1. เมล กิ๊บสัน - Mad Max
เขาเป็นส่วนสำคัญที่หนังภาคแรกในไตรภาคนี้ทำรายได้ 100 ล้านเหรียญทั่วโลก ด้วยทุนสร้างเพียง 300,000 เหรียญ เมล กิ๊บสันได้รับค่าตัว 15,000 เหรียญจากเรื่องนี้ แต่นั่นก็ถือว่าไม่ใช่เงินเล็กน้อยเมื่อกับค่าตัว 400 ดอลล่าร์กับการรับบทในเรื่อง Summer City (1977) อย่างไรก็ตามเงินค่าตัวจำนวนเท่านี้ยังไม่นับว่าสำคัญเมื่อเทียบกับเงินตอบแทนที่จะตามมาในอนาคตของเขา
2. ฌอนน์ วิเลียม สก็อตต์ American Pie
American Pie เป็นหนังที่สก็อตต์ได้รับบทอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก และเขาไม่สามารถเรียกค่าตัวเป็นจำนวนมากได้ เขารับบทบาทในหนังวัยรุ่นนี้โดยได้ค่าตัวเพียง 8,000 ดอลลาร์ และมีลักษณะคาแรกเตอร์ที่เขาสร้างขึ้นเองจากปฏิภาณล้วนๆ และแนวความคิดของเขานี้เองทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นรู้จักชื่นชอบมาจนถึงทุกวันนี้
3. เจฟฟ์ แดเนียลส์ - Dumb and Dumber
ว่ากันด้วยเรื่องการทำงานของเขาในภาพยนตร์เรื่อง Dumb and Dumber เจฟฟ์ แดเนียลส์มีประสบการณ์ด้านการแสดงอยู่แล้ว แต่ค่าตัวแสดงเรื่องนี้ของเขาค่อนข้างน้อย เพียง 50,000 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตามจิม แครีย์เพื่อนของเขาได้ค่าตัวเป็นเลข 7 หลัก อันที่จริงแล้วแดเนียลส์มีส่วนร่วมในการสร้างบรรยากาศขบขันร่าเริงให้กับหนังเรื่องนี้ และมุขตลกของเขาก็ไม่ด้อยไปกว่าแครี่ย์เลยแม้แต่น้อย ทั้งเวลาที่ปรากฏตัวในหน้าจอระหว่างนักแสดงก็ยังเท่ากัน
4. มิเชล วิลเลียมส์ All the Money in the World
เมื่อหนังใกล้จะปิดกล้อง มีบางฉากต้องรีบถ่ายทำใหม่เพราะมีการเปลี่ยนตัวนักแสดง มิเชล วิลเลียมส์ก็เช่นเดียวกับนักแสดงอื่นยินดีจะถ่ายซ้ำให้ฟรี แต่พวกเขาก็ยังยอมจ่าย มิเชลได้รับค่าตอบแทนไม่ถึง 1,000 เหรียญ ขณะที่มาร์ค วอลเบิร์กเพื่อนร่วมงานของเธอได้รับ 1.5 ล้านเหรียญ เรื่องจบลงอย่างอื้อฉาว เพราะผู้คนไม่เข้าใจว่าเหตุใดดาราหญิงผู้มากพรสวรรค์กวาดรางวัลมามาก ทั้งเป็นดารานำหญิงหลักของเรื่องถึงได้รับค่าตอบแทนที่น่าขำเช่นนี้
เจมี่ ลี เคอร์ติสเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฉายาควีนเสียงกรี๊ดจากบทบาทของเธอในภาพยนตร์สยองขวัญ หนังแฟรนไชส์ที่นักแสดงท่านนี้ร่วมแสดงประสบความสำเร็จ ความจริงมีใครรู้ไหมว่าเธอคือลูกสาวของเจเน็ต ลีห์นักแสดงจากภาพยนตร์ขึ้นหิ้งอย่าง Psycho ตอนนั้นเคอร์ติสเป็นเพียงนักแสดงหญิงที่มีความใฝ่ฝันทะเยอทะยาน เธอจึงยอมรับค่าตัวเพียง 8,000 เหรียญ ใครจะรู้ว่าเธอจะกลายเป็นหนึ่งในดาราหญิงที่มีชื่อเสียงที่สุดในสายนี้ และมีส่วนร่วมในหลายๆ ส่วนของหนังแฟรนไชส์ประเภทนี้
6. แพทริเซีย อาร์เควตต์ - Boyhood
เรารู้จักแทริเซียจากภาพยนตร์หลายเรื่อง แต่เรื่อง Boyhood สร้างชื่อเสียงให้กับเธอจนชนะรางวัลลูกโลกทองคำและรางวัลออสการ์ มหากาพย์ดรามาเกิดขึ้นเพราะเรื่องนี้ถ่ายทำยาวนานถึง 12 ปี ทำรายได้ทั่วโลกกว่า 57 ล้านเหรียญ ในการให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่ง อาร์เควทกล่าว "ฉันจ่ายค่าพี่เลี้ยงเด็ก ค่าคนพาหมาเดินเล่นมากกว่ารายได้ของเรื่องนี้เสียอีก"
7. บาร์กฮัด แอ็บดี - Captain Phillips
บาร์กฮัด แอ็บดีกลายเป็นดาราด้วยความบังเอิญและโชคดี เขาเป็นผู้อพยพมาจากโซมาเลีย และผู้กำกับพอล กรีนกราสกำลังมองหาชาวโซมาเลียเพื่อแสดงหนังของเขา หลังจากแคสบทผ่าน บาร์กฮัดได้รับบทหลักแสดงคู่กับทอม แฮงค์ เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลมากมาย แต่ได้รับค่าตัวแค่ 65,000 เหรียญเป็นค่าตอบแทน จากนั้นเขากลับไปทำงานที่ร้านของพี่ชาย โซนี่พิคเจอร์ถึงกับต้องเช่าสูทและรถให้เขาสำหรับการไปออกอีเวนท์อย่างเป็นทางการ
8. จูเลีย โรเบิร์ต - Pretty Woman
ในตอนแรกจูเลีย โรเบิร์ตไม่ได้รับพิจารณาให้เป็นนักแสดงหลัก เพราะฝ่ายจัดการของดิสนีย์ไม่ค่อยชอบเธอ แต่ดาราดังคนอื่นก็ไม่ขอรับบทนี้เช่นกันเพราะเหตุผลต่างๆ นานา ดังนั้นดาราสาวน้องจึงได้รับงานนี้พร้อมกับค่าตัว 300,000 ดอลลาร์ ต้องขอบคุณโรเบิร์ต เพราะเรื่องนี้ดังระเบิด ทั้งในตอนนี้เธอกลายเป็นดาราหญิงที่มีค่าตัวสูงสุดในโลก
9. บรู๊ซ แคมป์เบล - Evil Dead
เรารู้จักบรู๊ซ แคมป์เบลจากเรื่อง Evil Dead ไม่เพียงแต่เป็นตัวละครหลักอย่างแอ็ช วิลเลียมส์ในซีรีย์เท่านั้น แต่เขายังแสดงในภาพยนตร์อีกด้วย อย่างไรก็ตาม เขาได้รับค่าตอบแทนต่อตอนเพียงน้อยนิด 100 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์
10. จอห์น ทราโวลตา - Pulp Fiction
บทวินเซนต์ เวกาซึ่งแสดงโดยจอห์น ทราโวลต้ากลายเป็นตัวละครที่เป็นสัญลักษณ์ของเรื่อง และเหตุผลสำคัญสำหรับเรื่องนี้เกิดจากเสน่ห์ของนักแสดง ในที่สุดผู้ชมก็เห็นว่าทราโวลตามีศักยภาพในงานแสดงอย่างน่าทึ่ง และกลายเป็นอาชีพหลักของเขาหลังจากนั้นมา อย่างไรก็ตามค่าตัวที่ทราโวลตาได้รับค่อนข้างน้อย เพียง 150,000 เหรียญ แต่ถ้าหนังเรื่องนี้ขาดเขาไป ผลลัพธ์จะแตกต่างกันมาก
รวมดาราฮอลลีวูดที่ได้รับค่าตัวน้อยมาก เมื่อเทียบความสำเร็จในบทที่พวกเขาแสดง
เขาเป็นส่วนสำคัญที่หนังภาคแรกในไตรภาคนี้ทำรายได้ 100 ล้านเหรียญทั่วโลก ด้วยทุนสร้างเพียง 300,000 เหรียญ เมล กิ๊บสันได้รับค่าตัว 15,000 เหรียญจากเรื่องนี้ แต่นั่นก็ถือว่าไม่ใช่เงินเล็กน้อยเมื่อกับค่าตัว 400 ดอลล่าร์กับการรับบทในเรื่อง Summer City (1977) อย่างไรก็ตามเงินค่าตัวจำนวนเท่านี้ยังไม่นับว่าสำคัญเมื่อเทียบกับเงินตอบแทนที่จะตามมาในอนาคตของเขา
American Pie เป็นหนังที่สก็อตต์ได้รับบทอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก และเขาไม่สามารถเรียกค่าตัวเป็นจำนวนมากได้ เขารับบทบาทในหนังวัยรุ่นนี้โดยได้ค่าตัวเพียง 8,000 ดอลลาร์ และมีลักษณะคาแรกเตอร์ที่เขาสร้างขึ้นเองจากปฏิภาณล้วนๆ และแนวความคิดของเขานี้เองทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นรู้จักชื่นชอบมาจนถึงทุกวันนี้
ว่ากันด้วยเรื่องการทำงานของเขาในภาพยนตร์เรื่อง Dumb and Dumber เจฟฟ์ แดเนียลส์มีประสบการณ์ด้านการแสดงอยู่แล้ว แต่ค่าตัวแสดงเรื่องนี้ของเขาค่อนข้างน้อย เพียง 50,000 ดอลลาร์ อย่างไรก็ตามจิม แครีย์เพื่อนของเขาได้ค่าตัวเป็นเลข 7 หลัก อันที่จริงแล้วแดเนียลส์มีส่วนร่วมในการสร้างบรรยากาศขบขันร่าเริงให้กับหนังเรื่องนี้ และมุขตลกของเขาก็ไม่ด้อยไปกว่าแครี่ย์เลยแม้แต่น้อย ทั้งเวลาที่ปรากฏตัวในหน้าจอระหว่างนักแสดงก็ยังเท่ากัน
เจมี่ ลี เคอร์ติสเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในฉายาควีนเสียงกรี๊ดจากบทบาทของเธอในภาพยนตร์สยองขวัญ หนังแฟรนไชส์ที่นักแสดงท่านนี้ร่วมแสดงประสบความสำเร็จ ความจริงมีใครรู้ไหมว่าเธอคือลูกสาวของเจเน็ต ลีห์นักแสดงจากภาพยนตร์ขึ้นหิ้งอย่าง Psycho ตอนนั้นเคอร์ติสเป็นเพียงนักแสดงหญิงที่มีความใฝ่ฝันทะเยอทะยาน เธอจึงยอมรับค่าตัวเพียง 8,000 เหรียญ ใครจะรู้ว่าเธอจะกลายเป็นหนึ่งในดาราหญิงที่มีชื่อเสียงที่สุดในสายนี้ และมีส่วนร่วมในหลายๆ ส่วนของหนังแฟรนไชส์ประเภทนี้
เรารู้จักแทริเซียจากภาพยนตร์หลายเรื่อง แต่เรื่อง Boyhood สร้างชื่อเสียงให้กับเธอจนชนะรางวัลลูกโลกทองคำและรางวัลออสการ์ มหากาพย์ดรามาเกิดขึ้นเพราะเรื่องนี้ถ่ายทำยาวนานถึง 12 ปี ทำรายได้ทั่วโลกกว่า 57 ล้านเหรียญ ในการให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่ง อาร์เควทกล่าว "ฉันจ่ายค่าพี่เลี้ยงเด็ก ค่าคนพาหมาเดินเล่นมากกว่ารายได้ของเรื่องนี้เสียอีก"
บาร์กฮัด แอ็บดีกลายเป็นดาราด้วยความบังเอิญและโชคดี เขาเป็นผู้อพยพมาจากโซมาเลีย และผู้กำกับพอล กรีนกราสกำลังมองหาชาวโซมาเลียเพื่อแสดงหนังของเขา หลังจากแคสบทผ่าน บาร์กฮัดได้รับบทหลักแสดงคู่กับทอม แฮงค์ เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลมากมาย แต่ได้รับค่าตัวแค่ 65,000 เหรียญเป็นค่าตอบแทน จากนั้นเขากลับไปทำงานที่ร้านของพี่ชาย โซนี่พิคเจอร์ถึงกับต้องเช่าสูทและรถให้เขาสำหรับการไปออกอีเวนท์อย่างเป็นทางการ
ในตอนแรกจูเลีย โรเบิร์ตไม่ได้รับพิจารณาให้เป็นนักแสดงหลัก เพราะฝ่ายจัดการของดิสนีย์ไม่ค่อยชอบเธอ แต่ดาราดังคนอื่นก็ไม่ขอรับบทนี้เช่นกันเพราะเหตุผลต่างๆ นานา ดังนั้นดาราสาวน้องจึงได้รับงานนี้พร้อมกับค่าตัว 300,000 ดอลลาร์ ต้องขอบคุณโรเบิร์ต เพราะเรื่องนี้ดังระเบิด ทั้งในตอนนี้เธอกลายเป็นดาราหญิงที่มีค่าตัวสูงสุดในโลก
เรารู้จักบรู๊ซ แคมป์เบลจากเรื่อง Evil Dead ไม่เพียงแต่เป็นตัวละครหลักอย่างแอ็ช วิลเลียมส์ในซีรีย์เท่านั้น แต่เขายังแสดงในภาพยนตร์อีกด้วย อย่างไรก็ตาม เขาได้รับค่าตอบแทนต่อตอนเพียงน้อยนิด 100 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์
บทวินเซนต์ เวกาซึ่งแสดงโดยจอห์น ทราโวลต้ากลายเป็นตัวละครที่เป็นสัญลักษณ์ของเรื่อง และเหตุผลสำคัญสำหรับเรื่องนี้เกิดจากเสน่ห์ของนักแสดง ในที่สุดผู้ชมก็เห็นว่าทราโวลตามีศักยภาพในงานแสดงอย่างน่าทึ่ง และกลายเป็นอาชีพหลักของเขาหลังจากนั้นมา อย่างไรก็ตามค่าตัวที่ทราโวลตาได้รับค่อนข้างน้อย เพียง 150,000 เหรียญ แต่ถ้าหนังเรื่องนี้ขาดเขาไป ผลลัพธ์จะแตกต่างกันมาก