จะทำอย่างไรดีคะ เมื่อแฟนอยากจัดงานแต่งแต่ไม่จดทะเบียนสมรส

สวัสดีค่ะ เกริ่นก่อนว่า เราคบกับแฟนได้ 6 ปีแล้ว เขาเคยพูดตั้งแต่คบแรกๆเลยว่า ถ้าแต่งงานกันจะจัดงานแต่งนะ แต่ไม่จดทะเบียนสมรส  เราแค่อยากจดทะเบียนสมรสธรรมดาๆไม่ต้องการจัดงานแต่งใดๆทั้งสิ้น เพราะรู้สึกสิ้นเปลือง และคิดว่าแค่จดทะเบียนสมรสก็พอแล้ว อีกอย่างที่อยากจดนั้นเพื่อความมั่นคงแค่นั้นเอง แต่แฟนบอกว่าก็แค่กระดาษใบเดียวโง่ๆแค่นั้นเอง เขาให้เหตุผลว่า พ่อเขาไม่อยากให้จดทะเบียนสมรส ไม่งั้นไม่ให้แต่ง เพราะว่าพ่อเขาเคยโดนแม่ฮุบของ ที่ดินไปหมดทุกอย่างจากการจดทะเบียนสมรส เขาไม่อยากเจริญรอยตามพ่อ กลัวเป็นเหมือนแม่ เราก็บอกเขานะว่าไม่เคยคิดจะมาแย่งสมบัติอะไรทั้งนั้น คิดว่าเป็นคนแบบนั้นเหรอ เขาก็บอกว่าไม่ แต่เขาก็ยืนยันคำเดิม จนล่าสุดเราบังเอิญไปเจอเรื่องเกี่ยวกับชู้สาวมาในทวีตเตอร์ ต้องบอกก่อนว่าแฟนเป็นไม่เล่น social อะไรเลย แล้วที่นี้เราก็ไปเล่าให้เขาฟัง ก็คุยกันเล่นๆ ว่าถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่จดทะเบียนสมรสจะฟ้องร้องชู้อย่างไรบ้าง แล้วมันก็ดันกลายเป็นประเด็นขึ้นมาเฉยๆ เลย เขาพูดถึงเรื่องจดทะเบียนสมรสอีกแล้ว ว่าไม่จดนะ แต่ถ้าแต่งงานมีลูกจะจดทะเบียนรับรองบุตรอย่างเดียวเท่านั้น ก็เลยถามกลับไปว่า ยังคิดแบบนี้อยู่อีกเหรอ? เขาก็ยืนยันคำเดิม หลังจากนั้นเราก็เงียบ ปล่อยให้เขาพูดไป แล้วเขาก็บอกว่า ก็เคยบอกไปตั้งแต่แรกแล้วนี่ ลืมเหรอ? เราก็บอกว่า ไม่ลืม แต่ไม่คิดว่ายังคิดแบบนี้อยู่ ถ้าเป็นแบบนี้ไม่ต้องแต่งกันดีกว่า ต่างคนต่างอยู่แบบนี้ต่อไปเถอะ แต่ในใจเราคิดว่า เราไม่ดีขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่มีค่าพอให้เขาจดทะเบียนสมรสกับเขาเลยเหรอ เราเลวร้ายขนาดนั้นเลยหรือไงนะ ที่คบมาไม่มีความดีให้เขาเห็นเลยเหรอ แล้วเขาก็จบประโยคว่า ถ้าเขาไม่ดีพอ ก็ไปได้เลยนะไม่ติดใจอะไร...........ได้แต่แบบ นี่เราต้องยอมเขาเหรอวะ มันไม่งี่เง่าเกินไปหน่อยเหรอ ที่ผ่านมาคืออะไร ไม่ใช่เขาไม่มีอะไรดีนะ เขาก็ดีกับเราทุกอย่าง แต่แค่ติดใจเรื่องนี้อย่างเดียวเลย แล้วมันก็รู้สึกตันๆ จะเอาอย่างไงต่อดี ทั้งๆที แค่อยากได้ความมั่นคงแค่นั้นเอง จะไปต่อหรือพอแค่นี้จริงๆ รู้สึกเหนื่อยแปลกๆ ไม่เห็นคุณค่ากันเลยหรือยังไง จริงๆก็เคยบอกเลิกหลายครั้งเหมือนกันนะ แต่ก็แบบเขาไม่อยากเลิก แต่พอล่าสุดเป็นแบบนี้ แล้วเขาก็บอกแบบนี้ รู้สึกคิดผิดยังไงก็ไม่รู้ มันท้อมากๆเลย เราควรทำอย่างไรต่อไปดีคะ หรือเราควรยอมเขาจริงๆ  
ปล.ถ้าพิมพ์อะไรตกหล่นต้องขออภัยด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
เขาพูดตั้งแต่แรกๆที่คุณคบกัน แปลว่าถ้าคุณจะคบเขาต่อ คุณต้องยอมรับข้อเสนอเขาครับ

ถ้าคุณคิดว่าคุณทนคบมา(คาดหวังว่า)เพื่อสักวันเขาจะเปลี่ยนใจ แล้วเอามาคิดว่าเขาไม่ให้คุณค่า
คุณไม่ดี ผมว่าคุณเป็นคนที่แก้ปัญหาและมีวิธีคิดที่ไม่ดีครับ คุณมาท้อเพราะสิ่งที่คุณพยายาม
มันไม่ได้ทำให้ผลลัพธ์เปลี่ยนไป ความคาดหวังของคุณยังอยู่หรือเปล่า?

เขาแฟร์กับคุณแล้ว คุณนี่แหละที่ไม่แฟร์กับเขา เขาก็เสียเวลา 6 ปีเช่นกัน
แต่ถ้าคุณจะเลิกเพื่อไปหาชีวิตตามแนวทางของคุณก็ได้ครับ เขาพูดแล้วว่าเขาไม่ติดใจอะไร
ความคิดเห็นที่ 5
กลัวโดนฮุบสมบัติ ??

ถ้าที่ดิน หรือทรัพย์สินอื่นๆ ได้มาหลังจากจดทะเบียนสมรส...
จริงๆ ผมว่ามันก็แฟร์ๆนะที่จะหารสองแบ่งกัน จะไปเรียกว่าฮุบคงไม่ได้....

และหากที่ดินได้มาก่อนจดทะเบียนสมรส.... หลังโฉนดมันก็แสดงวันที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าได้มาเมื่อไหร่...
คู่สมรสจะมาฮุบไปได้ยังไงกัน ??

อย่างไรก็ตาม....
หากเขากังวลเรื่องคุณจะมาฮุบสมบัติจริงๆ....  " สัญญาก่อนสมรส " อาจช่วยคุณได้....
ระบุในสัญญาไว้ให้ชัดเจนเลยว่าจะจัดการเรื่องทรัพย์สินอย่างไร....
ก่อนสมรสแต่ละฝ่ายมีทรัพย์สินอะไรบ้าง... ระหว่างสมรสจะจัดการทรัพย์สินที่ได้มาอย่างไร... ฯลฯ
แล้วแนบท้ายไปกับทะเบียนสมรส โดยระบุไว้ในทะเบียนสมรสพร้อมกับการจดทะเบียนสมรสว่าได้มีสัญญานั้นแนบไว้...
ความคิดเห็นที่ 4
เคยอ่านในกระทู้พันทิปนี่แหละ แต่งงานกันเป็นสิบปี ไม่จดทะเบียนสมรส
ผู้ชายไปมีเมียน้อย แถมมีลูกอีก ผู้หญิงก็อกตรมเลย เพราะตัวเองไม่มีทะเบียนสมรส เมียน้อยก็จะเอาสามีตัวเองไปจดทะเบียนเพราะเค้ามีลูกด้วยกัน ตัวเองจะรีบไปจด เมียน้อยก็ระราน ไม่ยอมให้จด ผู้ชายน้ำท่วมปาก ไม่เอาอะไรสักทาง โอ้โห อิรุงตุงนังมาก

ผู้ชายคนนี้เห็นแก่ตัวค่ะ ถ้ากลัวโดนฮุบสมบัติ มันมีวิธีจัดการมากมายค่ะ แค่คุยให้เคลียร์กันว่าสมบัติชิ้นไหน ของใครๆ แบ่งสินสมรสกันให้ชัดเจนก็จบ เอาเรื่องนี้มาอ้างเพื่อจะไม่จดทะเบียนคือฉลาดน้อยและเห็นแก่ตัวมาก ความสามารถในการแก้ปัญหาชีวิตมีแค่นี้เองหรอ

คุณยื่นคำขาดไปเลยค่ะ ถ้าเค้ายังยืนยันว่าจะไม่จดทะเบียนแน่นอน คุณบอกเลิกไปเลย อันนี้จริงจังนะ ต้องตัดใจให้ได้ ก่อนอายุจะเยอะกว่านี้ (ก็ไม่ได้อยากเชียร์ให้ใครเลิกกันเท่าไรหรอก แต่ผู้ชายทรงไม่ดีเลย)
ถ้าคบไปเรื่อยๆแบบไม่จดทะเบียน เดี๋ยวก็มีเรื่องมาให้คุณทุกข์ระทมแน่นอน มีเมียเล็กเมียน้อยแล้วหายไปก็ไม่เท่าไร กลัวแต่เมียน้อยมันมีทะเบียนขึ้นมา จะกลายเป็นภรรยานอกกฎหมายโดยสมบูรณ์
ความคิดเห็นที่ 7
ผู้ชายเค้าโดนปลูกฝังมาไว้แบบนั้นค่ะ ไม่ใช่ว่าเค้ารักคุณไม่พอ เค้ามีจุดยืนในใจแล้ว

คนรักกัน มักไม่ค่อยคิดถึงตอนเลิกกัน ไม่รักกัน เกลียดกัน(เราเองก็นึกไม่ออกเหมือนกัน)

จากปสก.เพื่อนผู้ชายในชีวิต 3 คนแล้วค่ะที่หย่าร้างกับภรรยาเก่าไปด้วยเหตุผลต่างกัน ผู้หญิงมีชู้ 2, เหตุผลส่วนตัว 1 ทั้ง 3 คนต้องยกบ้านที่อยู่ให้กับฝ่ายหญิงหมด ไม่ว่าจะมีลูกด้วยกันหรือไม่ ถ้ามีลูกก็ต้องเลี้ยงดูส่งเสีย แต่ที่แน่ๆบ้านของผู้ชายไปอยู่กับผู้หญิงหมดเลยทั้ง 3 คน

เราก็ไม่รู้นะว่าควรรู้สึกยังไง สายตาคนนอกอย่างเรายังแปลกใจว่าทำไมผู้ชายต้องเป็นฝ่ายไม่เหลืออะไรด้วย ทำไมวะทำไม

เราเป็นผู้หญิงนะ เป็นคนคลั่งรัก รักหมดใจ ถ้าหากวันนึงมีเหตุให้ต้องหย่าร้างกัน เราให้ผู้ชายไม่มีบ้านอยู่ไม่ได้อะค่ะ

แต่สถานการณ์แต่ละคู่ไม่เหมือนกันค่ะ ทั้ง 3 คนสภาพเดียวกันหมด ต้องยกให้ผู้หญิง แล้วตัวเองออกมาเช่า หรือย้ายกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่

คุณลองคิดดูเล่นๆว่าการเติบโตมาในครอบครัวที่ล้มเหลวและเห็นเหตุการณ์สไตล์นี้ จะให้เค้ามองโลกสวยงามลาเวนเดอร์มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก

ลองคิดดูดีๆ ชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียที่เค้ามี เพราะเค้าก็ชัดเจนมาตั้งแต่แรกเลย และเรามองว่าถ้าเค้าห่วงเรื่องนี้ คุณลองหาวิธี หาข้อมูลไปพูดคุยดีมั๊ย มันมีกฏหมายเรื่องทรัพย์สินอยู่ ต้องการจดอะไรไว้เป็นของตัวเองก็ทำได้หมด

เราเป็นคนนึงที่ไม่เห็นประโยชน์ของการจดทะเบียนมาก่อน เรามองว่าเราไม่อยากดึงรั้งหัวใจผู้ชายหนึ่งคนไว้ด้วยกระดาษหนึ่งใบ

แต่โตมาเรื่อยๆก็รู้ว่าการจดทะเบียนสมรส ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องไว้แค่ฟ้องชู้ เมียน้อย หรือไว้เพื่อทรัพย์สินของลูกเรา(ในกรณีที่จะมี) จดทะเบียนสมรสเป็นนิติกรรมที่ทำให้เราและคู่สมรส ถูกต้องตามกฏหมาย ตามธรรมเนียมและประเพณีที่ถูกต้อง พ่อแม่เราสบายใจ สังคมให้การยอมรับ และทำให้เราสองคนได้คิดทบทวนให้ดีเมื่อจะตัดสินใจกระทำการใดๆ เพราะเหมือนแทบอีกหนึ่งบุคคลเสมอ นั่นทำให้เราอยากจดค่ะ เราต้องการเป็นคนๆเดียวกับเค้าในทุก angle และนั่นคือมีทั้งส่วนที่ดีและไม่ดี แฟนคุณอาจจะยังไม่ได้รับรู้ถึงข้อดีของมันเลยก็ได้

เราว่าลองพูดคุยให้เค้าเห็นว่าคุณมองเห็นอะไร เค้ามองอะไร และเราสองคนปรับโฟกัสทั้งคู่ให้มองร่วมกันได้มั๊ย ขอให้โชคดีค่ะ ยิ้ม
ความคิดเห็นที่ 17
เคสนี้สลับขั้วกันกับผมเลยนะครับ
ผมนี่ต้องโน้มน้าวให้ภรรยาจดทะเบียน เพราะกลัวว่าเราเป็นอะไรไปขึ้นมาแล้วเค้าจะไม่ได้ผลประโยชน์ต้องมานั่งบริหารจัดการพินัยกรรมอีก แต่งไปแล้วสามปีกว่าเค้าถึงยอมไปจด

ตอบตรงๆในมุมมองผู้ชายเลยนะครับ
ผู้ชายเอาเปรียบคุณมากครับ
กรณีนี้ อยู่ที่คุณเลยครับต้องเด็ดขาด ถ้าไม่จดก็เลิกกันแล้วไปหาคนที่เค้าพร้อมรับเรื่องนี้ครับ เพราะเป้าหมายไม่ตรงกันตั้งแต่แรก
อยู่ไปทะเลาะกันแน่นอน และยิ่งเป็นเรื่องผลประโยชน์ด้วยแล้วแสดงว่าฝ่ายชายไม่ใส่ใจครับ
อาจจะแรงไป แต่ผมมองจากมุมมองผู้ชายด้วยกันแล้ว แบบนี้เค้าห่วงเรื่องผลประโยชน์มากครับ ไม่ว่าจะก่อนแต่งหรือหลังแต่ง จะจดทะเบียนหรือไม่จดทะเบียน เค้าตั้งธงไว้แล้ว ยังไงก็ไม่เปลี่ยนใจครับ เพราะตามที่คุณว่าเลย คุณพยายามเลิกแล้วแต่เค้าไม่ยอมเลิก แต่จะเอาแต่ที่ตัวเองอยากได้ ไม่ได้สนใจความต้องการของอีกฝ่าย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่