปเป็นธรรมดา
 มีความดับไปเป็นธรรมดา ความดับแห่งวิญญาณนั้น เรียกว่านิโรธ. 
ดูกรอานนท์ ความดับแห่งธรรมเหล่านี้แล เรียกว่านิโรธ.
(ภาษาไทย) ขนธ. สํ. ๑๗/๒๐-๒๔/๓๙-๔๘.

สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์ สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา ดับหมดเรียกว่านิโรธ
นิโรธ จะไม่มีอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
แต่สำนักวิปัสสนา และ เถรวาทสายพม่า ก็เอา คำอาจาริยวาทมา นิกายเซน นิกายมหายาน มาปนใน
อภิธรรม 
ว่าสิ่งใดเป็นนิจจัง สิ่งนั้นเป็นสุข
สิ่งใดเป็นสุข สิ่งนั้นเป็นอนัตตา
ซึ่งไม่มีในชั้นพระพุทธวจนะ เถรวาทดั้งเดิม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่