พระธรรม ยอห์น 20:21-23, กิจการ 1:4-5
บทนำ
“หากผู้เชื่อเข้าใจเรื่องพระวิญญาณบริสุทธิ์และเชื่อตามพระวจนะว่า พระองค์จะทรงประทานสิ่งใดให้เราบ้าง เราก็จะได้รับตามนั้น ขอเพียงให้เรามีความเชื่อและเห็นคุณค่าในสิ่งที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงประทานให้และดำเนินชีวิตไปกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ทุกๆ วันเพื่อจิตวิญญาณจะจำเริญขึ้น“
หลังจากที่พระเยซูคริสต์ทรงฟื้นพระชนม์แล้ว พระองค์ทรงปรากฏแก่สาวกและทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่พวกเขา ก่อนที่พระองค์จะเสด็จสู่สวรรค์ ยอหน์ 20:22 เมื่อพระองค์ตรัสอย่างนั้นแล้วจึงทรงระบายลมหายใจเหนือพวกเขาและตรัสกับเขาว่า “จงรับพระวิญญาณบริสุทธิ์เถิด” พระเจ้าของเราทรงเป็นหนึ่งเดียว แต่ทรงสำแดงพระองค์เป็น 3 บุคคล คือ พระบิดา, พระบุตร (พระเยซูคริสต์), และพระวิญญาณบริสุทธิ์ คำว่า “ลมหายใจ” นี้ หมาย
ถึง “พระวิญญาณบริสุทธิ์” ซึ่งคือ พระวิญญาณของพระเจ้าผู้เสด็จมาสถิตในผู้เชื่อทุกคนในยุคนี้
และในเวลาสุดท้ายก่อนที่พระเยซูคริสต์จะเสด็จสู่สวรรค์ พระองค์ทรงกำชับแก่เหล่าสาวกอีก ให้พวกเขารอคอยเพื่อรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ตามพระสัญญาของพระบิดา (กิจการ 1:4-5) คำว่า“บัพติศมา (baptizo)” หมายถึง “การจุ่มให้มิด” ดังนั้น การรับบัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ จึงหมายถึง การถูกจุ่มมิดในพระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือ การถูกปกคลุมชีวิตทั้งหมดด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์นั่นเอง
เมื่อเราเป็นคริสเตียน, เราได้ต้อนรับพระเยซูคริสต์ในฐานะพระผู้ไถ่ของเราพร้อมกับรับพระวิญญาณบริสุทธิ์เข้ามาในชีวิตของเรา และเมื่อเราได้รับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว เราพบความจริงในพระคัมภีร์ได้ว่า พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงประทานอย่างน้อย 3 สิ่งแก่เราดังนี้
1. พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงประทาน “ภาษาพระวิญญาณ”
กิจการ 2:1-13 ชี้ให้เห็นว่า เมื่อเหล่าสาวกได้รับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว มีหมายสำคัญหนึ่งคือ “การพูดภาษาอื่นๆ หรือ ภาษาแปลกๆ ตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงให้พูด” โดยเหตุการณ์นี้ เป็นภาษาที่มนุษย์เข้าใจได้ เพียงแต่ตัวผู้พูดอาจไม่เข้าใจเพราะเป็นภาษาของชาติอื่นๆ ที่พวกเขาไม่เคยศึกษามาก่อน
ภาษาอื่นๆ หรือ ภาษาแปลกๆ ในภาษาเดิมหมายถึง ภาษาที่ไม่ได้มาอย่างธรรมชาติ ดังนั้นจึงเป็นภาษาที่พระเจ้าประทานให้อย่างอัศจรรย์ ไม่ใช่มนุษย์คิดขึ้นเองล่วงหน้า หลังจากเหตุการณ์นี้ ในพระคัมภีร์เราพบความสอดคล้องกันคือ เมื่อผู้เชื่อรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว มีพวกเขาคนอื่นๆ อีกที่ได้รับหมายสำคัญเป็นภาษาแปลกๆ รวมถึงเปาโลด้วยเช่นกัน (1 โครินธ์ 14:18) นอกจากนี้ ยัง พบอีกว่าการพูดภาษาแปลกๆ นั้นทำให้ตัวเองจำเริญขึ้น (1 โครินธ์ 14:4-5)
ดังนั้นเมื่อเรารับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว เราจะได้รับภาษาแปลกๆ จากพระเจ้าเป็นหมายสำคัญ ซึ่งเราควรพูดภาษาแปลกๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเราจะสามารถสื่อสารกับพระองค์โดยตรงและเป็นเหตุให้ตัวเราจำเริญขึ้นได้
2. พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงประทาน “ของประทานและฤทธิ์เดชในการรับใช้”
ฮีบรู 2:4 เราพบว่า ผู้เชื่อแต่ละคนจะได้รับของประทานจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นการสำแดงของพระวิญญาณบริสุทธิ์ แก่แต่ละคนเพื่อประโยชน์ร่วมกัน (1 โครินธ์ 12:1-12) ในฐานะคริสเตียนและผู้รับใช้ เราจึงควรรับของประทานและฤทธิ์เดชจากพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อการรับใช้ที่เกิดผลตามที่พระองค์ทรงกำหนดไว้ เช่นเดียวกับเปโตรและยอห์นซึ่งเต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ขณะรับใช้ (กิจการ 4:7-8) จึงสามารถกล่าวต่อหน้าสภาแซนเฮดรินได้อย่างกล้าหาญด้วยถ้อยคำที่ถูกต้อง คำว่า “เต็มเปี่ยม” ในภาษาเดิม หมายถึง “รับการเติมเต็ม, อยู่ภายใต้อิทธิพลของพลังอำนาจ” ดังนั้นสิ่งเหล่านี้จึงเกิดขึ้นโดยการเติมเต็มด้วยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ทรงอยู่ภายในพวกเขา
เหตุการณ์ต่อมา เมื่อพวกเขาถูกปล่อยตัว พวกเขาและเหล่าสาวกถูกขู่สำทับโดยห้ามไม่ให้พูดหรือสอนในพระนามพระเยซูคริสต์อีก (กิจการ 4:18) พวกเขาจึงพร้อมใจกันอธิษฐานทูลขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าตามพระสัญญาของพระองค์ พระองค์ก็ทรงตอบพวกเขาโดยให้พวกเขาเต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และรับใช้พระองค์ต่อไปด้วยใจกล้าหาญ โดยมีหมายสำคัญกับการอัศจรรย์เกิดขึ้นรับรองในการรับใช้ของพวกเขาด้วย (กิจการ 4:29-31)
ดังนั้นการรับใช้ที่เกิดผลในชีวิตของเราทุกคน ย่อมควบคู่ไปกับการดำเนินชีวิตของเราตามการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ และรับของประทานและฤทธิ์เดชในการรับใช้จากพระองค์
3. พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงประทาน “กำลังเพื่อช่วยเราเปลี่ยนแปลงชีวิต”
เราทุกคนล้วนต้องการพระวิญญาณบริสุทธิ์ในฐานะผู้ช่วยให้เราสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ทุกเรื่องและทุกเวลา เพื่อเราจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในพระคริสต์ได้ โดยเริ่มจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงทำให้เราบริสุทธิ์ก่อน เพื่อจะเชื่อฟังพระเยซูคริสต์และได้รับการประพรมด้วยพระโลหิตของพระองค์ (1 เปโตร 1:2) นอกจากนี้ เมื่อเราตัดสินใจชำระตัวตนให้บริสุทธิ์ด้วยการเชื่อฟังความจริงของพระเจ้าแล้ว (1 เปโตร 1:22) พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ทรงเสริมกำลังเราให้สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้สำเร็จอีกด้วย
ดังนั้น เมื่อเราได้ต้อนรับพระเยซูคริสต์ในฐานะพระผู้ไถ่ของเราพร้อมกับรับพระวิญญาณบริสุทธิ์เข้ามาในชีวิตของเรา ต่อมาเราได้รับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว เราจึงมั่นใจได้ว่า พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงประทานอย่างน้อย 3 สิ่งแก่เราอย่างแน่นอน ได้แก่ ภาษาพระวิญญาณ, ของประทานและฤทธิ์เดชในการรับใช้, และกำลังเพื่อช่วยเราเปลี่ยนแปลงชีวิต ซึ่งเราได้รับโดยตรึกตรองและเชื่อในพระวจนะของพระเจ้า, เชื่อว่าเราได้รับตามพระสัญญาของพระองค์จริงๆ, และดำเนินชีวิตในการอธิษฐานและพึ่งพาพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่เสมอ
โดย อ.สิรินมาศ ลีฬหเกรียงไกร
http://www.nexusforjesus.com/othersermons/408-พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงประทานสิ่งใดให้คุณ
คณะคริสเตียนสานสัมพันธ์
24/137 ซ.ลาดพร้าว21 ถ.ลาดพร้าว
แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. 10900
Tel./Fax. 02-513-2343
พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงประทานสิ่งใดให้คุณ
บทนำ
“หากผู้เชื่อเข้าใจเรื่องพระวิญญาณบริสุทธิ์และเชื่อตามพระวจนะว่า พระองค์จะทรงประทานสิ่งใดให้เราบ้าง เราก็จะได้รับตามนั้น ขอเพียงให้เรามีความเชื่อและเห็นคุณค่าในสิ่งที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงประทานให้และดำเนินชีวิตไปกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ทุกๆ วันเพื่อจิตวิญญาณจะจำเริญขึ้น“
หลังจากที่พระเยซูคริสต์ทรงฟื้นพระชนม์แล้ว พระองค์ทรงปรากฏแก่สาวกและทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่พวกเขา ก่อนที่พระองค์จะเสด็จสู่สวรรค์ ยอหน์ 20:22 เมื่อพระองค์ตรัสอย่างนั้นแล้วจึงทรงระบายลมหายใจเหนือพวกเขาและตรัสกับเขาว่า “จงรับพระวิญญาณบริสุทธิ์เถิด” พระเจ้าของเราทรงเป็นหนึ่งเดียว แต่ทรงสำแดงพระองค์เป็น 3 บุคคล คือ พระบิดา, พระบุตร (พระเยซูคริสต์), และพระวิญญาณบริสุทธิ์ คำว่า “ลมหายใจ” นี้ หมาย
ถึง “พระวิญญาณบริสุทธิ์” ซึ่งคือ พระวิญญาณของพระเจ้าผู้เสด็จมาสถิตในผู้เชื่อทุกคนในยุคนี้
และในเวลาสุดท้ายก่อนที่พระเยซูคริสต์จะเสด็จสู่สวรรค์ พระองค์ทรงกำชับแก่เหล่าสาวกอีก ให้พวกเขารอคอยเพื่อรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ตามพระสัญญาของพระบิดา (กิจการ 1:4-5) คำว่า“บัพติศมา (baptizo)” หมายถึง “การจุ่มให้มิด” ดังนั้น การรับบัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ จึงหมายถึง การถูกจุ่มมิดในพระวิญญาณบริสุทธิ์ หรือ การถูกปกคลุมชีวิตทั้งหมดด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์นั่นเอง
เมื่อเราเป็นคริสเตียน, เราได้ต้อนรับพระเยซูคริสต์ในฐานะพระผู้ไถ่ของเราพร้อมกับรับพระวิญญาณบริสุทธิ์เข้ามาในชีวิตของเรา และเมื่อเราได้รับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว เราพบความจริงในพระคัมภีร์ได้ว่า พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงประทานอย่างน้อย 3 สิ่งแก่เราดังนี้
1. พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงประทาน “ภาษาพระวิญญาณ”
กิจการ 2:1-13 ชี้ให้เห็นว่า เมื่อเหล่าสาวกได้รับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว มีหมายสำคัญหนึ่งคือ “การพูดภาษาอื่นๆ หรือ ภาษาแปลกๆ ตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงให้พูด” โดยเหตุการณ์นี้ เป็นภาษาที่มนุษย์เข้าใจได้ เพียงแต่ตัวผู้พูดอาจไม่เข้าใจเพราะเป็นภาษาของชาติอื่นๆ ที่พวกเขาไม่เคยศึกษามาก่อน
ภาษาอื่นๆ หรือ ภาษาแปลกๆ ในภาษาเดิมหมายถึง ภาษาที่ไม่ได้มาอย่างธรรมชาติ ดังนั้นจึงเป็นภาษาที่พระเจ้าประทานให้อย่างอัศจรรย์ ไม่ใช่มนุษย์คิดขึ้นเองล่วงหน้า หลังจากเหตุการณ์นี้ ในพระคัมภีร์เราพบความสอดคล้องกันคือ เมื่อผู้เชื่อรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว มีพวกเขาคนอื่นๆ อีกที่ได้รับหมายสำคัญเป็นภาษาแปลกๆ รวมถึงเปาโลด้วยเช่นกัน (1 โครินธ์ 14:18) นอกจากนี้ ยัง พบอีกว่าการพูดภาษาแปลกๆ นั้นทำให้ตัวเองจำเริญขึ้น (1 โครินธ์ 14:4-5)
ดังนั้นเมื่อเรารับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว เราจะได้รับภาษาแปลกๆ จากพระเจ้าเป็นหมายสำคัญ ซึ่งเราควรพูดภาษาแปลกๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเราจะสามารถสื่อสารกับพระองค์โดยตรงและเป็นเหตุให้ตัวเราจำเริญขึ้นได้
2. พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงประทาน “ของประทานและฤทธิ์เดชในการรับใช้”
ฮีบรู 2:4 เราพบว่า ผู้เชื่อแต่ละคนจะได้รับของประทานจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งเป็นการสำแดงของพระวิญญาณบริสุทธิ์ แก่แต่ละคนเพื่อประโยชน์ร่วมกัน (1 โครินธ์ 12:1-12) ในฐานะคริสเตียนและผู้รับใช้ เราจึงควรรับของประทานและฤทธิ์เดชจากพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อการรับใช้ที่เกิดผลตามที่พระองค์ทรงกำหนดไว้ เช่นเดียวกับเปโตรและยอห์นซึ่งเต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ขณะรับใช้ (กิจการ 4:7-8) จึงสามารถกล่าวต่อหน้าสภาแซนเฮดรินได้อย่างกล้าหาญด้วยถ้อยคำที่ถูกต้อง คำว่า “เต็มเปี่ยม” ในภาษาเดิม หมายถึง “รับการเติมเต็ม, อยู่ภายใต้อิทธิพลของพลังอำนาจ” ดังนั้นสิ่งเหล่านี้จึงเกิดขึ้นโดยการเติมเต็มด้วยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ทรงอยู่ภายในพวกเขา
เหตุการณ์ต่อมา เมื่อพวกเขาถูกปล่อยตัว พวกเขาและเหล่าสาวกถูกขู่สำทับโดยห้ามไม่ให้พูดหรือสอนในพระนามพระเยซูคริสต์อีก (กิจการ 4:18) พวกเขาจึงพร้อมใจกันอธิษฐานทูลขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าตามพระสัญญาของพระองค์ พระองค์ก็ทรงตอบพวกเขาโดยให้พวกเขาเต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และรับใช้พระองค์ต่อไปด้วยใจกล้าหาญ โดยมีหมายสำคัญกับการอัศจรรย์เกิดขึ้นรับรองในการรับใช้ของพวกเขาด้วย (กิจการ 4:29-31)
ดังนั้นการรับใช้ที่เกิดผลในชีวิตของเราทุกคน ย่อมควบคู่ไปกับการดำเนินชีวิตของเราตามการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ และรับของประทานและฤทธิ์เดชในการรับใช้จากพระองค์
3. พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงประทาน “กำลังเพื่อช่วยเราเปลี่ยนแปลงชีวิต”
เราทุกคนล้วนต้องการพระวิญญาณบริสุทธิ์ในฐานะผู้ช่วยให้เราสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ทุกเรื่องและทุกเวลา เพื่อเราจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในพระคริสต์ได้ โดยเริ่มจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงทำให้เราบริสุทธิ์ก่อน เพื่อจะเชื่อฟังพระเยซูคริสต์และได้รับการประพรมด้วยพระโลหิตของพระองค์ (1 เปโตร 1:2) นอกจากนี้ เมื่อเราตัดสินใจชำระตัวตนให้บริสุทธิ์ด้วยการเชื่อฟังความจริงของพระเจ้าแล้ว (1 เปโตร 1:22) พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ทรงเสริมกำลังเราให้สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตได้สำเร็จอีกด้วย
ดังนั้น เมื่อเราได้ต้อนรับพระเยซูคริสต์ในฐานะพระผู้ไถ่ของเราพร้อมกับรับพระวิญญาณบริสุทธิ์เข้ามาในชีวิตของเรา ต่อมาเราได้รับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้ว เราจึงมั่นใจได้ว่า พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงประทานอย่างน้อย 3 สิ่งแก่เราอย่างแน่นอน ได้แก่ ภาษาพระวิญญาณ, ของประทานและฤทธิ์เดชในการรับใช้, และกำลังเพื่อช่วยเราเปลี่ยนแปลงชีวิต ซึ่งเราได้รับโดยตรึกตรองและเชื่อในพระวจนะของพระเจ้า, เชื่อว่าเราได้รับตามพระสัญญาของพระองค์จริงๆ, และดำเนินชีวิตในการอธิษฐานและพึ่งพาพระวิญญาณบริสุทธิ์อยู่เสมอ
โดย อ.สิรินมาศ ลีฬหเกรียงไกร
http://www.nexusforjesus.com/othersermons/408-พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงประทานสิ่งใดให้คุณ
คณะคริสเตียนสานสัมพันธ์
24/137 ซ.ลาดพร้าว21 ถ.ลาดพร้าว
แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. 10900
Tel./Fax. 02-513-2343