ก่อนจะได้วัคซีน
คำแนะนำป้องกันโควิด คือ ใส่หน้ากาก ล้างมือ และ เว้นระยะห่าง
ใส่หน้ากากมีกฎหมาย ก็เลยใส่กัน แต่เว้นระยะห่าง ผมไม่เห็นมาตรการที่เคร่งครัดเลย
ผมไปซื้อของ ซุปเปอร์มารฺเก็ต 2 ครั้ง ใน 10 วัน ไปห้างสองแห่ง ผลที่ผมเจอคือ ตอนจ่ายเงินที่แคชเชียร์ พนักงานซุปเปอร์จะมีแต่คนคอยบอกว่า ช่องนี้ว่าง ช่องนี้เลย หรือบางทีแทบจะไปพาเข้าไป แต่ ไม่กันคนข้างหลังเลย ปล่อยให้เข้ามายืนแทบจะติดผมเลย ผมต้องรีบเดินอ้อมรถเข็น ไปอยู่อีกฝั่ง จึงจะได้ 1 เมตร และที่ผมเห็นคือ เข้ามาซ้อนๆกัน เหมือนสถานการณ์ ปกติ ยืนแทบจะชิดกัน มีทั้งคนแก่ ทั้งเด็ก ไม่ได้รู้สึก ว่าจะต้องเว้นระยะห่างอะไรเลย
และไม่ได้เป็นแค่ห้างเดียว เป็นทั้งสองห้าง อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน คือ จะมีคนมาจ่ายเงินต่อจากเรา ก็จะรีบมายืนติดเรา ผมก็ต้องเดินเอารถเข็นกั้นอีก
ทำไมมันจะไม่ติดกัน ทำไมมันจะไม่แพร่ระบาด ก็คนไทยเราใน กทม น่ะ ไม่ได้ทำตามคำแนะนำของแพทย์ หรือ สื่อเลย ไม่เชือขอดูกล้องวงจรปิดตามห้าง ตรงที่จ่ายตังค์ได้เลย รับรอง เถียงไม่ออก
คือ อยากให้ ทางห้างสรรถสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต มีคนคอยเตือน ตรงช่องจ่ายเงิน ก็เข้าใจนะว่า อาจเจอลูกค้าบางคนที่นิสัยแย่ๆ ด่าให้ แต่ ก็แลกกับการไม่กลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่นะครับ คือ ผมเชื่อว่า หลายคนน่ะ เว้นระยะห่าง แต่จำนวนคนไม่เว้น น่าจะมีไม่น้อยกว่า แค่ 50 -50 เราก็แย่กันแล้ว
ไม่ใช่แค่ใส่แมส์นะครับ แต่ต้องเว้นระยะจริงๆจังๆด้วย ส่วนล้างมือนี่ก็คือ อนามัยส่วนตัว คุณไม่ล้าง คุณก็ติด แต่ การเว้นระยะห่างคือ คุณจะไปติดจากคนอื่น หรือ ไปแพร่เชื้อให้คนอื่น มันคือ การระบาดอย่างง่ายๆเลย เพราะคุณไปยืนจ่ายเงินชิดกัน
ใครไปซุปเปอร์ ก็ระวังตัวกันดีๆนะครับ เพราะรู้สึกคนที่ไม่สนใจการเว้นระยะห่าง จะมีมากจริงๆ
ใครพาลูกหลานไปซื้อของด้วย ต้องระวังอย่างยิ่งเลยนะครับ ถ้าจำเป็นต้องพาไป แต่ไม่พาไปน่ะดีสุด
Covid 19 ก่อนได้วัคซีน คนไทยไม่ได้ทำตามคำแนะนำครบถ้วน จึงติดกันเยอะรึเปล่า
คำแนะนำป้องกันโควิด คือ ใส่หน้ากาก ล้างมือ และ เว้นระยะห่าง
ใส่หน้ากากมีกฎหมาย ก็เลยใส่กัน แต่เว้นระยะห่าง ผมไม่เห็นมาตรการที่เคร่งครัดเลย
ผมไปซื้อของ ซุปเปอร์มารฺเก็ต 2 ครั้ง ใน 10 วัน ไปห้างสองแห่ง ผลที่ผมเจอคือ ตอนจ่ายเงินที่แคชเชียร์ พนักงานซุปเปอร์จะมีแต่คนคอยบอกว่า ช่องนี้ว่าง ช่องนี้เลย หรือบางทีแทบจะไปพาเข้าไป แต่ ไม่กันคนข้างหลังเลย ปล่อยให้เข้ามายืนแทบจะติดผมเลย ผมต้องรีบเดินอ้อมรถเข็น ไปอยู่อีกฝั่ง จึงจะได้ 1 เมตร และที่ผมเห็นคือ เข้ามาซ้อนๆกัน เหมือนสถานการณ์ ปกติ ยืนแทบจะชิดกัน มีทั้งคนแก่ ทั้งเด็ก ไม่ได้รู้สึก ว่าจะต้องเว้นระยะห่างอะไรเลย
และไม่ได้เป็นแค่ห้างเดียว เป็นทั้งสองห้าง อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน คือ จะมีคนมาจ่ายเงินต่อจากเรา ก็จะรีบมายืนติดเรา ผมก็ต้องเดินเอารถเข็นกั้นอีก
ทำไมมันจะไม่ติดกัน ทำไมมันจะไม่แพร่ระบาด ก็คนไทยเราใน กทม น่ะ ไม่ได้ทำตามคำแนะนำของแพทย์ หรือ สื่อเลย ไม่เชือขอดูกล้องวงจรปิดตามห้าง ตรงที่จ่ายตังค์ได้เลย รับรอง เถียงไม่ออก
คือ อยากให้ ทางห้างสรรถสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต มีคนคอยเตือน ตรงช่องจ่ายเงิน ก็เข้าใจนะว่า อาจเจอลูกค้าบางคนที่นิสัยแย่ๆ ด่าให้ แต่ ก็แลกกับการไม่กลายเป็นคลัสเตอร์ใหม่นะครับ คือ ผมเชื่อว่า หลายคนน่ะ เว้นระยะห่าง แต่จำนวนคนไม่เว้น น่าจะมีไม่น้อยกว่า แค่ 50 -50 เราก็แย่กันแล้ว
ไม่ใช่แค่ใส่แมส์นะครับ แต่ต้องเว้นระยะจริงๆจังๆด้วย ส่วนล้างมือนี่ก็คือ อนามัยส่วนตัว คุณไม่ล้าง คุณก็ติด แต่ การเว้นระยะห่างคือ คุณจะไปติดจากคนอื่น หรือ ไปแพร่เชื้อให้คนอื่น มันคือ การระบาดอย่างง่ายๆเลย เพราะคุณไปยืนจ่ายเงินชิดกัน
ใครไปซุปเปอร์ ก็ระวังตัวกันดีๆนะครับ เพราะรู้สึกคนที่ไม่สนใจการเว้นระยะห่าง จะมีมากจริงๆ
ใครพาลูกหลานไปซื้อของด้วย ต้องระวังอย่างยิ่งเลยนะครับ ถ้าจำเป็นต้องพาไป แต่ไม่พาไปน่ะดีสุด