สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 37
อคติล้วนๆ เลยค่ะไม่เกี่ยวกับตัวยา
บอกเลยว่าเพราะการเมืองล้วนๆ ค่ะ
เรายังพูดกับเพื่อนเลยว่า
ถ้าสมมติว่า วัคซีนที่มีอยู่เป็นไฟเซอร์ โมเดอร์น่า
เขาก็หาเรื่องว่าอยู่ดี เอาผลเสีย ผลข้างเคียงที่มีมาพูด
แล้วเขาจะบอกว่า ทำไมไม่ใช้ของจีน
จีนจัดคอนเสิร์ทเย้วๆ กันแล้ว นักบอลระดับโลกก็ฮีดซีโนแวค
แต่อเมริกายังติดเชื้อเป็นหมื่นๆ อยู่เลย บลาๆๆ
มันก็เป็นประการฉะนี้แล
สุดท้ายเป็นกำลังใจให้คุณแม่นะคะ
เราเองไม่มีลูก แต่ลูกสาวของเพื่อนก็อายุประมาณนี้แหละค่ะ
จะว่าเด็กมีความคิดเป็นของตนเองก็ไม่เชิง
เราว่าเขาคิดตามๆ กันมากกว่า ฮอร์โมนช่วงนร้ ถูกชักจูงได้ง่ายมาก เพราะจะถูเยัดความคิดว่า
เราโตแล้ว คิดเองได้. อะไรประมาณนี้ (สมัยวัยรุ่นเราก็เคยพูดประโยคแบบนี้ 555)
สมัยเรา เราก็เชื่อเพื่อนมากกว่าพ่อแม่
เพื่อนที่มีสมองน้อยนิดพอกัน เห็นโลกมาเท่ากัน
แต่คุยกันแล้ว มันได้คำตอบอย่างที่ใจคิดไง
ไม่เหมือนพ่อกับแม่ ตอบอะไรก็ไม่รู้ ไม่ตรงกับคำตอบของหนูเลย
เราว่าถ้าจะสอนลูก ต้องดูนิสัยเขาก่อน
ถ้าแบบดื้อไม่ฟัง ก็ปล่อยเขาค่ะ ให้เรียนรู้เอง
ถ้าเขาเจ็บมาก็ปลอบเขา แล้วบอกว่า. แม่ก็เคยเป็นแบบหนูมาก่อน ผ่านชีวิตช่วงยี่สิบมาก่อน
ผ่านอะไรมาก่อนเลยอาจจะรู้คำตอบอีกแบบ แบบที่วัยอย่างหนูไม่รู้
วันรุ่นไม่ว่ายุคสมัยไหนก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกค่ะ
มีแค่ปัจจัยรอบตัวแค่นั้นที่ต่างกัน
บอกเลยว่าเพราะการเมืองล้วนๆ ค่ะ
เรายังพูดกับเพื่อนเลยว่า
ถ้าสมมติว่า วัคซีนที่มีอยู่เป็นไฟเซอร์ โมเดอร์น่า
เขาก็หาเรื่องว่าอยู่ดี เอาผลเสีย ผลข้างเคียงที่มีมาพูด
แล้วเขาจะบอกว่า ทำไมไม่ใช้ของจีน
จีนจัดคอนเสิร์ทเย้วๆ กันแล้ว นักบอลระดับโลกก็ฮีดซีโนแวค
แต่อเมริกายังติดเชื้อเป็นหมื่นๆ อยู่เลย บลาๆๆ
มันก็เป็นประการฉะนี้แล
สุดท้ายเป็นกำลังใจให้คุณแม่นะคะ
เราเองไม่มีลูก แต่ลูกสาวของเพื่อนก็อายุประมาณนี้แหละค่ะ
จะว่าเด็กมีความคิดเป็นของตนเองก็ไม่เชิง
เราว่าเขาคิดตามๆ กันมากกว่า ฮอร์โมนช่วงนร้ ถูกชักจูงได้ง่ายมาก เพราะจะถูเยัดความคิดว่า
เราโตแล้ว คิดเองได้. อะไรประมาณนี้ (สมัยวัยรุ่นเราก็เคยพูดประโยคแบบนี้ 555)
สมัยเรา เราก็เชื่อเพื่อนมากกว่าพ่อแม่
เพื่อนที่มีสมองน้อยนิดพอกัน เห็นโลกมาเท่ากัน
แต่คุยกันแล้ว มันได้คำตอบอย่างที่ใจคิดไง
ไม่เหมือนพ่อกับแม่ ตอบอะไรก็ไม่รู้ ไม่ตรงกับคำตอบของหนูเลย
เราว่าถ้าจะสอนลูก ต้องดูนิสัยเขาก่อน
ถ้าแบบดื้อไม่ฟัง ก็ปล่อยเขาค่ะ ให้เรียนรู้เอง
ถ้าเขาเจ็บมาก็ปลอบเขา แล้วบอกว่า. แม่ก็เคยเป็นแบบหนูมาก่อน ผ่านชีวิตช่วงยี่สิบมาก่อน
ผ่านอะไรมาก่อนเลยอาจจะรู้คำตอบอีกแบบ แบบที่วัยอย่างหนูไม่รู้
วันรุ่นไม่ว่ายุคสมัยไหนก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกค่ะ
มีแค่ปัจจัยรอบตัวแค่นั้นที่ต่างกัน
ความคิดเห็นที่ 25
พ่อแม่อยากฉีดก็ฉีดไปสิคะ ลูกไม่ฉีดก็เป็นสิทธิ์ของเขา ทำไมต้องกลัวว่าสิ่งที่ลูกเลือกจะทำให้พ่อแม่ตาย พ่อแม่ต้องไม่ตายสิคะในเมื่อพ่อแม่ก็จะฉีดวัคซีน ในเมื่อวัคซีนมีประสิทธิภาพพ่อแม่จะไม่ตายค่ะ ไม่ต้องห่วงลูกมากจนนอยด์ค่ะ คนที่ไม่ฉีดก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะปล่อยให้ตัวเองติดเชื้อ เขารู้ตัวค่ะว่าจะต้องระมัดระวังมากๆ ถ้าเขาเห็นว่าคนฉีดกันไปแล้วเป็นแสนเป็นล้านคนแล้วไม่มีใครตาย ลูกก็จะมีความเชื่อมันในวัคซีนตัวนี้และไปฉีดเองค่ะ
ความคิดเห็นที่ 60
1) การฉีดวัคซีนเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่จะตัดสินใจครับ ใครก็บังคับไม่ได้ ไม่ว่าจะรัฐบาลหรือหมอ
2) Sinovac เป็นวัคซีนที่ WHO ยังไม่ยอมรับ (in progress อยู่ คาดว่าสุดท้ายก็คงจะ approve แต่เมื่อไรแค่นั้นเอง) และเป็นวัคซีนที่คนยังไม่แน่ใจในเรื่องประสิทธิภาพครับ ผลวิจัยยืนยันยังน้อยกว่าตัวอื่น ที่ ศบค. อ้างอิงก็ยังถือว่าเป็นกลุ่มตัวอย่างที่น้อยเกินไปที่จะสรุป
3) AstraZeneca เป็นวัคซีนตัวหลักที่ไทยวางแผนใช้ และ WHO รับรองแล้ว ถ้ามีแค่ Sinovac กับ AstraZeneca ไม่แปลกที่คนจะปฏิเสธ Sinovac ครับ แต่การสื่อสารจากรัฐเอง เช่น เอาตัวเลขภูมิคุ้มกันที่ Sinovac สูงกว่า Astra มาโชว์ก็กลายเป็น misleading ทำให้คนที่ไม่เชื่อใน Sinovac อยู่แล้วพลอยไม่เชื่อใน Astra ไปด้วย ทั้งที่ตัวเลขนั้นไม่ได้สะท้อนประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันการติดเชื้อ
4) คนทุกคนไม่อยากตายครับ ลูกของคุณ จขกท. ปฏิเสธวัคซีนตอนนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ฉีดตัวอื่น หรือจะไม่ป้องกันตัวเอง ให้เขาได้ทบทวนสถานการณ์ด้วยตัวเองครับ ถ้าวันนึงมีข้อมูลมากขึ้น WHO approve Sinovac หรือสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วเขาอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้
5) จากที่รัฐบาลสื่อสารมา ต่อให้คุณ จขกท. ฉีด Sinovac (อาจจะรวมถึง AstraZeneca ด้วย) แล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ติดเชื้อหรือเอาเชื้อมาติดลูกไม่ได้ครับ ดังนั้นไม่ว่าจะฉีดหรือไม่ก็ต้องป้องกันตัวเองต่อไปครับ คุยกันด้วยเหตุผล ระงับอารมณ์ทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าเขาไม่ฉีด สิ่งที่คุณทำได้ก็คงเป็นบอกเขาให้ดูแลตัวเองให้ดีที่สุด (รวมถึงคุณ จขกท. ก็ต้องดูแลตัวเองด้วย) จนกว่าเขาจะเปลี่ยนใจ หรือมีวัคซีนที่ต้องการเข้ามาครับ
6) เป็นกำลังใจให้ครอบครัวของคุณ จขกท. ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้ครับ
ป.ล. ผมฉีด Sinovac ไปแล้วครับ ไม่ได้ฉีดเพราะผมเชื่อมั่นในวัคซีนตัวนี้ แต่เพราะงานที่ทำมันมีความเสี่ยงสูงถ้าไม่ฉีด ตอนนี้มีแค่นี้เลยต้องฉีดไปก่อนไม่งั้นเหมือนเดินตัวเปล่าเข้าไปสนามรบ ซึ่งคนที่ทำอาชีพเดียวกับผมหลายคนก็เลือกไม่ฉีดเหมือนกัน ถามว่าพวกเขาผิดมั้ย ก็ไม่ เพราะมันเป็นสิทธิของเขาครับ
2) Sinovac เป็นวัคซีนที่ WHO ยังไม่ยอมรับ (in progress อยู่ คาดว่าสุดท้ายก็คงจะ approve แต่เมื่อไรแค่นั้นเอง) และเป็นวัคซีนที่คนยังไม่แน่ใจในเรื่องประสิทธิภาพครับ ผลวิจัยยืนยันยังน้อยกว่าตัวอื่น ที่ ศบค. อ้างอิงก็ยังถือว่าเป็นกลุ่มตัวอย่างที่น้อยเกินไปที่จะสรุป
3) AstraZeneca เป็นวัคซีนตัวหลักที่ไทยวางแผนใช้ และ WHO รับรองแล้ว ถ้ามีแค่ Sinovac กับ AstraZeneca ไม่แปลกที่คนจะปฏิเสธ Sinovac ครับ แต่การสื่อสารจากรัฐเอง เช่น เอาตัวเลขภูมิคุ้มกันที่ Sinovac สูงกว่า Astra มาโชว์ก็กลายเป็น misleading ทำให้คนที่ไม่เชื่อใน Sinovac อยู่แล้วพลอยไม่เชื่อใน Astra ไปด้วย ทั้งที่ตัวเลขนั้นไม่ได้สะท้อนประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันการติดเชื้อ
4) คนทุกคนไม่อยากตายครับ ลูกของคุณ จขกท. ปฏิเสธวัคซีนตอนนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ฉีดตัวอื่น หรือจะไม่ป้องกันตัวเอง ให้เขาได้ทบทวนสถานการณ์ด้วยตัวเองครับ ถ้าวันนึงมีข้อมูลมากขึ้น WHO approve Sinovac หรือสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วเขาอาจจะเปลี่ยนใจก็ได้
5) จากที่รัฐบาลสื่อสารมา ต่อให้คุณ จขกท. ฉีด Sinovac (อาจจะรวมถึง AstraZeneca ด้วย) แล้วก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ติดเชื้อหรือเอาเชื้อมาติดลูกไม่ได้ครับ ดังนั้นไม่ว่าจะฉีดหรือไม่ก็ต้องป้องกันตัวเองต่อไปครับ คุยกันด้วยเหตุผล ระงับอารมณ์ทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าเขาไม่ฉีด สิ่งที่คุณทำได้ก็คงเป็นบอกเขาให้ดูแลตัวเองให้ดีที่สุด (รวมถึงคุณ จขกท. ก็ต้องดูแลตัวเองด้วย) จนกว่าเขาจะเปลี่ยนใจ หรือมีวัคซีนที่ต้องการเข้ามาครับ
6) เป็นกำลังใจให้ครอบครัวของคุณ จขกท. ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้ครับ
ป.ล. ผมฉีด Sinovac ไปแล้วครับ ไม่ได้ฉีดเพราะผมเชื่อมั่นในวัคซีนตัวนี้ แต่เพราะงานที่ทำมันมีความเสี่ยงสูงถ้าไม่ฉีด ตอนนี้มีแค่นี้เลยต้องฉีดไปก่อนไม่งั้นเหมือนเดินตัวเปล่าเข้าไปสนามรบ ซึ่งคนที่ทำอาชีพเดียวกับผมหลายคนก็เลือกไม่ฉีดเหมือนกัน ถามว่าพวกเขาผิดมั้ย ก็ไม่ เพราะมันเป็นสิทธิของเขาครับ
แสดงความคิดเห็น
ลูกไม่ยอมฉีควัคซีน Sonivac แต่เราพ่อแม่ อยากฉีดมาก ยังงัย เราก้อฉีด แต่เรามีคำถาม... กับลูก
เค้าจะรอ... ยี่ห้อ อื่นๆ เค้ายอมติดโควดดีกว่า เฮ้อ.. เราเหนื่อยใจ
หมดกำลังใจ...
เราแค่รู้สึกว่า เค้ากลัว sinovac กลัวผลข้างเคียง แต่ พ่อแม่จะฉีด เค้าไม่คิดบ้างเรอ ว่าสิ่งที่เค้ากลัว อาจจะทำให้พ่อแม่มีผลข้างเคียง อย่างที่เค้าคิด แล้วเค้าจะอยู่ยังงัย...
เราสิคนเป็นแม่ ต้องปล่อยให้ลูกติดโควิด แล้วไปรักษาเรอ เราต้องทำใจยอมรับแบบนั้นใช่มั้ย...
ใข่เราบังคับเค้าไม่ได้... แต่ความรู้คนเป็นแม่ละ.. ห่วงมาก... ถ้าป่วยแล้วจะรักษาหายมั้ย
เราจะตัดใจไม่ห่วงได้เรอ แค่คิดน้ำตาก้อไหลแล้ว..
เราคิดไปเรื่อย... ทั้งด้านลบ และบวก
ช่วยพูดอะไรให้เราสบายใจได้มั้ย หลายหลายมุม..
เรารู้มีหลายมุมคิดกัน แต่คนเป็นแม่ก้อห่วงลูกไปหมด ถ้าเค้าดูแลตัวเองได้แล้ว มีรายได้มีงานทำ เราจะไม่ห่วงขนาดนี้
แต่นี้เค้ายังเรียน เราไม่อยากปล่อยเค้าออกไปเจอใครเลยจนกว่าจะได้ฉีดวัคซีน เราไม่มีทางไหนบังคับเค้าได้หรอก
เรารู้.. เค้าคิดเองได้ แต่ในความลำบากในทุกๆเรื่องของคนเป็นพ่อแม่ที่ต้องรับผิดชอบเค้า มันเลือกได้มั้ย..
หรือเราเลือกที่จะปล่อยวางเค้าจริงๆ ในทุกเรื่อง มันทุกข์มาก..
แย่สุดคือไม่สนใจที่จะลงทะเบียนหมอพร้อมเลย กลัวแต่ลงแล้วจะได้ Sinovec
คือที่ไม่ฉีด ไม่ไป แล้วเชื่อข่าวคือเค้ากลัว แพ้ กลัวผลข้างเคียง แต่เค้าไม่ห่วงคนรอบข้างเรอ ว่าจะต้องทุกช์ ตอนนั่งดูเค้าป่วย แล้วลุ้นว่าเค้าจะหายมั้ย
มันน่าเศร้าถ้าลูกเราจะเห็นแก่ตัว ขนาดนั้น เราไม่อยากคิดแย่ๆ กับลูกแบบนั้น แต่มันต้องแลกด้วยอะไรเรอ มันถึงจะดีสุดสำหรับทุกสิ่ง