Move To Heaven รีวิว ไม่สปอย (หนังที่สะท้อนความตายกับสังคมเกาหลีในอีกเเง่มุมที่คุยไม่เคยเห็น)


Move To Heaven  หนังเกี่ยวเนื่องกับความตายที่สะท้อนเเง่มุมสังคมเกาหลีได้อย่างหลากหลาย
เรื่องย่อ 
   เรื่องราวของ ฮันกือรู เด็กหนุ่มผู้มีอาการแอสเพอร์เกอร์ ที่มีปัญหาในการเข้าสังคม เขาทำงานเป็นพนักงานเก็บกวาดที่เกิดเหตุหลังความตายกับ ฮันจองอู ผู้เป็นพ่อ ทั้งยังเป็นเจ้าของบริษัทเก็บกวาดที่เกิดเหตุ มูฟทูเฮฟเวน Move to Heaven แต่แล้วกือรูต้องเหลือตัวคนเดียวในโลกใบนี้ หลังการจากไปอย่างกะทันหันของพ่อ ทำให้ โจซังกู อาของเขาที่เพิ่งพ้นโทษจำคุกกลายมาเป็นผู้ปกครอง และเป็นจุดเริ่มต้นให้ทั้งคู่ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน

    ต้องบอกก่อนว่าหลังดูจบเเล้วรู้สึกเลยว่าตัวซีรีย์นั้นดำเนินเรื่องไปเเบบเรียบง่ายซะส่วนใหญ่ เเต่ก็มีจุดพีคเป็นช่วงๆ ไม่ได้หวือหวาอะไรมาก เเต่มันเเฝงไว้ด้วยเเง่มุมของสังคมเกาหลีที่หลากหลาย เเต่เซอร์เรียลจริงๆ โดยปกติเรามักจะดูซีรีย์เกาหลีหลายๆเรื่องด้วยโทนภาพที่สวย เพลงเพราะ โลเคชั่นปังปุริเย่ เเละงดงาม เเต่กลับกันกับเรื่องนี้โดยสิ้นเชิง ในซีรีย์เราจะได้เห็นภาพที่งดงามของสถานที่ได้ไม่กี่ตอนเท่านั้น นอกนั้นจะเป็นภาพที่สะท้อนความยากจน สถานะทางสังคมตั้งเเต่อีพีเเรกของหนังเลย โดยมันจะสะท้อนออกมาผ่านที่อยู่อาศัยของผู้ตายในเเต่ละเคสที่ฮันกือรูไปเก็บกวาด

     ซึ่งสิ่งที่ตกใจอย่างเเรกเลยในภาพมุมสูงของเมืองที่หนังถ่ายออกมา  เพราะมันเหมือนไทยมากก  คือมันเปลี่ยนภาพลักษณ์ของซีรีย์เกาหลีที่ภาพสวย เมืองหรูนำเทรนไปเลย เเต่มันให้เห็นสภาพสังคมอีกเเบบหนึ่งของเกาหลี ที่เราอาจเห็นไปเเล้วหนังเรื่อง "ในพาราไซต์" เเต่นั่นยังไม่ถือว่าเป็นมุมมองที่กว้างมาก  เเต่สังคมในหนังเรื่องนี้นั้น นำเสนอสังคมที่เเออัดด้วยบ้านคนมีฐานนะจนไปจนถึงปานกลาง สภาพบ้านหรือห้องที่เล็กจนบางทีเราคิดว่าอยู่เข้าไปได้อย่างไร หรือไม่ก็สภาพที่โทรมจนเเทบจะผุพัง คือให้ลองนึกภาพเมืองไทยเเถวคลองเตย ลาดพร้าวที่อยู่กันเเบบกระจุกๆดูเเล้วจะรู้เลยว่าสภาพเป็นเเบบนั้นจริงๆ ซึ่งจุดนี้นี่เเหละที่มันเปลี่ยนโทนหนังไปในตัว จากหนังเกาลีที่คนไทยไม่ค่อยเข้าใจสังคมเพราะต่างมองเห็นเเต่สิ่งดีๆที่หนังเสนอ ที่ต่างจากสังคมเมืองไทย เเต่สภาพสังคมในเรื่อง Move To Heaven ที่นำเสนอนั้นทำให้เราเข้าใจเเละเข้าถึงความเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ไม่ได้มีบ้านรวยเป็นมหาเศรษฐีในหนังเกาหลีบางเรื่องที่ตัวเองมักจะรวยล้นฟ้า หรือนางเอกจนเเต่ก็ไม่ได้จนจนถึงที่สุดซึ่งเราไม่อาจจะอินได้มากสักเท่าไหร่

     อีกประเด็นหนึ่งที่หนังนำเสนอได้ดีคือ "ความรุนเเรงในครอบครัวเเละการทำร้ายร่างกาย" ซึ่งจะเเทรกอยู่ในหลายๆตอน เเละเป็นปมใหญ่ของตัวละครในเรื่องบางตัวด้วย ทำให้เราเห็นว่าเเม้เมืองเกาหลีจะเติบโตได้มากขนาดไหน เเต่ใจคนเรากลับสวนทางกับความเจริญของเมือง กลับกันมันยังดำดิ่งลงไปจนเกิดเป็นเหตุร้ายต่างๆในเรื่องด้วยซ้ำ หรือเเม้เเต่สภาพถานะทางสังคมที่เหลื่อมล้ำทางสายอาชีพที่มักจะโดนเอาเปรียบเเละดูถูกอยู่เสมอ


โดยบริษัท  Move To Heaven  เป็นเสมือนกระจกสะท้อนทั้งด้านดีเเละด้านมืดของมุษย์ออกมาให้เราเห็นผ่านคำบอกลาครั้งสุดท้ายที่คนตายทิ้งไว้ผ่านสิ่งของที่ถูกเก็บใส่กล่องสีเหลืองของ Move To Heaven  นั่นคือเมสเสจสำคัญที่ตั้งคำถามต่อสังคมว่า การตายของใครสักคนที่ไม่ได้สำคัญอะไรมากมายด้วยสถานะอาชีพ เเละชื่อเสียงมันมีความหมายกับใครบ้างหรือไม่? ในด้านความสัมพันธ์ การดำเนินชีวิต หรือต่อสังคม เราจะพบว่าการตายส่วนใหญ่ในเรื่องมักจะโดดเดี่ยว เเละเหงามาก ซึ่งบางเคสก็ผ่านไปหลายสัปดาห์ กว่าทุกคนจะรู้ ทำให้คนตายเหล่านั้นไม่ได้มีเเม้เเต่การเอ่ยคำลาต่อคนที่รักเลยด้วยซ้ำ ซึ่งหนังสะท้อนความโดดเดี่ยวของสังคมเกาหลีที่เเม้มีคนมากมายเเละความเจริญทั้งทางสาธารณูปโภคเเละอุปโภคเพรียกพร้อมเพียงใด มันก็ย่อมมีช่องว่างทางสังคม เเละคนที่เข้าไม่ถึงอยู่ดี



ในด้านมิติของตัวละคร
ฮันกือรู


คงจะนึกถึงใครไม่ได้นอกจากตัวเอกของเรื่องนี้ที่เรียกว่าตีบทเเตก รับบทโดย ทันจุนซัง 
  ยอมรับเลยว่าตัวละครตัวนี้เป็นตัวละครที่เเสดงดีมากๆ เเสดงดีจนคิดว่าเป็นฮันกือรูจริงๆ ซึ่งฮันกือรูเป็นเด็กพิเศษที่มีอาการของ แอสเพอร์เกอร์ มีปัญหาในการทำความเข้าใจอารมณ์ของคนและการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม  หรือที่บ้านเรามักจะเรียกออทิสติกนั่นเเหละ  ซึ่งนับว่าเก็บรายละเอียดของตัวละครได้ดีมากๆ โดยเฉพาะทางเเววตาเวลาเจอเรื่องตระหนกตกใจ  เเววตาจะเเสดงออกมาได้ชัดจนคิดว่าเป็นจริงๆ 55555  โดยสิ่งที่กือรูเป็น คนอื่นอาจจะมองว่าเป็นสิ่งที่เเปลกเเยก เเละเป็นตัวปัญหา เเต่นั่นกลับเป็นข้อดีของกือรูที่เหมือนพลังวิเศษที่ฟ้ามอบให้ก็ได้ ในการจดจำที่เเม่นยำ การจัดเรียงข้อมูลที่ถูกต้อง จนนำไปสู้การเเก้ไขปัญหาต่างๆได้อย่างดีเยี่ยม โดยฮันกือรูได้เจอกับการเปลี่ยนเเปลงครั้งใหญ่หลังจากพ่อเสียไป เเละต้องมาอยู่ในความดูเเลปกครองของอา น้องชายตัวเเซบของพ่อ ที่ทำให้ชีวิตฮันกือรูวุ่นวายอยู่บ่อยๆ ซึ่งนั่นจะเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ฮันกือรูต้องปรับตัวให้เข้ากับอาเพื่อใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันให้ได้หลังจากการสูญเสียพ่ออันเป็นที่รักไป เราจะได้เห็นตัวละครฮันกือรูที่ตอนเเรกมักจะปฏิเสธสังคม ค่อยๆมีปฏิสัมพันธ์กับหลายๆคนมากยิ่งขึ้น  เเละเริ่มเข้าใจเมสเสจของพ่อที่ทิ้งไว้ให้ก่อนตายเพื่อเป็นของขวัญอันล้ำค่าให้เเก่กือรู

โจซังกู (อาของฮันกือรู)

    รับบทโดย อีเเจฮุน ซึ่งพลิกบทบาทสุดบู๊มาเป็นความดราม่าเรียกน้ำตาในหนังเรื่องนี้ ด้วยคาเเร็คเตอร์ที่ ห่าม หยาบกระด้าง เเละอันธพาล ทำให้สวนทางกับนิสัยของกือรูโดยสิ้นเชิง ซึ่งทัศนคติของซังกูนั้นจะเป็นไปในเชิงลบเเละด่วนตัดสินผิดถูกโดยมองเเค่เปลือกเสมอ เเต่การได้เข้ามาอยู่ร่วมกับฮัน    กือรูเเละเข้าทำงานกับ Move To Heaven ทำให้ทัศนคติเขาค่อยๆเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จากนักเลงต่อยตีก็อ่อนโยนเเละเข้าใจผู้คนมากขึ้น ถึงเเม้บางทีปากอาจจะพูดจาใส่อารมณ์กับกือรูเสมอ เเต่ลึกๆเป็นห่วงกือรูมากเช่นกัน ซึ่งตัวละครตัวนี้มีปมที่เจ็บปวดหลายอย่างซึ่งตอนเเรกๆเราอาจจะไม่ค่อยชอบ เเต่หลังๆเราจะเข้าใจเเละรักตัวละครนี้มากขึ้น

ยุนนามู (เพื่อนบ้านที่เเสนดี)

รับบทโดย ฮงซึงฮี เพื่อนบ้านที่ค่อยช่วยเหลือกือรูอยู่ตลอดเวลา ตัวละครตัวนี้หลายคนอาจมองว่ามาเเค่สร้างสีสรรค์ให้กับเนื้อเรื่อง เเต่ลึกๆเเล้วยุนนามูเป็นตัวละครที่จะคอยอยู่ คอยช่วยเหลือกือรูตลอดเวลาไม่ว่าจะเจอปัญหาในด้านไหนๆ โดยมีความสำคัญอย่างยิ่งในตอนที่อาของกือรูเข้ามาในบ้านใหม่ๆ ยุนนามูจะเป็นคนคอยจัดการปัญหาไม่ลงรอยต่างๆของอา-หลานทั้งสองคน พร้อมทั้งเเนะนำสิ่งที่ อาของกือรูไม่รู้เเละไม่เข้าใจในตัวของกือรูต่างๆ ซึ่งนับได้ว่าสำคัญอย่างยิ่งที่ทำให้ตัวละครอา-หลานพัฒนาความสำพันธ์ได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังคอยเป็นหูเป็นตาสอดส่องเเละระวังภัยต่างๆให้กับกือรูอีกด้วย

   นี่เป็นเเค่มิติตัวละครหลักๆที่ทำให้เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ เเต่ยังมีอีกหลายตัวละครสมทบที่มีผลต่อเนื้อเรื่อง เเละมีความสำคัญไม่เเพ้ตัวละครหลักเลย เพราะตัวละครที่ผ่านเข้ามา จะช่วยเสริมเเละต่อจิ๊กซอว์ให้เรื่องมีความหมาย เเละสะท้อนมุมมองในหลายๆมิติมากขึ้น ทั้งคู่รักที่พร้อมจะตายด้วยกัน ความรักที่เเรกมาด้วยโศกนาฏกรรม  การตายที่เดียวดายเเต่แฝงไปด้วยความห่วงใหญ่ต่อคนที่รัก  คำบอกกล่าวที่ไม่มีโอกาสได้บอกออกไป  การตามหาใครสักคนที่เราก็ไม่รู้จะได้เจอไหม นั่นคือเหตุการณ์ต่างๆที่สะท้อนออกมาในตัวละครร่วมที่เเทรกเข้ามาในเเต่ละตอน

"การเก็บกวาดที่เปรียบเสมือนการจัดการเรื่องราวต่างๆเเละคงไว้เเต่สิ่งที่เป็นเมสเสจสำคัญ
เพื่อส่งต่อเรื่องราวให้กับบุคคลอันเป็นที่รัก เเทนการบอกลา"

สรุป

     ซึ่งโดยรวม Move To Heaven  เป็นซีรีย์ที่เล่าเรื่องของความตายที่สะท้อนเเง่มุมต่างๆของมนุษย์ให้เราเห็นถึงชีวิตที่ผู้ตายอยากเล่าเรื่องราวของชีวิตในช่วงหนึ่ง ผ่านบริษัท  Move To Heaven  ที่ทำหน้าที่กระจายสารเเละสะท้อนเเง่มุมของชีวิต สังคมเเละเเง่คิดต่างๆที่ผู้ตายได้ผ่านชีวิตมา ออกมาได้อย่างงดงาม เเละคุ้มค่าที่จะกดเข้าไปรับชม

"เเล้วเราจะได้รู้ว่าคนตายมีเรื่องที่อยากจะบอกเราอยู่เสมอ"
   
 (รับชมได้เเล้วทาง NETFLIX ที่เดียวเท่านั้น)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่