มนต์รักหนองผักกะแยง ณเดชน์ Scene อยากให้ถ้วย เล่นได้มีชีวิตชีวามาก ถ้าเบื้องหลังเป็น Long take จะให้สองถ้วยเลย

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

Scene  นี้เป็นการคุยเม้าท์มอยกันในครอบครัวธรรมดาๆ  ดูไม่มีอะไร แต่ไม่ธรรมดาเพราะถ่ายทอดโดย ณเดชน์ นี้แหละ หน้าตามือไม้ ไปด้วยกันหมด เล่าอย่างเมามัน ประหนึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับชีวิตเขาจริงๆเห็นมากะตา ได้ยินมากะหูเมื่อวานนี้ยังไงยังงั้น  เป็นนักแสดงที่เชื่อในการแสดงเต็มเปี่ยม เมื่อตัวเองเชื่อว่ามันเกิดขึ้นจริง ก็ใช้ทักษะและชั่วโมงบินที่สั่งสมมาถ่ายทอดให้คนดูเชื่อด้วยว่าเขากำลังเล่าถึงเรื่องที่เคยประสบมาจริงๆให้คนในครอบครัวฟังในบริบทของครอบครัวชนบทอีสาน และอารมร์ของลูกชาย หลานชายคนเดียวในบ้าน ที่จะเขียวอย่างนั้น เขียวอย่างนี้ เขียวกรี๊ดแตก ด้วยน้ำเสียงเด็กน้อยกำลังเล่าวีรกรรมเรียกความใส่ใจจากผู้ใหญ่ในครอบครัว

ตั้งแต่ดูละครเรื่องนี้มา บักเขียว นี้เป็นผู้ชายแหยๆที่มีพ่อแม่ลุง น้า คอยประคบประหงม แต่เด็กซินะ  ดูเนิร์ส ไม่สู้คน ถึงลักษณะทางกายภาพ ณเดชน์จะกล้ามใหญ่ เกิน Character ไปนิด แต่ทั้งเรื่องก็ไม่ได้เดินอกผายไหล่ผึ่งโชว์มาดแมนให้เห็นซักครั้ง  Keeplook เด็กแหยๆไม่สู้คนได้ดี   ตั้งแต่ต้นเรื่องยันกลางเรื่องทำตัวเป็นคนกรุงเทพฯที่จำใจกลับบ้าน ทุกอย่างดูอึดอัดคับข้องไปหมด แสดงจนคนดูยังรู้สึกอัดอัดไม่เข้าที่เข้าทางของอะไรซักอย่างของละครเรื่องนี้ตามไปด้วย ซึ่งจริงๆแล้วในช่วงต้นของละครถ้าจะมีอะไรไม่เข้าที่เข้าทางก็คือ ตัวบักเขียวเองนี้แหละ ที่ไม่เข้ากับบ้านเกิดตัวเองและคนในชุมชน เจออะไรก็ยี้ เจออะไรก็ย่นจมูก ทำตัวเกเรไม่เต็มอกเต็มใจทำอะไรซักอย่าง

ก่อนจะค่อยๆคลายปม ซึมซับ  กลับมาเป็นตัวของตัวเองทีละน้อยๆ จากการได้อยู่กับครอบครัว พบปะเพื่อนฝูง ทำกิจกรรมสอดแทรกความรู้ทางการเกษตรปลอดสารพิษ กับชาวบ้านภายใต้การดูแลของชมพู่เพื่อนสมมัยเด็ก  เสียดายไปนิดที่ละครสั้นเกินกว่าจะขยายในส่วนของการทำการตลาดผลิตผลการเกษตรที่ได้ว่าชาวบ้านหนองผักกะแยง จะทำยังไงได้ที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผักปลอดสารพิษของตัวเอง ขายได้ในราคาที่เลี้ยงชีพ ชุมชนมีฐานะพอมีพอกินกันได้ แต่ชมพู่ก็ไม่ใช่นักการตลาด เขียวก็ไม่ใช่นักการตลาด ครูริช ช่างยอด ฯ ไม่มีตัวละครที่เป็นนักการตลาดหรือมีหัวการค้าต่อยอดเลยได้แต่ขายผ่านพ่อค้าคนกลางที่มารับซื้อ และความยาวของละครก็คงจะขยายไม่ได้ ละครไทยเดี๋ยวนี้ทำสั้นจริงจัง ได้ข่าว่าอีกไม่กี่ตอนก็จบแล้ว

ละครไม่มีปมอะไรซับซ้อน แต่ใช้นักแสดงแม่เหล็กและสภาพแวดล้อมชนบทที่สบายตา ตรึงคนดูไว้ เปรียบเทียบไป ณเดชน์เป็นนักแสดงที่เหมือนสายยางฉีดน้ำที่พลังฉีดล้นเหลือ ให้เล่นเองรับร้องสุดกำลังดูจากความตั้งอกตั้งใจของเขา คงไหลล้นไปแน่ แต่เมื่อมีสายฉีดน้ำแรงดันสูงในมือ จะให้ปล่อยออกมามากน้อย ก็ขึ้นกับผู้กำกับจะปรับหัวก๊อกตามต้องการ  ก็ต้องยกเครดิตให้ผู้กำกับการแสดงด้วยที่ใช้นักแสดงได้เต็มศักยภาพและเหมาะสม

พูดถึงบักเขียวแล้วก็ต้องพูดถึงคุณชมพู่ด้วย  ดาราคนนี้เพิ่งเห็นเรื่องนี้ครั้งแรก หน้าตาเหมาะสมกับ Character ของตัวละคร จิ้มลิ้มน่ารักตามท้องเรื่อง ชั่วโมงบินก็คพอสมควร ไม่ใช่มือใหม่แน่ๆ แสดงเก็บรายละเอียดได้ดีงามตามสั่งไม่ขัดเขิน  เล่นบทชมพู่ได้กำลังน่ารักอย่างที่ควรจะเป็น ทั้งต้นทุนความสวยก็ดีอยู่แล้วการไม่แต่งหน้าจัดไม่เป็นอุปสรรคต่อรูปโฉมของชมพู่แต่ประการใด  ถือว่าเลือกนักแสดงเข้าคู่กันได้ดีทีเดียว 

ส่วนภาษาอีสานใครพูดได้ดี หรือไม่ดี อันนี้ไม่รู้จริงๆ เพราะไม่ใช่คนถิ่นอีสาน คงต้องให้เจ้าของภาษาเค้าตัดสิน

ส่วนตัวไม่เคยคาดหวังกับละครเรื่องนี้ พอเดาพล๊อตได้แต่ต้นยันจบ เพราะเป็นคนชอบดูซีรีย์ ดูหนัง ดูได้ของทุกชาติ  เรื่องนี้เบาสมองคลายเครียดดีและไม่ชินกับวัฒนธรรมของภาคอีสานเลยดูไป อ้อ อ้อ ไป ก็เพลินดี ไม่ติดปัญหาว่าจะจบยังไง หรือ อะไร เหมือนที่เสพย์ผ่านไปมันก็คุ้มที่จะดูแล้ว

ขอบคุณผู้จัดละครที่จัดละครที่เพลิดเพลินเรื่องนี้ให้ได้ดู
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ดิชั้นกดหัวใจและบวกให้เจ้าของกระทู้เลยค่ะ คุณพูดถูกทุกสิ่งอย่างค่ะ ซีนนี้ถือว่าเป็นมาสเตอร์พีซอีกซีนของณเดชน์เค้าเลยค่ะ คือมันต้องแบบเจอมาจริงๆอ่ะถึงเล่าได้เรื่อยๆโดยไม่ติดขัดไหนจะหน้าตาท่าทางอารมณ์แบบทุกคนต้องมองดูชั้นและฟังชั้นนะมาๆมาฟังกันตรงนี้ คือเหมือนคนสำคัญของบ้านที่มีแต่คนรักคนเอ็นดูแล้วให้ความสนใจและตั้งใจฟังเค้า ตัวเค้าก็เลยภูมิใจและไม่ขัดเขินที่จะเล่ามันเหมือนรอฟังลูกเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนวันนี้ว่าเป็นอย่างไรบ้างอ่ะ 5555 น่ารักเนอะ คือณเดชน์เรื่องนี้ทำให้คนรักคนหลงเหมือนรักเด็กๆน่ะค่ะ

น้องโบว์ก็น่าร๊ากกกกกเป็นธรรมชาติที่สุดหน้าตาก็น่ารักใสๆอ่ะ น้องเค้าเก่งและไม่ห่วงคาแรคเตอร์เลยทำได้ดีมาก ออกแนวคุณแมทนะตัวตายตัวแทนได้เลย

เรื่องภาษาอีสานในเรื่องนี่ทำได้ดีเกือบทุกคนค่ะ แต่ถ้าเอาให้ตรงๆของแท้เลยเนี่ยคือ ยอดกับเขียวค่ะ เค้าสองคนพูดใช้สำเนียงแท้เลยคนอื่นยังมีดัดให้คนกรุงฟังง่ายขึ้นอยู่บ้างแต่ยอดนี่ของจริงค่ะ บักเขียวนี่ดูฉากนี้แล้วก็ให้รู้เลยว่า 100% ค่ะ 5555 ดิชั้นชอบมากเพราะมันคือภาษาดิชั้นเองเลยยิ่งดูละครสนุกแถมชอบณเดชน์มาอยู่แล้วเลยเกิดความปลื้มปริ่มไปอีก ต้องขออภัยที่พิมพ์ยาวเหยียดเพราะดีใจมีที่ให้ระบายความสุขค่ะ ขอบคุณเจ้าของกระทู้นะคะกระทู้นี้ดีจริงๆค่ะ
ความคิดเห็นที่ 14
ชอบฉากนี้มากๆๆๆเหมือนกันค่ะ ดูวนซ้ำไปซ้ำมาไม่รู้กี่รอบ
ดูไปหัวเราะไปขำไปกับลีลาของณเดชน์ที่เข้ากับสำเนียงอิสานที่พ่นไฟแล่บแซ่บมาก

ณเดชน์แสดงฉากนี้ได้เป็นธรรมชาติมากๆ  แสดงเหมือนไม่ได้แสดง เหมือนตัวเองไปประสบเหตุการณ์มาจริงๆ
สำเนียงไหลลื่น ฟังไพเราะมีทั้งสูงทั้งต่ำมีทั้งเน้นคำที่ชวนให้ตกใจ
ท่าทางมือไม้ก็ไปกับคำพูด
สายตาขณะเล่าก็เหลือบแลแม่ ยาย พ่อ. น้าพิลาสลับไปมา ดูน่าสนใจ

นี่ถ้าในชีวิตจริงมีใครมาเล่าเรื่องด้วยน้ำเสียงท่าทางแบบนี้ คงไปนั่งยองๆต่อหน้าคนเล่า จับเข่าคนเล่า
ลุ้นไปด้วยว่าแล้วเรื่องมันไปยังไงต่อ เล่าอีกๆๆๆ เล่าไวๆ555
เพราะเรื่องที่เล่ามันน่าสนใจมาก

หลายคนชอบพูดว่าละครมนต์รักหนองผักกะแยงบทไม่เห็นมีอะไร เรื่อยๆมาเรียงๆ
แต่หารู้ไม่ว่าการแสดงของนักแสดงเรื่องนี้ทุกคนกำลังแสดงบทที่เป็นธรรมชาติของชีวิตจริงของคนเรา
มันคือเสน่ห์ที่สุดของนักแสดงทุกๆคนในเรื่องนี้ ยากนะแสดงเหมือนไม่ได้แสดง ทุกคนแสดงดีจริงๆ
ทึ่งและประทับใจนักแสดงทุกคนในเรื่องนี้มากและทีมงานทุกคนที่ทำให้เราติดตามดูละครเรื่องนี้เหมือนต้องมนต์สะกด

แต่ชอบมากที่สุดคือณเดชน์ ณเดชน์เกิดมาเพื่อเป็นนักแสดงจริงๆ
นับวันยิ่งบ่มเพาะประสบการณ์การแสดงที่ผ่านๆมาแล้วเอามาต่อยอดพัฒนาในเรื่องต่อไปในทุกครั้ง
ทำการบ้านมาดีทุกเรื่อง มีสมาธิในการแสดงดีมาก สมกับที่เคยบวชเรียนมา เข้าถึงตัวแสดงของตัวเองในเรื่องจริงๆ

ชอบณเดชน์มากที่สุดคือการใช้สายตา
อย่างเรื่องนี้ตอนแรกๆ บักเขียวไม่ได้ชอบชมพู่เลย ติดจะรำคาญด้วยซ้ำ
สายตาของณเดชน์ที่แสดงเป็นบักเขียวเมื่อมองชมพู่ตอนแรกๆมีแต่ความว่างเปล่า ออกแนวรำคาญ
สำเนียงก็ดูหงุดหงิดเมื่อชมพู่มาใกล้ชิดมาสั่งงาน สายตามองผ่านชมพู่ไปอยู่ที่กลุ่มเพื่อนๆมากกว่า
ไม่มีเงาของชมพู่ในสายตาของบักเขียวเลย
จนเราคิดไปว่า เฮ้อ!แล้วเมื่อไรพระเอกจะชอบนางเอกสักทีหนอ จะได้มีบทหวานๆให้ดูบ้าง
ละครก็สั้นด้วย ไม่จุใจเลย(อยากดูต่อยาวๆ555)

แต่พอมาตอนที่เก้า บักเขียวเริ่มชอบชมพู่แล้ว สายตาแววตาที่ณเดชน์แสดงเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
มีแววหวานปนแต่ไม่ฉ่ำ (ซึ่งถ้าฉ่ำจะเลี่ยนทันทีดูไม่เป็นธรรมชาติ)

ณเดชน์แสดงให้เห็นมันเหมือนลูกนัยน์ตาดำคู่นั้นมันบอกความในใจได้ เหมือนตามีพิรุธ มันวับๆตรงตาดำแต่ไม่ฉ่ำเยิ้ม
ถ้าใครเคยผ่านความรักมา คงซาบซึ้งกับคำว่าสายตามีพิรุธทั้งเราและเขาเป็นอย่างดี555

และที่ชอบอีกอย่างของณเดชน์คือเป็นคนเก็บรายละเอียดของบทได้เยี่ยม
อย่างตอนป้าลั้งขายปุ๋ยเคมีฆ่าแมลงสำนึกผิดจะเอาโฉนดมาคืนให้
แต่ขณะนั้นคนทั้งครอบครัวและเพื่อนบ้านคิดว่าป้าจะมาร้าย
เลยรวมตัวตั้งป้อมใส่ ซึ่งบทเด่นตรงนี้จะเป็นของยายของบักเขียวและญาติๆปะทะ ป้าลั้ง
ซึ่งคนเหล่านี้จะอยู่หน้ากล้องเพราะมีบทพูด

แต่บักเขียวและชมพู่จะอยู่หลังๆไกลกล้อง คอยมองดูเหตุการณ์ ไม่มีบทพูดในตอนนี้ ปล่อยให้ผู้ใหญ่เขาจัดการกันไป
มองเห็นคู่นี้อยู่ด้านหลังไกลๆ ถ้าใครไม่สังเกตก็จะไม่เห็น กล้องจะแพลนไปมา
แต่เราเห็นณเดชน์เอื้อมมือไปแตะไหล่โบว์เหมือนห่วงใยและให้กำลังใจ(เพราะตอนนี้เหมือนเริ่มเปิดใจกันแล้ว แตะไหล่กันได้)
เราถึงกับอมยิ้มว่านี่แหละคือณเดชน์ที่เก็บทุกรายละเอียดของตัวละครที่ตัวเองสวมบทบาทอยู่
มันเป็นอย่างนี้จริงๆ

น่าเสียดาย ถ้าโบว์รับไม้ต่อเงยหน้ายิ้มให้กับทีท่าการห่วงใยของณเดชน์จะดูหวานสมบูรณ์มาก
เพราะตามบทชมพู่เป็นฝ่ายชอบเขียวมานาน น่าจะดีใจที่เขียวเริ่มมีใจให้ มีความห่วงใยตนเอง
แบบนี้ แต่เผินๆคนดูอาจจะไม่เห็นด้วยซ้ำเพราะสองคนนี้อยู่ด้านหลังในบทตอนนี้

แต่โบว์ก็แสดงดีมากในเรื่องนี้ ทำให้เราชอบโบว์มากอีกคนทั้งที่ไม่เคยดูละครของโบว์มาก่อนเลย
โบว์แสดงดีเป็นธรรมชาติมากเช่นกัน ดูน่ารักน่าหยิกน่าขำ ใช้สำเนียงคำพูดกิริยาท่าทางแบบไม่ห่วงสวย
หน้าตาก็สวยใสเป็นธรรมชาติมาก
แต่งหน้าเหมือนไม่ได้แต่ง เข้ากับบทบาทที่ได้รับจริงๆ

ยิ่งเวลาเข้าฉากกับณเดชน์มันดูเหมาะสมผสมกลมกลืนกันมาก เคมีคู่มันฟุ้งกระจายมาก
เวลาเป็นคู่กัดก็กัดกันจริงๆ ไม่ห่วงสวยห่วงหล่อกันล่ะ จนเราขำกระจาย
และอยากดูตอนต่อไปไวๆว่าเวลาคู่นี้หวานจะหวานกันแบบไหนหนอ

ผู้จัดตาแหลมคมมากที่จับณเดชน์คู่กับโบว์ เก่าต่างช่อง แต่มาใหม่ในช่องเดียวกัน มันจึงดูสดใหม่น่าติดตาม

จะติดตามดูละครเรื่องนี้ออนสดตลอดจนจบ แต่ไม่อยากให้จบเลย
เพราะนั่นมันหมายถึงความสุขที่กำลังรายล้อมรอบตัวเราในระยะนี้ต้องหมดไปเช่นกัน

ให้กำลังใจผู้จัดและนักแสดงทุกคนค่ะและขอขอบคุณที่ทำให้คนดูหลายๆคนมีความสุขที่ได้ดูละครเรื่องนี้
นี่คือผลลัพธ์ที่แท้จริงที่มากกว่าเรตติ้งค่ะ
ความคิดเห็นที่ 10
ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่ยกฉากนี้ขึ้นมา  ชอบฉากนี้มากๆเลยค่ะ

ณเดชน์เล่นดีมากๆค่ะ สำหรับฉากนี้ บทพูดก็ยาว แต่เหมือนเรากำลัง
นั่งร่วมวงเป็นหนึ่งในเครือญาติ เป็นคนร่วมบ้านกับเขียว ฟังบักเขียวเล่าเรื่องราว
ความเป็นมาเป็นไปยังไงยังงั้น  มือไม้บิดประกอบพองาม เหมือนเด็กชายตัวน้อย
กำลังเล่าอะไรสักอย่างให้ผู้ใหญ่ในบ้านฟังจริงๆ

เรื่องสำเนียงถิ่นอีสาน  ตอนนี้ดิฉันเข้าใจแล้วค่ะว่าคนต่างถิ่นรู้สึกว่านักแสดงพูดได้ไหลลื่น
แต่ขณะที่ดิฉัน(หรือคนที่พูดภาษาถิ่นเป็นปกติ)จะรู้สึกว่านักแสดงพูดไม่ชัดอย่างมากเลยด้วย
ความรู้สึกขัดใจนี่เกิดตอนดูละครกลิ่นกาสะลองค่ะ  คนอื่นๆเค้าชมกันนะ  คงมาแนวละครเรื่อง
หนองผักกะแยงนี้  เพราะดิฉันก็พูดอีสานไม่เป็น  ทำให้จับไม่ได้ว่าใครพูดได้จริงหรือใครปลอม
พอรู้บ้างค่ะว่า ณเดชน์พูดอีสานได้  พอบักเขียวเว้าอีสานเลยตั้งใจฟังมากขึ้น(ด้วยรอตัวจริงพูดภาษาถิ่น)
ซึ่งน่ารักดี  

ชอบบทตลกที่ทุกคนโห่เบาๆตอนที่เขียวจะดัดจริตเล่าให้เพื่อนฟังเป็นภาษากลาง  ทั้งๆที่โป้ะ
แล้วว่าพูดอีสานได้  ขอบตอนเขียวบ่นเบาๆด้วยว่า  แล้วก็ไม่รู้จักมาให้พร้อมกันจะได้เล่าทีเดียว

ชอบความเรียลในฉากนี้อีกประการหนึ่งคือ  ที่เราต้องเล่าเรื่อง เล่าเหตุการณ์หลายรอบ เพราะวงแรกที่
เราต้องเล่าให้ฟังมักเป็นคนที่เรารัก เราใกล้ชิด  ส่วนเล่ารอบสอง รอบสาม ก็จะเป็นกลุ่มคนที่
สนิทสนมไล่เรียงความสัมพันธ์กระจายวงออกไป

เจ้าของกระทู้พูดถึงการแต่งหน้า  จึงขอฝากคำชมคำโตๆให้กับทีมเมคอัพละครเรื่องนี้นะคะ
โดยเฉพาะกับน้องโบว์ นางเอกในเรื่องเลยค่ะ  เมคอัพโนเมคอัพ ที่แท้ทรู

ปล.
-- พอไปเห็นน้องโบว์ในโฆษณา (ที่ก่อนนั้นที่ไม่รู้จักแต่ทันเห็นว่ามีบอกชื่อน้องไว้ในโฆษณาด้วย)
น้องก็แต่งหน้าตามปกติล่ะค่ะ แต่กลายเป็นว่าเราชอบน้องในแบบหน้าใสนี่ไปซะแล้ว
-- ชอบและรักน้องโบว์จากละครเรื่องนี้เลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่