ภาษาแปลกๆและไฟพระวิญญาณคืออะไร? [2021]

หากท่านเป็นคริสเตียนใหม่ และกระหายพระเจ้า กระทู้นี้มีคำตอบครับ

ส่วนผู้ที่ไม่แน่ใจ หรือไม่เชื่อเรื่องนี้ ผมอยากให้ท่านเปิดใจก่อนครับ (กระทู้นี้ไม่สนับสนุนให้คริสเตียนมาถกเถียงหรือโต้แย้งกันนะครับ ไม่ว่าท่านจะเชื่อเรื่องภาษาแปลกๆ ไฟไม่ไฟ ล้มไม่ล้ม มีจริงไม่มีจริง ไม่ว่ายังไงก็ตามหากท่านเรียกตัวเองว่าคริสเตียน เราจะรักกันและกัน เข้าใจเคารพแต่ละฝ่าย)

โอเคครับ งั้น เรามาเริ่มกันเลย เย้!!!
ผมจะเล่าประสบการณ์ส่วนตัว และตามด้วย อธิบายนะครับ

ผมไม่ได้เป็นคริสเตียนแต่เกิดนะครับ ผมรับเชื่อจากออนไลน์ ตั้งแต่ผมเป็นคริสเตียนผมก็เริ่มแสวงหาพระเจ้าจริงจังเอามากๆ และถูกสอนว่ามีพระวิญญาณที่สามารถคุยกับเราได้ ผมเลยกระหายพระองค์มากๆ มีโอกาสเห็นคนในเน็ตถูกวางมือแล้วมีประสบการณ์กับพระเจ้า เกิดการอัศจรรย์ รักษาโรค ถูกไฟแตะสัมผัส ทำให้ผมกระหายอยากใกล้ชิดพระเจ้าขึ้นไปอีก และขอประสบการณ์กับพระเจ้า เเต่เดิมผมมีความเชื่อตามคนไทยทั่วไป เรารู้ว่ามีผีจริงๆ มีอำนาจมืด อำนาจคุณไสย มีนรกจริงๆ มีโลกฝ่ายวิญญาณแน่ๆ ผมจึงมั่นใจ100% ว่าพระวิญญาณก็สามารถมาคุยกับเราได้ เราสามารถมีประสบการณ์กับพระองค์ได้ ผมเริ่มศึกษาเรื่องไฟพระวิญญาณ ผมกระหายพระเจ้ามากๆ

ปลายปี2018 ในเช้าวันหยุด ผมลุกขึ้นมากระหายพระเจ้าอยากมากๆ ผมเปิดคลิปที่มีการเคลื่อนในพระวิญญาณ และยืนขึ้น นมัสการ ชูมือร้องขอพระเจ้า ทันใดนั้น เป็นเหมือนกระแสไฟฟ้าเล็กๆ ดั่งแม่น้ำ (การทรงสถิตหรือไฟ) ลงมาบนมือผม เท้าของผม ณ ตอนนั้นผมยังไม่เข้าใจ นั่นเป็นครั้งแรกที่ผมสัมผัสประสบการณ์จริงๆ

หลังจากวันนั้นผมเริ่มขอพระเจ้าบัพติสมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ผมขอพระเจ้าหลายครั้งมากๆครับ แต่ก็ไม่ได้รับสักที ผมขอพระเจ้าให้มีประสบการณ์นี้ครั้งแล้วครั้งเล่า(ลก11:11-13) ผมเริ่มไปโบสถ์ที่เชื่อเรื่องพระวิญญาณหวังจะให้อาจารย์วางมือบนผม เพื่อรับการเต็มล้นในพระวิญญาณ

วันแรกที่ผมไปโบสถ์ที่เชื่อเรื่องนี้ เขาก็วางมือให้ผม ให้พูดว่า ฮาเลลูยา ไปเรื่อยๆ ผมพูดอยู่อย่างนั้นไม่รู้ว่านานเท่าใด ผมสัมผัสได้ถึงการทรงสถิตที่แน่นมากๆ จนตัวเบา เริ่มยืนไม่ไหว  พี่เขาก็บอกให้ผมเปิดปากพูดออกมาเลย แต่ผมก็ยังพูดภาษาแปลกๆไม่ได้

ครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งกลางวันและกลางคืนที่ผมกระหายพระเจ้า ผมขอพระเจ้า บางครั้งก็ท้อบ้าง แต่ผมไม่ยอมยกธงขาวนะครับ ผมยังเชื่อว่ามีจริง และผมต้องได้รับ

ต่อมา วันนึง ช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ มีอาจารย์ท่านนึงได้คุยกันกับผมและเชิญพระวิญญาณจริงๆจังๆส่วนตัว  วันนั้นผมก็ยังไม่ได้รับอีก

ทั้งมีพี่เลี้ยงมาอธิษฐานให้ ผมก็ยังไม่ได้รับประสบการณ์นี้

ที่โบสถ์จะมีการอธิษฐานในวันศุกร์ และมีการรับบัพติสมาพระวิญญาณกัน ผมก็ไปทุกครั้ง ไม่มีขาด ผมกระหายมากๆ จากบ้านถึงโบสถ์นี้ก็ไกลพอควรเลยครับ ก็มีอาจารย์ มีพี่น้องมาอธิษฐานให้ผมรับบัพติสมาในพระวิญญาณ รับประสบการณ์ภาษาแปลกๆ ผมก็ยังไม่ได้สักทีT_T ผมเห็นพี่น้องแต่ละคนที่เค้าพูดภาษาพระวิญญาณกับพระเจ้า ผมกระหายและอยากได้มากๆ แน่นนอนว่าผมไม่หยุดแค่นี้ครับ

ปลายปี2019 ผมรับบัพมาแล้วครับบบบ เย้!!! ตายกับตัวเก่า รับบัพติสมาในน้ำครับฮ่าๆๆ  ผมรักประสบการณ์นี้มากเหมือนกันครับ^-^

ปี20 ผมมีโอกาสได้ย้ายโบสถ์ แต่ก็เป็นโบสถ์ที่เชื่อเรื่องไฟ เรื่องพระวิญญาณบริสุทธิ์ ภาษาแปลกๆ เพราะผมเชื่อว่าเมื่อเราเข้าใกล้ผู้ที่เต็มล้นด้วยพระวิญญาณ มีไฟในชีวิต เราก็จะเป็นแบบสังคมที่เราอยู่ เพื่อผมจะได้รับบัพติสมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และภาษาแปลกๆ และก็แน่นอนครับ วันแรก อาจารย์เรียกผู้ที่ยังไม่เคยรับ ออกไปวางมือ ผมก็รีบออกไปเลยครับ เป็นคนเดียว อาจารย์วางมือบนหัวก็ไม่รู้สึกอะไรนะครับ อาจารย์บอกให้เปิดปากพูดออกมาเลย ผมก็ขยับปากตัวเองไปนิดๆนะครับ แต่ก็รู้สึกไม่มีอะไร และก็เช่นเคย ผมไม่ได้รับภาษาแปลกๆครับ

แต่ในปี2020นี้ผมเริ่มเดินในไฟอย่างจริงจัง กระหาย และสัมผัสพระวิญญาณได้ครับ เริ่มไวมากขึ้นกับพระองค์ สัมผัสการทรงสถิตที่หนาแน่นขึ้น

วันนึงของเดือน7!! ผมมีโอกาสไปเที่ยวและใช้เวลากับพี่น้องในคริสตจักรและอาจารย์ หลังจากได้กลับมาจากการเที่ยว แต่ละคนได้แบ่งปันประสบการณ์ที่ได้ไปร่วมงานฟื้นฟูและสัมผัสการทรงสถิตอย่างมากในการประชุมนั้น ทำให้ใจผมกระหายมากๆอีกครั้ง ตอนเย็นผมก็ได้แยกย้ายและกลับมายังที่พัก ด้วยความกระหาย ผมได้เปิดคลิปในยูทูปที่เขามีการเคลื่อนพระวิญญาณ ผมนอนลงยังที่นอนของผม ร้องขอพระเจ้า เชิญพระเจ้าลงมาแตะสัมผัส หลังจากนั้นการทรงสถิตไฟของพระเจ้าก็ลงมาบนผม และในภายหลังเริ่มหายไปทีละน้อย ผมบอกพระเจ้าว่าต้องวันนี้นะพระองค์ วันนี้ลูกอยากรับ ขอพระองค์ประทาน ผมตื้อพระเจ้า การทรงสถิตลงมาอีกครั้ง มือผมเหมือนดั่งกระแสไฟฟ้าที่ช็อตอย่างรุนแรง พระเจ้าให้ผมนึกถึงครั้งนึง ที่อาจารย์เคยบอกว่า เราต้องพูดออกมาเองก่อน แล้วจะไหลออกมาจากพระองค์ พระเจ้าจะไม่บังคับลิ้นเรา ผมจึงลองเริ่มเปล่งเสียงออกมา ลาๆ กาๆ คำง่ายๆ ทันใดนั้นเอง บูมมมม! คำมันเปล่งออกมาอย่างลื่นไหล จากวิญญาณ โดยผมไม่ต้องคิด ความรู้สึกคือเหมือนลิ้นเรารัวไปเรื่อยๆ ใจมันเต้นแรง และการทรงสถิตก็แรงขึ้น

ใช่ครับ และแล้วผมก็ได้รับ ภาษาพระวิญญาณ ภาษาเเปลกๆ ภาษาสวรรค์ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่คนมักเรียกกัน ผมดีใจมากๆ ขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ให้ตามที่สัญญาไว้จริงๆ (ลก11:11-13)


ในวันรุ่งขึ้นผมตื่นเต้นมากๆ อันที่จริงทั้งคืนผมนอนแทบไม่หลับ ผมตื่นมาด้วยความดีใจ ในขณะเดียวกันผมก็มีคำถามมากมาย สงสัย ได้จริงๆหรือ นี่เราได้จริงๆใช่ไหม
ผมขับรถไปตลาดในขณะที่อยู่บนรถ ผมก็ลองพูดภาษาแปลกๆไปเรื่อยๆ พอตอนรถผมข้ามสพาน จู่ๆ ผมก็หัวเราะออกมาด้วยอารมณ์บางอย่างที่ยากจะอธิบาย เป็นเหมือนสันติสุขที่ออกมาจากท้อง เหมือนน้ำที่เปิดออก และไหลออกไป ปกติคนเราจะหัวเราะด้วยมุกตลก หรือมีความสุข แต่การหัวเราะครั้งนี้ ผมรู้เองเลยทันทีว่ามาจากพระเจ้า(ยน14:27) (ยน4:24)

หลังจากผมมีประสบการณ์มากขึ้นกับพระวิญญาณ ทำให้ผมใกล้ชิดพระองค์มากขึ้น ฟังเสียงพระองค์ได้ไวมากขึ้น

วันนึงผมได้ขับมอไซไปทำธุระกับคุณแม่ในตัวเมือง ผมได้อธิษฐานในพระวิญญาณไปด้วย ทันใดนั้น!!!
เสียงเบรคของรถดังมาก รถกระบะคันสีขาว บิดไปเขวมาต่อหน้า แม่ผมก็ตกใจมาก ผมตกใจมากแต่ปากก็ยังอธิษฐานอยู่นะ ผมเบรกได้ทัน และรถคันนั้นเกือบชนกับอีกคันข้างหน้า รถคันนั้นที่เลี้ยวคดไปมาจู่ๆก็ตั้งตัวได้และขับไปตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

นี่เป็นฤทธิ์เดชของการพูดภาษาแปลกๆ รอดอย่างปาฏิหาริย์ และผมได้มีประสบการณ์อีกมากที่พระเจ้าช่วยกู้ผม

////ต่อไปนี้เป็นการตอบคำถามและอธิบายนะครับ
1) ภาษาพระวิญญาณ ภาษาแปลกๆ ภาษาสวรรค์ เป็นภาษาที่เราไว้ใช้อธิษฐานกับพระเจ้าส่วนตัว เหมือนภาษาลับ ต่อตรงถึงสวรรค์ มารซานตานไม่สามารถเข้าใจได้ เมื่อเราอธิษฐานพระวิญญาณก็อธิษฐานแทนเรา เราไม่จำเป็นต้องแปลนะครับ บางอย่างเราไม่ต้องเข้าใจหรอกครับ บางอย่างถ้าเราเเปลออก เราอาจจะไม่เห็นด้วยกับพระเจ้าก็ได้ ผีมีจริง แต่เราก็ไม่จำเป็นต้องเห็นจริงไหม ให้พระวิญญาณอธิษฐานเผื่อเราต่อพระบิดาอย่างถูกต้องไป เราแค่ร่วมมือเปิดปากอธิษฐานใช้เวลากับพระเจ้าไป การรับน้ันให้เราถ่อมใจลงขอพระเจ้าได้เลยครับ ภาษาพระวิญญาณไม่เกิดจากกการฝึกฝน นะครับ จริงอยู่ที่ผมพูดแรกๆด้วยตัวเองก่อน เราต้องเปิดปากพูด เปล่งเสียง แต่คำนั้นจะไหลออกมาจากวิญญาณ โดยที่เราไม่ต้องคิดอะไรเลยครับ

2) ไฟพระวิญญาณคืออะไร? เป็นการทรงสถิตของพระเจ้าที่ลงมาบนตัวเรา จนยืนไม่ไหว เป็นพระสิริของพระเจ้าที่ลงมาบนตัวร่างกายของเรา ไฟพระวิญญาณ=พระสิริ/การทรงสถิตของพระเจ้าที่หนาแน่นจนสัมผัสได้ บางทีอาจจะยืนไม่ไหว ที่เราเห็นคนวางมือตามงานฟื้นฟู ก็เป็นแบบนั้น  แต่ว่าไม่จำเป็นต้องรับการวางมือนะครับ หากท่านเชื่อท่านสามารถมีประสบการณ์เองได้เลย

สิ่งเหล่านี้ผมยืนยันครับ ว่ามีจริง ท่านสามารถขอจากพระเจ้าได้

3)ภาษาพระวิญญาณกับภาษาเทพต่างกันไหม?(ผมเคยตอบไว้ในกระทู้นึงนะครับ)
ความต่างมีแน่นอนครับ
ภาษาเทพ(ภาษาภูตผี วิญญาณชั่ว)ตัวเราจะคุมลิ้นไม่ได้คุมปากไม่ได้ เหมือนคล้ายๆองค์ลง ผีสิง ไม่สามารถคุมได้

ภาษาพระวิญญาณ ภาษาแปลกๆ ภาษาพระสิริ ภาษาสวรรค์ ภาษาทูตสวรรค์ อธิษฐานในพระวิญญาณ ตามที่คต.ไทยเรียกกัน ภาษาอังกฤษคือ speaking in tongues
เราจะเป็นคนพูดครับ แต่พระวิญญาณเป็นผู้ให้ถ้อยคำ เราสามารถพูด หรือ อธิษฐานเป็นภาษาพระวิญญาณตอนไหนก็ได้ หยุดได้ ช้าได้ เร็วได้ สามารถสลับไปอธิษฐานภาษาไทยได้ตามใจเราเลยครับ

ความต่าง คือ
ภาษาเทพ(ภาษาผี มาร วิญญาณชั่ว ทูตสวรรค์ที่ล้มในความบาป) จะไม่สามารถคุมได้ครับ เป็นอีกวิญญาณที่พูดโดยควบคุมปากเรา แต่ ภาษาพระวิญญาณจะคุมได้ครับ

เพราะมารมันจะควบคุมเรา เหมือนกดจับหัวเราให้ทำตามใจมัน มีการบังคับ

แต่พระวิญญาณบริสุทธิ์ พระองค์เป็นสุภาพบุรุษครับ พระองค์จะไม่บังคับเรา ความต่างอีกอย่างในภาษาพระวิญญาณคือ
พูดแล้วชีวิตจะดีขึ้นครับ หายโรค มีฤทธิ์เดชในการทำหมายสำคัญอัศจรรย์ ทำให้เราสนิทกับพระบิดามากขึ้น รักพระเยซูมากขึ้น

แต่ภาษาเทพ จะนำสิ่งไม่ดีมาในชีวิต ขาดอิสระ เพราะภาษาเทพ จะมีวิญญาณชั่วที่คุมชีวิตแน่นอน เราต้องดูที่ผลชีวิตด้วยครับ อันที่จริงแม้จะคล้ายกัน แต่ว่าไม่เหมือนกันครับ

4)ภาษาพระวิญญาณ ภาษาแปลกๆ ต้องพูดเหมือนกันไหม?
ไม่เหมือนครับ ภาษาพระวิญญาณของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน คำ น้ำเสียง จะหวะ จะต่างกันทุกคน ภาษาพระวิญญาณยิ่งเราพูดไปเรื่อยๆ ใช้เวลาอธิษฐานกับพระองค์มากขึ้น นานขึ้นจะมีคำใหม่ๆที่วิวัฒนาการไปเรื่อยๆ อาจจะไม่เหมือนวันแรกที่พูดครับ


***ผลพระวิญญาณ การรู้จักบังคับตน คือควบคุมเนื้อหนังครับ ไม่ใช่ควบคุมพระวิญญาณครับ



สุดท้ายนี้
หลายคนอาจจะเป็นคริสเตียนที่ถูกสอนมาต่างกัน เติบโตต่างกัน หลักข้อเชื่อต่างกัน ท่านอาจจะมองว่า เพี้ยนไปแล้ว ถูกหลอกแล้ว อุปทานกันเอง พูดภาษามั่วๆ คำสอนผิด
ผมอยากให้ลองเปิดใจดูครับ เพราะสุดท้ายแล้วก็เป็นผลประโยชน์ส่วนตัวของแต่ละคนครับ

หากเราไม่เชื่อ เราก็ไม่มีวันเห็นเกิดขึ้นกับตนเองครับ หากไม่เชื่อว่าพระเจ้ารักษาโรคได้ โรคก็ไม่หายครับ แต่ถ้าท่านเชื่อ ท่านจะเห็น

ไฟของพระองค์ ภาษแปลกๆ นิมิต ฤทธิ์เดชและหมายสำคัญอัศจรรย์ ท่านเชื่อไหมครับ ท่านเชื่อเท่าไหน พระเจ้าก็ให้ได้แค่นั้นครับ ส่วนตัวผมเชื่อครับ แต่เดิมผมเห็นคนผีเข้า คนพูดภาษาเทพ คนเล่นคาถา ไสยศาสตร์ คนองค์ลง ตามความเชื่อไทย หลังจากผมรู้ว่ามีพระเจ้าจริง เราอาจจะเห็นในทีวี ที่มีเทพพูดกับคนๆนึงสื่อสารได้ แต่เราเองที่เป็นคริสเตียน ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใดพระเจ้าของเราผู้สร้างฟ้าสวรรค์โลกและจักรวาล ยิ่งใหญ่กว่าทุกเทพ ทุกผีร้ายวิญญาณชั่ว พระองค์สามารถคุยกับเราได้ครับ เราสามารถมีประสบการณ์ส่วนตัวในพระองค์ได้ การอัศจรรย์มหัศจรรย์ อย่าจำกัดพระเจ้าเลยครับ อย่ากรอบพระองค์ แต่ถ่อมตัวลงขอ กระหาย อยากรู้ว่า อร่อยไหมต้องลองชิมด้วยตนเองครับ

กระทู้นี้ขอเป็นกำลังใจให้กับคริสเตียนที่รักพระเจ้า อยากได้ประสบการณ์กับพระองค์ ผมรู้ครับ หลายท่านอาจจะขอแล้วไม่ได้ ท่านเลยคิดว่าอาจจะไม่ใช่ของประทานเลยล้มเลิกไป แต่อย่าลืมนะครับ อ.เปาโลแนะนำว่า[ ข้าพเจ้าปรารถนาให้ท่านทั้งหลาย(คริสเตียน)พูดภาษาแปลกๆได้..1คร14:5]

ผมเป็นกำลังใจให้นะครับพระเจ้าของเรายิ่งใหญ่ มีสิ่งดีให้กับเรา พระเจ้าของเราพระองค์ไม่ใช่พระเจ้าที่ยอมแพ้ หรือท้อไปก่อน แต่พระองค์ เป็นพระเจ้าแห่งความหวัง พระองค์บอกแล้วนะครับ จงขอ จงหา จงเคาะ อย่าจำกัดพระเจ้าเลยครับ พระองค์ให้ท่านได้จริงๆ
ไม่ใช่แค่ภาษาแปลกๆ แต่ทุกสิ่งที่เป็นสิ่งดี การรักษาโรคต่างๆ เปรียบเทียบง่ายๆ ถ้ามีคนป่วย เราไปวางมือให้เขา แล้วเขาไม่หาย มันเป็นการด่วนสรุปเกินไปที่จะบอกว่า พระเจ้าจะรักษา หรือไม่ไม่รักษา ก็ตามพระประสงค์พระองค์ ผมมองว่ามันดับความหวังมากนะครับ  คำถามคือ เรายอมแพ้ไปก่อนไหม? เราขอพระเจ้ากี่ครั้ง? เรามีความเชื่อและหวังไหม? มีคนมากมายขอจากพระเจ้าวันเดียวได้ แต่อย่างผมต้องขอเป็นปีๆ พิสูจน์ให้พระเจ้าสิครับ ความเชื่อและความหวัง อย่าท้อไปก่อน มีคริสเตียนมากมายขอพระเจ้าครั้งเดียว แล้วไม่ได้เลยล้มเลิกไป จนเขาจากไปก็ไม่ได้ครับ ขอด้วยท่าทีที่ถ่อม แล้วพระองค์จะให้ท่าน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่