ผ่านมา 4 ตอน จากจำนวนตอน 16 หรือ 18 ตอนก็ไม่รู้
ก็ได้เห็นเนื้อหาบางส่วนที่มีคนชอบ ไม่ชอบ สมหวัง ผิดหวังกันไป
บางคนก็เริ่มพาทัวร์ไปลงหาผู้จัด ผู้กำกับ คนเขียนบทหรือนักแสดงก็ว่าไป
ว่ามันดูไม่ตรงปกเหมือนตัวอย่างที่เอามาให้ดู
แต่ถ้ามีจำนวนตอนมากขนาดนั้น ถือว่าเรื่องมันยังมีอีกไกล
และก็เห็นอะไรที่ดีขึ้น ในแต่ละตอนที่ฉายไปในทุกวัน
แม้ตอนแรกออกอากาศเหมือนจะอยากโชว์ไปจนดูเข้าไม่ถึง
และก็พาลจะไม่อยากดูตอนต่อไป ทั้งแสง สี เสียง ที่ดูเหมือนตั้งใจเกินพอดีไปหมด
แต่ในตอนต่อมามันก็เริ่มเพลินขึ้น และไม่ได้สนุกไปเองเพราะมันสนุกขึ้นเรื่อย ๆ
จริง ๆ ตั้งแต่ดูไตเติล เอาแล้วละครเรื่องนี้ คงได้เขียนกระทู้เรียกแขกหลายรอบแน่ 55+
นอกจากความอยากจะเก๋ในไตเติลที่ชวนงง ไม่ดูเก๋แต่ดีเหมือนสายธารหัวใจ
รวมถึงต้องลุ้นทีมตัดต่อ ทีมเสียงที่แล้วแต่อารมณ์ผู้ผลิต ที่จะเปลี่ยนไปตามเรื่องแล้ว
พอเห็นชื่อทีมตัดต่อก็ได้แต่เอาแล้ว มันไม่เป็นคุ้นชินกับคนดูละครช่อง 3 ซะเลย
แต่ถ้าใครเคยดูละครมาสเตอร์วันอย่าง วัยแสบฯ เขาก็ใช้ทีมนี้ล่ะตัดละครเรื่องนี้
ส่วนเสียงก็เป็นทีมที่คนดูละครช่องนี้ก็คุ้นการลงเสียงไม่ค่อยมีปัญหา
ส่วนภาพละครจัดจ้านทำไมภาพมัวหมองเหลือเกิน บางคนดูคิดว่าฝ้าขึ้นจอหรือเปล่า
แต่ส่วนตัวชอบสัญลักษณ์การจัดแสงให้กับตัวละครและ mood ของเรื่อง
ในส่วนของเดือนหยาดการจัดแสงอยู่ในโหมดมืดมน แม้จะอยู่ในห้องสว่างก็ดูเหงา อ้างว้าง
ในส่วนของพิลาษลักษณ์ วาริธ จะเป็นแสงสว่างมาก ถึงอยู่ในกลางคืนก็เห็นความสดใส
เอาเป็นว่ามีใครเคยเห็นเจมส์ มาร์ เรื่องไหนขาวได้เท่าเรื่องนี้ไหม 555+
เนื่องจากสมัยนี้คนดูชอบละครตีหัวเข้าบ้าน แต่กลางเรื่องออกทะเลอันนี้แล้วแต่ชะตากรรม
แต่เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในจุดนั้น แล้วเจอการเปรียบเทียบละครในช่วงเวลาเดียวกัน
ก็ทำให้เรื่องนี้เหนื่อยขึ้นไปสามเท่า ทั้งทำละครให้สนุก ทำละครรีเมคให้คนจำได้ และต้องแข่งขัน
หลายคนบ่นว่าตัดต่อมันไม่ปังเลย แต่ถ้าดูจุดหมายที่ละครแต่ละตอนต้องการก็ถือว่าสารมาครบ
ตอนแรก ละครต้องการให้คนดูเห็นความแตกต่างของการแสดงของนักแสดงหลักของเรื่อง
ตอนสอง ละครเติมการสวมรอยของตัวละครหลักที่ต้องแตกต่างเป็น คาแรคเตอร์ที่ 3
ตอนสาม การให้ภูมิหลังของตัวละครหลักอย่างเดือนหยาด
ตอนล่าสุด การที่พระเอกรู้ว่ามีการสวมรอยสลับตัวกันของตัวละครหลัก และเขาก็เริ่มหลงรักไปแล้ว
ก็ถือว่าลำดับเรื่องไม่ได้งงจนเข้าไม่ถึง แต่แค่มันไม่หวือหวาเอาซะเลย
มาถึงส่วนสำคัญที่สุดของการสร้างตัวละครหลักอย่าง เดือนหยาด พิลาษลักษณ์
เพราะมันจะรวมทั้งนักแสดง การกำกับ บทโทรทัศน์ และ mood โทนของเรื่อง
เนื่องจากเป็นละครรีเมคการเปรียบเทียบเป็นเรื่องปกติ
และการตีความของตัวละครหลักเป็นตัวกำหนดทิศทางของเรื่อง
ภาพจำของเรื่องนี้ที่คนจำได้คือ แฝดร้ายที่ร้าย วี๊ดว้าย กับแฝดดีที่ชิล และคูลหน่อย ๆ
แต่ครั้งนี้แฝดร้ายไม่วี๊ดว๊าย เก็บกด กับ แฝดดีที่ดูมีชีวิตชีวา แต่ดูจะยอมแฝดพี่
โทนละครเลยเปลี่ยนไปแบบที่หลายคนก็ไม่ได้คาดคิด
การตีความร่วมกันทำให้ทิศทางละครก็เปลี่ยนไปด้วย และไม่มีทางเหมือนครั้งก่อน
ซึ่งอันนี้คงด้วยความชอบของผู้กำกับ และกายภาพนักแสดง
เดือนหยาดครั้งนี้ ตัวละครร้ายจริง เลวจริง ไม่ได้ร้ายแบบเด็ก ๆ ที่จะวี๊ดว๊าย
การตีความแบบนี้เราจะได้เดือนหยาดที่ลึกขึ้น แต่แน่นอนมันไม่แซ่บและมันไม่สนุกที่จะดู
พิลาษลักษณ์หรือหนูพิ ครั้งนี้ดูเป็นผู้หญิงที่สวยและมีชีวิตชีวาออกลูกตลกในบางที
ทำให้ในฉบับก่อนเดือนหยาดที่แซ่บและดูมีชีวิตชีวาทำให้เรื่องมันขับเคลื่อนไปได้
แต่ครั้งนี้ตัวละครที่มีชีวิตชีวากลับเป็นพิลาษลักษณ์ และเดือนหยาดที่มีแต่ความดิบและลึกในตัวละครแทน
คนดูเลยไม่รู้ว่าจะต้องดูให้สนุกในส่วนไหนกันแน่ เลยมีคนบอกว่ารสชาติเรื่องนี้เปลี่ยนไป
แต่ถ้ามองไปยังสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปจากนี้
เรื่องนี้เราเห็นพัฒนาการตัวละครชัดเจน รู้ว่าใครรักใคร ชอบใคร เกลียดใคร หรือหลอกใช้ใคร
ตัวละครแต่ละตัวมีเรื่องราวที่ยังน่าติดตาม ซึ่งมันคงจะไปสู่จุดที่ตัวอย่างออกมาแต่มันคงต้องใช้เวลา
และเราจะได้ละครสองเสน่หาที่คนดูเข้าใจเรื่องและความเป็นไปในละคร
แล้วค่อยมาตัดสินอีกทีว่ามันจะขึ้นไปเรื่อย ๆ ในทุกตอนที่ออกอากาศหรือไม่
4 ตอน สองเสน่หา ที่กำลังดีขึ้นเรื่อย ๆ
ก็ได้เห็นเนื้อหาบางส่วนที่มีคนชอบ ไม่ชอบ สมหวัง ผิดหวังกันไป
บางคนก็เริ่มพาทัวร์ไปลงหาผู้จัด ผู้กำกับ คนเขียนบทหรือนักแสดงก็ว่าไป
ว่ามันดูไม่ตรงปกเหมือนตัวอย่างที่เอามาให้ดู
แต่ถ้ามีจำนวนตอนมากขนาดนั้น ถือว่าเรื่องมันยังมีอีกไกล
และก็เห็นอะไรที่ดีขึ้น ในแต่ละตอนที่ฉายไปในทุกวัน
แม้ตอนแรกออกอากาศเหมือนจะอยากโชว์ไปจนดูเข้าไม่ถึง
และก็พาลจะไม่อยากดูตอนต่อไป ทั้งแสง สี เสียง ที่ดูเหมือนตั้งใจเกินพอดีไปหมด
แต่ในตอนต่อมามันก็เริ่มเพลินขึ้น และไม่ได้สนุกไปเองเพราะมันสนุกขึ้นเรื่อย ๆ
จริง ๆ ตั้งแต่ดูไตเติล เอาแล้วละครเรื่องนี้ คงได้เขียนกระทู้เรียกแขกหลายรอบแน่ 55+
นอกจากความอยากจะเก๋ในไตเติลที่ชวนงง ไม่ดูเก๋แต่ดีเหมือนสายธารหัวใจ
รวมถึงต้องลุ้นทีมตัดต่อ ทีมเสียงที่แล้วแต่อารมณ์ผู้ผลิต ที่จะเปลี่ยนไปตามเรื่องแล้ว
พอเห็นชื่อทีมตัดต่อก็ได้แต่เอาแล้ว มันไม่เป็นคุ้นชินกับคนดูละครช่อง 3 ซะเลย
แต่ถ้าใครเคยดูละครมาสเตอร์วันอย่าง วัยแสบฯ เขาก็ใช้ทีมนี้ล่ะตัดละครเรื่องนี้
ส่วนเสียงก็เป็นทีมที่คนดูละครช่องนี้ก็คุ้นการลงเสียงไม่ค่อยมีปัญหา
ส่วนภาพละครจัดจ้านทำไมภาพมัวหมองเหลือเกิน บางคนดูคิดว่าฝ้าขึ้นจอหรือเปล่า
แต่ส่วนตัวชอบสัญลักษณ์การจัดแสงให้กับตัวละครและ mood ของเรื่อง
ในส่วนของเดือนหยาดการจัดแสงอยู่ในโหมดมืดมน แม้จะอยู่ในห้องสว่างก็ดูเหงา อ้างว้าง
ในส่วนของพิลาษลักษณ์ วาริธ จะเป็นแสงสว่างมาก ถึงอยู่ในกลางคืนก็เห็นความสดใส
เอาเป็นว่ามีใครเคยเห็นเจมส์ มาร์ เรื่องไหนขาวได้เท่าเรื่องนี้ไหม 555+
เนื่องจากสมัยนี้คนดูชอบละครตีหัวเข้าบ้าน แต่กลางเรื่องออกทะเลอันนี้แล้วแต่ชะตากรรม
แต่เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในจุดนั้น แล้วเจอการเปรียบเทียบละครในช่วงเวลาเดียวกัน
ก็ทำให้เรื่องนี้เหนื่อยขึ้นไปสามเท่า ทั้งทำละครให้สนุก ทำละครรีเมคให้คนจำได้ และต้องแข่งขัน
หลายคนบ่นว่าตัดต่อมันไม่ปังเลย แต่ถ้าดูจุดหมายที่ละครแต่ละตอนต้องการก็ถือว่าสารมาครบ
ตอนแรก ละครต้องการให้คนดูเห็นความแตกต่างของการแสดงของนักแสดงหลักของเรื่อง
ตอนสอง ละครเติมการสวมรอยของตัวละครหลักที่ต้องแตกต่างเป็น คาแรคเตอร์ที่ 3
ตอนสาม การให้ภูมิหลังของตัวละครหลักอย่างเดือนหยาด
ตอนล่าสุด การที่พระเอกรู้ว่ามีการสวมรอยสลับตัวกันของตัวละครหลัก และเขาก็เริ่มหลงรักไปแล้ว
ก็ถือว่าลำดับเรื่องไม่ได้งงจนเข้าไม่ถึง แต่แค่มันไม่หวือหวาเอาซะเลย
มาถึงส่วนสำคัญที่สุดของการสร้างตัวละครหลักอย่าง เดือนหยาด พิลาษลักษณ์
เพราะมันจะรวมทั้งนักแสดง การกำกับ บทโทรทัศน์ และ mood โทนของเรื่อง
เนื่องจากเป็นละครรีเมคการเปรียบเทียบเป็นเรื่องปกติ
และการตีความของตัวละครหลักเป็นตัวกำหนดทิศทางของเรื่อง
ภาพจำของเรื่องนี้ที่คนจำได้คือ แฝดร้ายที่ร้าย วี๊ดว้าย กับแฝดดีที่ชิล และคูลหน่อย ๆ
แต่ครั้งนี้แฝดร้ายไม่วี๊ดว๊าย เก็บกด กับ แฝดดีที่ดูมีชีวิตชีวา แต่ดูจะยอมแฝดพี่
โทนละครเลยเปลี่ยนไปแบบที่หลายคนก็ไม่ได้คาดคิด
การตีความร่วมกันทำให้ทิศทางละครก็เปลี่ยนไปด้วย และไม่มีทางเหมือนครั้งก่อน
ซึ่งอันนี้คงด้วยความชอบของผู้กำกับ และกายภาพนักแสดง
เดือนหยาดครั้งนี้ ตัวละครร้ายจริง เลวจริง ไม่ได้ร้ายแบบเด็ก ๆ ที่จะวี๊ดว๊าย
การตีความแบบนี้เราจะได้เดือนหยาดที่ลึกขึ้น แต่แน่นอนมันไม่แซ่บและมันไม่สนุกที่จะดู
พิลาษลักษณ์หรือหนูพิ ครั้งนี้ดูเป็นผู้หญิงที่สวยและมีชีวิตชีวาออกลูกตลกในบางที
ทำให้ในฉบับก่อนเดือนหยาดที่แซ่บและดูมีชีวิตชีวาทำให้เรื่องมันขับเคลื่อนไปได้
แต่ครั้งนี้ตัวละครที่มีชีวิตชีวากลับเป็นพิลาษลักษณ์ และเดือนหยาดที่มีแต่ความดิบและลึกในตัวละครแทน
คนดูเลยไม่รู้ว่าจะต้องดูให้สนุกในส่วนไหนกันแน่ เลยมีคนบอกว่ารสชาติเรื่องนี้เปลี่ยนไป
แต่ถ้ามองไปยังสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปจากนี้
เรื่องนี้เราเห็นพัฒนาการตัวละครชัดเจน รู้ว่าใครรักใคร ชอบใคร เกลียดใคร หรือหลอกใช้ใคร
ตัวละครแต่ละตัวมีเรื่องราวที่ยังน่าติดตาม ซึ่งมันคงจะไปสู่จุดที่ตัวอย่างออกมาแต่มันคงต้องใช้เวลา
และเราจะได้ละครสองเสน่หาที่คนดูเข้าใจเรื่องและความเป็นไปในละคร
แล้วค่อยมาตัดสินอีกทีว่ามันจะขึ้นไปเรื่อย ๆ ในทุกตอนที่ออกอากาศหรือไม่