เดินหน้าปูพรมฉีดวัคซีน มิ.ย. นี้ เปิดให้ผู้สมัครใจเข้ามาฉีดได้เลย เร่งกระจายวัคซีนไปทุกพื้นที่
คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ มีมติเดินหน้าปูพรมเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนทุกพื้นที่ เริ่มต้นเดือน มิ.ย. นี้ พร้อมเปิดให้ผู้ที่ต้องการฉีดเข้ามาได้เลย โดยไม่ต้องนัดหมาย
วันที่ 12 พ.ค. 2564 ภายหลังการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุม แถลงมติที่ประชุมคณะกรรมการฯ ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบใน 3 ประเด็นหลัก คือ การหารือเจรจาจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมจากแผนเดิมที่จะจัดหา 100 ล้านโดส เพิ่มเป็น 150 ล้านโดส และแนวทางเร่งทำงานเชิงรุก เจรจาจัดหาวัคซีนจากแหล่งอื่นๆ เพิ่มเติม ปรับแผนการฉีดวัคซีน เปิดปูพรมฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประชาชน โดยเริ่มต้นทันทีในเดือน มิ.ย. นี้ ผ่าน 3 ช่องทาง คือ.....🖍
1. กลุ่มที่มีการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันหรือ LINE หมอพร้อม
2. การจัดขอเข้ารับเป็นกลุ่มหมู่คณะเช่นในโรงงานหรือสถานประกอบการขนาดใหญ่
3. เปิดให้ประชาชนทั่วไป ได้เลยโดยไม่ต้องนัดหมาย
ส่วนวัคซีน ที่ภาคเอกชนกำลังจัดหาเพื่อเป็นทางเลือกในขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการดำเนินการขององค์การเภสัชกรรมในการประสานข้อมูล ทั้งนี้ ต้องเป็นวัคซีนที่ผ่านการขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการอาหารและยาแล้วเท่านั้น จึงจะสามารถนำเข้าได้
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงษ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า แผนการปูพรมฉีดวัคซีนให้ประชาชนนั้น ทางกรมควบคุมโรคมีแผนต้องฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม ร้อยละ 70 ของจำนวนประชาชนในแต่ละจังหวัด โดยพื้นที่ซึ่งมีการระบาด เช่น กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล แต่ก็เป็นไปตามความสมัครใจในการรับวัคซีน
สำหรับ แผนการเปิดฉีดวัคซีนให้ประชาชน สามารถเข้ามารับวัคซีนได้โดยไม่ต้องนัดหมายนั้น จะเน้นกลุ่มบุคคลที่ไม่ได้มีประวัติการรักษาในสถานพยาบาล เป็นบุคคลกลุ่มอาชีพเสี่ยง เช่น กลุ่มพนักงานขับรถโดยสาร คนขับรถแท็กซี่
โดยสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนตามจุดต่างๆ ที่จัดให้เป็นจุดรับวัคซีน ซึ่งเป็นสถานที่เปิดโล่งมีระบบระบายอากาศ และรองรับคนจำนวนมากได้ เพื่อลดความแออัด เช่น สถานีกลางบางซื่อ จามจุรีสแควร์ เซ็นทรัลลาดพร้าว เดอะมอลล์ บางกะปิ
ทั้งนี้ มีการแบ่งสัดส่วนของการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในแต่ละจุดแตกต่างกันตาม สถานการณ์และการประเมินของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนั้น เช่น อาจกำหนดให้กลุ่มที่มาตามนัดหมายผ่าน LINE หมอพร้อม หรือ แอปพลิเคชัน หมอพร้อม ร้อยละ 30 กลุ่มประชาชนที่ทางโรงพยาบาลประสานร้อยละ 50 และผู้ที่เดินทางเข้ารับวัคซีนด้วยตนเองโดยไม่ได้นัดหมายอีกร้อยละ 20
โดยการเข้ารับวัคซีนนั้น จะใช้เกณฑ์ตามข้อบ่งชี้การใช้ทางการแพทย์ ไม่มีการเลือกยี่ห้อวัคซีนเองได้ หากจังหวัดใดมีความพร้อม ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด สามารถดำเนินการได้ทันที
หลังการเข้ารับวัคซีนแล้วประชาชนต้องลงทะเบียน เพื่อติดตามผลและประเมินอาการผ่านแอปพลิเคชัน หรือ LINE หมอพร้อม ส่วนกรณีไม่มีแอปพลิเคชันในการติดตามผลจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือ โรงพยาบาล เป็นผู้ติดตามอาการหลังการรับวัคซีน
ส่วนกลุ่มอื่นๆ เช่น กลุ่มเปราะบาง กลุ่มคนด้อยโอกาส ทุกคน ต้องได้รับวัคซีนแน่นอน แต่อยู่ในระหว่างจัดทำแผนรองรับ เพื่อความมั่นใจในการเข้ารับวัคซีนที่ปลอดภัย
ขณะที่ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย จะประสานผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศ ในการแจ้งเข้ารับวัคซีน ส่วนกลุ่มแรงงานต่างด้าว จะจัดฉีดวัคซีนในกลุ่มที่มีโอกาสเกิดการระบาด เช่น ในโรงงานขนาดใหญ่ ตลาดใหญ่ เพื่อการควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่นั้น
พร้อมทั้ง ยืนยันว่า วัคซีนที่ได้มา กรมควบคุมโรค จะกระจายออกไปทันที เช่น วัคซีนซิโนแวค 2.5 ล้านโดส ได้มีการกระจายไปยังต่างจังหวัด และพื้นที่กรุงเทพฯ รวมทั้ง ปริมณฑลเกือบทั้งหมดแล้ว เพื่อฉีดวัคซีนให้ได้เร็วที่สุด ส่วนวัคซีนอีก 1 ล้านโดส อยู่ระหว่างการรอเอกสารเพิ่มเติมชุดสุดท้ายจากบริษัทต้นทาง หากครบแล้วจะกระจายจัดสรรวัคซีนไปในแต่ละพื้นที่ทันที
นอกจากนี้ ยังมีมติเห็นชอบแนวทางการจัดหาวัคซีน สำหรับประชากรไทย ในปี 2565 โดยให้เร่งรัดเจรจากับผู้ผลิตที่มีการพัฒนาวัคซีนรุ่นที่ 2 ที่สามารถครอบคลุมไวรัสกลายพันธุ์ ส่งมอบได้ภายในไตรมาส 1 ของปี 2565 และเร่งรัดการแสวงหาความร่วมมือกับต่างประเทศเพื่อรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้วยแพลตฟอร์มใหม่ สนับสนุนการวิจัยพัฒนาวัคซีนแบบรองรับการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส แนวทางการขึ้นทะเบียนวัคซีนที่วิจัยพัฒนาในประเทศ และแสวงหาความร่วมมือกับต่างประเทศในการทดสอบวัคซีนในมนุษย์ระยะที่ 3 โดยจะรายงาน ศบค.รับทราบต่อไป
https://workpointtoday.com/covidvaccine12052021
6 พ.ค.64- เวลา 05.35 น. ที่เขตปลอดอากรและคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ นพ.วิทูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม รับมอบวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค จำนวน 1 ล้านโดส จากประเทศจีน ที่ขนส่งโดยสายการบิน Air China Airline เที่ยวบินที่ CA603 เส้นทางปักกิ่ง - กรุงเทพมหานคร
สำหรับการรับมอบวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค จากประเทศจีนในครั้งนี้เพิ่มอีกจำนวน 1 ล้านโดส มีการบรรจุในตู้ Envirotainer ระบบ Cold Chain ในการขนส่งสินค้าทางอากาศ ที่ใช้เทคโนโลยีพิเศษในการควบคุมอุณหภูมิของสินค้าในกล่อง ที่ต้องควบคุมอุณหภูมิไว้ไม่เกิน 2 – 8 องศาเซลเซียส ตลอดการขนส่งเพื่อรักษาคุณภาพ จำนวน 6 ตู้ 27 พาเลท หลังจากที่ก่อนหน้านี้นำเข้ามาแล้ว 2 ล้าน 5 แสนโดส รวมยอดการนำเข้าวัคซีนซิโนแวคจากประเทศจีน จำนวนทั้งสิ้น 3 ล้าน 5 แสนโดส โดยวัคซีนทั้งหมดนี้จะขนส่งไปจัดเก็บยังคลังสำรองวัคซีนโควิด-19 ซึ่งมีการควบคุมอุณหภูมิระหว่าง 2-8 องศา ที่ศูนย์กระจายสินค้าของ บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด จากนั้นองค์การฯ จะดำเนินการตรวจรับวัคซีนและส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจสอบคุณภาพ มาตรฐาน และเอกสารต่างๆ เมื่อผ่านการตรวจสอบทุกขั้นตอนแล้ว จะส่งให้กรมควบคุมโรคตรวจรับวัคซีนและกระจายไปยังหน่วยบริการ และสถานพยาบาลต่างๆ เพื่อฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายตามแผนที่ทางกรมควบคุมโรคกำหนดต่อไป
โดยวัคซีนซิโนแวค นี้จะมีการส่งมอบมาอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ จะเข้ามาอีกจำนวน 5 แสนโดส จากการบริจาคของประเทศจีน และสิ้นเดือนนี้จะเข้ามาอีก จำนวน 2 ล้านโดส จากการจัดซื้อโดยองค์การเภสัชกรรมเอง
https://www.thaipost.net/main/detail/101992
12 พ.ค.64 เพจเฟชบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โพสต์ภาพวัคซีนที่ทางการจีนเตรียมส่งมาให้ไทย โดยระบุว่า.....📌
"วัคซีนซิโนแวค 500,000 โดส ที่รัฐบาลจีนบริจาคให้ประเทศไทย ได้บรรจุเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว จะมาถึงประเทศไทยในเร็ว ๆ นี้ จีนไทยพี่น้องกัน ประเทศไทยสู้ ๆ"
https://www.naewna.com/local/572511
วัคซีนซิโนแวคจากจีนทะยอยเข้ามาให้ไทยได้ฉีดให้ประชาชน
ในวันสองวันนี้จะมาอีก 500,000 โดส
เกรียนสามกีบไปป่วนเว็บทางสถานทูตจีน เรื่องวัคซีนนี้ด้วย
น่าอายเสียจริงค่ะ
ลุงตู่จะปูพรมฉีดวัคซีนให้ทั่วประเทศพร้อมกัน เอาให้อยู่โควิด
ทั้งสมัครฉีดทางหมอพร้อมหรือเจ้าหน้าที่อสม. ขอฉีดเป็นหมู่คณะ และเดินเข้าไปฉีด
แต่ก็ต้องมีประวัติการฉีดวัคซีนเพื่อติดตามผล
เดือนหน้าแอสตร้าเซเนก้าก็จะเข้ามาหลายล้านโดส
ทั้งฉีดทั้งอาบกันไปเลยค่ะ
สู้ๆนะคะ....
🧡มาลาริน/เดือนหน้าท่านนายกฯลุงตู่จะปูพรมฉีดวัคซีนพร้อมกันไปทั่วประเทศ เตรียมต้นแขนขาวๆเอาไว้นะคะ
คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ มีมติเดินหน้าปูพรมเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ประชาชนทุกพื้นที่ เริ่มต้นเดือน มิ.ย. นี้ พร้อมเปิดให้ผู้ที่ต้องการฉีดเข้ามาได้เลย โดยไม่ต้องนัดหมาย
วันที่ 12 พ.ค. 2564 ภายหลังการประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุม แถลงมติที่ประชุมคณะกรรมการฯ ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบใน 3 ประเด็นหลัก คือ การหารือเจรจาจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมจากแผนเดิมที่จะจัดหา 100 ล้านโดส เพิ่มเป็น 150 ล้านโดส และแนวทางเร่งทำงานเชิงรุก เจรจาจัดหาวัคซีนจากแหล่งอื่นๆ เพิ่มเติม ปรับแผนการฉีดวัคซีน เปิดปูพรมฉีดวัคซีนเข็มแรกให้ประชาชน โดยเริ่มต้นทันทีในเดือน มิ.ย. นี้ ผ่าน 3 ช่องทาง คือ.....🖍
1. กลุ่มที่มีการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันหรือ LINE หมอพร้อม
2. การจัดขอเข้ารับเป็นกลุ่มหมู่คณะเช่นในโรงงานหรือสถานประกอบการขนาดใหญ่
3. เปิดให้ประชาชนทั่วไป ได้เลยโดยไม่ต้องนัดหมาย
ส่วนวัคซีน ที่ภาคเอกชนกำลังจัดหาเพื่อเป็นทางเลือกในขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการดำเนินการขององค์การเภสัชกรรมในการประสานข้อมูล ทั้งนี้ ต้องเป็นวัคซีนที่ผ่านการขึ้นทะเบียนและได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการอาหารและยาแล้วเท่านั้น จึงจะสามารถนำเข้าได้
ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงษ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า แผนการปูพรมฉีดวัคซีนให้ประชาชนนั้น ทางกรมควบคุมโรคมีแผนต้องฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม ร้อยละ 70 ของจำนวนประชาชนในแต่ละจังหวัด โดยพื้นที่ซึ่งมีการระบาด เช่น กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล แต่ก็เป็นไปตามความสมัครใจในการรับวัคซีน
สำหรับ แผนการเปิดฉีดวัคซีนให้ประชาชน สามารถเข้ามารับวัคซีนได้โดยไม่ต้องนัดหมายนั้น จะเน้นกลุ่มบุคคลที่ไม่ได้มีประวัติการรักษาในสถานพยาบาล เป็นบุคคลกลุ่มอาชีพเสี่ยง เช่น กลุ่มพนักงานขับรถโดยสาร คนขับรถแท็กซี่
โดยสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนตามจุดต่างๆ ที่จัดให้เป็นจุดรับวัคซีน ซึ่งเป็นสถานที่เปิดโล่งมีระบบระบายอากาศ และรองรับคนจำนวนมากได้ เพื่อลดความแออัด เช่น สถานีกลางบางซื่อ จามจุรีสแควร์ เซ็นทรัลลาดพร้าว เดอะมอลล์ บางกะปิ
ทั้งนี้ มีการแบ่งสัดส่วนของการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในแต่ละจุดแตกต่างกันตาม สถานการณ์และการประเมินของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนั้น เช่น อาจกำหนดให้กลุ่มที่มาตามนัดหมายผ่าน LINE หมอพร้อม หรือ แอปพลิเคชัน หมอพร้อม ร้อยละ 30 กลุ่มประชาชนที่ทางโรงพยาบาลประสานร้อยละ 50 และผู้ที่เดินทางเข้ารับวัคซีนด้วยตนเองโดยไม่ได้นัดหมายอีกร้อยละ 20
โดยการเข้ารับวัคซีนนั้น จะใช้เกณฑ์ตามข้อบ่งชี้การใช้ทางการแพทย์ ไม่มีการเลือกยี่ห้อวัคซีนเองได้ หากจังหวัดใดมีความพร้อม ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด สามารถดำเนินการได้ทันที
หลังการเข้ารับวัคซีนแล้วประชาชนต้องลงทะเบียน เพื่อติดตามผลและประเมินอาการผ่านแอปพลิเคชัน หรือ LINE หมอพร้อม ส่วนกรณีไม่มีแอปพลิเคชันในการติดตามผลจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือ โรงพยาบาล เป็นผู้ติดตามอาการหลังการรับวัคซีน
ส่วนกลุ่มอื่นๆ เช่น กลุ่มเปราะบาง กลุ่มคนด้อยโอกาส ทุกคน ต้องได้รับวัคซีนแน่นอน แต่อยู่ในระหว่างจัดทำแผนรองรับ เพื่อความมั่นใจในการเข้ารับวัคซีนที่ปลอดภัย
ขณะที่ชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย จะประสานผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศ ในการแจ้งเข้ารับวัคซีน ส่วนกลุ่มแรงงานต่างด้าว จะจัดฉีดวัคซีนในกลุ่มที่มีโอกาสเกิดการระบาด เช่น ในโรงงานขนาดใหญ่ ตลาดใหญ่ เพื่อการควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่นั้น
พร้อมทั้ง ยืนยันว่า วัคซีนที่ได้มา กรมควบคุมโรค จะกระจายออกไปทันที เช่น วัคซีนซิโนแวค 2.5 ล้านโดส ได้มีการกระจายไปยังต่างจังหวัด และพื้นที่กรุงเทพฯ รวมทั้ง ปริมณฑลเกือบทั้งหมดแล้ว เพื่อฉีดวัคซีนให้ได้เร็วที่สุด ส่วนวัคซีนอีก 1 ล้านโดส อยู่ระหว่างการรอเอกสารเพิ่มเติมชุดสุดท้ายจากบริษัทต้นทาง หากครบแล้วจะกระจายจัดสรรวัคซีนไปในแต่ละพื้นที่ทันที
นอกจากนี้ ยังมีมติเห็นชอบแนวทางการจัดหาวัคซีน สำหรับประชากรไทย ในปี 2565 โดยให้เร่งรัดเจรจากับผู้ผลิตที่มีการพัฒนาวัคซีนรุ่นที่ 2 ที่สามารถครอบคลุมไวรัสกลายพันธุ์ ส่งมอบได้ภายในไตรมาส 1 ของปี 2565 และเร่งรัดการแสวงหาความร่วมมือกับต่างประเทศเพื่อรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้วยแพลตฟอร์มใหม่ สนับสนุนการวิจัยพัฒนาวัคซีนแบบรองรับการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส แนวทางการขึ้นทะเบียนวัคซีนที่วิจัยพัฒนาในประเทศ และแสวงหาความร่วมมือกับต่างประเทศในการทดสอบวัคซีนในมนุษย์ระยะที่ 3 โดยจะรายงาน ศบค.รับทราบต่อไป
https://workpointtoday.com/covidvaccine12052021
6 พ.ค.64- เวลา 05.35 น. ที่เขตปลอดอากรและคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ นพ.วิทูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม รับมอบวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค จำนวน 1 ล้านโดส จากประเทศจีน ที่ขนส่งโดยสายการบิน Air China Airline เที่ยวบินที่ CA603 เส้นทางปักกิ่ง - กรุงเทพมหานคร
สำหรับการรับมอบวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค จากประเทศจีนในครั้งนี้เพิ่มอีกจำนวน 1 ล้านโดส มีการบรรจุในตู้ Envirotainer ระบบ Cold Chain ในการขนส่งสินค้าทางอากาศ ที่ใช้เทคโนโลยีพิเศษในการควบคุมอุณหภูมิของสินค้าในกล่อง ที่ต้องควบคุมอุณหภูมิไว้ไม่เกิน 2 – 8 องศาเซลเซียส ตลอดการขนส่งเพื่อรักษาคุณภาพ จำนวน 6 ตู้ 27 พาเลท หลังจากที่ก่อนหน้านี้นำเข้ามาแล้ว 2 ล้าน 5 แสนโดส รวมยอดการนำเข้าวัคซีนซิโนแวคจากประเทศจีน จำนวนทั้งสิ้น 3 ล้าน 5 แสนโดส โดยวัคซีนทั้งหมดนี้จะขนส่งไปจัดเก็บยังคลังสำรองวัคซีนโควิด-19 ซึ่งมีการควบคุมอุณหภูมิระหว่าง 2-8 องศา ที่ศูนย์กระจายสินค้าของ บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด จากนั้นองค์การฯ จะดำเนินการตรวจรับวัคซีนและส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจสอบคุณภาพ มาตรฐาน และเอกสารต่างๆ เมื่อผ่านการตรวจสอบทุกขั้นตอนแล้ว จะส่งให้กรมควบคุมโรคตรวจรับวัคซีนและกระจายไปยังหน่วยบริการ และสถานพยาบาลต่างๆ เพื่อฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายตามแผนที่ทางกรมควบคุมโรคกำหนดต่อไป
โดยวัคซีนซิโนแวค นี้จะมีการส่งมอบมาอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ จะเข้ามาอีกจำนวน 5 แสนโดส จากการบริจาคของประเทศจีน และสิ้นเดือนนี้จะเข้ามาอีก จำนวน 2 ล้านโดส จากการจัดซื้อโดยองค์การเภสัชกรรมเอง
https://www.thaipost.net/main/detail/101992
12 พ.ค.64 เพจเฟชบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย โพสต์ภาพวัคซีนที่ทางการจีนเตรียมส่งมาให้ไทย โดยระบุว่า.....📌
"วัคซีนซิโนแวค 500,000 โดส ที่รัฐบาลจีนบริจาคให้ประเทศไทย ได้บรรจุเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว จะมาถึงประเทศไทยในเร็ว ๆ นี้ จีนไทยพี่น้องกัน ประเทศไทยสู้ ๆ"
https://www.naewna.com/local/572511
วัคซีนซิโนแวคจากจีนทะยอยเข้ามาให้ไทยได้ฉีดให้ประชาชน
ในวันสองวันนี้จะมาอีก 500,000 โดส
เกรียนสามกีบไปป่วนเว็บทางสถานทูตจีน เรื่องวัคซีนนี้ด้วย
น่าอายเสียจริงค่ะ
ลุงตู่จะปูพรมฉีดวัคซีนให้ทั่วประเทศพร้อมกัน เอาให้อยู่โควิด
ทั้งสมัครฉีดทางหมอพร้อมหรือเจ้าหน้าที่อสม. ขอฉีดเป็นหมู่คณะ และเดินเข้าไปฉีด
แต่ก็ต้องมีประวัติการฉีดวัคซีนเพื่อติดตามผล
เดือนหน้าแอสตร้าเซเนก้าก็จะเข้ามาหลายล้านโดส
ทั้งฉีดทั้งอาบกันไปเลยค่ะ
สู้ๆนะคะ....