คำถามคลาสสิค “เรียนภาษาอังกฤษจากที่ไหน” เราเรียนจากเพลงจ้า ใครเป็นเหมือนเราบ้าง ??!!


“พูดภาษาอังกฤษเก่งจัง เรียนภาษาอังกฤษจากที่ไหนอ่า??” << ใครเคยเจอคำถามนี้บ้าง?? เราเจอมาตลอดเลย แล้วเราก็เป็นคนนึงที่ไม่ได้ไปลงเรียนที่ไหนเป็นพิเศษนอกจากโรงเรียนอ่ะ เราก็เรียนจากการพูดกับคนนู้นคนนี้ สำคัญคือเรียนจากเพลง หนัง แล้วก็พวกรายการภาษาอังกฤษอ่ะแหละ แล้วเวลาฟังใครเค้าถามเรื่องพวกนี้กันส่วนใหญ่ก็จะตอบไม่เพลง ก็หนังนะ เหมือนที่พี่ปุ๋ย ภรณ์ทิพย์ ตอบคำถามตอนประกวด Miss Universe ที่เค้าถามว่า “ใครเป็นคนแรกที่สอนภาษาอังกฤษคุณ?” แล้วพี่ปุ๋ยตอบว่า “...ฉันคิดว่าฉันเป็นหนี้บุญคุณ Big Bird ชั้นดูบ่อยมากตอนชั้นยังเด็ก” ก็คือเป็นวิธีที่เราจะได้เรียนภาษาอังกฤษได้เก่งและง่ายขึ้นเพราะมันมาจากความชอบอ่ะเนอะ

จนถึงตอนนี้เราก็ยังใช้วิธีเดิมอยู่ บางช่วงก็จะหนักหนัง บางช่วงก็จะหนักเพลง อย่างช่วงนี้เราหนังไปทางฟังเพลง แล้วเราก็ชอบมากกก เวลาเพลงไหนออกใหม่แล้วเราชอบ เราก็จะไปอ่านเนื้อเพลง (เพราะบางที ฟังเฉยๆ ก็ไม่รู้เรื่องอ่ะเนอะ 5555) แล้วก็แปลอีกที โดยเฉพาะพวกเพลงแรป ฮิปฮอปอ่ะ ชอบมาก แต่คือฟังไม่ออกเลยจ้า ขนาดมีเนื้อเพลงบางทียังแปลไม่ออกเลย แต่สนุกมากกกกก 
 
ละด้วยความเป็นคนชอบฟังอ่ะเนอะ ก็ไปเจอ Podcast สอนภาษาอังกฤษจากเนื้อเพลงโดยครูนุ่น ชื่อว่า “English Afternoonz” คือดีมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เพลินและได้ประโยชน์มากกกกกกกกกกกกก บางเพลงคือชั้นแปลผิดมาโดยตลอด ก็มาเข้าใจที่นี่แหละ แนะนำเลยอ่ะ ไปฟังกันได้นะ เพลินๆเลย
 
 
อันที่เราอยากแนะนำเลยเพราะเพลิน และเข้าใจง่ายคือเพลง Leave the Door Open ของ Bruno Mars, Anderson .Paak, Silk Sonic คือเพลงก็ดี แล้วเนื้อเพลงก้ไม่ได้ยาก แต่มันมีความหมายแฝงอยู่ นุ่มนวล แต่เร่าร้อนดีมาก แง้ เขินเลย


 

 
และอีพีล่าสุดที่เราชอบมากคือเพลงใหม่ของ Alan Walker ศิลปินคนโปรดของเรากับเพลง Believers - Alan Walker x Conor Maynard คือครูนุ่นเค้ามีศิลปะในการเล่ามากๆ เหมือนฟังเพื่อนเม้ามอยละได้ประโยชน์ไปในตัวอ่ะ ดีมากๆ ลองไปฟังกันนะ



 
มายกตัวอย่างกันสักหน่อยดีกว่า ว่ามีประโยคไหนที่แปลแล้วมันว้าวบ้าง
 
Said I was doing dumb sh*t all the time = ชั้นกำลังสิ่งที่มันโง่เง่า เหลวไหลตลอดเวลา

'Cause broken dreams won't pay your bills at all = ความฝันที่แหลกสลาย มันไม่สามารถทำให้อยู่รอดได้

I blame it on the monsters in my mind with stories from outside these prison walls
= ชั้นโทษมารในหัวใจ จากเรื่องราวที่เข้ามาจากด้านนอก (อารมณ์เหมือน โทษตัวเองจากเรื่องที่คนอื่นมาว่าเรา) 
 
Believers, Let's raise a toast, enjoy the show = เหล่าผู้มีศรัทธาทั้งหลาย ยกแก้วขึ้นมา แล้วเอนจอยกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเราตอนนี้!!
 
เป็นเพลงที่เนื้อเพลงไม่ยาก แต่ความหมายลึกซึ้งมาก แบบต้องใช้ความรู้แล้วก็แปลจากปัจจุบันมากๆ ชอบเหลือเกินเวลาเจอเพลงแบบนี้!!
 

เพี้ยนลอย

เราว่าแต่ละคนก็คงมีสิธีการเรียนแล้วได้ผลที่แตกต่างกันออกไปแหละเนอะ แต่วิธีนี้ก็เป็นวิธีคลาสสิกวิธีนึงแหละ ลองไปฟังกันได้นะ ฟังตอนเดินทาง ตอนล้างจาน เปิดทิ้งตอนทำกับข้าว ถูบ้านก็ยังได้ เพราะเราจะโกอินเตอร์ไปด้วยกัน สู้!!

miniheart


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่