โควิดวันนี้ ติดเชื้อใหม่ 4,528 ราย เรือนจำพุ่งเกือบ 2,000 ดับเพิ่ม 24 ราย
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_2749138
โควิดวันนี้ ติดเชื้อใหม่ 4,528 ราย เรือนจำพุ่งเกือบ 2,000 ดับเพิ่ม 24 ราย
ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำ วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมารวม 4,528 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 24 ราย
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,528 ราย จำแนกเป็น
ติดเชื้อใหม่ 2,626 ราย
ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 1,902 ราย
หายป่วยกลับบ้าน 2,933 ราย
ผู้ป่วยสะสม 125,444 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)
ย้ำอีกโควิดเกิดในห้องแล็บ นักวิจัยอังกฤษ-นอร์เวย์ เปิดผลการเจาะลึกอู่ฮั่น
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6425464
ย้ำอีกโควิดเกิดในห้องแล็บ – วันที่ 29 พ.ค.
เดลีเมล์ รายงานผลการศึกษาใหม่ของ ศ.
ออกัส ดัลกลีช ผู้เชี่ยวชาญชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงจากการคิดค้นวัคซีนต้านเอชไอวีสำเร็จเป็นครั้งแรก และ ดร.
บีร์เกอร์ โซเรนเซน นักไวรัสวิทยาชาวนอร์เวย์ ที่ได้ผลสรุปว่า เชื้อไวรัส SARS-Cov-2 ที่ทำให้ป่วยเป็นโรคโควิด-19 ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ถูกนักวิทยาศาสตร์จีนสร้างขึ้นในห้องทดลอง
การเปิดเผยงานวิจัยที่ย้ำอีกว่าโควิดเกิดในห้องแล็บ มีต่อเนื่องจากการที่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐสั่งให้หน่วยข่าวกรองตรวจสอบต้นตอของไวรัสใหม่อีกครั้ง ขณะที่รัฐบาลจีนประณามสหรัฐอเมริการะบุว่ามีแรงจูงใจทางการเมืองและโยนความผิดให้จีน
เดิมนักวิจัยทั้งสองระบุว่า ไม่มีวารสารงานวิจัยรายหลักรายใดยอมตีพิมพ์ผลการศึกษานี้ กระทั่งล่าสุด ผลงานหนา 22 หน้าของนักวิทยาศาสตร์ทั้งสอง จะได้ตีพิมพ์ในวารสาร Quarterly Review of Biophysics Discovery
การศึกษานี้ติดตามแกะรอยการทดลองในห้องแล็บ ที่เมืองอู่ฮั่น ระหว่างปี 2545-2562 โดยค้นหาข้อมูลจากเอกสารต่างๆ ในวารสารและฐานข้อมูล และประมวลวิธีการทำงานของนักวิทยาศาสตร์ชาวจีนที่ร่วมงานกับมหาวิทยาลัยอเมริกันหลายแห่ง เพื่อจัดหาเครื่องมือที่จะสร้างไวรัสขึ้น ส่วนใหญ่แล้วพัวพันกับโครงการชื่อ Gain of Function
Gain of Function สนับสนุนงานวิจัยด้านการแพทย์ทุกสาขา รวมถึงการเพิ่มความสามารถของจุลินทรีย์ในการแพร่กระจายและสร้างภูมิคุ้มกัน โครงการนี้เคยถูกพิจารณาว่าผิดกฎหมายไปช่วงหนึ่งสมัยรัฐบาลนาย
บารัก โอบามา
ส่วน นพ.
แอนโธนี เฟาซี หัวหน้าทีมต่อสู้โควิด-19 ของรัฐบาลสหรัฐยืนยันว่า งบประมาณวิจัยของสหรัฐ 6 แสนดอลลาร์ ไม่ได้อนุมัติให้งานวิจัย Gain of Function
โครงการวิจัย Gain of Function ยังรวมถึงการศึกษาการกำเนิดไวรัสตามธรรมชาติที่ทำให้ติดเชื้อมากขึ้น และการทำสำเนาไวรัสในเซลล์มนุษย์ได้ในห้องทดลอง ซึ่งเปิดทางให้นักวิทยาศาสตร์สร้างไวรัสในห้องทดลองได้ เพื่อศึกษาว่าไวรัสส่งผลกระทบต่อมนุษย์อย่างไร
นักวิจัยพบว่า เชื้อ SARS-Cov-2 มีลักษณะเฉพาะ เป็นเหมือนกับลายนิ้วมือ เพราะถูกตกแต่งขึ้นมาด้วยเป้าหมายเฉพาะ จึงมีลักษณะเป็นกระบวนการทางธรรมชาติที่น้อยมาก
โดยเฉพาะการพบกรดอะมิโน (ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของโปรตีน เป็นส่วนประกอบสำคัญที่มีอยู่ในสิ่งมีชีวิตทุกชนิด) ถึง 4 ตัวในหนามไวรัส SARS-Cov-2 หนามเดียว
ดร.
โซเรนเซน ให้สัมภาษณ์เดลีเมล์ว่า กรดอะมิโน ทั้งหมดจะเป็นประจุบวก ทำให้ไวรัสเข้ามายึดเกาะเซลล์มนุษย์ตรงส่วนที่เป็นประจุลบ เหมือนกับแม่เหล็กไฟฟ้า จากนั้นจะทำให้ติดเชื้อยิ่งขึ้น
แต่ด้วยความที่เหมือนแม่เหล็กนี่เอง ทำให้กรดอะมิโนประจุบวกต้านทานกันเอง จึงเป็นเรื่องยากที่จะพบกรดอะมิโอ 3 ตัวในหนามเดียว และถ้ายิ่ง 4 ตัวแล้วยิ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้ หนทางเดียวที่จะพบกรณีแบบนี้คือ การสร้างจำลองขึ้นมาเอง
โรคระบาดที่เป็นไวรัสตามธรรมชาติจะค่อยๆ กลายพันธุ์ทีละน้อย และจะเริ่มติดเชื้อมากขึ้น แต่จะทำให้ป่วยได้น้อยลง แต่กับการระบาดของโควิด-19 ที่คิดกันว่าจะเป็นแบบเชื้อตามธรรมชาติ กลับไม่เกิดขึ้น
“
ดังนั้นการปล่อยให้มีโครงการทดลองแบบ Gain of Function เป็นเรื่องที่ต้องทบทวนให้ดี เพราะมันเกิดผลกระทบทางสังคมที่กว้างมาก การตัดสินใจอะไรก็ตามจะปล่อยให้นักวิทยาศาสตร์ทำกันตามลำพังไม่ได้” ดร.
โซเรนเซน กล่าว
โควิดลามคลัสเตอร์โรงงาน หวั่นทุบห่วงโซ่การผลิต ฉุดศก.-ส่งออกชะลอตัว
https://www.thansettakij.com/content/columnist/481919
สิ่งที่หลายคนกลัวกำลังเกิดขึ้นแล้ว กลุ่มก้อนคนจากโรงงานอุตสาหกรรมที่ไวรัสร้ายโควิด-19 จะสายพันธุ์อะไรก็ตามได้แพร่ระบาดไปทั่วดูน่ากลัวขึ้นทุกขณะ
ตัวอย่างกรณี บริษัท แคล-คอมพ์ อิเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ ในพื้นที่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ที่มีแรงงานกว่า 5,000 คน มีอันต้องถูกสั่งปิดโรงงานชั่วคราว หลังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นหลายพันคน และส่งผลกระทบต่อชุมชนรอบโรงงาน รวมถึงภาพรวมของจังหวัด
ทั้งนี้หากเกิดกรณีแบบเดียวกันในหลายโรงงานในพื้นที่อื่นจนคุมไม่อยู่ ผลพวงที่ตามมาจะหนักหนาสาหัสขึ้นหลายเท่า นายวิสูตร พันธวุฒิยานนท์ นายกสมาคมนายจ้างผู้ประกอบกิจการรับเหมาแรงงาน ให้สัมภาษณ์ “ฐานเศรษฐกิจ” ในฐานะทำงานใกล้ชิดกับทั้งนายจ้างและลูกจ้างในธุรกิจขนาดเล็กไปยังขนาดใหญ่ ถึงความเป็นห่วงต่อการรับมือผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มองว่าการบริหารจัดการหลายด้านยังล่าช้า โดยเฉพาะการเข้าถึงของวัคซีน
จี้นิคมฯ-เขต/สวนอุตฯรับมือ
นาย
วิสูตร ยอมรับว่า มีความกังวลถึงผลกระทบต่อเนื่องที่จะเกิดขึ้นหากควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่อยู่ จะต้องมีอีกกี่โรงงานอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบแบบเดียวกับบริษัท แคล-คอมพ์ฯ เพราะทุกพื้นที่ที่เป็นจุดตั้งโรงงานอุตสาหกรรมล้วนเป็นศูนย์รวมของผู้ใช้แรงงานจำนวนมาก และเป็นต้นทางของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ดังนั้นเวลานี้ทุกพื้นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรม ที่ยังเดินการผลิตอยู่จะต้องยกระดับการรับมือไว้ล่วงหน้าก่อน อย่ารอให้เกิดปัญหาแล้วมาล้อมคอก ไม่ว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่ตั้งในเขต/สวนอุตสาหกรรม หรือในนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงโรงงานที่ตั้งอยู่นอกเขตประกอบการทั่วประเทศ
ระวังผิดกฎความปลอดภัย
นาย
วิสูตรกล่าวอีกว่า อีกปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ยังพบว่ามีแรงงานบางกลุ่มตื่นกลัวกับการฉีดวัคซีนจึงลงความประสงค์ไม่ฉีด ซึ่งก่อนหน้านี้ระบบประกันสังคมมีการออกเอกสารให้ฝ่ายบุคคลของแต่ละบริษัทแจ้งพนักงานและคนงานว่าใครมีความประสงค์จะฉีดวัคซีน หรือไม่ฉีดเพราะกลัวผลข้างเคียง ทำให้มีแรงงานจำนวนหนึ่งประสงค์ไม่ฉีด
“เวลานี้ทุกภาคส่วนต้องออกมาขอความร่วมมือให้ฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ไม่เช่นนั้นแล้วหากเกิดการแพร่ระบาดลามไปทั่วโรงงานจะไม่สามารถเดินการผลิตต่อได้ หรืออาจมีบางส่วนต้องสะดุดลง ถ้าโรงงานหยุดไป 1 แห่ง ก็จะกระทบซัพพลายเออร์ หรือกลุ่มที่ผลิตวัตถุดิบป้อนก็จะสะเทือนต่อเนื่องไปด้วย และจะกระทบห่วงโซ่การผลิตได้”
นอกจากนี้หากโรงงานใดมีความไม่ปลอดภัยเกิดขึ้นจะผิดข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้ ดังนั้นเวลานี้แนวทางปฏิบัติที่เห็นคือผู้ว่าราชการทุกจังหวัดที่มีโรงงานอุตสาหกรรมได้ออกคำสั่งไปที่สวัสดิการคุ้มครองแรงงานจังหวัดให้ปฏิบัติตามกฎด้านความปลอดภัยของโรงงานอย่างเคร่งครัดแล้ว หากปฏิบัติได้เหมือนกันทุกจังหวัดจะช่วยลดความเสี่ยงลงได้
ล่าสุดอธิบดีกรมควบคุมโรค กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติได้ออกหนังสือแจ้งแนวทางให้บริการวัคซีนโควิด-19 แบบปูพรมทั่วประเทศโดยเฉพาะในพื้นที่ระบาดไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้ดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด เช่น เตรียมความพร้อมจุดบริการวัคซีนทั้งในและนอกโรงพยาบาล เช่น ศูนย์การค้า สนามกีฬา ศูนย์ประชุม โรงงานอุตสาหกรรม และกำหนดช่องทางการลงทะเบียนและการเข้ารับวัคซีนไปตามช่องทางต่าง ๆ
นาย
วิสูตรตั้งข้อสังเกตว่า ในแง่โรงงานอุตสาหกรรม ถ้าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดโรงงานนั้น ๆ อาจจะผิดระเบียบด้านความปลอดภัย อาจมีโรงงานจำนวนหนึ่งต้องหยุดการผลิตลงชั่วคราว และถ้าหากเกิดการแพร่ระบาดเกิดขึ้นกับโรงงานผลิตอาหาร ก็อาจเกิดปัญหาขาดแคลนอาหารตามมาได้อีก การส่งออกก็อาจสะดุดได้
ศก.โลกขยับหวั่นเสียโอกาส
อย่างไรก็ตามจะเห็นว่าเวลานี้เศรษฐกิจของจีน อเมริกา ยุโรปบางประเทศซึ่งเป็นตลาดสำคัญของไทยเริ่มขยับตัวได้ จะส่งผลดีต่อภาคการส่งออกของไทยไปยังประเทศดังกล่าวที่กำลังซื้อเริ่มค่อย ๆ ฟื้น หากไทยไม่ยกระดับการควบคุมก็อาจจะเสียโอกาสนี้ไปได้
ปัจจุบันแรงงานในระบบตามมาตรา 33 ที่เป็นแรงงานอยู่ในระบบประกันสังคม มีจำนวน 12 ล้านคน ดังนั้นรัฐต้องเร่งปูพรมฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ครบ 12 ล้านคนให้เร็วที่สุด รวมถึงแรงงานต่างด้าวที่ทำงานถูกกฎหมาย มีจำนวนมากหลักล้านคนขึ้นไปก็ต้องรีบฉีดให้ครบ เนื่องจากทำงานร่วมกับแรงงานไทย เวลานี้มีโรงงานบางแห่งหาแรงงานไม่ได้จำเป็นต้องรับแรงงานต่างด้าวเข้ามา ก็ต้องเข้มงวดในการฉีดวัคซีนยิ่งขึ้น เพื่อให้เดินคู่ขนานไปกับการขยับตัวของเศรษฐกิจ
“เวลานี้ได้เกิดคลัสเตอร์โควิดระบาดลามสู่ภาคการผลิต ถ้าเอาไม่อยู่ระบบเศรษฐกิจพังแน่ เพราะบางโรงงานมีแรงงานหลักหมื่นคน ถ้าแพร่ระบาดโดยไม่รู้ตัว ตัวเลขการระบาดก็จะพุ่งเร็ว เกรงว่าระบบสาธารณสุขจะรับมือไม่ทันในระยะต่อไป”
JJNY : ติดเชื้อใหม่ 4,528 ดับเพิ่ม 24│ย้ำอีกโควิดเกิดในห้องแล็บ│โควิดลาม หวั่นทุบห่วงโซ่การผลิต│‘พท.’ มีมติทำแท้งงบ’65
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_2749138
ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำ วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมารวม 4,528 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 24 ราย
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,528 ราย จำแนกเป็น
ติดเชื้อใหม่ 2,626 ราย
ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 1,902 ราย
หายป่วยกลับบ้าน 2,933 ราย
ผู้ป่วยสะสม 125,444 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)
ย้ำอีกโควิดเกิดในห้องแล็บ นักวิจัยอังกฤษ-นอร์เวย์ เปิดผลการเจาะลึกอู่ฮั่น
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6425464
ย้ำอีกโควิดเกิดในห้องแล็บ – วันที่ 29 พ.ค. เดลีเมล์ รายงานผลการศึกษาใหม่ของ ศ.ออกัส ดัลกลีช ผู้เชี่ยวชาญชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงจากการคิดค้นวัคซีนต้านเอชไอวีสำเร็จเป็นครั้งแรก และ ดร.บีร์เกอร์ โซเรนเซน นักไวรัสวิทยาชาวนอร์เวย์ ที่ได้ผลสรุปว่า เชื้อไวรัส SARS-Cov-2 ที่ทำให้ป่วยเป็นโรคโควิด-19 ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ถูกนักวิทยาศาสตร์จีนสร้างขึ้นในห้องทดลอง
การเปิดเผยงานวิจัยที่ย้ำอีกว่าโควิดเกิดในห้องแล็บ มีต่อเนื่องจากการที่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐสั่งให้หน่วยข่าวกรองตรวจสอบต้นตอของไวรัสใหม่อีกครั้ง ขณะที่รัฐบาลจีนประณามสหรัฐอเมริการะบุว่ามีแรงจูงใจทางการเมืองและโยนความผิดให้จีน
เดิมนักวิจัยทั้งสองระบุว่า ไม่มีวารสารงานวิจัยรายหลักรายใดยอมตีพิมพ์ผลการศึกษานี้ กระทั่งล่าสุด ผลงานหนา 22 หน้าของนักวิทยาศาสตร์ทั้งสอง จะได้ตีพิมพ์ในวารสาร Quarterly Review of Biophysics Discovery
การศึกษานี้ติดตามแกะรอยการทดลองในห้องแล็บ ที่เมืองอู่ฮั่น ระหว่างปี 2545-2562 โดยค้นหาข้อมูลจากเอกสารต่างๆ ในวารสารและฐานข้อมูล และประมวลวิธีการทำงานของนักวิทยาศาสตร์ชาวจีนที่ร่วมงานกับมหาวิทยาลัยอเมริกันหลายแห่ง เพื่อจัดหาเครื่องมือที่จะสร้างไวรัสขึ้น ส่วนใหญ่แล้วพัวพันกับโครงการชื่อ Gain of Function
Gain of Function สนับสนุนงานวิจัยด้านการแพทย์ทุกสาขา รวมถึงการเพิ่มความสามารถของจุลินทรีย์ในการแพร่กระจายและสร้างภูมิคุ้มกัน โครงการนี้เคยถูกพิจารณาว่าผิดกฎหมายไปช่วงหนึ่งสมัยรัฐบาลนายบารัก โอบามา
ส่วน นพ. แอนโธนี เฟาซี หัวหน้าทีมต่อสู้โควิด-19 ของรัฐบาลสหรัฐยืนยันว่า งบประมาณวิจัยของสหรัฐ 6 แสนดอลลาร์ ไม่ได้อนุมัติให้งานวิจัย Gain of Function
โครงการวิจัย Gain of Function ยังรวมถึงการศึกษาการกำเนิดไวรัสตามธรรมชาติที่ทำให้ติดเชื้อมากขึ้น และการทำสำเนาไวรัสในเซลล์มนุษย์ได้ในห้องทดลอง ซึ่งเปิดทางให้นักวิทยาศาสตร์สร้างไวรัสในห้องทดลองได้ เพื่อศึกษาว่าไวรัสส่งผลกระทบต่อมนุษย์อย่างไร
นักวิจัยพบว่า เชื้อ SARS-Cov-2 มีลักษณะเฉพาะ เป็นเหมือนกับลายนิ้วมือ เพราะถูกตกแต่งขึ้นมาด้วยเป้าหมายเฉพาะ จึงมีลักษณะเป็นกระบวนการทางธรรมชาติที่น้อยมาก
โดยเฉพาะการพบกรดอะมิโน (ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของโปรตีน เป็นส่วนประกอบสำคัญที่มีอยู่ในสิ่งมีชีวิตทุกชนิด) ถึง 4 ตัวในหนามไวรัส SARS-Cov-2 หนามเดียว
ดร.โซเรนเซน ให้สัมภาษณ์เดลีเมล์ว่า กรดอะมิโน ทั้งหมดจะเป็นประจุบวก ทำให้ไวรัสเข้ามายึดเกาะเซลล์มนุษย์ตรงส่วนที่เป็นประจุลบ เหมือนกับแม่เหล็กไฟฟ้า จากนั้นจะทำให้ติดเชื้อยิ่งขึ้น
แต่ด้วยความที่เหมือนแม่เหล็กนี่เอง ทำให้กรดอะมิโนประจุบวกต้านทานกันเอง จึงเป็นเรื่องยากที่จะพบกรดอะมิโอ 3 ตัวในหนามเดียว และถ้ายิ่ง 4 ตัวแล้วยิ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้ หนทางเดียวที่จะพบกรณีแบบนี้คือ การสร้างจำลองขึ้นมาเอง
โรคระบาดที่เป็นไวรัสตามธรรมชาติจะค่อยๆ กลายพันธุ์ทีละน้อย และจะเริ่มติดเชื้อมากขึ้น แต่จะทำให้ป่วยได้น้อยลง แต่กับการระบาดของโควิด-19 ที่คิดกันว่าจะเป็นแบบเชื้อตามธรรมชาติ กลับไม่เกิดขึ้น
“ดังนั้นการปล่อยให้มีโครงการทดลองแบบ Gain of Function เป็นเรื่องที่ต้องทบทวนให้ดี เพราะมันเกิดผลกระทบทางสังคมที่กว้างมาก การตัดสินใจอะไรก็ตามจะปล่อยให้นักวิทยาศาสตร์ทำกันตามลำพังไม่ได้” ดร.โซเรนเซน กล่าว
โควิดลามคลัสเตอร์โรงงาน หวั่นทุบห่วงโซ่การผลิต ฉุดศก.-ส่งออกชะลอตัว
https://www.thansettakij.com/content/columnist/481919
สิ่งที่หลายคนกลัวกำลังเกิดขึ้นแล้ว กลุ่มก้อนคนจากโรงงานอุตสาหกรรมที่ไวรัสร้ายโควิด-19 จะสายพันธุ์อะไรก็ตามได้แพร่ระบาดไปทั่วดูน่ากลัวขึ้นทุกขณะ
ตัวอย่างกรณี บริษัท แคล-คอมพ์ อิเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ ในพื้นที่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ที่มีแรงงานกว่า 5,000 คน มีอันต้องถูกสั่งปิดโรงงานชั่วคราว หลังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นหลายพันคน และส่งผลกระทบต่อชุมชนรอบโรงงาน รวมถึงภาพรวมของจังหวัด
ทั้งนี้หากเกิดกรณีแบบเดียวกันในหลายโรงงานในพื้นที่อื่นจนคุมไม่อยู่ ผลพวงที่ตามมาจะหนักหนาสาหัสขึ้นหลายเท่า นายวิสูตร พันธวุฒิยานนท์ นายกสมาคมนายจ้างผู้ประกอบกิจการรับเหมาแรงงาน ให้สัมภาษณ์ “ฐานเศรษฐกิจ” ในฐานะทำงานใกล้ชิดกับทั้งนายจ้างและลูกจ้างในธุรกิจขนาดเล็กไปยังขนาดใหญ่ ถึงความเป็นห่วงต่อการรับมือผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่มองว่าการบริหารจัดการหลายด้านยังล่าช้า โดยเฉพาะการเข้าถึงของวัคซีน
จี้นิคมฯ-เขต/สวนอุตฯรับมือ
นายวิสูตร ยอมรับว่า มีความกังวลถึงผลกระทบต่อเนื่องที่จะเกิดขึ้นหากควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่อยู่ จะต้องมีอีกกี่โรงงานอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบแบบเดียวกับบริษัท แคล-คอมพ์ฯ เพราะทุกพื้นที่ที่เป็นจุดตั้งโรงงานอุตสาหกรรมล้วนเป็นศูนย์รวมของผู้ใช้แรงงานจำนวนมาก และเป็นต้นทางของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
ดังนั้นเวลานี้ทุกพื้นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรม ที่ยังเดินการผลิตอยู่จะต้องยกระดับการรับมือไว้ล่วงหน้าก่อน อย่ารอให้เกิดปัญหาแล้วมาล้อมคอก ไม่ว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่ตั้งในเขต/สวนอุตสาหกรรม หรือในนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงโรงงานที่ตั้งอยู่นอกเขตประกอบการทั่วประเทศ
ระวังผิดกฎความปลอดภัย
นายวิสูตรกล่าวอีกว่า อีกปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ยังพบว่ามีแรงงานบางกลุ่มตื่นกลัวกับการฉีดวัคซีนจึงลงความประสงค์ไม่ฉีด ซึ่งก่อนหน้านี้ระบบประกันสังคมมีการออกเอกสารให้ฝ่ายบุคคลของแต่ละบริษัทแจ้งพนักงานและคนงานว่าใครมีความประสงค์จะฉีดวัคซีน หรือไม่ฉีดเพราะกลัวผลข้างเคียง ทำให้มีแรงงานจำนวนหนึ่งประสงค์ไม่ฉีด
“เวลานี้ทุกภาคส่วนต้องออกมาขอความร่วมมือให้ฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ไม่เช่นนั้นแล้วหากเกิดการแพร่ระบาดลามไปทั่วโรงงานจะไม่สามารถเดินการผลิตต่อได้ หรืออาจมีบางส่วนต้องสะดุดลง ถ้าโรงงานหยุดไป 1 แห่ง ก็จะกระทบซัพพลายเออร์ หรือกลุ่มที่ผลิตวัตถุดิบป้อนก็จะสะเทือนต่อเนื่องไปด้วย และจะกระทบห่วงโซ่การผลิตได้”
นอกจากนี้หากโรงงานใดมีความไม่ปลอดภัยเกิดขึ้นจะผิดข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้ ดังนั้นเวลานี้แนวทางปฏิบัติที่เห็นคือผู้ว่าราชการทุกจังหวัดที่มีโรงงานอุตสาหกรรมได้ออกคำสั่งไปที่สวัสดิการคุ้มครองแรงงานจังหวัดให้ปฏิบัติตามกฎด้านความปลอดภัยของโรงงานอย่างเคร่งครัดแล้ว หากปฏิบัติได้เหมือนกันทุกจังหวัดจะช่วยลดความเสี่ยงลงได้
ล่าสุดอธิบดีกรมควบคุมโรค กรรมการและเลขานุการคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติได้ออกหนังสือแจ้งแนวทางให้บริการวัคซีนโควิด-19 แบบปูพรมทั่วประเทศโดยเฉพาะในพื้นที่ระบาดไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้ดำเนินการเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด เช่น เตรียมความพร้อมจุดบริการวัคซีนทั้งในและนอกโรงพยาบาล เช่น ศูนย์การค้า สนามกีฬา ศูนย์ประชุม โรงงานอุตสาหกรรม และกำหนดช่องทางการลงทะเบียนและการเข้ารับวัคซีนไปตามช่องทางต่าง ๆ
นายวิสูตรตั้งข้อสังเกตว่า ในแง่โรงงานอุตสาหกรรม ถ้าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัดโรงงานนั้น ๆ อาจจะผิดระเบียบด้านความปลอดภัย อาจมีโรงงานจำนวนหนึ่งต้องหยุดการผลิตลงชั่วคราว และถ้าหากเกิดการแพร่ระบาดเกิดขึ้นกับโรงงานผลิตอาหาร ก็อาจเกิดปัญหาขาดแคลนอาหารตามมาได้อีก การส่งออกก็อาจสะดุดได้
ศก.โลกขยับหวั่นเสียโอกาส
อย่างไรก็ตามจะเห็นว่าเวลานี้เศรษฐกิจของจีน อเมริกา ยุโรปบางประเทศซึ่งเป็นตลาดสำคัญของไทยเริ่มขยับตัวได้ จะส่งผลดีต่อภาคการส่งออกของไทยไปยังประเทศดังกล่าวที่กำลังซื้อเริ่มค่อย ๆ ฟื้น หากไทยไม่ยกระดับการควบคุมก็อาจจะเสียโอกาสนี้ไปได้
ปัจจุบันแรงงานในระบบตามมาตรา 33 ที่เป็นแรงงานอยู่ในระบบประกันสังคม มีจำนวน 12 ล้านคน ดังนั้นรัฐต้องเร่งปูพรมฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ครบ 12 ล้านคนให้เร็วที่สุด รวมถึงแรงงานต่างด้าวที่ทำงานถูกกฎหมาย มีจำนวนมากหลักล้านคนขึ้นไปก็ต้องรีบฉีดให้ครบ เนื่องจากทำงานร่วมกับแรงงานไทย เวลานี้มีโรงงานบางแห่งหาแรงงานไม่ได้จำเป็นต้องรับแรงงานต่างด้าวเข้ามา ก็ต้องเข้มงวดในการฉีดวัคซีนยิ่งขึ้น เพื่อให้เดินคู่ขนานไปกับการขยับตัวของเศรษฐกิจ
“เวลานี้ได้เกิดคลัสเตอร์โควิดระบาดลามสู่ภาคการผลิต ถ้าเอาไม่อยู่ระบบเศรษฐกิจพังแน่ เพราะบางโรงงานมีแรงงานหลักหมื่นคน ถ้าแพร่ระบาดโดยไม่รู้ตัว ตัวเลขการระบาดก็จะพุ่งเร็ว เกรงว่าระบบสาธารณสุขจะรับมือไม่ทันในระยะต่อไป”