สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
เขาพูดตั้งแต่แรกๆที่คุณคบกัน แปลว่าถ้าคุณจะคบเขาต่อ คุณต้องยอมรับข้อเสนอเขาครับ
ถ้าคุณคิดว่าคุณทนคบมา(คาดหวังว่า)เพื่อสักวันเขาจะเปลี่ยนใจ แล้วเอามาคิดว่าเขาไม่ให้คุณค่า
คุณไม่ดี ผมว่าคุณเป็นคนที่แก้ปัญหาและมีวิธีคิดที่ไม่ดีครับ คุณมาท้อเพราะสิ่งที่คุณพยายาม
มันไม่ได้ทำให้ผลลัพธ์เปลี่ยนไป ความคาดหวังของคุณยังอยู่หรือเปล่า?
เขาแฟร์กับคุณแล้ว คุณนี่แหละที่ไม่แฟร์กับเขา เขาก็เสียเวลา 6 ปีเช่นกัน
แต่ถ้าคุณจะเลิกเพื่อไปหาชีวิตตามแนวทางของคุณก็ได้ครับ เขาพูดแล้วว่าเขาไม่ติดใจอะไร
ถ้าคุณคิดว่าคุณทนคบมา(คาดหวังว่า)เพื่อสักวันเขาจะเปลี่ยนใจ แล้วเอามาคิดว่าเขาไม่ให้คุณค่า
คุณไม่ดี ผมว่าคุณเป็นคนที่แก้ปัญหาและมีวิธีคิดที่ไม่ดีครับ คุณมาท้อเพราะสิ่งที่คุณพยายาม
มันไม่ได้ทำให้ผลลัพธ์เปลี่ยนไป ความคาดหวังของคุณยังอยู่หรือเปล่า?
เขาแฟร์กับคุณแล้ว คุณนี่แหละที่ไม่แฟร์กับเขา เขาก็เสียเวลา 6 ปีเช่นกัน
แต่ถ้าคุณจะเลิกเพื่อไปหาชีวิตตามแนวทางของคุณก็ได้ครับ เขาพูดแล้วว่าเขาไม่ติดใจอะไร
ความคิดเห็นที่ 5
กลัวโดนฮุบสมบัติ ??
ถ้าที่ดิน หรือทรัพย์สินอื่นๆ ได้มาหลังจากจดทะเบียนสมรส...
จริงๆ ผมว่ามันก็แฟร์ๆนะที่จะหารสองแบ่งกัน จะไปเรียกว่าฮุบคงไม่ได้....
และหากที่ดินได้มาก่อนจดทะเบียนสมรส.... หลังโฉนดมันก็แสดงวันที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าได้มาเมื่อไหร่...
คู่สมรสจะมาฮุบไปได้ยังไงกัน ??
อย่างไรก็ตาม....
หากเขากังวลเรื่องคุณจะมาฮุบสมบัติจริงๆ.... " สัญญาก่อนสมรส " อาจช่วยคุณได้....
ระบุในสัญญาไว้ให้ชัดเจนเลยว่าจะจัดการเรื่องทรัพย์สินอย่างไร....
ก่อนสมรสแต่ละฝ่ายมีทรัพย์สินอะไรบ้าง... ระหว่างสมรสจะจัดการทรัพย์สินที่ได้มาอย่างไร... ฯลฯ
แล้วแนบท้ายไปกับทะเบียนสมรส โดยระบุไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียนสมรสว่าได้มีสัญญานั้นแนบไว้...
ถ้าที่ดิน หรือทรัพย์สินอื่นๆ ได้มาหลังจากจดทะเบียนสมรส...
จริงๆ ผมว่ามันก็แฟร์ๆนะที่จะหารสองแบ่งกัน จะไปเรียกว่าฮุบคงไม่ได้....
และหากที่ดินได้มาก่อนจดทะเบียนสมรส.... หลังโฉนดมันก็แสดงวันที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าได้มาเมื่อไหร่...
คู่สมรสจะมาฮุบไปได้ยังไงกัน ??
อย่างไรก็ตาม....
หากเขากังวลเรื่องคุณจะมาฮุบสมบัติจริงๆ.... " สัญญาก่อนสมรส " อาจช่วยคุณได้....
ระบุในสัญญาไว้ให้ชัดเจนเลยว่าจะจัดการเรื่องทรัพย์สินอย่างไร....
ก่อนสมรสแต่ละฝ่ายมีทรัพย์สินอะไรบ้าง... ระหว่างสมรสจะจัดการทรัพย์สินที่ได้มาอย่างไร... ฯลฯ
แล้วแนบท้ายไปกับทะเบียนสมรส โดยระบุไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียนสมรสว่าได้มีสัญญานั้นแนบไว้...
ความคิดเห็นที่ 4
เคยอ่านในกระทู้พันทิปนี่แหละ แต่งงานกันเป็นสิบปี ไม่จดทะเบียนสมรส
ผู้ชายไปมีเมียน้อย แถมมีลูกอีก ผู้หญิงก็อกตรมเลย เพราะตัวเองไม่มีทะเบียนสมรส เมียน้อยก็จะเอาสามีตัวเองไปจดทะเบียนเพราะเค้ามีลูกด้วยกัน ตัวเองจะรีบไปจด เมียน้อยก็ระราน ไม่ยอมให้จด ผู้ชายน้ำท่วมปาก ไม่เอาอะไรสักทาง โอ้โห อิรุงตุงนังมาก
ผู้ชายคนนี้เห็นแก่ตัวค่ะ ถ้ากลัวโดนฮุบสมบัติ มันมีวิธีจัดการมากมายค่ะ แค่คุยให้เคลียร์กันว่าสมบัติชิ้นไหน ของใครๆ แบ่งสินสมรสกันให้ชัดเจนก็จบ เอาเรื่องนี้มาอ้างเพื่อจะไม่จดทะเบียนคือฉลาดน้อยและเห็นแก่ตัวมาก ความสามารถในการแก้ปัญหาชีวิตมีแค่นี้เองหรอ
คุณยื่นคำขาดไปเลยค่ะ ถ้าเค้ายังยืนยันว่าจะไม่จดทะเบียนแน่นอน คุณบอกเลิกไปเลย อันนี้จริงจังนะ ต้องตัดใจให้ได้ ก่อนอายุจะเยอะกว่านี้ (ก็ไม่ได้อยากเชียร์ให้ใครเลิกกันเท่าไรหรอก แต่ผู้ชายทรงไม่ดีเลย)
ถ้าคบไปเรื่อยๆแบบไม่จดทะเบียน เดี๋ยวก็มีเรื่องมาให้คุณทุกข์ระทมแน่นอน มีเมียเล็กเมียน้อยแล้วหายไปก็ไม่เท่าไร กลัวแต่เมียน้อยมันมีทะเบียนขึ้นมา จะกลายเป็นภรรยานอกกฎหมายโดยสมบูรณ์
ผู้ชายไปมีเมียน้อย แถมมีลูกอีก ผู้หญิงก็อกตรมเลย เพราะตัวเองไม่มีทะเบียนสมรส เมียน้อยก็จะเอาสามีตัวเองไปจดทะเบียนเพราะเค้ามีลูกด้วยกัน ตัวเองจะรีบไปจด เมียน้อยก็ระราน ไม่ยอมให้จด ผู้ชายน้ำท่วมปาก ไม่เอาอะไรสักทาง โอ้โห อิรุงตุงนังมาก
ผู้ชายคนนี้เห็นแก่ตัวค่ะ ถ้ากลัวโดนฮุบสมบัติ มันมีวิธีจัดการมากมายค่ะ แค่คุยให้เคลียร์กันว่าสมบัติชิ้นไหน ของใครๆ แบ่งสินสมรสกันให้ชัดเจนก็จบ เอาเรื่องนี้มาอ้างเพื่อจะไม่จดทะเบียนคือฉลาดน้อยและเห็นแก่ตัวมาก ความสามารถในการแก้ปัญหาชีวิตมีแค่นี้เองหรอ
คุณยื่นคำขาดไปเลยค่ะ ถ้าเค้ายังยืนยันว่าจะไม่จดทะเบียนแน่นอน คุณบอกเลิกไปเลย อันนี้จริงจังนะ ต้องตัดใจให้ได้ ก่อนอายุจะเยอะกว่านี้ (ก็ไม่ได้อยากเชียร์ให้ใครเลิกกันเท่าไรหรอก แต่ผู้ชายทรงไม่ดีเลย)
ถ้าคบไปเรื่อยๆแบบไม่จดทะเบียน เดี๋ยวก็มีเรื่องมาให้คุณทุกข์ระทมแน่นอน มีเมียเล็กเมียน้อยแล้วหายไปก็ไม่เท่าไร กลัวแต่เมียน้อยมันมีทะเบียนขึ้นมา จะกลายเป็นภรรยานอกกฎหมายโดยสมบูรณ์
ความคิดเห็นที่ 7
ผู้ชายเค้าโดนปลูกฝังมาไว้แบบนั้นค่ะ ไม่ใช่ว่าเค้ารักคุณไม่พอ เค้ามีจุดยืนในใจแล้ว
คนรักกัน มักไม่ค่อยคิดถึงตอนเลิกกัน ไม่รักกัน เกลียดกัน(เราเองก็นึกไม่ออกเหมือนกัน)
จากปสก.เพื่อนผู้ชายในชีวิต 3 คนแล้วค่ะที่หย่าร้างกับภรรยาเก่าไปด้วยเหตุผลต่างกัน ผู้หญิงมีชู้ 2, เหตุผลส่วนตัว 1 ทั้ง 3 คนต้องยกบ้านที่อยู่ให้กับฝ่ายหญิงหมด ไม่ว่าจะมีลูกด้วยกันหรือไม่ ถ้ามีลูกก็ต้องเลี้ยงดูส่งเสีย แต่ที่แน่ๆบ้านของผู้ชายไปอยู่กับผู้หญิงหมดเลยทั้ง 3 คน
เราก็ไม่รู้นะว่าควรรู้สึกยังไง สายตาคนนอกอย่างเรายังแปลกใจว่าทำไมผู้ชายต้องเป็นฝ่ายไม่เหลืออะไรด้วย ทำไมวะทำไม
เราเป็นผู้หญิงนะ เป็นคนคลั่งรัก รักหมดใจ ถ้าหากวันนึงมีเหตุให้ต้องหย่าร้างกัน เราให้ผู้ชายไม่มีบ้านอยู่ไม่ได้อะค่ะ
แต่สถานการณ์แต่ละคู่ไม่เหมือนกันค่ะ ทั้ง 3 คนสภาพเดียวกันหมด ต้องยกให้ผู้หญิง แล้วตัวเองออกมาเช่า หรือย้ายกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่
คุณลองคิดดูเล่นๆว่าการเติบโตมาในครอบครัวที่ล้มเหลวและเห็นเหตุการณ์สไตล์นี้ จะให้เค้ามองโลกสวยงามลาเวนเดอร์มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก
ลองคิดดูดีๆ ชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียที่เค้ามี เพราะเค้าก็ชัดเจนมาตั้งแต่แรกเลย และเรามองว่าถ้าเค้าห่วงเรื่องนี้ คุณลองหาวิธี หาข้อมูลไปพูดคุยดีมั๊ย มันมีกฏหมายเรื่องทรัพย์สินอยู่ ต้องการจดอะไรไว้เป็นของตัวเองก็ทำได้หมด
เราเป็นคนนึงที่ไม่เห็นประโยชน์ของการจดทะเบียนมาก่อน เรามองว่าเราไม่อยากดึงรั้งหัวใจผู้ชายหนึ่งคนไว้ด้วยกระดาษหนึ่งใบ
แต่โตมาเรื่อยๆก็รู้ว่าการจดทะเบียนสมรส ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องไว้แค่ฟ้องชู้ เมียน้อย หรือไว้เพื่อทรัพย์สินของลูกเรา(ในกรณีที่จะมี) จดทะเบียนสมรสเป็นนิติกรรมที่ทำให้เราและคู่สมรส ถูกต้องตามกฏหมาย ตามธรรมเนียมและประเพณีที่ถูกต้อง พ่อแม่เราสบายใจ สังคมให้การยอมรับ และทำให้เราสองคนได้คิดทบทวนให้ดีเมื่อจะตัดสินใจกระทำการใดๆ เพราะเหมือนแทบอีกหนึ่งบุคคลเสมอ นั่นทำให้เราอยากจดค่ะ เราต้องการเป็นคนๆเดียวกับเค้าในทุก angle และนั่นคือมีทั้งส่วนที่ดีและไม่ดี แฟนคุณอาจจะยังไม่ได้รับรู้ถึงข้อดีของมันเลยก็ได้
เราว่าลองพูดคุยให้เค้าเห็นว่าคุณมองเห็นอะไร เค้ามองอะไร และเราสองคนปรับโฟกัสทั้งคู่ให้มองร่วมกันได้มั๊ย ขอให้โชคดีค่ะ
คนรักกัน มักไม่ค่อยคิดถึงตอนเลิกกัน ไม่รักกัน เกลียดกัน(เราเองก็นึกไม่ออกเหมือนกัน)
จากปสก.เพื่อนผู้ชายในชีวิต 3 คนแล้วค่ะที่หย่าร้างกับภรรยาเก่าไปด้วยเหตุผลต่างกัน ผู้หญิงมีชู้ 2, เหตุผลส่วนตัว 1 ทั้ง 3 คนต้องยกบ้านที่อยู่ให้กับฝ่ายหญิงหมด ไม่ว่าจะมีลูกด้วยกันหรือไม่ ถ้ามีลูกก็ต้องเลี้ยงดูส่งเสีย แต่ที่แน่ๆบ้านของผู้ชายไปอยู่กับผู้หญิงหมดเลยทั้ง 3 คน
เราก็ไม่รู้นะว่าควรรู้สึกยังไง สายตาคนนอกอย่างเรายังแปลกใจว่าทำไมผู้ชายต้องเป็นฝ่ายไม่เหลืออะไรด้วย ทำไมวะทำไม
เราเป็นผู้หญิงนะ เป็นคนคลั่งรัก รักหมดใจ ถ้าหากวันนึงมีเหตุให้ต้องหย่าร้างกัน เราให้ผู้ชายไม่มีบ้านอยู่ไม่ได้อะค่ะ
แต่สถานการณ์แต่ละคู่ไม่เหมือนกันค่ะ ทั้ง 3 คนสภาพเดียวกันหมด ต้องยกให้ผู้หญิง แล้วตัวเองออกมาเช่า หรือย้ายกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่
คุณลองคิดดูเล่นๆว่าการเติบโตมาในครอบครัวที่ล้มเหลวและเห็นเหตุการณ์สไตล์นี้ จะให้เค้ามองโลกสวยงามลาเวนเดอร์มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก
ลองคิดดูดีๆ ชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียที่เค้ามี เพราะเค้าก็ชัดเจนมาตั้งแต่แรกเลย และเรามองว่าถ้าเค้าห่วงเรื่องนี้ คุณลองหาวิธี หาข้อมูลไปพูดคุยดีมั๊ย มันมีกฏหมายเรื่องทรัพย์สินอยู่ ต้องการจดอะไรไว้เป็นของตัวเองก็ทำได้หมด
เราเป็นคนนึงที่ไม่เห็นประโยชน์ของการจดทะเบียนมาก่อน เรามองว่าเราไม่อยากดึงรั้งหัวใจผู้ชายหนึ่งคนไว้ด้วยกระดาษหนึ่งใบ
แต่โตมาเรื่อยๆก็รู้ว่าการจดทะเบียนสมรส ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องไว้แค่ฟ้องชู้ เมียน้อย หรือไว้เพื่อทรัพย์สินของลูกเรา(ในกรณีที่จะมี) จดทะเบียนสมรสเป็นนิติกรรมที่ทำให้เราและคู่สมรส ถูกต้องตามกฏหมาย ตามธรรมเนียมและประเพณีที่ถูกต้อง พ่อแม่เราสบายใจ สังคมให้การยอมรับ และทำให้เราสองคนได้คิดทบทวนให้ดีเมื่อจะตัดสินใจกระทำการใดๆ เพราะเหมือนแทบอีกหนึ่งบุคคลเสมอ นั่นทำให้เราอยากจดค่ะ เราต้องการเป็นคนๆเดียวกับเค้าในทุก angle และนั่นคือมีทั้งส่วนที่ดีและไม่ดี แฟนคุณอาจจะยังไม่ได้รับรู้ถึงข้อดีของมันเลยก็ได้
เราว่าลองพูดคุยให้เค้าเห็นว่าคุณมองเห็นอะไร เค้ามองอะไร และเราสองคนปรับโฟกัสทั้งคู่ให้มองร่วมกันได้มั๊ย ขอให้โชคดีค่ะ
ความคิดเห็นที่ 17
เคสนี้สลับขั้วกันกับผมเลยนะครับ
ผมนี่ต้องโน้มน้าวให้ภรรยาจดทะเบียน เพราะกลัวว่าเราเป็นอะไรไปขึ้นมาแล้วเค้าจะไม่ได้ผลประโยชน์ต้องมานั่งบริหารจัดการพินัยกรรมอีก แต่งไปแล้วสามปีกว่าเค้าถึงยอมไปจด
ตอบตรงๆในมุมมองผู้ชายเลยนะครับ
ผู้ชายเอาเปรียบคุณมากครับ
กรณีนี้ อยู่ที่คุณเลยครับต้องเด็ดขาด ถ้าไม่จดก็เลิกกันแล้วไปหาคนที่เค้าพร้อมรับเรื่องนี้ครับ เพราะเป้าหมายไม่ตรงกันตั้งแต่แรก
อยู่ไปทะเลาะกันแน่นอน และยิ่งเป็นเรื่องผลประโยชน์ด้วยแล้วแสดงว่าฝ่ายชายไม่ใส่ใจครับ
อาจจะแรงไป แต่ผมมองจากมุมมองผู้ชายด้วยกันแล้ว แบบนี้เค้าห่วงเรื่องผลประโยชน์มากครับ ไม่ว่าจะก่อนแต่งหรือหลังแต่ง จะจดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียน เค้าตั้งธงไว้แล้ว ยังไงก็ไม่เปลี่ยนใจครับ เพราะตามที่คุณว่าเลย คุณพยายามเลิกแล้วแต่เค้าไม่ยอมเลิก แต่จะเอาแต่ที่ตัวเองอยากได้ ไม่ได้สนใจความต้องการของอีกฝ่าย
ผมนี่ต้องโน้มน้าวให้ภรรยาจดทะเบียน เพราะกลัวว่าเราเป็นอะไรไปขึ้นมาแล้วเค้าจะไม่ได้ผลประโยชน์ต้องมานั่งบริหารจัดการพินัยกรรมอีก แต่งไปแล้วสามปีกว่าเค้าถึงยอมไปจด
ตอบตรงๆในมุมมองผู้ชายเลยนะครับ
ผู้ชายเอาเปรียบคุณมากครับ
กรณีนี้ อยู่ที่คุณเลยครับต้องเด็ดขาด ถ้าไม่จดก็เลิกกันแล้วไปหาคนที่เค้าพร้อมรับเรื่องนี้ครับ เพราะเป้าหมายไม่ตรงกันตั้งแต่แรก
อยู่ไปทะเลาะกันแน่นอน และยิ่งเป็นเรื่องผลประโยชน์ด้วยแล้วแสดงว่าฝ่ายชายไม่ใส่ใจครับ
อาจจะแรงไป แต่ผมมองจากมุมมองผู้ชายด้วยกันแล้ว แบบนี้เค้าห่วงเรื่องผลประโยชน์มากครับ ไม่ว่าจะก่อนแต่งหรือหลังแต่ง จะจดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียน เค้าตั้งธงไว้แล้ว ยังไงก็ไม่เปลี่ยนใจครับ เพราะตามที่คุณว่าเลย คุณพยายามเลิกแล้วแต่เค้าไม่ยอมเลิก แต่จะเอาแต่ที่ตัวเองอยากได้ ไม่ได้สนใจความต้องการของอีกฝ่าย
แสดงความคิดเห็น
จะทำอย่างไรดีคะ เมื่อแฟนอยากจัดงานแต่งแต่ไม่จดทะเบียนสมรส
ปล.ถ้าพิมพ์อะไรตกหล่นต้องขออภัยด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ