คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
คุณเป็นพี่ชายที่รักน้องนะคะ แต่ก็ควรเข้าใจว่าเขาเท่านั้นที่เลือกทางเดินชีวิตตัวเองได้ ถ้าคุณยังไม่เดือดร้อนถึงกับต้องให้เงินก็แค่เตือนด้วยความหวังดีและช่วยเขาตามหาฝันโดยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ ตอนนี้เขาไม่เดือดร้อนค่ะใช้ชีวิตสะดวกสบายในแบบคนอายุน้อยไม่คิดอะไรมาก ให้เวลาน้องได้เติบโตนะคะแล้วมองโลกในแง่ดี เขาสบายดีเขาอาจกำลังเก็บข้อมูลในสมองเพื่อค้นหาแรงบันดาลใจในงานศิลปะต้องใช้อารมสุนทรีแบบศิลปิน คุณอาจช่วยหางานเช่นครูศิลปะรร.ในจ.ที่ใกล้บ้านก็ได้จะได้ตรงกับลักษณะวิถีชีวิตน้อง หรือช่วยหานร.ที่สนใจมาให้น้องสอนตามบ้าน ชวนพูดคุยว่าเขาวางแผนชีวิต5-10ปีไว้อย่างไร อยากมีรร.ศิลปะหรือบ้านศิลป์เป็นของตัวเองไหมฯลฯ ใช้งานศิลป์เปิดประเด็นไปเพื่อให้เข้าถึงเขาค่ะ เราเข้าใจคุณหวังดีนะแต่มองดูน้องคุณมีความสุขดีนะอาจมีความสุขกว่ามนุษย์เงินเดือนด้วยสิ่งนี้สำคัญในชีวิตเขามากกว่าเงิน แค่คุณห่วงตอนเขาแก่จะไม่มั่นคงเพราะอาชีพไม่มีงานแต่เขามีความรู้ศิลปะติดตัวไม่อดตายหรอก เขาควรได้เรียนรู้และเติบโตด้วยตัวเอง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 25
ขอคอมเมนท์ตรงๆนะ
ก็แค่ลูกคนเล็กที่พ่อแม่รวย ตามใจจนเคยตัว เป็นพวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฟ่อ
เอาความฝัน แรงบันดาลใจ ความชอบเป็นข้ออ้าง เพื่อที่จะไม่ต้องทำอะไร
แล้วนั่งๆนอนๆไปวันๆ
คนที่มีความฝันจริงๆ เขาไม่ปล่อยความฝันทิ้งไปวันๆหรอกครับ
หรือถ้าเป็นพวกไม่มีความฝัน แต่มีความรับผิดชอบพอ เขาจะหาเงินดูแลครอบครัว
หรืออย่างน้อยต้องไม่ให้ตัวเอง เป็นภาระคนอื่น
ถึงแม้ว่างานนั้น จะ "ชอบ" หรือ"ไม่ชอบ"
หรือว่าจะได้ทำตามความฝันหรือไม่ก็ตาม
แต่เพื่อหาเงินมาเพื่อรับผิดชอบตัวเอง ครอบครัว หรืออะไรก็แล้วแต่
แต่นี่ไม่ใช่ พ่อรวยมีเงินใช้ไปวันๆ เพราะถูกสปอยล์มานาน
เงินหมดเมื่อไร คงคิดได้เอง
แต่ก็นั่นแหละ บางคนจนตายก็คิดไม่ได้
ป.ล. "ทำไมต้องทำงาน?" กับ "น้องบอกให้เเม่ไปหางานทำสิ" มันน่าสะเทือนใจนะครับ จขกท. ไม่รู้สึกอะไรเลยหรอ ?
ก็แค่ลูกคนเล็กที่พ่อแม่รวย ตามใจจนเคยตัว เป็นพวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฟ่อ
เอาความฝัน แรงบันดาลใจ ความชอบเป็นข้ออ้าง เพื่อที่จะไม่ต้องทำอะไร
แล้วนั่งๆนอนๆไปวันๆ
คนที่มีความฝันจริงๆ เขาไม่ปล่อยความฝันทิ้งไปวันๆหรอกครับ
หรือถ้าเป็นพวกไม่มีความฝัน แต่มีความรับผิดชอบพอ เขาจะหาเงินดูแลครอบครัว
หรืออย่างน้อยต้องไม่ให้ตัวเอง เป็นภาระคนอื่น
ถึงแม้ว่างานนั้น จะ "ชอบ" หรือ"ไม่ชอบ"
หรือว่าจะได้ทำตามความฝันหรือไม่ก็ตาม
แต่เพื่อหาเงินมาเพื่อรับผิดชอบตัวเอง ครอบครัว หรืออะไรก็แล้วแต่
แต่นี่ไม่ใช่ พ่อรวยมีเงินใช้ไปวันๆ เพราะถูกสปอยล์มานาน
เงินหมดเมื่อไร คงคิดได้เอง
แต่ก็นั่นแหละ บางคนจนตายก็คิดไม่ได้
ป.ล. "ทำไมต้องทำงาน?" กับ "น้องบอกให้เเม่ไปหางานทำสิ" มันน่าสะเทือนใจนะครับ จขกท. ไม่รู้สึกอะไรเลยหรอ ?
ความคิดเห็นที่ 63
เป็น trend ของคนรุ่นนี้ครับ ยังดีที่เรียนจบ หลายคนไม่เรียนด้วยซ้ำไป
กระแสในโซเชียล ที่มีแต่แบบ คนเก่งๆเค้าไม่ต้องเรียนกัน เป็นเจ้านายตัวเองไม่เป็นลูกน้องใคร ใช้ชีวิตอิสระไม่ให้ใครมาผูกมัด ไม่มีศาสนา ไม่มีใครมีบุญคุณ
ถ้าไม่ประสบความสำเร็จก็โทษสังคม โทษราชการ โทษรัฐบาล เป็นโรคซึมเศร้า ขอย้ายประเทศ ฆ่าตัวตาย กระทู้มีแต่แนวนี้ทั้งนั้น
กระแสในโซเชียล ที่มีแต่แบบ คนเก่งๆเค้าไม่ต้องเรียนกัน เป็นเจ้านายตัวเองไม่เป็นลูกน้องใคร ใช้ชีวิตอิสระไม่ให้ใครมาผูกมัด ไม่มีศาสนา ไม่มีใครมีบุญคุณ
ถ้าไม่ประสบความสำเร็จก็โทษสังคม โทษราชการ โทษรัฐบาล เป็นโรคซึมเศร้า ขอย้ายประเทศ ฆ่าตัวตาย กระทู้มีแต่แนวนี้ทั้งนั้น
แสดงความคิดเห็น
น้องชายเรียนจบ ไม่ยอมทำงานประจำ เเต่ก็ไม่ทำงานอื่นให้จริงจัง ผมห่วงน้องมากเลยครับ
ผมมีน้องชาย(คนกลาง) ที่เพิ่งเรียนจบตรี ปี 2020 วันที่เค้าเรียนจบผมก็อวยพรเค้าว่าขอให้ได้งานที่ดีๆ
เค้าถามผมกลับว่า "ทำไมต้องทำงาน?" ผมก็อึ้งไปเลย ไม่รู้จะพูดอะไร เลยบอกขอให้โชคดีไป
จริง ๆ เเล้วผมสนิทกับน้องครับ เเต่น้องค่อนข้างหัวเเข็งมาก
ผมเองก็ไม่ใช่พ่อ เเม่ เป็นเเค่พี่ชายที่เกิดก่อน 2 ปี เลยไม่อยากไป force อะไรเค้ามากเดี๋ยวจะทะเลาะกัน
(ขนาดพ่อ เเม่ พูดซ้าย เค้ายังไปขวาเลยครับ lol)
ก่อนหน้า Covid wave 3 เค้าทำงานเป็นติวเตอร์สอนพิเศษศิลปะ เเต่ทำงานเเค่วันละ 2 ชม (เด็กเลิกเรียน) เเละเสาร์ อาทิตย์ (เต็มวัน)
เเต่สิ่งที่ทำให้ความกังวลของผมมันหนักขึ้นเรื่อย ๆ เพราะ ตั้งเเต่ wave 3 มา โรงเรียนศิลปะเค้าก็ปิดการสอนไป น้องชายเลยว่างงานมาเป็นเดือน ๆ เเล้วครับ
(ทุกวันนี้ใช้เงินบุญเก่า)
คือในมุมผม ผมคิดว่าเค้าควรทำงานประจำ ควรขวนขวายหางานทำที่ต่างจังหวัด (เคยชวนให้เข้ามาทำงานใน กทม เเต่น้องบอกว่าไม่ชอบเบียดเสียดทุกเช้า ไม่ชอบความวุ่นวาย ซึ่งอันนี้ผมก็เข้าใจ เพราะผมเองก็ไม่ได้ชอบ กทม ผมก็อยากกลับบ้าน เเต่งานที่ผมอยากทำ ทุกบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ผมอยากทำ อยู่ใน กทม ทั้งหมด ผมเลย no choice)
ทุกวันนี้น้องชายใช้เวลาในการนอนวันละ 10-12 ชม Netflix 8 ชม ROV 2 ชม ที่เหลือก็กินข้าว อาบน้ำ
(มีนั่งวาดรูปบ้างนิดหน่อย บางวัน)
คุณเเม่ผมเล่าให้ฟังว่าเค้าอยากเป็น Artist (น่าจะประมาณว่าสร้างผลงานศิลปะเเล้วขายเพื่อสร้างรายได้)
ซึ่งผมเองก็ไม่ได้ขัดเค้าในเรื่องนี้เลย ผม agree+respect ด้วยซ้า เพราะเป็นไอเดียที่ดี
เเต่จากที่ผมกลับบ้านมา wfh 2 weeks ผมไม่เห็นเค้าทำในสิ่งที่เค้าฝันเลย ไม่มี passion ไม่มี dream ไม่มี ambition
ใช้ชีวิตเหมือนทุกวันเป็นวันหยุด
เเต่จะให้ผมไปพูดว่า ทำงานสิ วาดรูปสิ ลดเวลาเล่นเกม ลดเวลาดู Netflix สิ ทุกคนน่าจะเข้าใจว่ามันไม่สามารถทำได้
(เพราะต่อให้พูดไป เเต่ถ้าเค้าไม่ทำ ก็คือ ไม่ทำ)
ผมไม่รู้จะทำยังไง ไม่รู้จะพูดยังไง ให้เค้ารู้ว่านี่คือชีวิตนะ มีครั้งเดียวนะ ไม่ได้เล่นเกมที่เราจะเริ่มใหม่เมื่อไหร่ก็ได้
เรามีศักยภาพนะ มีคนรอจ้างเราอยู่ เราต้องทำงานนะ อย่างน้อยก็ต้องเอาเงินมากิน มาใช้ มาเก็บออม ต้องทำงานก่อน มีเงินก้อนที่ใช้ได้จนวันตายก่อน
ถึงจะสามารถเกษียณได้ ถึงจะเลิกทำงานเเล้วมาชิล ๆ ได้ คนสูงวัยพวกนั้นเค้าก็ผ่านความทรหดมาไม่น้อยถึงจะทำตัวชิลได้
(น้องผม advance เรียนเเล้วเกษียณเลย lol)
กระทู้คำถามนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าเค้าไม่ทำงานประจำกินเงินเดือน เเต่ก็กำลังตั้งหน้าตั้งตา ทำในสิ่งที่เค้ารักอยู่ ทำอย่างจริงจังอยู่ ทำให้เป็นอาชีพได้
(ผมเคยลองให้เเม่พูดดูเเล้ว น้องบอกให้เเม่ไปหางานทำสิ lol)
(ผมเคยลองพูดดูเเล้ว เค้าจะ อืมๆ อารมณ์กวน ๆ)
จนตอนนี้ ผมอยากให้พี่ ๆ ใน pantip ช่วยผมเเล้วครับ
ผมสุดจะหาทางออกกับเรื่องนี้เเล้วจริง ๆ
ปล0. ผมไม่ได้อยากจุ้นจ้านในเรื่องชีวิตของคนอื่น เพราะผมเองก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไร เเต่คนๆนี้คือน้องชายเเท้ๆ ผมอยากให้เค้ามีชีวิตที่ดี ผมอยากให้เค้าจริงจังกับชีวิต ให้ความสำคัญกับการสร้างฐานะ ทำตัวให้เป็นประโยชน์กับ GDP ประเทศบ้าง อะไรบ้าง
ปล1. เหมือนเค้าก็รอให้ รร กวดวิชาเรียกตัวไปสอน เเต่ผมว่างานนี้ของเค้ายังเลี้ยงชีพไม่ได้ มีรายได้ต่อเดือนเเค่ 12000 เเถมไม่ใช่ พนง ประจำ ไม่มีสวัสดิการ ไม่มีประกันสังคม PVD ประกันสุขภาพ ไม่ต้องพูดถึง
ขอบพระคุณทุกความคิดเห็นล่วงหน้านะครับ
พี่ชาย(เป็นกังวล)คนหนึ่ง