คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 20
ผมรู้สึกว่าตรรกะเค้าไม่โอเคมากๆ ถ้าบ้านจนจริงๆ ซึ่งบ้านน้องเค้าก็จนแหละ แต่ถ้าทำงานเก็บเงินตามที่มาแย้งจริงๆ แล้วการที่ทำงานเสริมด้วยตัวเองแล้วได้เงินมาหลักหมื่น สิ่งแรกที่นึกควรจะเป็นเรื่องการกินการอยู่ไม่ใช่เหรอครับ ควรจะนึกว่าทั้งบ้านเหลือเงินพันห้า ถ้าทำงานหาเงินจนสามารถซื้อไอโฟนไอแพดได้ เงิน 5 หมื่นควรแบ่งเก็บให้พ่อให้แม่เป็นค่าอาหารประทังชีวิตไปได้หลายเดือนเลยนะครับ ทำไมเอามาซื้อของฟุ่มเฟือยก่อน แต่เงินค่าเทอมไม่มี ทั้งๆที่ขอทุนก็ได้ ไอแพดไอโฟนมันจำเป็นขนาดนั้นเลยเหรอ ไม่เข้าใจคนที่แม้แต่ข้าวยังไม่รู้ว่าจะมีเงินมาซื้อกินได้กี่วัน แต่พอหาเงินมาได้ดันเอามาใช้ในสิ่งที่ไม่จำเป็นก่อน คนแบบนี้ไม่สมควรจะมาเป็นหมอนะครับ ถ้ามันจำเป็นจริงๆถึงขนาดต้องใช้ ของมือสองก็มีขายเยอะแยะ หรือยี่ห้ออื่นๆมือสองที่ใช้งานได้แบบไอโฟนไอแพดก็มี ทำไมไม่ซื้อ
มีคนมาเถียงแทนว่าเพราะเรียนหมอมันเลยควรใช้ของดีๆไปเลย แถมบางคนบอกว่าการเรียนหมอแค่ 2-3 ล้านจะไปพออะไร ค่าอุปกรณ์ต่างๆค่าใช้จ่ายจริงๆ 5 ล้านถึงจะเอาอยู่งี๊ อยากจะถามกลับว่าเคยเรียนหมอจริงๆเหรอ หรือเรียนหมอมหาลัยเอกชนมาแล้วคิดว่าเรียน ม รัฐจะมีค่าใช้จ่ายเท่ากัน? ซึ่งถ้าคนมาเถียงแทนเป็นหมอจริงๆ ถึงจะจบจาก ม รัฐ ม เอกชน ก็น่าจะแยกแยะออกว่าค่าเรียนรัฐกับเอกชนต่างกันไหม ถ้าการเรียนหมอต้องใช้เงินเป็น 5 ล้าน(หมายถึงเงินของนักศึกษาที่ต้องจ่ายเอง)ต้องใช้ไอแพดไอโฟน ป่านนี้คนจะเรียนหมอคงต้องมีแต่ลูกคนรวยแล้วล่ะครับ คนจนคงหมดสิทธิ์เรียนแล้ว ในชีวิตจริงมันไม่ใช่แบบนั้น คนเรียนจบเป็นหมอแล้วบางคนเค้ายังไม่กล้าใช้เลยไอแพดไอโฟนอะ เงิน 2-3 ล้าน บอกเลยว่าครอบครัวเด็กเรียนหมอเกินครึ่งก็ไม่ได้มีเงินเป็นหลักล้านขนาดนั้น ทำไมเค้าสามารถเข้าเรียนแล้วเรียนจนจบได้ มันยังมีเด็กเรียนติดหมอแต่บ้านไม่ได้มีฐานะอีกเยอะแน่นอน ถ้าคุณไม่มีเงินเรียนจริงๆไปคุยกับคณะเลย มีแต่คนจะสนับสนุนหาทุนนั่นนี่ให้ ไม่ใช่มาขอบริจาคเป็นขอทานแบบนี้ ดูเป็นเด็กมือเติบมากๆ
รถป้ายแดง มาบอกว่าครอบครัวนี้เค้าไม่มีรถใช้ คือมอไซต์ก็ได้มั้งครับ ถ้าจำเป็นต้องรถยนต์จริงๆ รถมือสอง แสนกว่าถมเถไป แล้วเก็บ 5-6 แสนที่เหลือจากการไม่ซื้อป้ายแดงก็สามารถเอามาเป็นค่าเรียนจนจบก็ได้แล้วมั้ยครับ
โมโหจริงๆกับคนแบบนี้ ดูจากสิ่งต่างๆแล้วผมคิดว่าเด็กคนนี้ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นหมอที่ดีได้เลย ข้ออ้างต่างๆจากการมีเงินแล้วซื้อของฟุ่มเฟือยพวกนี้พูดยังไงก็ฟังไม่ขึ้นหรอก สุดท้ายเห็นว่าหาเงินได้ง่ายดีคงขอบริจาคอีกถ้าเงินหมด ตอนนั้นคนก็คงลืมชื่อไปแล้ว
สมัยนี้โอนไวเยอะ มีหลายๆกรณีแล้วที่ให้เราได้เห็น แต่คนก็ยังไม่เข็ด สุดท้ายจบที่คนได้รับบริจาซื้อบ้านเงินสดซื้อรถป้ายแดงใช้ไอโฟน ส่วนคนบริจาคยังนั่งกินมาม่า เงินเดือนเดือนชนเดือนเหมือนเดิม พร้อมกับคำพูดว่าคนบริจาคเค้าไม่คิดอะไรหรอก ให้แล้วก็สบายใจถือว่าเป็นบุญ คนได้เค้าจะเอาไปทำอะไรก็เรื่องของเค้า เราให้ด้วยใจเมตตา ก็มีความสุขแล้ว....สาธุ
คราวหน้าคราวหลังเวลาจะบริจาคเงินให้ใคร ควรจะมีข้อมูลที่มากๆว่ามิจฉาชีพรึเปล่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการขอเงินบริจาคส่วนบุคคลแบบนี้ เพราะเราไม่รู้ข้อมูลตื่นลึกหนาบางของเค้า
และอนาคตก็จะยังมีข่าวแบบนี้อีกเรื่อยๆ เพราะคนเราเชื่อคนง่ายและโอนไว
เด็กเรียนแพทย์ยังมีคนขัดสนมากกว่าน้องคนนี้อีกหลายคนครับ
มีคนมาเถียงแทนว่าเพราะเรียนหมอมันเลยควรใช้ของดีๆไปเลย แถมบางคนบอกว่าการเรียนหมอแค่ 2-3 ล้านจะไปพออะไร ค่าอุปกรณ์ต่างๆค่าใช้จ่ายจริงๆ 5 ล้านถึงจะเอาอยู่งี๊ อยากจะถามกลับว่าเคยเรียนหมอจริงๆเหรอ หรือเรียนหมอมหาลัยเอกชนมาแล้วคิดว่าเรียน ม รัฐจะมีค่าใช้จ่ายเท่ากัน? ซึ่งถ้าคนมาเถียงแทนเป็นหมอจริงๆ ถึงจะจบจาก ม รัฐ ม เอกชน ก็น่าจะแยกแยะออกว่าค่าเรียนรัฐกับเอกชนต่างกันไหม ถ้าการเรียนหมอต้องใช้เงินเป็น 5 ล้าน(หมายถึงเงินของนักศึกษาที่ต้องจ่ายเอง)ต้องใช้ไอแพดไอโฟน ป่านนี้คนจะเรียนหมอคงต้องมีแต่ลูกคนรวยแล้วล่ะครับ คนจนคงหมดสิทธิ์เรียนแล้ว ในชีวิตจริงมันไม่ใช่แบบนั้น คนเรียนจบเป็นหมอแล้วบางคนเค้ายังไม่กล้าใช้เลยไอแพดไอโฟนอะ เงิน 2-3 ล้าน บอกเลยว่าครอบครัวเด็กเรียนหมอเกินครึ่งก็ไม่ได้มีเงินเป็นหลักล้านขนาดนั้น ทำไมเค้าสามารถเข้าเรียนแล้วเรียนจนจบได้ มันยังมีเด็กเรียนติดหมอแต่บ้านไม่ได้มีฐานะอีกเยอะแน่นอน ถ้าคุณไม่มีเงินเรียนจริงๆไปคุยกับคณะเลย มีแต่คนจะสนับสนุนหาทุนนั่นนี่ให้ ไม่ใช่มาขอบริจาคเป็นขอทานแบบนี้ ดูเป็นเด็กมือเติบมากๆ
รถป้ายแดง มาบอกว่าครอบครัวนี้เค้าไม่มีรถใช้ คือมอไซต์ก็ได้มั้งครับ ถ้าจำเป็นต้องรถยนต์จริงๆ รถมือสอง แสนกว่าถมเถไป แล้วเก็บ 5-6 แสนที่เหลือจากการไม่ซื้อป้ายแดงก็สามารถเอามาเป็นค่าเรียนจนจบก็ได้แล้วมั้ยครับ
โมโหจริงๆกับคนแบบนี้ ดูจากสิ่งต่างๆแล้วผมคิดว่าเด็กคนนี้ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นหมอที่ดีได้เลย ข้ออ้างต่างๆจากการมีเงินแล้วซื้อของฟุ่มเฟือยพวกนี้พูดยังไงก็ฟังไม่ขึ้นหรอก สุดท้ายเห็นว่าหาเงินได้ง่ายดีคงขอบริจาคอีกถ้าเงินหมด ตอนนั้นคนก็คงลืมชื่อไปแล้ว
สมัยนี้โอนไวเยอะ มีหลายๆกรณีแล้วที่ให้เราได้เห็น แต่คนก็ยังไม่เข็ด สุดท้ายจบที่คนได้รับบริจาซื้อบ้านเงินสดซื้อรถป้ายแดงใช้ไอโฟน ส่วนคนบริจาคยังนั่งกินมาม่า เงินเดือนเดือนชนเดือนเหมือนเดิม พร้อมกับคำพูดว่าคนบริจาคเค้าไม่คิดอะไรหรอก ให้แล้วก็สบายใจถือว่าเป็นบุญ คนได้เค้าจะเอาไปทำอะไรก็เรื่องของเค้า เราให้ด้วยใจเมตตา ก็มีความสุขแล้ว....สาธุ
คราวหน้าคราวหลังเวลาจะบริจาคเงินให้ใคร ควรจะมีข้อมูลที่มากๆว่ามิจฉาชีพรึเปล่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการขอเงินบริจาคส่วนบุคคลแบบนี้ เพราะเราไม่รู้ข้อมูลตื่นลึกหนาบางของเค้า
และอนาคตก็จะยังมีข่าวแบบนี้อีกเรื่อยๆ เพราะคนเราเชื่อคนง่ายและโอนไว
เด็กเรียนแพทย์ยังมีคนขัดสนมากกว่าน้องคนนี้อีกหลายคนครับ
ความคิดเห็นที่ 7
แค่พื้นฐานเบื้องต้นเรื่องการซื่อสัตย์ต่อวิชาชีพของตน จริยธรรมคุณธรรมทางการแพทย์ยังบกพร่องแล้วจะเรียนด้วยใจรักและสำเร็จออกไปประกอบอาชีพให้มีคุณค่าคุณภาพได้อย่างไร
จุดนี้เราเห็นใจคนบริจาคมากค่ะ ทำด้วยใจล้วนๆ อยากให้น้องเรียนอย่างที่สอบเข้าได้ มอบเงินช่วยเหลือหวังให้โอกาสเด็กคนหนึ่งได้จบออกไปเป็นแพทย์
เพื่อมาช่วยเหลือสังคมต่อไป
หาผลประโยชน์จากความใจดีของคนอื่นนี้น่ากลัวจริงๆ
จุดนี้เราเห็นใจคนบริจาคมากค่ะ ทำด้วยใจล้วนๆ อยากให้น้องเรียนอย่างที่สอบเข้าได้ มอบเงินช่วยเหลือหวังให้โอกาสเด็กคนหนึ่งได้จบออกไปเป็นแพทย์
เพื่อมาช่วยเหลือสังคมต่อไป
หาผลประโยชน์จากความใจดีของคนอื่นนี้น่ากลัวจริงๆ
ความคิดเห็นที่ 18
คนไทยไม่ค่อยหาข้อมูลเพิ่มเติม
ขี้เกียจอ่าน ขี้เกียจคิด
มีแบบนี้หลายเคสแล้ว แต่ก็ยังไม่เข็ด
จริงๆ ควรจะมีมาตรการสำหรับการขอรับบริจาคที่จงใจบิดเบือนข้อมูลหรือให้ข้อมูลเท็จ
หากมีประชาชนไปแจ้งความ บัญชีนั้นให้อายัดไว้ก่อน
และหากตรวจสอบแล้วผู้ขอรับบริจาคมีเจตนาหลอกลวง จบใจบิดเบือนให้เข้าใจผิด ผู้บริจาคคนใดประสงค์จะขอเงินบริจาคคืน ก็ให้โอนคืน
และผู้ขอรับบริจาคควรได้รับโทษด้วย รวมทั้งรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการโอนคืน
(โดยให้แยกจากการขอรับบริจาคที่ให้ข้อมูลถูกต้อง โปร่งใส อันนั้นคนละเรื่องกับเคสแบบนี้)
หากปล่อยไปเรื่อย ๆ ไม่มีมาตรการอะไร
คนพวกนี้ก็จะหากินแบบนี้ไปเรื่อย ๆ
ขี้เกียจอ่าน ขี้เกียจคิด
มีแบบนี้หลายเคสแล้ว แต่ก็ยังไม่เข็ด
จริงๆ ควรจะมีมาตรการสำหรับการขอรับบริจาคที่จงใจบิดเบือนข้อมูลหรือให้ข้อมูลเท็จ
หากมีประชาชนไปแจ้งความ บัญชีนั้นให้อายัดไว้ก่อน
และหากตรวจสอบแล้วผู้ขอรับบริจาคมีเจตนาหลอกลวง จบใจบิดเบือนให้เข้าใจผิด ผู้บริจาคคนใดประสงค์จะขอเงินบริจาคคืน ก็ให้โอนคืน
และผู้ขอรับบริจาคควรได้รับโทษด้วย รวมทั้งรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการโอนคืน
(โดยให้แยกจากการขอรับบริจาคที่ให้ข้อมูลถูกต้อง โปร่งใส อันนั้นคนละเรื่องกับเคสแบบนี้)
หากปล่อยไปเรื่อย ๆ ไม่มีมาตรการอะไร
คนพวกนี้ก็จะหากินแบบนี้ไปเรื่อย ๆ
แสดงความคิดเห็น
ในฐานะหมอ ...รู้สึกไม่พอใจกับกรณีเด็กสอบติดหมอแล้วออกมาแกล้งจนขอบริจาคเงิน
โดยเฉพาะอาชีพหมอ ที่ต้องดูแลชีวิตคนไข้
น้องเพิ่งสอบติด ยังไม่ได้เริ่มเรียนเลย แต่ออกมาแกล้งจนขอรับบริจาคจนได้เงินไปหลายล้านบาท
ทั้งๆที่ฐานะครอบครัวไม่ได้แย่ ถึงขนาดที่ มีเงินในบัญชีแค่1500บาท ตามที่ผู้ปกครองอ้าง
มีคนรู้จักเพื่อนร่วมโรงเรียนออกมาบอกอีกว่า ตัวเด็กเองเป็นเจ้ามือหวยเถื่อน หวยฮานอย
เด็กที่ทำตัวผิดกฏหมาย ตั้งตัวเป็นเจ้ามือหวยเถื่อนตั้งแต่มัธยม คงมีความโลภในตัวอยู่มากมาย
ถ้าเรียนจบหมอไป คงตั้งหน้าตั้งตากอบโกยเอาแต่เงินจากคนไข้
อีกทั้งนี้การเปิดรับบริจาคโดยที่ไม่ได้ให้ข้อมูลที่แท้จริง จนคนหลงบริจาคไปจำนวนมาก ถือว่าฉ้อโกงหรือไม่ ?
(ถึงตัวเด็กเองจะไม่ใช่คนลงเรื่องบริจาค แต่ก็มีโอกาสออกมาบอก มาแก้ตัวต่อประชาชนว่า ฐานะทางบ้านไม่ได้ยากจนลำบากขนาดนั้น แต่ตัวเด็กเองก็ไม่ได้ออกมาแก้ไข เพียงแค่รอรับเงิน รอรับมอบทุนต่างๆแล้วออกมาขอบคุณ)
..
.
.
พิจารณาแล้วเด็กคนนี้ ขาดคุณสมบัติเรื่อง ความซื่อสัตย์ เรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน และตั้งตัวเป็นเจ้ามือหวยเถื่อนผิดกฏหมาย
ไม่รู้จริงๆ ว่าสอบสัมภาษณ์ผ่านเรื่อง จริยธรรมแพทย์มาได้ยังไง ?