โควิดอาจทำให้เราห่างไกล แต่เตียงนอนนั้นไซร้ทำให้เราใกล้กัน ฮิ้ววววว
เปิดมาปาด้วยมุกเกือบฮาหนึ่งมุก สร้างบรรยากาศเฮฮาเอาฤกษ์เอาชัย วันนี้เราจะมารีวิววววว Mission ตามหาที่นอนหลังใหม่กันค่า ใครว่าที่นอนไม่สำคัญเท่ากับคนที่นอนด้วย ขอเถียงขาดใจ เพราะ 1 ใน 3 ของชีวิตนั้นอยู่บนเตียงนอนเลยเชียวนะ จะนอนคนเดียวหรือนอนกับใครยังไงที่นอนก็สำคัญเสมอ อิอิ
เข้าเรื่องเลยละกัน จขกท กำลังมีแพลนที่จะแต่งงานค่าาา ทำให้ต้องตระเวนหาเฟอร์ฯ มาประดับบ้าน หนึ่งในนั้นก็คือที่นอน หลังจากที่ จขกท นั่งและนอนหาข้อมูลเกี่ยวกับที่นอน ก็พบว่า ว่า ว่า มึนตึ้บ! มีเยอะมากจริงๆ ค่าคุณผู้ชม และใช่! พอสนใจที่นอน สิ่งที่ตามมาก็คือ โฆษณาจ้า มาเยอะเลยจ้าาา เต็มหน้า Feed ไปหมด ซึ่งแน่นนอนว่า ทุกที่ล้วนแล้วแต่ลดราคา แชตไปถามร้อยละ 99.99 บอกว่าที่นอนแก้ปวดหลังเหมือนกันหมด งงและมึน หนักกว่าเดิมเลยทีนี้
และก็ได้มาหาข้อมูลใน Pantip ก็เจอหลายๆ กระทู้ แต่สะดุดกับกระทู้ให้ความรู้เรื่องที่นอน ข้อมูลแน่นปึ้ก ก็เลยลองถาม ก็ถามไปหลายอย่างเลยแหละ 55+ มารู้ทีหลังว่าเขาคือ พี่ธันวา ซึ่งพี่ธันวาก็ให้ข้อมูลที่สำคัญหลายอย่างมากๆ หนึ่งในนั้นเลย คือ
จะซื้อที่นอน ต้องเห็นของจริง…การดูที่นอนจากรูป และราคานั้น มันไม่สามารถบอกได้ถึงความนุ่ม ความแน่นที่แต่ละคนรับได้ ถ้าซื้อมาแล้วนอนไม่ได้ ที่นอนหลังนั้นก็แทบจะกลายเป็นขยะดีๆ นี่เอง เอาไปทำอะไรต่อก็ไม่ได้ ทิ้งก็เสียขาย ขายก็ยาก เปลี่ยนโรงงานก็ไม่รับคืน นี่ยังไม่รวมถึงที่นอนไม่ตรงปกอีก เพราะคงไม่มีใครถ่ายรูปไม่สวยมาลงขายแน่นอน ซึ่งพี่ธันวาก็เล่าว่า เจอบ่อยมากกับเคสที่นอนหน้าตาไม่ตรงปก
จขกท ก็รู้สึกว่าเออ มันก็จริงนะ เพราะที่นอน 1 หลัง มันมีราคาตั้งแต่หลายพันจนถึงหลายหมื่น ยาวไปถึงหลักแสนบาทกันเลย
ถ้าซื้อไปแล้วนอนไม่ได้จะทำอย่างไร ดังนั้น Save สุด ก็คือมาเทสนอนให้ชัดก่อนจ่ายเงิน หรือถ้าจะซื้อออนไลน์ ก็หารุ่นที่ชอบและก็มาเปรียบเทียบก็น่าจะดีที่สุด เพราะจำนวนเงินมันเยอะ ซื้อไปแล้วผิดหวัง นอนไม่ได้ เสียเงินไม่เท่ากับเสียใจที่ต้องมานอนบ่นกันทุกวัน
ส่วนตัว จขกท คิดว่าพี่ธันวาเป็น specialist มือวางอันดับหนึ่งแห่งวงการที่นอนเลยนะ เพราะพี่เค้าดูแลเรื่องที่นอนมากกว่า 10 ยี่ห้อในมือ จะบอกว่าก่อนเข้าไปที่ร้าน เราเลือกที่จะโทรไปคุย บอกทั้งสเปกและบอกความต้องการกับพี่ธันวาก่อน พี่เค้าก็แนะนำได้เป็นอย่างดี พอคุยจบก็หาวันว่างที่ตรงกันทั้งเรากับแฟน เพื่อนัดเวลาที่จะเข้ามาเทสและคุยเรื่องที่นอน ข้อดีของร้านพี่เค้าก็คือ เปิดทำการทั้งหมด 7 วัน ต่อ สัปดาห์ 365 วันตลอดทั้งปีเลย ซึ่งเวลาเปิดปิดก็ตั้งแต่ 10 โมง เช้า ถึง 2 ทุ่ม ในการรับลูกค้าเจ้าสุดท้าย ส่วนในเรื่องการโทรสอบถามรายละเอียดนั้น …
พี่ธันวาบอกว่า สะดวกก็โทรมาคุยได้เลยไม่ได้ติดอะไร
โอเค ถึงวัน จขกท ก็ชวนแฟนไปโชว์รูม EKALUK MATTRESS สาขาที่ไปคือ ราชพฤกษ์ เป็นสาขาใหญ่ และมีที่นอนเยอะครบทุกยี่ห้อ นอกจากที่นี่แล้ว EKALUK MATTRESS มีอีก 5 สาขา มาบุญครอง, นวมินทร์ซิตี้อเวนิว, ศรีนครินทร์, The Paseo Park กาญจนาภิเษก และเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์
ขอแปะคลิปรีวิวโชว์รูม EKALUK MATTRESS สาขา ศรีนครินทร์ ประกอบ ^^
***แนะนำว่าถ้าใครจะไปดูหรือซื้อที่นอนที่นี่ ให้โทร.หาและคุยดีเทลกับพี่ธันวาก่อนไปนะคะ แปะเบอร์ไว้เลยละกัน เบอร์นี้ 084-076-7991 หรือสะดวกไปสาขาไหนก็แจ้งได้จ้า พี่ธันวาจะเตรียมผู้ดูแลให้ และที่สำคัญ!!! พี่เค้าบอกว่าราคาถูกกว่า Walk-in ด้วยแหละ***
จะบอกว่า ลักษณะการคุยของพี่ธันวาอาจจะแมนๆ คุยกันครับ นิดนึง เพื่อนๆ ที่โทรไปโปรดอย่าตกใจ 55+ ครั้งแรกที่เราคุยก็อึ้งนิดๆ เกิดมาไม่เคยเจอ //เอามือทาบอก แต่สัมผัสได้ถึงความจริงใจในการขายของ ตรงประเด็น ตรงจุด กระชับ และรู้ข้อมูลจริงเกี่ยวกับเรื่องที่นอนมาก ที่สำคัญคือ ไม่ได้เชียร์แต่ของแพง คุยตามจุดประสงค์การใช้งานจริง และเปรียบเทียบให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจน
ระหว่างที่ดูที่นอนไป คุยดีเทลไป จขกท ได้ความรู้อย่างหนึ่งว่า ในชีวิตของมนุษย์คนนึง เราซื้อที่นอนกันได้ไม่เกิน 5 ครั้ง ดังนั้นจะซื้อก็ต้องเลือกที่นอนที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแพงที่สุดคือดีที่สุด อีกอย่าง ที่นอนเป็นสินค้าที่ไม่เหมาะที่จะซื้อ Online คลิกและรอมาส่งเหมือนเฟอร์ฯ อื่นๆ เป็นอะไรที่ต้องมาลองเทสด้วยตัวเองก่อน เพราะมันขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ที่นอนที่เค้าว่าดีก็ไม่ได้แปลว่ามันจะดีสำหรับเรา
ที่ EKALUK MATTRESS มีที่นอนหลายแบรนด์ให้เลือก รวมแล้ว 10 แบรนด์ เช่น Omazz, Lotus, Dunlopillo, Slumberland, Sealy, Satin, EastmanHouse, Zinus, Restonic, King Koil และ Smart Flex เซลล์ที่นี่ไม่ได้จำกัดว่าต้องขายแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งด้วย ขายได้ทุกแบรนด์ หมดปัญหาการเชียร์กันไปมาระหว่างเซลล์แต่ละยี่ห้อ
ข้อดีของการมาโชว์รูมที่นอนโดยเฉพาะ เราว่ามันทำให้การเปรียบเทียบรุ่น และเจาะลึกรายละเอียดที่นอนแต่ละหลังทำได้ละเอียดกว่า มีหลายแบรนด์ให้เลือกเปรียบเทียบได้ พี่ธันวา พาเรากับแฟนดูหลายหลัง บอกสเปกที่นอนแต่ละแบรนด์แบบเป๊ะมากเวอร์ ทำให้มีข้อมูลที่จะเลือกมากขึ้น หลังไหนให้ความคุ้มค่ากับเงินที่เราจ่ายไปมากที่สุด ที่นอน 1 แบรนด์ ไม่ได้หมายความว่าจะทำออกมาได้ดีทุกรุ่น มีทั้งรุ่นท็อปที่เน้นคุณภาพ เกินราคา และรุ่นที่โกยทรัพย์ 55+ คือราคาเกินคุณภาพ ตรงนี้เราก็สอบถามและมาพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง ที่นอนดีหรือไม่เป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ไม่ใช่ไสยศาสตร์ ที่ดีเกิดจากความเชื่อที่ใครบอกมาก็ไม่รู้
เราบอกความต้องการไปว่า ซื้อที่นอนเพราะอะไร ต้องการแบบไหน งบเท่าไหร่ สเปกที่ต้องการ ซึ่งพี่ธันวา ก็ถามกลับว่า ที่ผ่านมาเคยนอนแบบไหนมา มีปัญหาอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้สโคปที่นอนที่เหมาะกับเรามากขึ้น สักพักพี่ธันวาขอตัวไปโทรศัพท์ ส่งไม้ต่อให้พี่เซลล์มาให้ข้อมูล และก็พาเราเดินดูทีละหลัง ทีละแบรนด์
เทคนิคการเลือกซื้อที่นอน แน่ๆ คือต้องมาเทสนอนด้วยตัวเอง เพราะมันมีความซับซ้อนและความละเอียดบางอย่างที่เรานึกไม่ถึง ต้องนอนกันจริงๆ ด้วยนะ ห้ามเทสด้วยการนั่ง เนื่องจากเวลานั่งและการนอนการทิ้งน้ำหนักนั้นจะไม่เหมือนกัน เพราะเวลานั่งจะเป็นน้ำหนักตั้งแต่ศีรษะลงมาถึงสะโพก เพียงจุดเดียวทำให้ที่นอนจะยุบกว่าปกติ แต่การนอนจะเป็นน้ำหนักกระจายไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายที่แท้จริง ที่นอนที่ดีรูปแบบการนอนต้องเป็นแบบ
Correct Orthopedic Position คือ รูปแบบการนอนจะอยู่ในระนาบแนวตรง ทำให้แผ่นหลังผ่อนคลายและเวลานอนยาวๆ ก็ไม่ปวดหลัง
ถ้าใครนอนแล้วรู้สึกตามภาพ...แปลว่าไม่ใช่ที่นอนสำหรับเราค่ะ
Too Soft คือ ซื้อที่นอนนุ่มไปเวลานอนลงไปแล้วหลังโค้งงอมากๆ ทำให้เวลานอนยาวๆ ร่างกายเกิดอาการเกร็งก็ทำให้ปวดหลัง
Too Firm คือ ที่นอนแน่นไป เกิดความกระด้างเวลานอนลงไปแล้ว แผ่นหลังไม่เต็มกับที่นอน เกิดช่องว่างก็เกิดอาการเกร็ง และเวลานอนตะแคงช่วงข้อต่อหัวไหล่ก็จะมีแรงกดทับที่สูงทำให้เกิดอาการเหน็บชาล้า ก็ทำให้นอนไม่สบาย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องดูรายละเอียดประกอบกับที่นอนเดิมด้วยว่า ของเดิมเป็นที่นอนแบบไหน นุ่มหรือแน่นประมาณไหน หรือถ้านอนแล้วมีปัญหาที่เกิดจากที่นอนเดิมก็ต้องดูว่าเกิดปัญหาจากที่นอนยุบ หรือเบื่อ เพราะรูปแบบของที่นอนนั้น ความนุ่ม ความแน่น จะแปรผันไปตามน้ำหนัก ต้องแก้ปัญหาเป็นเคสๆ ไปค่ะ ขึ้นอยู่กับน้ำหนัก แรงกดดัน สรีระแต่ละคนอีก สรุปว่ามาลองนอนด้วยตัวเองก่อนซื้อชัวร์สุด! เคยนอนแบบแน่นแล้วปวดหลัง พอซื้อใหม่ก็ไม่ได้แปลว่าแบบนุ่มจะทำให้นอนสบาย ไม่ปวดหลัง จะนุ่มหรือแน่นมันทำให้ปวดหลังได้เช่นกัน หรือซื้อแพงมาก แต่นอนไม่ได้สุดท้ายมาเปลี่ยนหรือซื้อใหม่ในราคาไม่กี่หมื่นบาทก็มี
วิธีการทดสอบว่าที่นอนหลังนั้นใช่สำหรับเราหรือเปล่า ก็ให้นอนลงแล้วเอามือคนอื่นสอดไปที่ด้านหลัง ถ้าสอดเข้าไปได้แปลว่าไม่ผ่านจ้า BYE
เมื่อต้องนอนถึงจะรู้ ฉะนั้นไม่เกรงใจแล้วนะ นอนทุกหลังที่แนะนำมาเลย ซื้อทั้งทีใช้นานก็ต้องดีที่สุดอะเนอะ อย่างในรูปเป็นที่นอน Slumberland รุ่น Royal Excellency เสริมยางพาราแท้ 2.5 นิ้ว เน้นรับตามรูปหลังโดยตรง ตัวนี้นุ่มนวลชวนฝันมากๆ จริงๆ
อย่างหลังนี้ King Koil รุ่น Diamond เป็น Pocket Spring+ยางพารา ที่นอนสปริงแยกอิสระ สูง 13 นิ้ว ใครชอบที่นอนสูงๆ จัดไป สูงจริงอะไรจริง
King Koil รุ่น Maldives ที่นอนยางพาราสังเคราะห์เสริมยางพาราแท้ 1.5-2 นิ้ว
Omazz เมมโมรีโฟม คูลเจล และยางพาราแท้ๆ หนาๆ
ใช้เวลาเทสนอน (เกือบ) ครบทุกหลังอยู่พักนึง ใจบอกว่า (น่า) จะโดนหลังนี้ตก Eastman House รุ่น Enchant 300 เป็นที่นอนสปริง + โฟมวิทยาศาสตร์ EH FORM ที่ความกระชับแบบยางพารา แต่ความหนืดแบบเมมโมลี่โฟม ความหนา 10 นิ้ว ลายที่นอนสวยถูกใจด้วย
หลังจากนั้นเราก็เลยขอขึ้นไปดูที่ชั้น 2 หน่อย ถ้าใครเดินดูชั้น 1 แล้วยังไม่โดน ด้านบนมีที่นอนให้เลือกอีกหลายแบรนด์หลายรุ่น รวมถึงเก้าอี้ดูดวิญญาณ Recliner แบรนด์ Enzo Calvin ด้วย ไปนั่งแล้วดูดวิญญาณจริง มีแววว่าจะได้ไปเพิ่มอีกตัว ได้เทสและบอกเลยว่า โอ๊ยยยย อยากได้อ่าาา
[BR] เมื่อร้านพูดว่า ‘ที่นอนที่ดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องแพงที่สุด’ ก็เลยบุกมาที่ EKALUK MATTRESS
เปิดมาปาด้วยมุกเกือบฮาหนึ่งมุก สร้างบรรยากาศเฮฮาเอาฤกษ์เอาชัย วันนี้เราจะมารีวิววววว Mission ตามหาที่นอนหลังใหม่กันค่า ใครว่าที่นอนไม่สำคัญเท่ากับคนที่นอนด้วย ขอเถียงขาดใจ เพราะ 1 ใน 3 ของชีวิตนั้นอยู่บนเตียงนอนเลยเชียวนะ จะนอนคนเดียวหรือนอนกับใครยังไงที่นอนก็สำคัญเสมอ อิอิ
เข้าเรื่องเลยละกัน จขกท กำลังมีแพลนที่จะแต่งงานค่าาา ทำให้ต้องตระเวนหาเฟอร์ฯ มาประดับบ้าน หนึ่งในนั้นก็คือที่นอน หลังจากที่ จขกท นั่งและนอนหาข้อมูลเกี่ยวกับที่นอน ก็พบว่า ว่า ว่า มึนตึ้บ! มีเยอะมากจริงๆ ค่าคุณผู้ชม และใช่! พอสนใจที่นอน สิ่งที่ตามมาก็คือ โฆษณาจ้า มาเยอะเลยจ้าาา เต็มหน้า Feed ไปหมด ซึ่งแน่นนอนว่า ทุกที่ล้วนแล้วแต่ลดราคา แชตไปถามร้อยละ 99.99 บอกว่าที่นอนแก้ปวดหลังเหมือนกันหมด งงและมึน หนักกว่าเดิมเลยทีนี้
และก็ได้มาหาข้อมูลใน Pantip ก็เจอหลายๆ กระทู้ แต่สะดุดกับกระทู้ให้ความรู้เรื่องที่นอน ข้อมูลแน่นปึ้ก ก็เลยลองถาม ก็ถามไปหลายอย่างเลยแหละ 55+ มารู้ทีหลังว่าเขาคือ พี่ธันวา ซึ่งพี่ธันวาก็ให้ข้อมูลที่สำคัญหลายอย่างมากๆ หนึ่งในนั้นเลย คือ จะซื้อที่นอน ต้องเห็นของจริง…การดูที่นอนจากรูป และราคานั้น มันไม่สามารถบอกได้ถึงความนุ่ม ความแน่นที่แต่ละคนรับได้ ถ้าซื้อมาแล้วนอนไม่ได้ ที่นอนหลังนั้นก็แทบจะกลายเป็นขยะดีๆ นี่เอง เอาไปทำอะไรต่อก็ไม่ได้ ทิ้งก็เสียขาย ขายก็ยาก เปลี่ยนโรงงานก็ไม่รับคืน นี่ยังไม่รวมถึงที่นอนไม่ตรงปกอีก เพราะคงไม่มีใครถ่ายรูปไม่สวยมาลงขายแน่นอน ซึ่งพี่ธันวาก็เล่าว่า เจอบ่อยมากกับเคสที่นอนหน้าตาไม่ตรงปก
จขกท ก็รู้สึกว่าเออ มันก็จริงนะ เพราะที่นอน 1 หลัง มันมีราคาตั้งแต่หลายพันจนถึงหลายหมื่น ยาวไปถึงหลักแสนบาทกันเลย ถ้าซื้อไปแล้วนอนไม่ได้จะทำอย่างไร ดังนั้น Save สุด ก็คือมาเทสนอนให้ชัดก่อนจ่ายเงิน หรือถ้าจะซื้อออนไลน์ ก็หารุ่นที่ชอบและก็มาเปรียบเทียบก็น่าจะดีที่สุด เพราะจำนวนเงินมันเยอะ ซื้อไปแล้วผิดหวัง นอนไม่ได้ เสียเงินไม่เท่ากับเสียใจที่ต้องมานอนบ่นกันทุกวัน
ส่วนตัว จขกท คิดว่าพี่ธันวาเป็น specialist มือวางอันดับหนึ่งแห่งวงการที่นอนเลยนะ เพราะพี่เค้าดูแลเรื่องที่นอนมากกว่า 10 ยี่ห้อในมือ จะบอกว่าก่อนเข้าไปที่ร้าน เราเลือกที่จะโทรไปคุย บอกทั้งสเปกและบอกความต้องการกับพี่ธันวาก่อน พี่เค้าก็แนะนำได้เป็นอย่างดี พอคุยจบก็หาวันว่างที่ตรงกันทั้งเรากับแฟน เพื่อนัดเวลาที่จะเข้ามาเทสและคุยเรื่องที่นอน ข้อดีของร้านพี่เค้าก็คือ เปิดทำการทั้งหมด 7 วัน ต่อ สัปดาห์ 365 วันตลอดทั้งปีเลย ซึ่งเวลาเปิดปิดก็ตั้งแต่ 10 โมง เช้า ถึง 2 ทุ่ม ในการรับลูกค้าเจ้าสุดท้าย ส่วนในเรื่องการโทรสอบถามรายละเอียดนั้น … พี่ธันวาบอกว่า สะดวกก็โทรมาคุยได้เลยไม่ได้ติดอะไร
โอเค ถึงวัน จขกท ก็ชวนแฟนไปโชว์รูม EKALUK MATTRESS สาขาที่ไปคือ ราชพฤกษ์ เป็นสาขาใหญ่ และมีที่นอนเยอะครบทุกยี่ห้อ นอกจากที่นี่แล้ว EKALUK MATTRESS มีอีก 5 สาขา มาบุญครอง, นวมินทร์ซิตี้อเวนิว, ศรีนครินทร์, The Paseo Park กาญจนาภิเษก และเซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์
***แนะนำว่าถ้าใครจะไปดูหรือซื้อที่นอนที่นี่ ให้โทร.หาและคุยดีเทลกับพี่ธันวาก่อนไปนะคะ แปะเบอร์ไว้เลยละกัน เบอร์นี้ 084-076-7991 หรือสะดวกไปสาขาไหนก็แจ้งได้จ้า พี่ธันวาจะเตรียมผู้ดูแลให้ และที่สำคัญ!!! พี่เค้าบอกว่าราคาถูกกว่า Walk-in ด้วยแหละ***
จะบอกว่า ลักษณะการคุยของพี่ธันวาอาจจะแมนๆ คุยกันครับ นิดนึง เพื่อนๆ ที่โทรไปโปรดอย่าตกใจ 55+ ครั้งแรกที่เราคุยก็อึ้งนิดๆ เกิดมาไม่เคยเจอ //เอามือทาบอก แต่สัมผัสได้ถึงความจริงใจในการขายของ ตรงประเด็น ตรงจุด กระชับ และรู้ข้อมูลจริงเกี่ยวกับเรื่องที่นอนมาก ที่สำคัญคือ ไม่ได้เชียร์แต่ของแพง คุยตามจุดประสงค์การใช้งานจริง และเปรียบเทียบให้เห็นภาพได้อย่างชัดเจน
ระหว่างที่ดูที่นอนไป คุยดีเทลไป จขกท ได้ความรู้อย่างหนึ่งว่า ในชีวิตของมนุษย์คนนึง เราซื้อที่นอนกันได้ไม่เกิน 5 ครั้ง ดังนั้นจะซื้อก็ต้องเลือกที่นอนที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแพงที่สุดคือดีที่สุด อีกอย่าง ที่นอนเป็นสินค้าที่ไม่เหมาะที่จะซื้อ Online คลิกและรอมาส่งเหมือนเฟอร์ฯ อื่นๆ เป็นอะไรที่ต้องมาลองเทสด้วยตัวเองก่อน เพราะมันขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ที่นอนที่เค้าว่าดีก็ไม่ได้แปลว่ามันจะดีสำหรับเรา
ที่ EKALUK MATTRESS มีที่นอนหลายแบรนด์ให้เลือก รวมแล้ว 10 แบรนด์ เช่น Omazz, Lotus, Dunlopillo, Slumberland, Sealy, Satin, EastmanHouse, Zinus, Restonic, King Koil และ Smart Flex เซลล์ที่นี่ไม่ได้จำกัดว่าต้องขายแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งด้วย ขายได้ทุกแบรนด์ หมดปัญหาการเชียร์กันไปมาระหว่างเซลล์แต่ละยี่ห้อ
ข้อดีของการมาโชว์รูมที่นอนโดยเฉพาะ เราว่ามันทำให้การเปรียบเทียบรุ่น และเจาะลึกรายละเอียดที่นอนแต่ละหลังทำได้ละเอียดกว่า มีหลายแบรนด์ให้เลือกเปรียบเทียบได้ พี่ธันวา พาเรากับแฟนดูหลายหลัง บอกสเปกที่นอนแต่ละแบรนด์แบบเป๊ะมากเวอร์ ทำให้มีข้อมูลที่จะเลือกมากขึ้น หลังไหนให้ความคุ้มค่ากับเงินที่เราจ่ายไปมากที่สุด ที่นอน 1 แบรนด์ ไม่ได้หมายความว่าจะทำออกมาได้ดีทุกรุ่น มีทั้งรุ่นท็อปที่เน้นคุณภาพ เกินราคา และรุ่นที่โกยทรัพย์ 55+ คือราคาเกินคุณภาพ ตรงนี้เราก็สอบถามและมาพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง ที่นอนดีหรือไม่เป็นเรื่องวิทยาศาสตร์ไม่ใช่ไสยศาสตร์ ที่ดีเกิดจากความเชื่อที่ใครบอกมาก็ไม่รู้
เราบอกความต้องการไปว่า ซื้อที่นอนเพราะอะไร ต้องการแบบไหน งบเท่าไหร่ สเปกที่ต้องการ ซึ่งพี่ธันวา ก็ถามกลับว่า ที่ผ่านมาเคยนอนแบบไหนมา มีปัญหาอะไรบ้าง เพื่อที่จะได้สโคปที่นอนที่เหมาะกับเรามากขึ้น สักพักพี่ธันวาขอตัวไปโทรศัพท์ ส่งไม้ต่อให้พี่เซลล์มาให้ข้อมูล และก็พาเราเดินดูทีละหลัง ทีละแบรนด์
เทคนิคการเลือกซื้อที่นอน แน่ๆ คือต้องมาเทสนอนด้วยตัวเอง เพราะมันมีความซับซ้อนและความละเอียดบางอย่างที่เรานึกไม่ถึง ต้องนอนกันจริงๆ ด้วยนะ ห้ามเทสด้วยการนั่ง เนื่องจากเวลานั่งและการนอนการทิ้งน้ำหนักนั้นจะไม่เหมือนกัน เพราะเวลานั่งจะเป็นน้ำหนักตั้งแต่ศีรษะลงมาถึงสะโพก เพียงจุดเดียวทำให้ที่นอนจะยุบกว่าปกติ แต่การนอนจะเป็นน้ำหนักกระจายไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายที่แท้จริง ที่นอนที่ดีรูปแบบการนอนต้องเป็นแบบ
Correct Orthopedic Position คือ รูปแบบการนอนจะอยู่ในระนาบแนวตรง ทำให้แผ่นหลังผ่อนคลายและเวลานอนยาวๆ ก็ไม่ปวดหลัง
ถ้าใครนอนแล้วรู้สึกตามภาพ...แปลว่าไม่ใช่ที่นอนสำหรับเราค่ะ
Too Soft คือ ซื้อที่นอนนุ่มไปเวลานอนลงไปแล้วหลังโค้งงอมากๆ ทำให้เวลานอนยาวๆ ร่างกายเกิดอาการเกร็งก็ทำให้ปวดหลัง
Too Firm คือ ที่นอนแน่นไป เกิดความกระด้างเวลานอนลงไปแล้ว แผ่นหลังไม่เต็มกับที่นอน เกิดช่องว่างก็เกิดอาการเกร็ง และเวลานอนตะแคงช่วงข้อต่อหัวไหล่ก็จะมีแรงกดทับที่สูงทำให้เกิดอาการเหน็บชาล้า ก็ทำให้นอนไม่สบาย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องดูรายละเอียดประกอบกับที่นอนเดิมด้วยว่า ของเดิมเป็นที่นอนแบบไหน นุ่มหรือแน่นประมาณไหน หรือถ้านอนแล้วมีปัญหาที่เกิดจากที่นอนเดิมก็ต้องดูว่าเกิดปัญหาจากที่นอนยุบ หรือเบื่อ เพราะรูปแบบของที่นอนนั้น ความนุ่ม ความแน่น จะแปรผันไปตามน้ำหนัก ต้องแก้ปัญหาเป็นเคสๆ ไปค่ะ ขึ้นอยู่กับน้ำหนัก แรงกดดัน สรีระแต่ละคนอีก สรุปว่ามาลองนอนด้วยตัวเองก่อนซื้อชัวร์สุด! เคยนอนแบบแน่นแล้วปวดหลัง พอซื้อใหม่ก็ไม่ได้แปลว่าแบบนุ่มจะทำให้นอนสบาย ไม่ปวดหลัง จะนุ่มหรือแน่นมันทำให้ปวดหลังได้เช่นกัน หรือซื้อแพงมาก แต่นอนไม่ได้สุดท้ายมาเปลี่ยนหรือซื้อใหม่ในราคาไม่กี่หมื่นบาทก็มี
วิธีการทดสอบว่าที่นอนหลังนั้นใช่สำหรับเราหรือเปล่า ก็ให้นอนลงแล้วเอามือคนอื่นสอดไปที่ด้านหลัง ถ้าสอดเข้าไปได้แปลว่าไม่ผ่านจ้า BYE
เมื่อต้องนอนถึงจะรู้ ฉะนั้นไม่เกรงใจแล้วนะ นอนทุกหลังที่แนะนำมาเลย ซื้อทั้งทีใช้นานก็ต้องดีที่สุดอะเนอะ อย่างในรูปเป็นที่นอน Slumberland รุ่น Royal Excellency เสริมยางพาราแท้ 2.5 นิ้ว เน้นรับตามรูปหลังโดยตรง ตัวนี้นุ่มนวลชวนฝันมากๆ จริงๆ
อย่างหลังนี้ King Koil รุ่น Diamond เป็น Pocket Spring+ยางพารา ที่นอนสปริงแยกอิสระ สูง 13 นิ้ว ใครชอบที่นอนสูงๆ จัดไป สูงจริงอะไรจริง
King Koil รุ่น Maldives ที่นอนยางพาราสังเคราะห์เสริมยางพาราแท้ 1.5-2 นิ้ว
Omazz เมมโมรีโฟม คูลเจล และยางพาราแท้ๆ หนาๆ
ใช้เวลาเทสนอน (เกือบ) ครบทุกหลังอยู่พักนึง ใจบอกว่า (น่า) จะโดนหลังนี้ตก Eastman House รุ่น Enchant 300 เป็นที่นอนสปริง + โฟมวิทยาศาสตร์ EH FORM ที่ความกระชับแบบยางพารา แต่ความหนืดแบบเมมโมลี่โฟม ความหนา 10 นิ้ว ลายที่นอนสวยถูกใจด้วย
หลังจากนั้นเราก็เลยขอขึ้นไปดูที่ชั้น 2 หน่อย ถ้าใครเดินดูชั้น 1 แล้วยังไม่โดน ด้านบนมีที่นอนให้เลือกอีกหลายแบรนด์หลายรุ่น รวมถึงเก้าอี้ดูดวิญญาณ Recliner แบรนด์ Enzo Calvin ด้วย ไปนั่งแล้วดูดวิญญาณจริง มีแววว่าจะได้ไปเพิ่มอีกตัว ได้เทสและบอกเลยว่า โอ๊ยยยย อยากได้อ่าาา
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน