ละคร : ตุ๊กตา (2564)
บทประพันธ์ : วาณิช จรุงกิจอนันต์
บทโทรทัศน์ : ภาวิต (รัมภา ภิรมย์ภักดี)
ผลิตโดย : ดีด้าวีดีโอโปรดักชั่น
"ตุ๊กตาเป็นเรื่องราวของน้องนาง เด็กหญิงคนนึงที่ถูกจับมาใช้แรงงานในโรงงานนรกของคุณนายสมร ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานที่ใช้แรงงานเด็กให้ทำตุ๊กตา แต่เมื่อน้องนางถูกทรมานปางตายจนทนไม่ไหว เลยหอบอุ้มตุ๊กตาตัวที่ทำเองกับมือ และเป็นตุ๊กตาที่รักที่ผูกพันและอยากได้มันมาก หนีออกจากโรงงาน แต่พลาดท่าถูกจับได้ ตกจากบันไดคอหัก ทำให้จิตวิญญาณของเด็กที่โหยหาอิสรภาพ ไปอยู่ในตุ๊กตา เป็นที่มาของเรื่องราวหลอนๆที่เกิดขึ้นกับครอบครัว สุวภาพกับพันชั่ง ที่ต้องมาร่วมมือกันสืบเรื่องราวของเด็กที่ถูกจับมาใช้แรงงาน ทำให้ทั้งสองเกิดความสัมพันธ์และความรู้สึกดีๆต่อกัน"
ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกว่าผมเกิดไม่ทันละครเวอร์ชั่นแรกปี 2531 (นิรุตติ์-มยุรา) จะหาซื้อแผ่นดีวีดีตามร้านขายละครเก่าก็ไม่มีเลย (ที่ตามมาสองสามปีเห็นว่ามีร้านขายละครร้านนึงมีตัวเทปม้วนวีดีโอเรื่องนี้ครับ แต่ยังไม่ได้แปลง) แต่พอได้ข่าวว่าจะรีเมคละครเรื่องนี้ก็ตื่นเต้น เพราะอยากดูละครเรื่องนี้มาก มากถึงมากขั้นสุด เคยอ่านสัมภาษณ์บวกกับตามกระทู้พันทิปต่างๆ ทำให้รู้ว่าเวอร์ชั่นใหม่นี้ ภาวิตเขียนบท (นักเขียนเก่าแก่ของดีด้า เขียนมานานเกือบ 30 ปี) ตอนแรกก็ค่อนข้างโอเคอยู่ จากสัมภาษณ์ ละครเรื่องนี้แกเขียนพร้อมกับละครจักรๆวงศ์ๆนางสิบสอง ปี 2562 ละครถ่ายทำเสร็จน่าจะปีที่แล้วพอดี
เจ้าของบทประพันธ์เรื่องนี้คือ คุณวาณิช จรุงกิจอนันต์ครับ ผลงานรางวัลนักเขียนซีไรต์มากมาย ผมซื้อแผ่นละครสี่ยอดกุมาร 2526 ที่แกเขียนบทละครไว้มาดูเมื่อ 2 ปีก่อนอยู่ บทละครสนุกมากครับ ไว้จะมาเขียนรีวิวเวอร์ชั่นนั้นให้ฟัง เรื่องตุ๊กตานี้ ผมไม่เคยอ่านตัวนวนิยายจนจบเล่ม เคยอ่านแต่ใน meb ebook ที่ให้ทดลองอ่าน ไม่ได้ตัดสินใจซื้อสักทีเพราะรอดูละครรีเมค ในละครฟีลคนละแบบกับนวนิยายครับ ยังจำความรู้สึกได้ดี แต่เวอร์ชั่นละครทำตามนิยายประมาณ 80% ขอบคุณที่ไม่ดัดแปลงเนื้อเรื่องมากกว่านี้อย่างจักรๆวงศ์ๆสมัยใหม่ มีเพิ่มตัวละครมาเยอะ โดยเฉพาะตัวประกอบอย่างคุณป้าเมตตากรุณา ท่านอุบะร่างทรงเปรมสุดา ผีชุดขาวนี่ก็น่าจะเพิ่มมาอีก เพราะเป็นสไตล์การเขียนบทของภาวิต เท่าที่ดูมาหลายเรื่อง คือรู้สไตล์บทของภาวิตแล้วอะครับ
เรื่องนี้ค่อนข้างออกเป็นแนวสยองขวัญสั่นประสาทผีหลอกผีหลอน Horror เลยแหละ น่าจะฉีกออกไปจากนิยายที่ดูเป็นแนวลึกลับ สืบสวนเรื่องตุ๊กตา ละครเล่าเรื่องแบบ 1 2 3 4 5 6 7 8 ไปเรื่อยๆ เราเลยรู้อะไรและคาดเดาได้ล่วงหน้าเลย และก็คิดว่ามันจะต้องจบแบบนั้นแน่ๆ ทำให้หมดความ "ลุ้นระทึก" ไปเลย จะระทึกก็ตอนผีโผล่สำหรับคนที่กลัวผีก็เท่านั้น แต่ตอนกลางเรื่องมีฉากไฟไหม้ทำให้ผมดูตื่นเต้นหน่อย สักพักก็ยืดออกไปอีก ยืดแบบยืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด 17 ตอนจบ
จากกระทู้ของคุณศักดิ์ภูเบศ จอมชาญ คือเวอร์ชั่นก่อน ทำเป็นละครประมาณ 10-11 ตอนได้ และเวอร์ชั่นนั้นคุณยิ่งยศ ปัญญาเขียนบท (เป็นช่วงแรกๆเลยที่เริ่มเขียนบท) คือถ้าเวอร์ชั่นนี้ดำเนินเรื่องบทไม่ยืดก็อาจจะบ้งน้อยกว่านี้ก็ได้
มาพูดถึงความบ้งของละครเรื่องนี้กันก่อนดีกว่าครับ เยอะมากเลยล่ะเท่าที่ดูมา (6/10)
-บทยืด วนไปวนมาจริงๆ ตามที่หลายๆคนบ่นกัน ซึ่งมันก็ยืดดดดดดดดจริงๆ เอาจริงทำเป็นหนังยังจบได้ใน 2 ชั่วโมงเลย ทำแค่ 10 ตอนแบบเวอร์ชั่นก่อนยังดี นี่ล่อไป 17 ตอนอิ่มเอมใจเลยทีเดียวเชียว (เทียบกับโดมทอง 2556 แล้ว โดมทองยังดูเพลินกว่าเรื่องนี้)
-ตัวประกอบที่เพิ่มมา เอาจริงๆสามารถเพิ่มมิติ เพิ่มบทบาทมากกว่านี้ บางตัวสามารถทำให้เป็นกุญแจสำคัญคลายปมท้ายเรื่องได้ อย่างตัวละคร คุณป้าตัสสา ที่เป็นเพื่อนกับสมร เจ้าของโรงงาน เอาจริงๆ เขียนให้มีมิติกว่านี้ได้ หรือตัวละครอย่าง ยู้วฮูว หลานของยายสมรที่อยู่ดีๆโดดมาหลังไฟไหม้โรงงาน น่าจะมีบทบาทได้มากกว่านี้ ยิ่งตอนจบยิ่งแล้วใหญ่ เปิดประตูให้ตำรวจง่ายดายหลังคุณป้ากลับเข้าบ้านไป หึ้ม....
-ตัวละครร้ายๆ สไตล์ภาวิต คุณป้าเมตตากับหลานสาวกรุณา อีกทั้งคุณป้าปทุมมา มีความร้ายจ๋าเลย ไม่มีมิติอะไรทั้งนั้น ทั้งเรื่องแทบจะหงุดหงิดกับฉากแม่พระเอกที่ค่อนข้างจ๊าดง่าว จะจับลูกชายคลุมถุงชนกับหนูกรุณา พอมาตอนจบ แม่พระเอกโดนผีหลอกคือเปลี่ยนเป็นคนละคนเลย
-เอาดีๆเรื่องนี้ดูแค่ตอนแรก กับมาดูตอนสุดท้ายยังรู้เรื่องได้เลยนะ ทางเดินระหว่างเรื่องก็คือวนไปวนมากว่าจะหาทางจบได้ ตอนกลางๆเรื่องจนถึงตอนจบจะได้ยินประโยค "แม...เอิว...นัง...ล็อปเปอเตีย" ตลอด กับฉากผีพี่ตุ๊กตาโผล่มาหลอกคนนู้นคนนี้ แม้แต่พระเอกนางเอก บ้านคุณป้าเมตตา บ้านตัสสา
-ตัวละครพระรอง ตัสสา กับใบทอง คือรู้เลยว่าเพิ่มตัวละครนี้มาให้คู่กับน้องสาวพระเอกอย่างแท้จริง แต่ไม่ค่อยได้เห็นมิติใหม่ๆเลย ตอนก่อนจบก็หายตัวไปไม่มีบทเลย เอาจริงๆเหมือนแค่มีส่วนเชื่อมให้เจ้าของโรงงานตุ๊กตารู้สึกสงสัยนางเอก และมีความระแวงเล็กน้อย
-ตัวโลเคชั่น โดยเฉพาะคฤหาสน์หลังงามของคุณนายสมร ไฟไหม้แต่หลังไฟไหม้มีจุดโป๊ะอยู่หลายที่ ตอนไหม้ก็ไหม้แค่ส่วนหลังโรงงาน อยู่ดีๆก็พาเด็กย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ ใช้แรงงานเหมือนในนิยาย (ถ้าจำไม่ผิดคือบ้านหลังใหญ่ฝั่งธน) ตอนไฟไหม้น่าจะมีลูกเล่นอะไรให้บทดูลุ้นกว่านี้ น้องบูน้องษาก็ไม่พูดถึงตอนโดนจับอีกเลย (ผู้ใหญ่ที่สั่งไม่ให้ถามคงคิดว่าเด็กน่าจะตกใจกลัว อาจมีผลทางจิตใจอะไรประมาณนี้)
-ความยืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด แม้กระทั่งตอนจบ 3-4 เบรคแรกก็ยังวนเหมือนเดิม แต่สามารถจบได้ในแบบเบรคสามเบรคท้าย คือคิดอยู่ว่า เออ...มันจบแล้วหรอวะ ทำไมทุกอย่างผ่านไปไวมาก แต่ก็สมบูรณ์ดี ยกเว้นผีชุดขาว เพื่มมาเพื่อยืด แต่ไม่มีบทบาทอะไรเลย ต้องเข้าใจว่ายังไง คือเป็นสัมภเวสีที่สุสานเก่าที่คุณนายสมรมาซื้อที่สร้างบ้านใช้แรงงานงี้อ่อ?
-ซีจี ทำดีเกือบทั้งเรื่อง ผีหลอกผีหลอน หน้าเละบ้าง ปากฉีกบ้าง มาตกม้าตายตอนจบ ฉากที่คุณนายสมรฝันซ้อนฝัน ซีจีกำแพงคือหืมมมมมมมมมมม..... พ่อมดเจ้าเสน่ห์ชิดซ้ายเลยยย
ส่วนข้อดีกับฉากที่ค่อนข้างประทับใจกับละครเรื่องนี้ก็พอมีอยู่
-การที่ให้พระเอกนางเอกเจอกันตั้งแต่ตอนแรก (แหวกกฎบทประพันธ์ สไตล์ภาวิต) ซึ่งเหมือนจักรๆวงศ์ๆ อารมณ์ดูปลาบู่ทอง พระรถเมรี อะไรประมาณนี้ มันสามารถทำให้มีฉากหวานซึ่งเพิ่มความยืดดดดของละครไปได้อีก แต่ยอมรับว่าเวอร์ชั่นนี้ฉากหวานพระนางเยอะอยู่ แต่ก็ตามสไตล์ชิงรักหักสวาท แม่ผัวไม่ชอบลูกสะใภ้แม่หม้าย จะจับลูกแต่งกับนางร้าย หืมมมม... ตอนจบโดนผีหลอกกันถ้วนหน้า นางร้ายยอมแพ้โดยดี "ณาปลงแล้วค่ะ"
-มีฉากนางเอกฝันถึงหิมวัตต์ สามีเก่าบ่อยๆ ช่วงแรกๆทำให้เรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตนางเอกทำให้เธอมีความ ปสด มากถึงขนาดนี้ มีฉากนึงที่พระนางทะเลาะกันในรถตามสไตล์ละครไทย นางเอกบอกพระเอกว่า "คุณจะไปรู้อะไร รู้ไหมว่าชีวิตฉันต้องเจอกับอะไรมาบ้าง ฉันต้องเลี้ยงลูกตัวคนเดียว ฉันต้องได้รับความกดดันขนาดไหน ทั้งแม่ฉัน ทั้งลูกฉันไม่มีใครเข้าใจฉันเลย พอไอ่ตุ๊กตาบ้านั่นเข้ามายิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปอีก ลูกบูเชื่อใจมันมากกว่าฉัน" ตรงนี้น่าจะตีความความ ปสด ของสุวภาพออกมาได้ดี ซึ่งมันมาจากความเครียด ความกดดันที่ต้องเจอ นับตั้งแต่สามีตายไป
-เพลงประกอบละครดี ตอนแรกคิดว่าบ้ง กลัวหลอนสู้อันเก่าไม่ได้ "หนูอยากกลับบ้านใช่ไหม...ฉันจะพาหนูไปส่ง" ที่แต่งโดย สุรพันธ์ ชาญวิชณานันต์ มีความตีความละครออกไปอีกแบบหนึ่ง เข้าถึงตัวละครของนางเอก ส่วนเวอร์ชั่นเก่าจะตีความถึงตัวเด็กที่ถูกกักขังใช้แรงงาน หนูอยากกลับบ้าน เพลงประกอบละครเวอร์ชั่นนี้ผ่านครับ เพราะเลยทีเดียว ตอนแรกอยากให้ใช้เพลงเก่านะ แต่พอฟังๆไป เอิ่ม..ดูดีนี่หว่า แต่หลังๆโดนเพลงคนสุดท้ายของอัสนี กลบฟีลหมดเลย เพราะสปอตไลต์ฉายไปที่ความหวานของพระนางมากช่วงยืด 14-15 ตอนหลัง
-ชื่นชมนักแสดงมาก ถึงจะแคสต์ตัวละครพันชั่งมาไม่ตรงกับบทประพันธ์ที่อายุจะ 40 ต้นๆ แต่ก็พออภัยให้ แต่ที่ประทับใจมากคือตัวละครรุ่นเด็ก แสดงดีมาก น้องป่าน ปานชีวา นี่ถือเป็นมาสเตอร์พีซของน้องได้อีกเรื่องเลย (ส่วนตัวติดตามผลงานเพลงน้องตลอด) น้องณิริน แสดงดีมาก น้องลิตเติ้ล ที่รับบทพรรษาคือโอเคเลย ทุกอย่างดูลงตัว เรื่องนี้มีฉากอบอุ่นให้เห็นเยอะอยู่ ระหว่างน้องบู น้องษา แม้แต่ตอนโรงงานไฟไหม้ที่น้องนางมานำทางน้องบูน้องษาให้ออกจากกองเพลิง คือเล่นดีมาก ฉากร้องไห้ ฉากเข้ากับคุณพ่อคุณแม่ โดยรวมคือชอบนักแสดง เสียดายบทบ้งไม่ดีเท่าที่ควร ไม่เชื่อเลยว่าคุณภาวิตจะฝีมือตก เบรคสุดท้ายดูอบอุ่นดี รวบรัดตัดใจความสไตล์ดีด้า หลังจากยืดมานาน
[SR] [Review] ตุ๊กตา...หนูอยากกลับบ้าน (2564) 33 ปีสมการรอคอย? 6/10
บทประพันธ์ : วาณิช จรุงกิจอนันต์
บทโทรทัศน์ : ภาวิต (รัมภา ภิรมย์ภักดี)
ผลิตโดย : ดีด้าวีดีโอโปรดักชั่น
"ตุ๊กตาเป็นเรื่องราวของน้องนาง เด็กหญิงคนนึงที่ถูกจับมาใช้แรงงานในโรงงานนรกของคุณนายสมร ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานที่ใช้แรงงานเด็กให้ทำตุ๊กตา แต่เมื่อน้องนางถูกทรมานปางตายจนทนไม่ไหว เลยหอบอุ้มตุ๊กตาตัวที่ทำเองกับมือ และเป็นตุ๊กตาที่รักที่ผูกพันและอยากได้มันมาก หนีออกจากโรงงาน แต่พลาดท่าถูกจับได้ ตกจากบันไดคอหัก ทำให้จิตวิญญาณของเด็กที่โหยหาอิสรภาพ ไปอยู่ในตุ๊กตา เป็นที่มาของเรื่องราวหลอนๆที่เกิดขึ้นกับครอบครัว สุวภาพกับพันชั่ง ที่ต้องมาร่วมมือกันสืบเรื่องราวของเด็กที่ถูกจับมาใช้แรงงาน ทำให้ทั้งสองเกิดความสัมพันธ์และความรู้สึกดีๆต่อกัน"
ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกว่าผมเกิดไม่ทันละครเวอร์ชั่นแรกปี 2531 (นิรุตติ์-มยุรา) จะหาซื้อแผ่นดีวีดีตามร้านขายละครเก่าก็ไม่มีเลย (ที่ตามมาสองสามปีเห็นว่ามีร้านขายละครร้านนึงมีตัวเทปม้วนวีดีโอเรื่องนี้ครับ แต่ยังไม่ได้แปลง) แต่พอได้ข่าวว่าจะรีเมคละครเรื่องนี้ก็ตื่นเต้น เพราะอยากดูละครเรื่องนี้มาก มากถึงมากขั้นสุด เคยอ่านสัมภาษณ์บวกกับตามกระทู้พันทิปต่างๆ ทำให้รู้ว่าเวอร์ชั่นใหม่นี้ ภาวิตเขียนบท (นักเขียนเก่าแก่ของดีด้า เขียนมานานเกือบ 30 ปี) ตอนแรกก็ค่อนข้างโอเคอยู่ จากสัมภาษณ์ ละครเรื่องนี้แกเขียนพร้อมกับละครจักรๆวงศ์ๆนางสิบสอง ปี 2562 ละครถ่ายทำเสร็จน่าจะปีที่แล้วพอดี
เจ้าของบทประพันธ์เรื่องนี้คือ คุณวาณิช จรุงกิจอนันต์ครับ ผลงานรางวัลนักเขียนซีไรต์มากมาย ผมซื้อแผ่นละครสี่ยอดกุมาร 2526 ที่แกเขียนบทละครไว้มาดูเมื่อ 2 ปีก่อนอยู่ บทละครสนุกมากครับ ไว้จะมาเขียนรีวิวเวอร์ชั่นนั้นให้ฟัง เรื่องตุ๊กตานี้ ผมไม่เคยอ่านตัวนวนิยายจนจบเล่ม เคยอ่านแต่ใน meb ebook ที่ให้ทดลองอ่าน ไม่ได้ตัดสินใจซื้อสักทีเพราะรอดูละครรีเมค ในละครฟีลคนละแบบกับนวนิยายครับ ยังจำความรู้สึกได้ดี แต่เวอร์ชั่นละครทำตามนิยายประมาณ 80% ขอบคุณที่ไม่ดัดแปลงเนื้อเรื่องมากกว่านี้อย่างจักรๆวงศ์ๆสมัยใหม่ มีเพิ่มตัวละครมาเยอะ โดยเฉพาะตัวประกอบอย่างคุณป้าเมตตากรุณา ท่านอุบะร่างทรงเปรมสุดา ผีชุดขาวนี่ก็น่าจะเพิ่มมาอีก เพราะเป็นสไตล์การเขียนบทของภาวิต เท่าที่ดูมาหลายเรื่อง คือรู้สไตล์บทของภาวิตแล้วอะครับ
เรื่องนี้ค่อนข้างออกเป็นแนวสยองขวัญสั่นประสาทผีหลอกผีหลอน Horror เลยแหละ น่าจะฉีกออกไปจากนิยายที่ดูเป็นแนวลึกลับ สืบสวนเรื่องตุ๊กตา ละครเล่าเรื่องแบบ 1 2 3 4 5 6 7 8 ไปเรื่อยๆ เราเลยรู้อะไรและคาดเดาได้ล่วงหน้าเลย และก็คิดว่ามันจะต้องจบแบบนั้นแน่ๆ ทำให้หมดความ "ลุ้นระทึก" ไปเลย จะระทึกก็ตอนผีโผล่สำหรับคนที่กลัวผีก็เท่านั้น แต่ตอนกลางเรื่องมีฉากไฟไหม้ทำให้ผมดูตื่นเต้นหน่อย สักพักก็ยืดออกไปอีก ยืดแบบยืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด 17 ตอนจบ
จากกระทู้ของคุณศักดิ์ภูเบศ จอมชาญ คือเวอร์ชั่นก่อน ทำเป็นละครประมาณ 10-11 ตอนได้ และเวอร์ชั่นนั้นคุณยิ่งยศ ปัญญาเขียนบท (เป็นช่วงแรกๆเลยที่เริ่มเขียนบท) คือถ้าเวอร์ชั่นนี้ดำเนินเรื่องบทไม่ยืดก็อาจจะบ้งน้อยกว่านี้ก็ได้
มาพูดถึงความบ้งของละครเรื่องนี้กันก่อนดีกว่าครับ เยอะมากเลยล่ะเท่าที่ดูมา (6/10)
-บทยืด วนไปวนมาจริงๆ ตามที่หลายๆคนบ่นกัน ซึ่งมันก็ยืดดดดดดดดจริงๆ เอาจริงทำเป็นหนังยังจบได้ใน 2 ชั่วโมงเลย ทำแค่ 10 ตอนแบบเวอร์ชั่นก่อนยังดี นี่ล่อไป 17 ตอนอิ่มเอมใจเลยทีเดียวเชียว (เทียบกับโดมทอง 2556 แล้ว โดมทองยังดูเพลินกว่าเรื่องนี้)
-ตัวประกอบที่เพิ่มมา เอาจริงๆสามารถเพิ่มมิติ เพิ่มบทบาทมากกว่านี้ บางตัวสามารถทำให้เป็นกุญแจสำคัญคลายปมท้ายเรื่องได้ อย่างตัวละคร คุณป้าตัสสา ที่เป็นเพื่อนกับสมร เจ้าของโรงงาน เอาจริงๆ เขียนให้มีมิติกว่านี้ได้ หรือตัวละครอย่าง ยู้วฮูว หลานของยายสมรที่อยู่ดีๆโดดมาหลังไฟไหม้โรงงาน น่าจะมีบทบาทได้มากกว่านี้ ยิ่งตอนจบยิ่งแล้วใหญ่ เปิดประตูให้ตำรวจง่ายดายหลังคุณป้ากลับเข้าบ้านไป หึ้ม....
-ตัวละครร้ายๆ สไตล์ภาวิต คุณป้าเมตตากับหลานสาวกรุณา อีกทั้งคุณป้าปทุมมา มีความร้ายจ๋าเลย ไม่มีมิติอะไรทั้งนั้น ทั้งเรื่องแทบจะหงุดหงิดกับฉากแม่พระเอกที่ค่อนข้างจ๊าดง่าว จะจับลูกชายคลุมถุงชนกับหนูกรุณา พอมาตอนจบ แม่พระเอกโดนผีหลอกคือเปลี่ยนเป็นคนละคนเลย
-เอาดีๆเรื่องนี้ดูแค่ตอนแรก กับมาดูตอนสุดท้ายยังรู้เรื่องได้เลยนะ ทางเดินระหว่างเรื่องก็คือวนไปวนมากว่าจะหาทางจบได้ ตอนกลางๆเรื่องจนถึงตอนจบจะได้ยินประโยค "แม...เอิว...นัง...ล็อปเปอเตีย" ตลอด กับฉากผีพี่ตุ๊กตาโผล่มาหลอกคนนู้นคนนี้ แม้แต่พระเอกนางเอก บ้านคุณป้าเมตตา บ้านตัสสา
-ตัวละครพระรอง ตัสสา กับใบทอง คือรู้เลยว่าเพิ่มตัวละครนี้มาให้คู่กับน้องสาวพระเอกอย่างแท้จริง แต่ไม่ค่อยได้เห็นมิติใหม่ๆเลย ตอนก่อนจบก็หายตัวไปไม่มีบทเลย เอาจริงๆเหมือนแค่มีส่วนเชื่อมให้เจ้าของโรงงานตุ๊กตารู้สึกสงสัยนางเอก และมีความระแวงเล็กน้อย
-ตัวโลเคชั่น โดยเฉพาะคฤหาสน์หลังงามของคุณนายสมร ไฟไหม้แต่หลังไฟไหม้มีจุดโป๊ะอยู่หลายที่ ตอนไหม้ก็ไหม้แค่ส่วนหลังโรงงาน อยู่ดีๆก็พาเด็กย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ ใช้แรงงานเหมือนในนิยาย (ถ้าจำไม่ผิดคือบ้านหลังใหญ่ฝั่งธน) ตอนไฟไหม้น่าจะมีลูกเล่นอะไรให้บทดูลุ้นกว่านี้ น้องบูน้องษาก็ไม่พูดถึงตอนโดนจับอีกเลย (ผู้ใหญ่ที่สั่งไม่ให้ถามคงคิดว่าเด็กน่าจะตกใจกลัว อาจมีผลทางจิตใจอะไรประมาณนี้)
-ความยืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด แม้กระทั่งตอนจบ 3-4 เบรคแรกก็ยังวนเหมือนเดิม แต่สามารถจบได้ในแบบเบรคสามเบรคท้าย คือคิดอยู่ว่า เออ...มันจบแล้วหรอวะ ทำไมทุกอย่างผ่านไปไวมาก แต่ก็สมบูรณ์ดี ยกเว้นผีชุดขาว เพื่มมาเพื่อยืด แต่ไม่มีบทบาทอะไรเลย ต้องเข้าใจว่ายังไง คือเป็นสัมภเวสีที่สุสานเก่าที่คุณนายสมรมาซื้อที่สร้างบ้านใช้แรงงานงี้อ่อ?
-ซีจี ทำดีเกือบทั้งเรื่อง ผีหลอกผีหลอน หน้าเละบ้าง ปากฉีกบ้าง มาตกม้าตายตอนจบ ฉากที่คุณนายสมรฝันซ้อนฝัน ซีจีกำแพงคือหืมมมมมมมมมมม..... พ่อมดเจ้าเสน่ห์ชิดซ้ายเลยยย
ส่วนข้อดีกับฉากที่ค่อนข้างประทับใจกับละครเรื่องนี้ก็พอมีอยู่
-การที่ให้พระเอกนางเอกเจอกันตั้งแต่ตอนแรก (แหวกกฎบทประพันธ์ สไตล์ภาวิต) ซึ่งเหมือนจักรๆวงศ์ๆ อารมณ์ดูปลาบู่ทอง พระรถเมรี อะไรประมาณนี้ มันสามารถทำให้มีฉากหวานซึ่งเพิ่มความยืดดดดของละครไปได้อีก แต่ยอมรับว่าเวอร์ชั่นนี้ฉากหวานพระนางเยอะอยู่ แต่ก็ตามสไตล์ชิงรักหักสวาท แม่ผัวไม่ชอบลูกสะใภ้แม่หม้าย จะจับลูกแต่งกับนางร้าย หืมมมม... ตอนจบโดนผีหลอกกันถ้วนหน้า นางร้ายยอมแพ้โดยดี "ณาปลงแล้วค่ะ"
-มีฉากนางเอกฝันถึงหิมวัตต์ สามีเก่าบ่อยๆ ช่วงแรกๆทำให้เรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตนางเอกทำให้เธอมีความ ปสด มากถึงขนาดนี้ มีฉากนึงที่พระนางทะเลาะกันในรถตามสไตล์ละครไทย นางเอกบอกพระเอกว่า "คุณจะไปรู้อะไร รู้ไหมว่าชีวิตฉันต้องเจอกับอะไรมาบ้าง ฉันต้องเลี้ยงลูกตัวคนเดียว ฉันต้องได้รับความกดดันขนาดไหน ทั้งแม่ฉัน ทั้งลูกฉันไม่มีใครเข้าใจฉันเลย พอไอ่ตุ๊กตาบ้านั่นเข้ามายิ่งทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปอีก ลูกบูเชื่อใจมันมากกว่าฉัน" ตรงนี้น่าจะตีความความ ปสด ของสุวภาพออกมาได้ดี ซึ่งมันมาจากความเครียด ความกดดันที่ต้องเจอ นับตั้งแต่สามีตายไป
-เพลงประกอบละครดี ตอนแรกคิดว่าบ้ง กลัวหลอนสู้อันเก่าไม่ได้ "หนูอยากกลับบ้านใช่ไหม...ฉันจะพาหนูไปส่ง" ที่แต่งโดย สุรพันธ์ ชาญวิชณานันต์ มีความตีความละครออกไปอีกแบบหนึ่ง เข้าถึงตัวละครของนางเอก ส่วนเวอร์ชั่นเก่าจะตีความถึงตัวเด็กที่ถูกกักขังใช้แรงงาน หนูอยากกลับบ้าน เพลงประกอบละครเวอร์ชั่นนี้ผ่านครับ เพราะเลยทีเดียว ตอนแรกอยากให้ใช้เพลงเก่านะ แต่พอฟังๆไป เอิ่ม..ดูดีนี่หว่า แต่หลังๆโดนเพลงคนสุดท้ายของอัสนี กลบฟีลหมดเลย เพราะสปอตไลต์ฉายไปที่ความหวานของพระนางมากช่วงยืด 14-15 ตอนหลัง
-ชื่นชมนักแสดงมาก ถึงจะแคสต์ตัวละครพันชั่งมาไม่ตรงกับบทประพันธ์ที่อายุจะ 40 ต้นๆ แต่ก็พออภัยให้ แต่ที่ประทับใจมากคือตัวละครรุ่นเด็ก แสดงดีมาก น้องป่าน ปานชีวา นี่ถือเป็นมาสเตอร์พีซของน้องได้อีกเรื่องเลย (ส่วนตัวติดตามผลงานเพลงน้องตลอด) น้องณิริน แสดงดีมาก น้องลิตเติ้ล ที่รับบทพรรษาคือโอเคเลย ทุกอย่างดูลงตัว เรื่องนี้มีฉากอบอุ่นให้เห็นเยอะอยู่ ระหว่างน้องบู น้องษา แม้แต่ตอนโรงงานไฟไหม้ที่น้องนางมานำทางน้องบูน้องษาให้ออกจากกองเพลิง คือเล่นดีมาก ฉากร้องไห้ ฉากเข้ากับคุณพ่อคุณแม่ โดยรวมคือชอบนักแสดง เสียดายบทบ้งไม่ดีเท่าที่ควร ไม่เชื่อเลยว่าคุณภาวิตจะฝีมือตก เบรคสุดท้ายดูอบอุ่นดี รวบรัดตัดใจความสไตล์ดีด้า หลังจากยืดมานาน
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้