เคล็ดลับ เปลี่ยน แบบตู้เสื้อผ้า ได้ตามใจ ครบทุกฟังก์ชันแม้ในพื้นที่อันจำกัด
แบบตู้เสื้อผ้า แม้ว่าปัจจุบันจะมีให้เลือกใช้งานหลากหลายดีไซน์ และหลากหลายฟังก์ชันการใช้งาน เช่น ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน ตู้เสื้อผ้าไม้ ตู้เสื้อผ้าอลูมิเนียม และ ตู้เสื้อผ้าพลาสติก แต่บางครั้งก็ไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานสำหรับครอบครัวที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อันจำกัดอย่างคอนโดมิเนียม และทาวน์โฮม ที่มีพื้นที่สำหรับห้องแต่งตัว หรือ Walk-in Closet ค่อนข้างน้อยได้ เพราะ ด้วยพื้นที่อันจำกัด กับแบบตู้เสื้อผ้าที่ส่วนใหญ่แล้วจะมีดีไซน์ที่ตายตัว และพร้อมใช้งานที่ไม่สามารถออกแบบได้ด้วยตนเองเพิ่มเติมได้ จึงไม่ตอบโจทย์ความต้องการใช้งาน และเพื่อแก้ไขปัญหา แบบตู้เสื้อผ้าไม่ถูกใจของสมาชิกทุกคนในครอบครัว วันนี้
HomeGuru มีเคล็ดลับ เปลี่ยนแบบตู้เสื้อผ้า ได้ตามใจ ครบทุกฟังก์ชันการใช้งาน แม้ในพื้นที่อันจำกัด มาเป็นไอเดียสำหรับทุกบ้านกันครับ
1. เลือก แบบตู้เสื้อผ้า ที่ใช่
การเลือกแบบตู้เสื้อผ้า คือ ปัจจัยแรกที่ทุกบ้านต้องคำนึงถึง เพราะตู้เสื้อผ้าจะอยู่เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งห้องแต่งตัวที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ดังนั้นจึงควรเลือกดีไซน์ การออกแบบที่ชื่นชอบ และตอบโจทย์การใช้งานอย่างคุ้มค่า โดยแยกเป็น ตู้เสื้อผ้าแบบบิวท์อิน หรือ ตู้เสื้อผ้าแบบลอยตัว
ตู้เสื้อผ้าแบบบิวท์อิน หากต้องการบิวท์อินตู้เสื้อผ้าอยากแนะนำให้ทำ walk in closet ไปเลยครับ เพราะทุกบ้านสามารถเลือกวัสดุ และออกแบบดีไซน์ รวมถึงกำหนดขนาด ฟังก์ชันการใช้งานได้ด้วยตนเองว่าจะเลือกเป็น ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน หรือตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิด จะใช้วัสดุเป็นกระจก หรือวัสดุไม้ แต่หากนำไปติดตั้งในพื้นที่อันจำกัดแนะนำให้ใช้ ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน แบบกระจก เพื่อช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่ง และไม่อึดอัดครับ
ตู้เสื้อผ้าแบบลอยตัว ก็มีให้เลือกหลากหลายวัสดุ เช่น ตู้เสื้อผ้าไม้ ตู้เสื้อผ้าอลูมิเนียม และ ตู้เสื้อผ้าพลาสติก ซึ่งข้อดีของตู้เสื้อผ้าชนิดนี้ คือ สามารถเคลื่อนย้ายได้ และมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน แต่จำเป็นต้องวัดขนาดของพื้นที่สำหรับวางตั้งให้แน่นอนเสียก่อน เพื่อให้ง่ายในการติดตั้ง และไม่เสียเวลาในกรณีที่ขนาดของตู้เสื้อผ้าไม่เหมาะสมกับพื้นที่
2. เพิ่มพื้นที่จัดเก็บให้ตู้เสื้อผ้า ด้วยลิ้นชักจัดเก็บ
เมื่อใช้งานตู้เสื้อผ้าไปได้สักระยะ มักจะเจอกับปัญหา พื้นที่จัดเก็บภายใน ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะกับคุณแม่บ้านที่มีจำนวนเสื้อผ้าเพิ่มขึ้นชนิดรายวัน จนคุณพ่อบ้านต้องส่ายหัว การหาวิธีเพิ่มพื้นที่จัดเก็บให้กับตู้เสื้อผ้าในคอนโดมิเนียม เพื่อช่วยจัดระเบียบ และแบ่งแยกสัดส่วนของเสื้อผ้าให้ชัดเจน จึงกลายเป็นเรื่องที่คุณแม่บ้านหลาย ๆ บ้านให้ความสนใจ
ซึ่งหนึ่งในวิธีเพิ่มพื้นที่จัดเก็บให้ตู้เสื้อผ้า คือ การเลือกใช้ไอเทม ลิ้นชักจัดเก็บ หรือกล่องพลาสติกอเนกประสงค์ มาวางตั้งภายใน ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน หรือ ตู้เสื้อผ้าไม้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ และลดการแขวนผ้าบนราวแขวน โดยพื้นที่ภายในลิ้นชักอาจจะใช้เป็นพื้นที่จัดเก็บชุดชั้นใน ชุดนอน ถุงเท้า หรือผ้าเช็ดหน้า เพื่อให้ง่ายต่อการหยิบใช้งาน
3. ไม้แขวนเสื้อ มีหลากดีไซน์ เลือกให้ตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งาน
ไม้แขวนเสื้อ เป็นอุปกรณ์ตัวช่วยแขวนผ้าภายใน ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน ให้เป็นระเบียบ และไม่ยุ่งยากในการหยิบจับ เหมือนแบบพับเก็บ ซึ่งทุกบ้านสามารถเลือกใช้ไม้แขวนเสื้อได้ตามใจชอบ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว 1 ไม้แขวนเสื้อ จะสามารถแขวนเสื้อ หรือกางเกงได้เพียง 1 ตัวเท่านั้น แต่หากลองเปลี่ยนมาใช้ไม้แขวนเสื้อที่มี ดีไซน์ และฟังก์ชันการใช้งานที่สามารถแขวนเสื้อผ้าได้มากขึ้น ก็จะช่วยให้ตู้เสื้อผ้ามีพื้นที่สำหรับฟังก์ชันการใช้งานอื่นเพิ่มขึ้นด้วยครับ
4. จัดระเบียบเสื้อผ้าแยกเป็นสัดส่วน สิ่งไหนไม่จำเป็นให้แยกออก
เมื่อพื้นที่ใช้สอยภายใน ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน หรือ ตู้เสื้อผ้าไม้ มีจำกัด การจัดระเบียบเสื้อผ้าภายในตู้จึงกลายเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงไม่แพ้กัน เพราะหากปล่อยให้ตู้เสื้อผ้ารก ชีวิตก็อาจจะยุ่งเหยิงตามไปด้วย เพราะต้องคอยรื้อหาเสื้อผ้าที่ต้องใส่ในแต่ละวันจนเสียเวลา
แม้ตู้เสื้อผ้าจะมีพื้นที่จำกัด แต่การจัดเก็บตู้เสื้อผ้าให้เป็นสัดส่วน และเป็นระเบียบก็ไม่น่าจะใช่ปัญหาใหญ่ เพียงแค่เลือกเสื้อผ้าที่ไม่จำเป็นในการใช้งานแยกออกไว้นอกตู้เสื้อผ้า โดยหากล่องจัดเก็บมาใส่ให้เป็นที่เป็นทาง หรือหากเตียงนอนมีลิ้นชักจัดเก็บ ก็อาจจะใช้พื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่จัดเก็บเสื้อผ้าแทน หรือเลือกกล่องจัดเก็บที่สามารถ DIY มาวางตั้งต่อกันได้ ก็จะช่วยเพิ่มพื้นที่ และฟังก์ชันการใช้งานภายในตู้เสื้อผ้าได้มากขึ้นแล้วครับ
ทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับ เปลี่ยน แบบตู้เสื้อผ้า ได้ตามใจ ครบทุกฟังก์ชันการใช้งาน แม้จะอยู่ในพื้นที่อันจำกัดที่ทุกบ้านสามารถลงมือทำได้ด้วยตนเองง่าย ๆ ไม่ว่าปัจจุบันจะใช้ ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน ตู้เสื้อผ้าไม้ ตู้เสื้อผ้าอลูมิเนียม หรือ ตู้เสื้อผ้าพลาสติก อยู่ก็ตามครับ
HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง
http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง
https://bit.ly/3dQm4XE
เคล็ดลับเปลี่ยนแบบตู้เสื้อผ้าได้ตามใจ ครบทุกฟังก์ชันแม้ในพื้นที่อันจำกัด
เคล็ดลับ เปลี่ยน แบบตู้เสื้อผ้า ได้ตามใจ ครบทุกฟังก์ชันแม้ในพื้นที่อันจำกัด
แบบตู้เสื้อผ้า แม้ว่าปัจจุบันจะมีให้เลือกใช้งานหลากหลายดีไซน์ และหลากหลายฟังก์ชันการใช้งาน เช่น ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน ตู้เสื้อผ้าไม้ ตู้เสื้อผ้าอลูมิเนียม และ ตู้เสื้อผ้าพลาสติก แต่บางครั้งก็ไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานสำหรับครอบครัวที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อันจำกัดอย่างคอนโดมิเนียม และทาวน์โฮม ที่มีพื้นที่สำหรับห้องแต่งตัว หรือ Walk-in Closet ค่อนข้างน้อยได้ เพราะ ด้วยพื้นที่อันจำกัด กับแบบตู้เสื้อผ้าที่ส่วนใหญ่แล้วจะมีดีไซน์ที่ตายตัว และพร้อมใช้งานที่ไม่สามารถออกแบบได้ด้วยตนเองเพิ่มเติมได้ จึงไม่ตอบโจทย์ความต้องการใช้งาน และเพื่อแก้ไขปัญหา แบบตู้เสื้อผ้าไม่ถูกใจของสมาชิกทุกคนในครอบครัว วันนี้ HomeGuru มีเคล็ดลับ เปลี่ยนแบบตู้เสื้อผ้า ได้ตามใจ ครบทุกฟังก์ชันการใช้งาน แม้ในพื้นที่อันจำกัด มาเป็นไอเดียสำหรับทุกบ้านกันครับ
1. เลือก แบบตู้เสื้อผ้า ที่ใช่
การเลือกแบบตู้เสื้อผ้า คือ ปัจจัยแรกที่ทุกบ้านต้องคำนึงถึง เพราะตู้เสื้อผ้าจะอยู่เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งห้องแต่งตัวที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ดังนั้นจึงควรเลือกดีไซน์ การออกแบบที่ชื่นชอบ และตอบโจทย์การใช้งานอย่างคุ้มค่า โดยแยกเป็น ตู้เสื้อผ้าแบบบิวท์อิน หรือ ตู้เสื้อผ้าแบบลอยตัว
ตู้เสื้อผ้าแบบบิวท์อิน หากต้องการบิวท์อินตู้เสื้อผ้าอยากแนะนำให้ทำ walk in closet ไปเลยครับ เพราะทุกบ้านสามารถเลือกวัสดุ และออกแบบดีไซน์ รวมถึงกำหนดขนาด ฟังก์ชันการใช้งานได้ด้วยตนเองว่าจะเลือกเป็น ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน หรือตู้เสื้อผ้าแบบบานเปิด จะใช้วัสดุเป็นกระจก หรือวัสดุไม้ แต่หากนำไปติดตั้งในพื้นที่อันจำกัดแนะนำให้ใช้ ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน แบบกระจก เพื่อช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่ง และไม่อึดอัดครับ
ตู้เสื้อผ้าแบบลอยตัว ก็มีให้เลือกหลากหลายวัสดุ เช่น ตู้เสื้อผ้าไม้ ตู้เสื้อผ้าอลูมิเนียม และ ตู้เสื้อผ้าพลาสติก ซึ่งข้อดีของตู้เสื้อผ้าชนิดนี้ คือ สามารถเคลื่อนย้ายได้ และมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน แต่จำเป็นต้องวัดขนาดของพื้นที่สำหรับวางตั้งให้แน่นอนเสียก่อน เพื่อให้ง่ายในการติดตั้ง และไม่เสียเวลาในกรณีที่ขนาดของตู้เสื้อผ้าไม่เหมาะสมกับพื้นที่
2. เพิ่มพื้นที่จัดเก็บให้ตู้เสื้อผ้า ด้วยลิ้นชักจัดเก็บ
เมื่อใช้งานตู้เสื้อผ้าไปได้สักระยะ มักจะเจอกับปัญหา พื้นที่จัดเก็บภายใน ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะกับคุณแม่บ้านที่มีจำนวนเสื้อผ้าเพิ่มขึ้นชนิดรายวัน จนคุณพ่อบ้านต้องส่ายหัว การหาวิธีเพิ่มพื้นที่จัดเก็บให้กับตู้เสื้อผ้าในคอนโดมิเนียม เพื่อช่วยจัดระเบียบ และแบ่งแยกสัดส่วนของเสื้อผ้าให้ชัดเจน จึงกลายเป็นเรื่องที่คุณแม่บ้านหลาย ๆ บ้านให้ความสนใจ
ซึ่งหนึ่งในวิธีเพิ่มพื้นที่จัดเก็บให้ตู้เสื้อผ้า คือ การเลือกใช้ไอเทม ลิ้นชักจัดเก็บ หรือกล่องพลาสติกอเนกประสงค์ มาวางตั้งภายใน ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน หรือ ตู้เสื้อผ้าไม้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ และลดการแขวนผ้าบนราวแขวน โดยพื้นที่ภายในลิ้นชักอาจจะใช้เป็นพื้นที่จัดเก็บชุดชั้นใน ชุดนอน ถุงเท้า หรือผ้าเช็ดหน้า เพื่อให้ง่ายต่อการหยิบใช้งาน
3. ไม้แขวนเสื้อ มีหลากดีไซน์ เลือกให้ตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งาน
ไม้แขวนเสื้อ เป็นอุปกรณ์ตัวช่วยแขวนผ้าภายใน ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน ให้เป็นระเบียบ และไม่ยุ่งยากในการหยิบจับ เหมือนแบบพับเก็บ ซึ่งทุกบ้านสามารถเลือกใช้ไม้แขวนเสื้อได้ตามใจชอบ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว 1 ไม้แขวนเสื้อ จะสามารถแขวนเสื้อ หรือกางเกงได้เพียง 1 ตัวเท่านั้น แต่หากลองเปลี่ยนมาใช้ไม้แขวนเสื้อที่มี ดีไซน์ และฟังก์ชันการใช้งานที่สามารถแขวนเสื้อผ้าได้มากขึ้น ก็จะช่วยให้ตู้เสื้อผ้ามีพื้นที่สำหรับฟังก์ชันการใช้งานอื่นเพิ่มขึ้นด้วยครับ
4. จัดระเบียบเสื้อผ้าแยกเป็นสัดส่วน สิ่งไหนไม่จำเป็นให้แยกออก
เมื่อพื้นที่ใช้สอยภายใน ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน หรือ ตู้เสื้อผ้าไม้ มีจำกัด การจัดระเบียบเสื้อผ้าภายในตู้จึงกลายเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงถึงไม่แพ้กัน เพราะหากปล่อยให้ตู้เสื้อผ้ารก ชีวิตก็อาจจะยุ่งเหยิงตามไปด้วย เพราะต้องคอยรื้อหาเสื้อผ้าที่ต้องใส่ในแต่ละวันจนเสียเวลา
แม้ตู้เสื้อผ้าจะมีพื้นที่จำกัด แต่การจัดเก็บตู้เสื้อผ้าให้เป็นสัดส่วน และเป็นระเบียบก็ไม่น่าจะใช่ปัญหาใหญ่ เพียงแค่เลือกเสื้อผ้าที่ไม่จำเป็นในการใช้งานแยกออกไว้นอกตู้เสื้อผ้า โดยหากล่องจัดเก็บมาใส่ให้เป็นที่เป็นทาง หรือหากเตียงนอนมีลิ้นชักจัดเก็บ ก็อาจจะใช้พื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่จัดเก็บเสื้อผ้าแทน หรือเลือกกล่องจัดเก็บที่สามารถ DIY มาวางตั้งต่อกันได้ ก็จะช่วยเพิ่มพื้นที่ และฟังก์ชันการใช้งานภายในตู้เสื้อผ้าได้มากขึ้นแล้วครับ
ทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับ เปลี่ยน แบบตู้เสื้อผ้า ได้ตามใจ ครบทุกฟังก์ชันการใช้งาน แม้จะอยู่ในพื้นที่อันจำกัดที่ทุกบ้านสามารถลงมือทำได้ด้วยตนเองง่าย ๆ ไม่ว่าปัจจุบันจะใช้ ตู้เสื้อผ้าบานเลื่อน ตู้เสื้อผ้าไม้ ตู้เสื้อผ้าอลูมิเนียม หรือ ตู้เสื้อผ้าพลาสติก อยู่ก็ตามครับ
HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง https://bit.ly/3dQm4XE