“บิดเฉียดตาย - หลอนศาสตร์ BY THE SHOCK EP43”

ตอนนี้แฟน The Shock Radioแบบผม มีช่องทางไว้รับฟังตอนใหม่ ๆ ของ The Shock ผ่านทาง JOOX Podcast แล้วนะครับ สะดวกง่ายดาย ฟังเพลงเบื่อ ๆ ก็เปลี่ยนไปฟังเรื่องผีให้ตาสว่างขนหัวลุกเล่นได้ใน application เดียว แถมยังเป็น Original by JOOX ไม่ซ้ำตอนกับช่องทางอื่น ๆ ด้วย

ล่าสุดผมได้เข้าไปฟังตอนใหม่ที่ชื่อ [บิดเฉียดตาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ถ่ายทอดโดย คุณตั้ม รถขนไม้ ที่เข้ามาแชร์เรื่องตื่นเต้นกับ พี่ป๋อง กพล ทองพลับ เกี่ยวกับประสบการณ์เฉียดตายของเพื่อน ที่เจอผีเข้ากับตัวในระหว่างที่ซิ่งรถมอเตอร์ไซค์อยู่บนถนน



https://open.joox.com/s/rd?k=mfRpz

ส่วนตัวของผมค่อนข้างเป็นคนขับรถเรียบร้อยครับ ออกจะขี้กลัวเสียด้วยซ้ำ เลยยึดหลักการปลอดภัยไว้ก่อน (วาทกรรมสวย ๆ ของคำว่า “ป๊อด” นั่นแหละ แหะ ๆ ) ก็เลยไม่มีประสบการณ์ส่วนตัวในเรื่องขับรถซิ่งมาเล่าให้ฟังจริง ๆ

แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว มาถึงขนาดนี้ก็ต้องหาเรื่องมาเล่าให้ฟังจนได้แหละครับ ฟังประสบการณ์เจอผีใน “บิดเฉียดตาย” ตอนนี้ก็ให้นึกถึงเรื่องของญาติคนนึง ซึ่งเกิดขึ้นมาร่วมเป็นสิบ ๆ ปีเห็นจะได้แล้ว

พี่คนนี้มีศักดิ์เป็นพี่เขยของผมเองครับ แต่งงานกับพี่สาวลูกพี่ลูกน้องของผม อาศัยอยู่ในบ้านเกิดของผมที่ต่างจังหวัด พี่เค้ามีอาชีพเป็นตำรวจนะครับ ปัจจุบัน early retired มาช่วยเมียขายของชำอยู่กับบ้านได้หลายปีแล้ว และที่สำคัญ พี่แกไม่ได้เป็นคนกลัวผีเลย

เรื่องเกิดขึ้นตอนที่พี่แกยังหนุ่ม ๆ อยู่เลยครับ วันนึงก็แอบเมียไปกินเหล้าบ้านเพื่อนหลังเลิกงานตามประสา โดยบ้านเพื่อนพี่เค้าอยู่อีกตำบลนึงนะครับ บ้านแกอยู่ในเมือง ก็ใช้มอเตอร์ไซค์คู่ใจนี่แหละเป็นพาหนะ ทีแรกก็กะว่าจะไปแป๊บเดียว แต่ก็เพลิดเพลินเลยเถิดไปจนมืดค่ำหลังเที่ยงคืน เมียก็เริ่มโทรตาม หนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงโทรด่า จนกระทั่งทนไม่ไหวต้องรีบบิดรถเครื่อง (แถวบ้านผมเรียกรถมอเตอร์ไซค์ว่ารถเครื่องครับ) กลับบ้านมาสารภาพผิดเพื่อรับโทษกับเมียกลางดึก

แต่ปรากฎว่า คืนนั้นแกรอดพ้นมือเมียไปได้ แต่ถ้าพี่แกเลือกได้ แกน่าจะเลือกโดนเมียซ้อมมากกว่า เพราะแกกับมอเตอร์ไซค์คู่ใจประสบอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี กลับไม่ถึงบ้าน เจ็บปางตายถูกพลเมืองดีส่งเข้าโรงพยาบาลในคืนนั้นเอง ต้องรักษาตัวต่ออีกเป็นเดือน ๆ กว่าจะหายดีเป็นปกติ

แกยอมรับว่าเมาประมาณนึง แล้วก็ขับรถเร็วด้วยเพราะความรีบร้อน แต่ทุกคนก็สงสัยว่าทำไมถึงเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีแบบนั้น

พอแกรักษาตัวจนอาการเริ่มดีขึ้น ทุกคนถึงได้ฟังจากปากของแกเอง แต่ก็ต้องขมวดคิ้วสงสัยมากขึ้นกว่าเดิมอีก กับเรื่องราวที่ได้ยินจากปากของคนที่ไม่มีวี่แววของการกลัวผีให้เห็นเลย

แกเล่าว่า ระหว่างทางกลับบ้าน ต้องผ่านสะพานข้ามแม่น้ำแห่งหนึ่ง เป็นแม่น้ำที่กว้างขวางทีเดียว ก็เลยเป็นสะพานที่ค่อนข้างใหญ่ และช่วงเวลาในอดีตตอนนั้น ถนนหนทางยังไม่เจริญเหมือนทุกวันนี้ ไฟทางยังคงมีน้อย บรรยากาศโดยรวมก็ค่อนข้างมืดสนิท แต่ไฟบนสะพานก็ยังมีเปิดอยู่ตามปกติ

แกบอกว่า แกบิดรถเครื่องมาถึงใกล้เชิงสะพาน ก็รู้ว่าต้องมีสิ่งผิดปกติ เหมือนมีอะไรใหญ่โตบังแสงไฟส่องทางจากบนสะพานอยู่ พอเงยหน้าขึ้นมอง แกก็ได้เห็นสิ่งที่ทำให้ขนลุกทั้งตัว แทบจะสร่างเมาเสียเดี๋ยวนั้น…

สิ่งที่แกบอกว่าเห็นคือ มีอะไรซักอย่างยืนเอาขาคร่อมกลางสะพานอยู่ ตัวสูงใหญ่จนไม่สามารถเห็นส่วนหัวได้ถนัด

แกยอมรับว่าสติหลุดไปแล้ว แต่จะเบรครถกะทันหันก็กลัวรถจะคว่ำ เพราะแกก็ขับมาเร็วมาก

ความที่เป็นชายชาติตำรวจ (อาจจะบวกด้วยฤทธิ์แอลกอฮอลล์บางส่วน) ชั่ววินาทีนั้น แกตัวสินใจ บิดคันเร่งรถเพื่อให้ผ่านเงามืดนั้นไปให้เร็วที่สุด...

และแล้ว แกก็มารู้สึกตัวอีกทีที่โรงพยาบาล จำอะไรหลังจากนั้นไม่ได้เลย

แกบอกว่า อธิบายไม่ได้ชัดเจนว่าสิ่งที่แกเห็นนั้นเป็นอะไร แต่ก็ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้เมามากถึงขนาดจะเห็นภาพหลอนแน่ ๆ และก็รู้สึกว่าตัวเองยังโชคดีที่รอดชีวิตมาได้ แค่เกิดอุบัติเหตุพุ่งเข้าชนข้างทางในอีกฟากหนึ่งของสะพาน ไม่ถึงขนาดกับชนราวสะพานตกน้ำตกท่าไป

หลังจากออกจากโรงพยาบาล แกกับเมียก็รีบไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับสิ่งที่ตัวแกเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไรทันที

จากวันนั้นจนวันนี้เป็นสิบ ๆ ปี ชายชาติตำรวจผู้ไม่กลัวผีอย่างพี่เขยผม ก็ไม่เคยกล้าย่างกรายไปที่สะพานแห่งนั้นในตอนกลางคืนอีกเลย

ส่วนเรื่องหนีเมียไปกินเหล้าบ้านเพื่อนนั้น พี่แกก็เลิกทำเช่นกัน...

แค่เปลี่ยนให้เพื่อนมากินเหล้าที่บ้านตัวเองแทน เมาแล้วก็เข้าบ้านนอนเลย สบายใจไป 5555