เราเสียลูกไปตอน อายุครรภ์ 22สัปดาห์ เนื่องจากคลอดก่อนกำหนด
ซึ่งตอนแรกคุณหมอไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร
การทำงานที่เดินเยอะ ก็ไม่น่าเป็นสาเหตุหลักได้
เพราะคนท้องที่ออกกำลังกาย หรือวิ่ง ก็ยังไม่เป็นอะไร
แต่อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคน
ก่อนวันที่จะคลอด ปวดท้องตอนตี5 คิดว่าปวดท้องธรรมดา 
แต่มีตกขาวเยอะมาก มากแบบว่าใช้กระดาษทิชชูเช็ดอยู่ประมาณ 2-3รอบ
เราคิดว่าน่าจะไม่มีอะไรเพราะไม่มีเลือดปนเลย

พอตอนเช้า 10โมงก็ยังปวดอยู่เลยเอาถุงน้ำร้อนมาประคบท้องไว้จนหลับไป
ตื่นขึ้นมาตอนบ่ายสอง ยังปวดอยู่ก็ยังเอาถุงน้ำร้อนมาประคบต่อ เพราะมันปวดไม่มาก
สักพักเลือดออก ออกแบบเหมือนแตกออกมา
รีบโทรให้สามีที่ทำงานอยู่รีบกลับมาพาไปโรงพยาบาล
แต่พอไปถึงคุณหมอเช็ค ลูกยังหัวใจเต้นปกติดี และ แข็งแรงดี
เราคิดว่าลูกน่าจะปลอดภัยแล้ว
แต่พอคุณหมอเช็คปากช่องคลอด จึงรู้ว่าช่องคลอดเปิด 5เซนแล้ว
และเปิดเพิ่มขึ้นในเวลาต่อมา
ซึ่งอาการของเราเป็นอาการของคนที่พร้อมจะคลอด
และไม่สามารถระงับการคลอด หรือช่วยชีวิตลูกเราได้ เพราะอายุครรภ์น้อยเกินไป
พอวันนี้ที่เรามาย้อนคิดดู ตอนที่ปวดท้องก็รู้สึกปวดไม่มาก
แต่ถามว่าผิดปกตืมั๊ย ถ้าตอนนี้ก็บอกเลยว่า มันผิดปกติ
แต่ตอนนั้นเรารู้สึกว่ามันปวดน้อยมากจริงๆ และก็ไม่มีเลือดออกด้วย
 
เราเลยอยากเตือนทุกคนที่ท้องว่า ถ้าตอนท้องมีอาการที่ผิดปกติ
ถึงแม้จะแค่เล็กน้อย แต่รู้สึกว่าไม่ปกติ
อย่างน้อยโทรถามหมอสักหน่อย
ถึงแม้ว่าการตรวจครรภ์ทุกๆเดือนจะปกติมากๆก็ตาม
ซึ่งตอนหลัง หมอได้ทำการวินิจฉัย
ผลออกมาว่า มีการติดเชื้อที่รก
ซึ่งไม่แน่ใจว่าการติดเชื้อทำให้ปากมดลูกเปิด
หรือปากมดลูกเปิด แล้วรกค่อยติดเชื้อทีหลัง
และเรามีการติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะ 
ซึ่งคิดว่าเกิดจากการอั้นปัสสาวะ 
เรื่องนี้ก็เป็นอีกอย่างที่อยากจะเตือนคนที่ตั้งครรภ์เหมือนกัน
เพราะความคิดที่ว่า แปบเดียวไม่เป็นไร 
ทุกครั้งที่ต้องนั่งรถไปไหนก็ตาม ใกล้ไกล หลายๆครั้ง เราจะปวดปัสสาวะระหว่างทาง
บางครั้งหาห้องน้ำไม่ทัน ก็อั้นไปจนหาห้องน้ำได้
จนตอนหลังก็เปลี่ยนมาใส่แพมเพิส
แต่มันคงไม่ทันแล้ว
ถ้าใครมีวิธีอะไรแนะนำในเรื่องการปัสสาวะของคนท้องระหว่างการเดินทาง
ช่วยแนะนำด้วยนะคะ
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
และขอให้คุณแม่ท้องทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรง ทั้งแม่และลูกค่ะ