แม่ของเจ้าของกระทู้เป็นคนที่ใจดีมาก.. แต่!!! เขาใจดีกับญาติมิตรเท่านั้น!
น้องชายของเเม่เลิกกับเมียเก่าแล้วไม่มีบ้านอยู่ก็มาขออาศัยบ้านเช่าที่แม่ทำเอาไว้อยู่แบบฟรีๆ แม่ก็ไม่ว่าอะไรแถมคอยด่าคนที่มาคอยว่าน้องเเม่...ขนาดพ่อด่าน้องแม่ว่าทำไมไม่รู้จักช่วยกันตัดหญ้าดูแลบ้านบ้างแม่ก็ยังด่ากลับว่ามาว่าน้องเเม่ทำไม....
ปล. ที่บอกให้ตัดหญ้าให้ดูแลบ้านไม่ได้หมายถึงบ้านของเจ้าของกระทู้นะแต่หมายถึงบ้านที่เขาอาศัยอยู่นั่นแหละ...อยู่อย่างเดียวจริงๆไม่เคยทำอะไร ทุกวันนี้ได้แต่ขอบคุณพระเจ้าที่อย่างน้อยเขาก็รู้จักจ่ายค่าน้ำค่าไฟเองไม่อย่างนั้นบ้านเราคง
มากกว่านี้!
เท่านั้นยังหายนะไม่พอ...
เนื่องจากแม่เราตอนนี้ไม่ได้ทำงาน...เรากลัวแม่จะเหงาก็เลยไปออกรถเครื่องให้ 1 คันกะว่าให้แม่ขี่ไปเล่นไพ่ที่บ้านเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆกันจะได้ไม่ต้องลำบากเดินฝ่ารถฝ่าถนนอีก....โดยเงินทั้งหมดเราเป็นคนออกเอง
แต่แม่ก็ใจดีมีเมตตา...มอบรถคันนี้ให้แก่ญาติอีกคนนึงเอาไปใช้ขี่ไปทำงานอย่างสบายใจ...คราวนี้เราก็หมดความอดทน บอกว่ารถจะไม่ให้แม่แล้วแต่จะเอามาใช้เอง แม่ก็เลยโมโหหนัก...เขาอ้างว่าการขี่รถเครื่องเป็นเรื่องที่อันตราย แม่จะไม่มีวันยอมให้เราขี่เด็ดขาดแม้จะเป็นเงินของเราเองก็ตาม และรีบขนรถคันนั้นไปอยู่บ้านญาติคนนั้นพร้อมกับให้กุญแจไปราวกับกลัวว่าเราจะมาแย่งกลับ...
เท่านี้ก็อกจะแตกตายอยู่แล้ว...แต่ญาติคนนั้นกลับเอาหลานมาโยนให้แม่เลี้ยงทั้งๆที่ไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงทางสายเลือด...พูดง่ายๆเป็นญาติห่างๆ แม้แต่นามสกุลก็ไม่เหมือนกัน....ตอนแรกเราก็นึกว่าเขาคงมาจ้างแม่เลี้ยงหลานเพื่อแลกกับการยืมรถ แต่ความเป็นจริงมันไม่ใช่อย่างนั้น...เขาเอาหลานมาให้เลี้ยงพร้อมกับเอารถเราไปทำงานโดยที่ไม่จ่ายเงินค่าเลี้ยงให้แม่แม้แต่บาทเดียวและค่าอาหารของเด็กทั้งหมดแม่จะต้องเป็นคนออกและบางครั้งเขาก็มายืมเงิน...และทุกครั้งที่เขาซื้อข้าวหรือซื้อขนมมาเป็นพิเศษให้ลูกของเขา เขาก็คุยโวราวกับว่าเนี่ยเป็นเรื่องที่เราติดบุญคุณเขานะเขาอุตส่าห์เอาข้าวเอาน้ำมาให้ลูกตัวเองบ้าง เราก็เลยหมดความอดทนกับพฤติกรรมของญาติแบบนี้ ก็เลยต่อว่าเขาพร้อมกับทวงเงินทุกวันเพื่อนำเงินที่ได้นั้นมาเป็นค่าข้าวให้กับหลาน...บอกตามตรงว่าสภาพตอนทวงเงินนั้นรู้สึกตัวเองต้อยต่ำอย่างมากที่ต้องไปขอเงินคนอื่น!
เราโคตรเกลียดการโดนเอาเปรียบ! แต่แม่เราก็บอกว่าการมีน้ำใจต่อญาติมิตรและเพื่อนมนุษย์เป็นเรื่องที่ดี ต่อไปตายไปจะได้ขึ้นสวรรค์...เชื่อแม่เถอะและทุกอย่างจะดี ห้ามไปว่าญาติทั้งหมดอีก...พวกเขาก็เดือดร้อนเหมือนกัน
เดือดร้อน!? เราก็บอกแม่ไปว่าเราก็โคตรเดือดร้อนเหมือนกันทำไมแม่ไม่เห็นใจหนูบ้าง
หนูไม่อยากขึ้นสวรรค์หลังจากนี้แต่หนูแค่ไม่อยากอยู่ในนรกตอนนี้ต่างหาก!!! เข้าใจที่หนูพูดบ้างไหม...รู้ไหมพอพูดคำนี้ไปเกิดอะไรขึ้น...แม่บอกเราไร้น้ำใจ สักวันจะโดนทอดทิ้ง
สภาพของเราทุกวันนี้มีชีวิตอยู่ด้วยความกลัวว่าแม่จะเอาของของเราอันไหนไปให้ใครอีกหรือเปล่า...หาทางออกไม่เจอจริงๆเราควรจะแก้ยังไงก่อนดี เฮ่อ..
ดีที่ตอนนี้ทำงานฟรีแลนซ์...ไม่ได้เป็นเงินเดือนไม่อย่างนั้นป่านนี้อดตายไปแล้ว
ปล.เคยเสนอแยกกันอยู่กับพ่อแม่แล้ว แต่ผลที่ได้ก็คือพ่อกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤตทางการเงิน จะไปก็ได้แต่ว่าต้องส่งเงินมาให้พ่อและแม่คนละหมื่นทุกเดือน โดยไม่รวมค่าหนี้สินที่ต้องจ่ายให้พ่อให้แม่อีก แต่เราไม่มีเงินขนาดนั้น..คิดดูขนาดบอกว่าจะซื้อ iPad เป็นรางวัลชีวิตยังขโมยสมุดบัญชีเอาไปซ่อน...
แม่ของฉันเป็นพระโพธิสัตว์!
น้องชายของเเม่เลิกกับเมียเก่าแล้วไม่มีบ้านอยู่ก็มาขออาศัยบ้านเช่าที่แม่ทำเอาไว้อยู่แบบฟรีๆ แม่ก็ไม่ว่าอะไรแถมคอยด่าคนที่มาคอยว่าน้องเเม่...ขนาดพ่อด่าน้องแม่ว่าทำไมไม่รู้จักช่วยกันตัดหญ้าดูแลบ้านบ้างแม่ก็ยังด่ากลับว่ามาว่าน้องเเม่ทำไม....
ปล. ที่บอกให้ตัดหญ้าให้ดูแลบ้านไม่ได้หมายถึงบ้านของเจ้าของกระทู้นะแต่หมายถึงบ้านที่เขาอาศัยอยู่นั่นแหละ...อยู่อย่างเดียวจริงๆไม่เคยทำอะไร ทุกวันนี้ได้แต่ขอบคุณพระเจ้าที่อย่างน้อยเขาก็รู้จักจ่ายค่าน้ำค่าไฟเองไม่อย่างนั้นบ้านเราคงมากกว่านี้!
เท่านั้นยังหายนะไม่พอ...
เนื่องจากแม่เราตอนนี้ไม่ได้ทำงาน...เรากลัวแม่จะเหงาก็เลยไปออกรถเครื่องให้ 1 คันกะว่าให้แม่ขี่ไปเล่นไพ่ที่บ้านเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆกันจะได้ไม่ต้องลำบากเดินฝ่ารถฝ่าถนนอีก....โดยเงินทั้งหมดเราเป็นคนออกเอง
แต่แม่ก็ใจดีมีเมตตา...มอบรถคันนี้ให้แก่ญาติอีกคนนึงเอาไปใช้ขี่ไปทำงานอย่างสบายใจ...คราวนี้เราก็หมดความอดทน บอกว่ารถจะไม่ให้แม่แล้วแต่จะเอามาใช้เอง แม่ก็เลยโมโหหนัก...เขาอ้างว่าการขี่รถเครื่องเป็นเรื่องที่อันตราย แม่จะไม่มีวันยอมให้เราขี่เด็ดขาดแม้จะเป็นเงินของเราเองก็ตาม และรีบขนรถคันนั้นไปอยู่บ้านญาติคนนั้นพร้อมกับให้กุญแจไปราวกับกลัวว่าเราจะมาแย่งกลับ...
เท่านี้ก็อกจะแตกตายอยู่แล้ว...แต่ญาติคนนั้นกลับเอาหลานมาโยนให้แม่เลี้ยงทั้งๆที่ไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงทางสายเลือด...พูดง่ายๆเป็นญาติห่างๆ แม้แต่นามสกุลก็ไม่เหมือนกัน....ตอนแรกเราก็นึกว่าเขาคงมาจ้างแม่เลี้ยงหลานเพื่อแลกกับการยืมรถ แต่ความเป็นจริงมันไม่ใช่อย่างนั้น...เขาเอาหลานมาให้เลี้ยงพร้อมกับเอารถเราไปทำงานโดยที่ไม่จ่ายเงินค่าเลี้ยงให้แม่แม้แต่บาทเดียวและค่าอาหารของเด็กทั้งหมดแม่จะต้องเป็นคนออกและบางครั้งเขาก็มายืมเงิน...และทุกครั้งที่เขาซื้อข้าวหรือซื้อขนมมาเป็นพิเศษให้ลูกของเขา เขาก็คุยโวราวกับว่าเนี่ยเป็นเรื่องที่เราติดบุญคุณเขานะเขาอุตส่าห์เอาข้าวเอาน้ำมาให้ลูกตัวเองบ้าง เราก็เลยหมดความอดทนกับพฤติกรรมของญาติแบบนี้ ก็เลยต่อว่าเขาพร้อมกับทวงเงินทุกวันเพื่อนำเงินที่ได้นั้นมาเป็นค่าข้าวให้กับหลาน...บอกตามตรงว่าสภาพตอนทวงเงินนั้นรู้สึกตัวเองต้อยต่ำอย่างมากที่ต้องไปขอเงินคนอื่น!
เราโคตรเกลียดการโดนเอาเปรียบ! แต่แม่เราก็บอกว่าการมีน้ำใจต่อญาติมิตรและเพื่อนมนุษย์เป็นเรื่องที่ดี ต่อไปตายไปจะได้ขึ้นสวรรค์...เชื่อแม่เถอะและทุกอย่างจะดี ห้ามไปว่าญาติทั้งหมดอีก...พวกเขาก็เดือดร้อนเหมือนกัน
เดือดร้อน!? เราก็บอกแม่ไปว่าเราก็โคตรเดือดร้อนเหมือนกันทำไมแม่ไม่เห็นใจหนูบ้าง
หนูไม่อยากขึ้นสวรรค์หลังจากนี้แต่หนูแค่ไม่อยากอยู่ในนรกตอนนี้ต่างหาก!!! เข้าใจที่หนูพูดบ้างไหม...รู้ไหมพอพูดคำนี้ไปเกิดอะไรขึ้น...แม่บอกเราไร้น้ำใจ สักวันจะโดนทอดทิ้ง
สภาพของเราทุกวันนี้มีชีวิตอยู่ด้วยความกลัวว่าแม่จะเอาของของเราอันไหนไปให้ใครอีกหรือเปล่า...หาทางออกไม่เจอจริงๆเราควรจะแก้ยังไงก่อนดี เฮ่อ..
ดีที่ตอนนี้ทำงานฟรีแลนซ์...ไม่ได้เป็นเงินเดือนไม่อย่างนั้นป่านนี้อดตายไปแล้ว
ปล.เคยเสนอแยกกันอยู่กับพ่อแม่แล้ว แต่ผลที่ได้ก็คือพ่อกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤตทางการเงิน จะไปก็ได้แต่ว่าต้องส่งเงินมาให้พ่อและแม่คนละหมื่นทุกเดือน โดยไม่รวมค่าหนี้สินที่ต้องจ่ายให้พ่อให้แม่อีก แต่เราไม่มีเงินขนาดนั้น..คิดดูขนาดบอกว่าจะซื้อ iPad เป็นรางวัลชีวิตยังขโมยสมุดบัญชีเอาไปซ่อน...