สวัสดี เพื่อนๆ ชาวพันทิป หายจากการรีวิวไปสักพัก กลับมาครั้งนี้ก็เลยขอจัดชุดใหญ่ป้ายยาด้วยสินค้าเพื่อโลก สิ่งนั้นก็คือ จักรยานไฟฟ้าาาาาาาาาา
สืบเนื่องจากช่วง WFH จากที่เป็นมนุษย์ออฟฟิศก็กลายมาเป็นมนุษย์บ้าน ทำให้คิดที่จะมองหารถคันเล็กมาใช้งานเบาๆ อย่างการไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อหน้าหมู่บ้าน ไปตลาดใกล้ๆ แทนรถใหญ่ ก็ได้มีโอกาสทดลองใช้งานเจ้ารถจักรยานไฟฟ้า EM3 พอดี ซึ่งหลังจากที่ทดลองใช้มา 1 สัปดาห์ ขี่ออกไปซื้อของ ปั่นออกกำลังกายตอนเย็น โดยรวมค่อนข้างพอใจและคิดว่าน่าสนใจควรค่าที่จะป้ายยาพ่อแม่พี่น้องต่อเป็นทอดๆ 55+
เราขอพูดถึงความประทับใจ ความชอบ หลังจากที่ขี่และปั่น EM3 จนหนำใจ มีทั้งหมด 3 ข้อด้วยกัน โดยเรียงลำดับจากความชอบมากที่สุด
1.
ความประหยัด เพราะเจ้านี่เป็นจักรยานไฟฟ้าแบบ 100% ไม่ต้องใช้น้ำมัน ก็ทำให้เราไม่ต้องเสียค่าน้ำมัน อาศัยชาร์จไฟบ้านอย่างเดียว รวมถึงค่าบำรุงรักษาที่เซฟไปได้ประมาณครึ่งต่อครึ่ง
2.
ความปลอดภัย ครอบคลุมทั้งตอนใช้งานและไม่ได้ใช้งานครับ มีไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟเบรก รวมถึงมีรีโมตสัญญานกันขโมยด้วย จอดตอนไปซื้อของก็ไม่ต้องห่วงว่าจะมีคนยกจักรยานของเราไป
3.
หน้าตารูปร่าง ส่วนตัวมองว่า EM3 เป็นจักรยานไฟฟ้าที่หน้าตาดีพอควร มีความทูอินวัน วินเทจผสมกับทันสมัย การใช้งานง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก ถ้าขี่จักรยานธรรมดาได้ก็ขี่เจ้านี่ได้เลย คล่องพอตัว ลงทุนซื้อคันเดียวใช้งานกันได้ทั้งบ้าน
ก่อนจะรีวิวส่วนต่างๆ ของจักรยานไฟฟ้า EM3 ขอพูดถึงเรื่องการเลือกซื้อสักหน่อย เพราะในท้องตลาดมีหลายแบรนด์หลายเจ้า ส่วนตัวมองว่า จะซื้อของใดๆ ก็ตาม ยิ่งถ้าเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากเรื่องราคา ฟังก์ชันแล้ว เราว่าการเลือกซื้อกับบริษัทที่น่าเชื่อถือก็สำคัญ เพราะอย่างน้อยจะได้มั่นใจว่าซื้อไปแล้ว ใช้ไปแล้วไม่แถมแพมาด้วย ซึ่ง EM3 ก็ประกอบในไทยโดยบริษัท Life’s Moving มีวางขายที่ HomePro
บอดี้รวมๆ จักรยานไฟฟ้า EM3 ไม่เล็กแต่ก็ไม่ใหญ่มาก กลางๆ ซื้อคันเดียวใช้ได้ทั้งพ่อ แม่ ลูก มีทั้งหมด 3 สีให้เลือกซื้อ คือ สีแดง สีส้ม สีทอง ใช้ได้ทั้งระบบ Manual ปั่นเอง และ Auto ระบบไฟฟ้า ข้อดีคือ ก็ไม่ต้องกลัวว่าขี่ๆ อยู่แล้วแบตฯ หมดจะทำอย่างไร ส่วนเรื่อง Max Speed อยู่ที่ 25-30 กิโลเมตร/ชั่วโมง สามารถรับน้ำหนักได้ถึง 150 กิโลกรัม
การรับประกันก็ครอบคลุมทุกสิ่งอย่าง เวลาก็ลดหลั่นกันไปแต่ก็นานพอควร ตัวถัง 5 ปี มอเตอร์ 3 ปี แบตเตอรี 1 ปี และระบบไฟฟ้า 1 ปี แต่ว่าถ้าใช้งานไปแล้วเกิดมีปัญหา ทางบริษัทบอกว่าเราสามารถเรียกเจ้าหน้าที่ให้มาเซอร์วิสที่บ้านได้ด้วย
ด้านหน้ามีตะกร้าใส่ของพร้อมฝาปิด กุญแจล็อก เบาะนั่งคนขับ เบาะนั่งคนซ้อนพร้อมพนักพิงกันตก จะเปลี่ยนเป็นที่วางกล่องส่งสินค้าก็ได้
หน้าจอ Display เป็นแบบ Digital สี ขนาดใหญ่ ดูง่าย ตัวเลขใหญ่ และชัดเจน สู้แสงตอนกลางวันได้พอประมาณ แต่จะหรูหรามากตอนกลางคืน ไว้สำหรับโชว์สถานะของแบตเตอรี ความเร็ว และไฟหน้า
ในส่วนของแฮนด์จับ ไม่ลื่น ไม่บาดมือ ใต้แฮนด์ซ้ายจะเป็นสวิตซ์เปิด-ปิดไฟเลี้ยวที่มาพร้อมกับเสียงเตือน ถ้าใช้ครั้งแรกอาจมีตกใจเล็กน้อย ส่วนสวิตซ์สีแดงด้านล่างจะเป็นแตร แฮนด์ฝั่งขวา จะเป็นตำแหน่งคันเร่ง ฟังก์ชันนี้ีไว้เพื่อความปลอดภัย ถ้าเราจอดโดยตั้ง P ไว้ จะบิดคันเร่งไม่ไป ถ้าต้องการออกตัวกด P อีกครั้งรถก็วิ่งได้เหมือนเดิม
กระจกมองข้างเป็นทรงกลม ให้ความ Vintage ก้านปรับง่ายได้มาตรฐานยุโรป เพิ่มความปลอดภัยยามขับขี่
เสียบกุญแจและบิด ไฟหน้า LED ก็จะติด ระบบไฟสูง ไฟต่ำ
ส่วนอื่นๆ ของจักรยานไฟฟ้า EM3 มาครบสำหรับการใช้งาน และความปลอดภัย วงล้อขนาด 16 นิ้ว/ขาตั้งคู่พร้อมระบบล็อก/ ไฟ LED เลี้ยวซ้าย-ขวา ไฟ LED เบรก / โช๊คสปริง
มาถึงส่วนสำคัญ เรื่องของแบตเตอรี จะวางอยู่ตำแหน่งตรงกลางของตัวถังจักรยานเลย เป็นแบตเตอรีแบบลิเธียม น้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 5 กิโลกรัม ก็ประมาณข้าวสาร 1 ถุง ตามคู่มือบอกว่าสามารถชาร์จไฟฟ้าได้มากกว่า 1,000 รอบ คิดคร่าวๆ ถ้าชาร์จทุกวันก็ใช้งานได้อย่างน้อย 3 ปี แต่เอาจริงเกินกว่านั้นถ้าใช้งานเบาๆ อย่างไปซื้อของ เพราะชาร์จหนึ่งครั้งวิ่งได้ 40-50 กิโลเมตร การชาร์จหนึ่งครั้งตั้งแต่แบต 0 จนถึงเต็ม 4 ขีด จะอยู่ที่ 3-4 ชั่วโมงเอง
แบตเตอรีเราสามารถยกถอดไปชาร์จกับไฟบ้านหรือไฟคอนโดฯ ได้ครับ สะดวกดี ใช้กุญแจไขที่สลักเพื่อปลดล็อกแบตเตอรีก่อน จากนั้นถอดปลั๊กที่เสียบระหว่างแบตฯ กับจักรยาน แล้วยกแบตฯ ออกไป เสียบอะแดปเตอร์ชาร์จกับเต้ารับไฟบ้านได้เลย
นอกจากกุญแจสำหรับสตาร์ท กุญแจตะกร้า กุญแจล็อกล้อหลังแล้ว EM3 มีรีโมตสัญญาณกันขโมยมาให้ด้วยเหมือนกับรีโมตรถยนต์ เวลาเราไปจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อหรือตลาด ถ้ามีคนมาขยับรถ สัญญาณก็จะดังขึ้นเรื่อยๆ หรือถ้ากรณีไปตลาดแล้วลืมว่ารถจอดตรงไหน เราสามารถใช้รีโมตนี้หารถให้เราได้ ด้วยการกดปุ่ม EM ที่ด้านหลัง
[BR] รีวิวจักรยานไฟฟ้า EM3 ปั่นก็ได้ บิดไฟฟ้าก็แรงดี คล่องตัว ไม่ต้องมีทะเบียน บ้านไหนก็ต้องมี
สืบเนื่องจากช่วง WFH จากที่เป็นมนุษย์ออฟฟิศก็กลายมาเป็นมนุษย์บ้าน ทำให้คิดที่จะมองหารถคันเล็กมาใช้งานเบาๆ อย่างการไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อหน้าหมู่บ้าน ไปตลาดใกล้ๆ แทนรถใหญ่ ก็ได้มีโอกาสทดลองใช้งานเจ้ารถจักรยานไฟฟ้า EM3 พอดี ซึ่งหลังจากที่ทดลองใช้มา 1 สัปดาห์ ขี่ออกไปซื้อของ ปั่นออกกำลังกายตอนเย็น โดยรวมค่อนข้างพอใจและคิดว่าน่าสนใจควรค่าที่จะป้ายยาพ่อแม่พี่น้องต่อเป็นทอดๆ 55+
เราขอพูดถึงความประทับใจ ความชอบ หลังจากที่ขี่และปั่น EM3 จนหนำใจ มีทั้งหมด 3 ข้อด้วยกัน โดยเรียงลำดับจากความชอบมากที่สุด
1. ความประหยัด เพราะเจ้านี่เป็นจักรยานไฟฟ้าแบบ 100% ไม่ต้องใช้น้ำมัน ก็ทำให้เราไม่ต้องเสียค่าน้ำมัน อาศัยชาร์จไฟบ้านอย่างเดียว รวมถึงค่าบำรุงรักษาที่เซฟไปได้ประมาณครึ่งต่อครึ่ง
2. ความปลอดภัย ครอบคลุมทั้งตอนใช้งานและไม่ได้ใช้งานครับ มีไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟเบรก รวมถึงมีรีโมตสัญญานกันขโมยด้วย จอดตอนไปซื้อของก็ไม่ต้องห่วงว่าจะมีคนยกจักรยานของเราไป
3. หน้าตารูปร่าง ส่วนตัวมองว่า EM3 เป็นจักรยานไฟฟ้าที่หน้าตาดีพอควร มีความทูอินวัน วินเทจผสมกับทันสมัย การใช้งานง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก ถ้าขี่จักรยานธรรมดาได้ก็ขี่เจ้านี่ได้เลย คล่องพอตัว ลงทุนซื้อคันเดียวใช้งานกันได้ทั้งบ้าน
ก่อนจะรีวิวส่วนต่างๆ ของจักรยานไฟฟ้า EM3 ขอพูดถึงเรื่องการเลือกซื้อสักหน่อย เพราะในท้องตลาดมีหลายแบรนด์หลายเจ้า ส่วนตัวมองว่า จะซื้อของใดๆ ก็ตาม ยิ่งถ้าเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากเรื่องราคา ฟังก์ชันแล้ว เราว่าการเลือกซื้อกับบริษัทที่น่าเชื่อถือก็สำคัญ เพราะอย่างน้อยจะได้มั่นใจว่าซื้อไปแล้ว ใช้ไปแล้วไม่แถมแพมาด้วย ซึ่ง EM3 ก็ประกอบในไทยโดยบริษัท Life’s Moving มีวางขายที่ HomePro
บอดี้รวมๆ จักรยานไฟฟ้า EM3 ไม่เล็กแต่ก็ไม่ใหญ่มาก กลางๆ ซื้อคันเดียวใช้ได้ทั้งพ่อ แม่ ลูก มีทั้งหมด 3 สีให้เลือกซื้อ คือ สีแดง สีส้ม สีทอง ใช้ได้ทั้งระบบ Manual ปั่นเอง และ Auto ระบบไฟฟ้า ข้อดีคือ ก็ไม่ต้องกลัวว่าขี่ๆ อยู่แล้วแบตฯ หมดจะทำอย่างไร ส่วนเรื่อง Max Speed อยู่ที่ 25-30 กิโลเมตร/ชั่วโมง สามารถรับน้ำหนักได้ถึง 150 กิโลกรัม
การรับประกันก็ครอบคลุมทุกสิ่งอย่าง เวลาก็ลดหลั่นกันไปแต่ก็นานพอควร ตัวถัง 5 ปี มอเตอร์ 3 ปี แบตเตอรี 1 ปี และระบบไฟฟ้า 1 ปี แต่ว่าถ้าใช้งานไปแล้วเกิดมีปัญหา ทางบริษัทบอกว่าเราสามารถเรียกเจ้าหน้าที่ให้มาเซอร์วิสที่บ้านได้ด้วย
ด้านหน้ามีตะกร้าใส่ของพร้อมฝาปิด กุญแจล็อก เบาะนั่งคนขับ เบาะนั่งคนซ้อนพร้อมพนักพิงกันตก จะเปลี่ยนเป็นที่วางกล่องส่งสินค้าก็ได้
หน้าจอ Display เป็นแบบ Digital สี ขนาดใหญ่ ดูง่าย ตัวเลขใหญ่ และชัดเจน สู้แสงตอนกลางวันได้พอประมาณ แต่จะหรูหรามากตอนกลางคืน ไว้สำหรับโชว์สถานะของแบตเตอรี ความเร็ว และไฟหน้า
ในส่วนของแฮนด์จับ ไม่ลื่น ไม่บาดมือ ใต้แฮนด์ซ้ายจะเป็นสวิตซ์เปิด-ปิดไฟเลี้ยวที่มาพร้อมกับเสียงเตือน ถ้าใช้ครั้งแรกอาจมีตกใจเล็กน้อย ส่วนสวิตซ์สีแดงด้านล่างจะเป็นแตร แฮนด์ฝั่งขวา จะเป็นตำแหน่งคันเร่ง ฟังก์ชันนี้ีไว้เพื่อความปลอดภัย ถ้าเราจอดโดยตั้ง P ไว้ จะบิดคันเร่งไม่ไป ถ้าต้องการออกตัวกด P อีกครั้งรถก็วิ่งได้เหมือนเดิม
กระจกมองข้างเป็นทรงกลม ให้ความ Vintage ก้านปรับง่ายได้มาตรฐานยุโรป เพิ่มความปลอดภัยยามขับขี่
เสียบกุญแจและบิด ไฟหน้า LED ก็จะติด ระบบไฟสูง ไฟต่ำ
ส่วนอื่นๆ ของจักรยานไฟฟ้า EM3 มาครบสำหรับการใช้งาน และความปลอดภัย วงล้อขนาด 16 นิ้ว/ขาตั้งคู่พร้อมระบบล็อก/ ไฟ LED เลี้ยวซ้าย-ขวา ไฟ LED เบรก / โช๊คสปริง
มาถึงส่วนสำคัญ เรื่องของแบตเตอรี จะวางอยู่ตำแหน่งตรงกลางของตัวถังจักรยานเลย เป็นแบตเตอรีแบบลิเธียม น้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 5 กิโลกรัม ก็ประมาณข้าวสาร 1 ถุง ตามคู่มือบอกว่าสามารถชาร์จไฟฟ้าได้มากกว่า 1,000 รอบ คิดคร่าวๆ ถ้าชาร์จทุกวันก็ใช้งานได้อย่างน้อย 3 ปี แต่เอาจริงเกินกว่านั้นถ้าใช้งานเบาๆ อย่างไปซื้อของ เพราะชาร์จหนึ่งครั้งวิ่งได้ 40-50 กิโลเมตร การชาร์จหนึ่งครั้งตั้งแต่แบต 0 จนถึงเต็ม 4 ขีด จะอยู่ที่ 3-4 ชั่วโมงเอง
แบตเตอรีเราสามารถยกถอดไปชาร์จกับไฟบ้านหรือไฟคอนโดฯ ได้ครับ สะดวกดี ใช้กุญแจไขที่สลักเพื่อปลดล็อกแบตเตอรีก่อน จากนั้นถอดปลั๊กที่เสียบระหว่างแบตฯ กับจักรยาน แล้วยกแบตฯ ออกไป เสียบอะแดปเตอร์ชาร์จกับเต้ารับไฟบ้านได้เลย
นอกจากกุญแจสำหรับสตาร์ท กุญแจตะกร้า กุญแจล็อกล้อหลังแล้ว EM3 มีรีโมตสัญญาณกันขโมยมาให้ด้วยเหมือนกับรีโมตรถยนต์ เวลาเราไปจอดที่หน้าร้านสะดวกซื้อหรือตลาด ถ้ามีคนมาขยับรถ สัญญาณก็จะดังขึ้นเรื่อยๆ หรือถ้ากรณีไปตลาดแล้วลืมว่ารถจอดตรงไหน เราสามารถใช้รีโมตนี้หารถให้เราได้ ด้วยการกดปุ่ม EM ที่ด้านหลัง
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน