มีปัญหาไม่ค่อยว่างสอนงานพนักงานใหม่ และพนักงานใหม่ก็ไม่ค่อยกระตือรือร้นเท่าที่ควร

หัวหน้ารับพนักงานใหม่มาช่วยงานเรา (และก็ช่วยงานรุ่นพี่คนอื่นด้วย) เขาเป็นรุ่นน้องเรา ตอนนี้อยู่มาได้ 3 เดือนแล้ว แต่เรารู้สึกว่าเขาช่วยงานเราไม่ค่อยได้มากนัก เราแทบรู้สึกไม่ต่างจากตอนที่ยังไม่มีพนักงานใหม่เข้ามา

ปัญหาคือ งานส่วนของเรามันยังไม่เป็นระบบขั้นตอนชัดเจน เป็นงานที่ทั้งเราและหัวหน้าเพิ่งรับมาทำได้ไม่นาน และมันก็เละเทะ ถูกละเลยมานาน กำลังอยู่ในขั้นปฏิรูปขึ้นมาใหม่ เสมือนว่ายังเป็นกลุ่มแก๊สและฝุ่นที่กำลังก่อตัวเป็นดาว ยังไม่มีคู่มือให้ยึดเป็นหลัก เพราะว่ามันยังไม่มีหลักให้ยึดแบบแน่นอน ทำไปแบบมึนๆและพร้อมจะเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ

ดังนั้นเราจึงสอนพนักงานใหม่โดยสอนเฉพาะสิ่งที่เราเคยทำ ซึ่งเราเองก็ยังไม่ชำนาญมากพอ เราสอนโดยให้เขาได้ลองทำงานจริง ตอนแรกหัวหน้าจะแบ่งงานของเราส่วนหนึ่งให้เขารับผิดชอบไปเลย แต่ต่อมาหัวหน้าก็เปลี่ยนใจ บอกให้เราเป็นคนทำทั้งหมดไปก่อน ส่วนพนักงานใหม่ยังต้องฝึกอีกนาน ดังนั้นตอนนี้พนักงานใหม่จึงเน้นไปช่วยงานรุ่นพี่คนอื่นมากกว่าช่วยเรา (แต่ก็ไม่ได้ช่วยเยอะ เพราะคนอื่นก็ไม่ค่อยว่างสอนเหมือนกัน) เขาช่วยทำงานส่วนของเรายังไม่ถึง 25% เลย

ส่วนเรา พอหัวหน้าพูดแบบนั้น เราก็รู้สึกไม่ค่อยอยากสอนงานพนักงานใหม่สักเท่าไหร่ เพราะถ้าระบบงานยังไม่นิ่ง การสอนงานจะเหนื่อย น่าเบื่อ และเสียเวลาเรามาก (เราเคยพูดเปรยๆกับหัวหน้าไปว่า ระบบงานยังไม่นิ่ง บางทีเราก็สอนงานคนใหม่ไม่ถูกนะ) และเรากลัวพนักงานใหม่จะท้อแท้ซะก่อน อีกอย่างเรารู้สึกว่าถึงสอนไป สุดท้ายเราก็ต้องทำเองเกือบทั้งหมดอยู่ดี เราเป็นคนที่มีงานยุ่งมาก ทำงานเกินเวลาทุกวัน

เราก็บอกพนักงานใหม่ไปตรงๆว่าสิ่งที่เราสอนเขาไปอาจเปลี่ยนแปลงได้อีกหลายครั้ง และเรามีงานยุ่งมาก จึงอาจไม่ค่อยได้สอนอะไรเขามาก งานพวกนี้ต้องเรียนรู้จากประสบการณ์และการลงมือทำไปเรื่อยๆ ฉะนั้นถ้าเขามีอะไรสงสัยก็ค่อยถามเราละกัน เขาก็บอกว่าไม่เป็นไร ทุกวันนี้เรากับเขาแทบไม่ได้พูดคุยกันเลยทั้งๆที่โต๊ะทำงานอยู่ติดกัน เพราะเราก็ต้องเร่งทำงาน โดนหัวหน้าเรียกใช้ก็บ่อย และนิสัยเราคือเป็นคนเงียบๆและจริงจังอยู่แล้ว จะคุยก็ต่อเมื่อมีประเด็นเรื่องงาน เรื่องเล่นไม่ค่อยคุย พนักงานใหม่เองก็ไม่ค่อยคุยกับเราด้วย (แต่เขาคุยกับคนอื่น ชอบคุยเรื่องทะลึ่งไร้สาระด้วย ซึ่งเราไม่ชอบ ก็เลยไม่ร่วมคุย)

ตอนนี้กลายเป็นว่าพนักงานใหม่ดูจะว่างงาน (มีงานประปรายเป็นบางเวลา) พอถึงเวลาเลิกงานปุ๊บก็ปิดคอมกลับบ้านเลย ทั้งๆที่เรากับคนอื่นๆกำลังทำงานยุ่ง กลับบ้านเลทไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมงทุกวัน เรารู้สึกว่าพนักงานใหม่ไม่ค่อยถามงานเราเลย ปกติถ้ารุ่นพี่ไม่ค่อยสอน เขาก็ต้องพยายามถามรุ่นพี่หรือขวนขวายเรียนรู้เองไม่ใช่หรือ? อย่างน้อยถามเราสักคำว่ามีงานอะไรให้ช่วยทำไหม ก็ไม่ถาม เขาดูเอื่อยเฉื่อย (ไม่เหมือนตอนมาสัมภาษณ์งานเลย ตอนนั้นน่ารักมาก) หัวหน้าบอกให้เขาอ่านพวกระเบียบต่างๆที่เกี่ยวกับงาน มีหนังสือเล่มหนามากให้อ่าน เขาก็ไม่อ่าน บอกว่าอ่านไม่รู้เรื่อง จะรอเรียนรู้ตอนลงมือทำงานจริง

ส่วนเราเคยมอบงานชิ้นหนึ่งให้เขาลองทำ อธิบายขั้นตอนไปแล้ว แต่เขาก็ทำไม่เสร็จ ค้างไว้กลางทาง สงสัยเขาคงลืมเพราะมันมีระยะเวลาทิ้งช่วงห่างเพื่อรอคนอื่นดำเนินการ เราเองก็ไม่ได้คอยตามจี้ตามทวงเขา เพราะเรามีงานอื่นต้องทำอีกมาก (เขาจดสิ่งที่เราสอนไปแล้ว แต่คงไม่อ่าน) สุดท้ายเราก็ลืมเหมือนกันว่ามีงานชิ้นนั้น เพราะเอกสารอยู่ที่เขา พอเรานึกขึ้นได้ เราก็ของานนั้นกลับมาทำต่อเองจนเสร็จ (ตอนนั้นเราโมโห แต่ไม่ได้แสดงออก ไม่ได้บอกหรือสอนอะไรเขาต่อด้วย)

บางครั้งเราบอกให้พนักงานใหม่ไปตามงานจากรุ่นพี่คนอื่นภายในวัน....เพื่อที่เขาจะได้เอางานนั้นมาทำต่อ เราก็อธิบายแล้วนะว่าเป็นงานอะไร (งานมันเชื่อมโยงกัน เราคิดว่าจะสอนเขาทำหลังจากที่เขาได้งานชิ้นนั้นมาจากรุ่นพี่แล้ว) แต่เขาก็รอให้ถึงวันเดดไลน์แล้วค่อยไปตาม เรารู้สึกไม่ชอบใจเลย แต่ก็ไม่ได้ตำหนิเขา ถ้าเขาไม่ทำ เดี๋ยวเราทำเอง และมันก็จะเป็นผลงานของเรา ไม่ใช่ของเขา

เราในฐานะที่เป็นเพื่อนร่วมงานของเขา บางทีรู้สึกเปลืองพลังใจโดยใช่เหตุ เราต้องพยายามอดทนนิ่งเฉยทั้งๆที่รู้สึกหงุดหงิดเขาหลายครั้ง (นอกจากเรื่องงานแล้ว เขาก็มีพฤติกรรมอื่นที่เราไม่ชอบ แต่เราก็ปล่อย) เราไม่มีสิทธิจะไปว่าอะไรเขามาก แทบจะไม่เคยว่าเลย เราเป็นเพื่อนร่วมงาน ไม่ใช่หัวหน้า ไม่ใช่ลูกพี่ (เป็นรุ่นพี่ ไม่ใช่ลูกพี่) อยากจะให้มีความเป็นทีมเวิร์กเหมือนกัน แต่ดูเหมือนอะไรๆจะไม่ค่อยเอื้ออำนวยเลย 

เราควรปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆไหม แล้วรอให้หัวหน้าเป็นคนจัดการ เพราะเราก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ส่วนหนึ่งคิดว่าที่เป็นแบบนี้ก็เพราะหัวหน้าด้วย หัวหน้าค่อนข้างปล่อยพนักงานใหม่ แล้วมาคาดหวังกับเรา เอางานส่วนใหญ่มากองไว้ที่เรา บางครั้งเรารู้สึกเหมือนโดนเอาเปรียบ สงสัยคงต้องรอให้ถึงช่วงประเมินผลพนักงาน คงต้องให้ผลงานเป็นตัวพิสูจน์ และถ้าเราเจองานหรือโอกาสใหม่ๆที่ดีกว่าก็คงจะไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ก็คุณบอกเองว่า งานคุณยุ่งและไม่มีเวลาสอน แล้วจะให้เขาทำเป็นได้ยังไงคะ ต่อให้ไม่ใช่เด็กจบใหม่แต่ย้ายงานใหม่ยังไงก็ต้องเรียนรู้ใหม่อยู่ดี ถ้าจะบอกเขาไม่ถาม ย้อนไปมองว่าคุณเองงานยุ่ง ใครจะอยากเข้าไปถาม แล้วจัให้ถามอะไรในเมื่อแทบไม่มีใครสอนงานหรือให้งาน  ถ้าจะบอกเลิกงานเขากลับก่อน ก็เขาแทบไม่มีงาน ถึงเวลาเลิกงานแล้วเขาจะอยู่ต่อเพื่ออะไรล่ะคะ ใจเขาใจเราบ้าง ตอนคุณเข้ามาใหม่ถ้าไม่มีใครสอนคุณจะรู้ระบบงานเองเลยไหมล่ะคะ
ความคิดเห็นที่ 13
จากประสบการณ์ที่เคยทำเอกชน งานล้นมือ ขอแนะนำดังนี้ค่ะ
ถ้ามีคนใหม่เข้ามา ที่จะต้องมาช่วยเรา เราก็ตองแบ่งเวลาและแบ่งงานให้เป็นก่อนค่ะ
แบ่งงานด่วนมาก ด่วนน้อย สำคัญมาก สำคัญน้อย รอได้ รอไม่ได้ ก่อน
อันนี้ไหนด่วนสุดๆก็ทำทันที อันไหนด่วนมากก็รีบเคลีย อันไหนสำคัญแต่ไม่ด่วน ยังพอมีเวลาทำก็จัดทำดับคิวไว้ ว่ามีเวลาทำเท่าไหร่
ทำทามไลน์แบบเส้นขีดอ่ะค่ะจะเห็นภาพชัด

การสอนงาน
วิธีของเรา เราพูดภาพรวมตัว Core ของงาน ว่า เรารับผิดชอบอะไรบ้าง ผลลัพธ์ที่จะต้องทำออกมาให้ได้คืออะไร
วิธีการทำงานอาจจะเยอะ และ ปรับเปลี่ยนได้เพื่อทุ่นแรงของเราเอง เราก็เห็นงานของพี่คนเก่าว่าเขามีขั้นตอนการทำงานยังไง
บางอย่างเราก็มาปรับเอง บางอย่างเราก็ไม่ได้ทำตามเขาทั้งหมด แต่ต้องรู้ว่า Policy หรือสิ่งที่มันเลี่ยงมันเปลี่ยนไม่ได้ก็อย่าไปเลี่ยงไปเปลี่ยนระบบ

ในมุมที่เราเป็นพนักงานใหม่
ตอนเราทำงานใหม่ๆ เราก็ไม่ค่อยได้ทำอะไร พี่เขายุ่งๆ ไม่รู่จะสอนอะไรด้วย เราก็ไม่กล้ารบกวน ก็ของานเขา เขาไม่ให้ ก็ขออะไรมาอ่าน
แต่อ่านไปก็ไม่เท่าลงมือจริงอยู่ดี เพราะมันไม่เข้าใจไม่เห็นภาพ แต่ก็พยายามอ่าน พยามสังเกต เตรียมตัวไว้
พอคิดว่าเราไม่มีอะไรอ่านแล้ว ก็ขอเขาสอนไปด้วย แล้วทำสรุปที่เราเข้าใจไว้
(งานเราไม่มีพี่สอนงานโดยตรง ส่วนใหญ่เราเรียนรู้เองหมด และจดไว้ เพราะรายละเอียดงานมันเยอะ ขั้นตอนเยอะมาก)

ในมุมที่เราเป็นคนสอนงานบ้าง
ตอนแรกเราก็คุยคอนเซ็ปงาน แล้วก็สอนลมไปแล้ว ต่อไปก็สอนโดยการดูค่ะให้ดูเราทำงานมีอะไรสงสัยให้ถามไม่ถามก็แล้วแต่
พอให้ดูมากๆเข้าจนพอรู้แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง ก็ให้ลงมือจริงค่ะ ตอนลงมือทำจริงช่วงแรกๆก็ให้ถามได้ตลอด ผิดได้ไม่ว่ากัน

เวลาเราจะทำงานอะไรก็ให้มาดูว่าเราทำอะไรบ้าง บางครั้งก็อธิบายไปด้วยว่าตนอนี้กำลังทำอะไร ทำไมต้องทำ
ทำแบบนี้แล้วต้องทำยังไงต่อเป็นต้น คือให้มาประกบดูเลย จะได้เห็นว่าวันนึงเราทำกี่งาน งานลักษณะไหนบ้าง เราจัดการยังไง บริหารงานยังไง
งานด่วนๆเยอะไหมในแต่ละวัน งานเป็นยังไง ต้องมีสกิลอะไร อันไหนเปลี่ยนไม่ได้ อันไหนเปลี่ยนแล้วดีก็เปลี่ยนได้
คือคนไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อน แรกๆมันต้องบอกต้องสอนค่ะ เขาจะได้รู้แนว
ถ้าไม่สอน แล้วทำผิดไปด่าอีก แบบนี้ไม่มีใครทนอยู่ได้นะคะ / หรือทำๆไปผิดถูกไม่รู้ไม่มีใครสนอ ไม่มีคนชมคนด่า ไม่มีใครว่าอะไรเลย
เขาก็จะอ่าวแล้วต้องทำไงอ่ะ ทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้

-----------------------------------------------------
ขอยกบางอันมาตอบนิดนึงนะคะ
ให้อ่านคู่มือเขาก็ไม่อ่าน บอกว่าอ่านไม่รู้เรื่อง จะรอเรียนรู้ตอนลงมือทำงานจริง
>> ก็โยนงานจริงให้เขาไปทำอันนึง แล้วให้มาส่งที่เรา ให้เราตรวจ ก่อนส่งลูกค้า ถ้าตรงนี้ผ่านก็ค่อยไปขั้นต่อไป
ให้เขาลองเรียนรู้เองก่อน ถ้าไม่ได้ก็ให้มาถาม ถามแล้วยังผิด ก็จับสอนไปพร้อมๆกัน สอน 1 รอบพอ ให้จด ให้ลองทำ ให้ทำความเข้าใจ
ถ้าสอนไปพร้อมๆกันแล้วยังไม่ได้อีกก็ต้องดุบ้างจะได้รู้ว่ามันไม่ควรจะพลาดขนาดนี้นะ น้องต้องตั้งใจทำงานหน่อย พลาดงี้บริษัทเสียหายนะ
แต่แรกๆอาจจะแนวโอ่ๆหน่อย เพราะเดี๋ยวไม่กล้สทำอะไร คนทำงานดีกว่าไม่ทำงานนะคะ ต้องใช้คนให้เป็นค่ะ

ส่วนเราเคยมอบงานชิ้นหนึ่งให้เขาลองทำ อธิบายขั้นตอนไปแล้ว แต่เขาก็ทำไม่เสร็จ ค้างไว้กลางทาง สงสัยเขาคงลืมเพราะมันมีระยะเวลาทิ้งช่วงห่างเพื่อรอคนอื่นดำเนินการ เราเองก็ไม่ได้คอยตามจี้ตามทวงเขา เพราะเรามีงานอื่นต้องทำอีกมาก (เขาจดสิ่งที่เราสอนไปแล้ว แต่คงไม่อ่าน) สุดท้ายเราก็ลืมเหมือนกันว่ามีงานชิ้นนั้น เพราะเอกสารอยู่ที่เขา พอเรานึกขึ้นได้ เราก็ของานนั้นกลับมาทำต่อเองจนเสร็จ (ตอนนั้นเราโมโห แต่ไม่ได้แสดงออก ไม่ได้บอกหรือสอนอะไรเขาต่อด้วย)
>> อันนี้ควรดุ ว่าทำไมทำงานที่รับผิดชอบไม่เรียบร้อย  มันหลุดมันพลาดตรงไหน ทำไมถึงพลาด ให้เขาตอบออกมาจากปากเขา
ถ้าเขาบอกว่าลืม ก็ถามเขาว่าแล้วจะทำยังไง ให้งาน แล้วหลุดกลางทางความเสียหายที่เกิดรับผิดชอบไหวไหม ต้องเตือนให้รอบคอบ
แล้วความเขาว่าปัญหามันเกิดเนี้ยจะจัดการยังไงไม่ให้เกิดขึ้นอีก
>> คุณแก้ปัญหาโดยการของานกลับมาทำต่อเองจนเสร็จ ทำไมคุณไม่สอนเขาล่ะคะ แล้วมาหงุดหงิดแต่ไม่พูดมันเกิดประโยชน์อะไร?
ถ้าเป็นเรา เราก็จะให้เขาทำต่อให้เสร็จ ไม่เสร็จก็ถือว่างาน 1 ชิ้นนี้น้องทำพลาดเยอะนะ แต่ให้อภัยเพราะครั้งแรก มีอะไรให้ถาม
จำไม่ได้ให้จด ถ้าพลาดอีกต้องมาคุยกับหัวหน้าว่าผิดพลาดเพราะอะไร ติดปัญหาตรงไหน ต้องคุยค่ะ

บางครั้งเราบอกให้พนักงานใหม่ไปตามงานจากรุ่นพี่คนอื่นภายในวัน....เพื่อที่เขาจะได้เอางานนั้นมาทำต่อ เราก็อธิบายแล้วนะว่าเป็นงานอะไร (งานมันเชื่อมโยงกัน เราคิดว่าจะสอนเขาทำหลังจากที่เขาได้งานชิ้นนั้นมาจากรุ่นพี่แล้ว) แต่เขาก็รอให้ถึงวันเดดไลน์แล้วค่อยไปตาม เรารู้สึกไม่ชอบใจเลย แต่ก็ไม่ได้ตำหนิเขา ถ้าเขาไม่ทำ เดี๋ยวเราทำเอง และมันก็จะเป็นผลงานของเรา ไม่ใช่ของเขา
>> ถ้ามีมายด์เซ็ทแบบนี้ก็ทำไปคนเดียวเถอะค่ะงาน แล้วมาอย่าบ่น

คือคุณทำงานได้ดีเพราะทำงานก่อน มีประสบการณ์ ถ้าเทียบกับเขา  คุณเอางานมาทำเองนะ แล้วมาบ่นว่าโดนเอาเปรียบ.. ย้อนแย้งค่ะ
สรุปคือคุณลองคุยกันเยอะๆค่ะ ทั้งหัวหน้า ทั้งคนใหม่ คนเก่าในทีม และตัวคุณเอง
คุณคิดว่างานคุณมันเยอะไปจนไม่มีเวลาสอนคนใหม่ คุณคิดว่าหัวหน้าโยนมาให้คุณเยอะไป โดนเอาเปรียบคุณก็แสดงความคิดเห็นออกไป
แล้วคุณอยากได้อะไร อยากให้คนใหม่มาช่วยงานคุณ คุณจะทำยังไงให้เขาช่วยงานคุณได้ล่ะถ้าคุณยังทำกับเขาแบบนี้
อยากได้อะไรก็พูด อยากให้เป็นยังไงก็เสนอไป หัวหน้าจะได้รู้ว่าควรทำยังไง

เราฟังด้านเดียว เราไม่เห็นภาพรวมทั้งหมดเราก็คงพูดได้แค่นี้
แวะมาแก้คำผิดค่ะ
ความคิดเห็นที่ 8
ถ้าเรื่องที่คุณเล่ามาจะทำให้คุณเอาไปประเมินให้เขาว่าไม่พร้อมใช้งาน แบบที่ตอบเม้นอื่นคุณเป็นคนใจร้ายมากเลยนะคะ ในเมื่อตัวเองไม่สอนงานไม่ให้งาน กลายเป็นความผิดเขาที่ไม่มีงานซะงั้น??? ถามตัวเองนะคะว่าเขาผิดจริงๆหรอ ถ้าจะให้เขาไม่ผ่านก็ขอให้งานใหม่ของเขาเจอเพื่อนร่วมงานที่ดีมีเมตตากว่านี้นะคะ
ความคิดเห็นที่ 16
เท่าที่ผมอ่าน ปัญหาคือ
1. ระบบงานของคุณที่ไม่ลงตัวเอง ทำให้คุณไม่มีเวลาเพียงพอจะมาสอนเด็กใหม่
2. คุณไม่พยายามปรับการสื่อสารคุณให้เหมาะกับเด็กใหม่ และปรับตัวคุณให้สนิทกับเด็กใหม่
3. คุณไม่มีการวางแผนการสอนงาน การมอบหมายงาน การติดตามงาน อย่างชัดเจน ว่าอะไรต้องส่งเมื่อไร ทำอะไร 1234

ถ้าในมุมเด็กใหม่ เค้าอาจมองว่าคุณน่ะแหละคือปัญหา ทำงานไม่เรียบร้อย เค้าก็ไม่อยากจะมาเรียนงานอะไรจากคุณ
ความคิดเห็นที่ 15
เอาตรงๆ นะ คุณยังแบ่งงานไม่เป็น ผมไม่เชื่อนะครับ ว่างานที่คุณทำจะเปลี่ยนไปตลอดเวลา มันต้องมีงาน รูทีนที่ต้องทำทุกวันหรือทำเป็นประจำบ้าง ถึงแม้จะไม่มีระบบ แต่งานพวกนี้มันก็ต้องมีบ้าง ซึ่งมันไม่ยากอะไร ถ่ายให้เขาทำบ้าง แล้วค่อยมีตรวจสอบ อย่ารำคาญเวลาเขาทำไม่ถูกต้องคอยบอกและให้เขาแก้ไข เมื่อเข้าที่แล้วค่อยมอบหมายงานต่อไป แล้วบอกว่าจะเอาไปประเมินผลงาน ถ้าติดขัดเรื่องงานตรงไหนให้ถาม
ส่วนเรื่องกลับตรงเวลา มันเป็นสิทธิ์ของเขานะครับ เรื่องแบบนี้เก็บมาคิดไม่ได้เมื่อคุณบอกเองว่าเขาไม่มีงานทำ เขาจะอยู่ออฟฟิตเพื่อ? ก็ต้องหางานให้เขาทำแล้วถ้าไม่เสร็จเขากลับก่อนค่อยว่ากันอีกเรื่อง ผมเบื่อหน่ายพวกที่งานยุ่งทำไม่เสร็จแล้วจะมาบังคับคนอื่นที่งานเขาเสร็จแล้วให้อยู่เป็นเพื่อนกลับดึกเหมือนกัน ในเมื่อในเวลางานเขาทำเต็มที่เพื่อให้เสร็จก่อนเลิกงาน ไม่งั้นจะมีเวลาทำงานของออฟฟิตไว้ทำไม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่