เรากับแฟนต่างคบกันมา 3 ปีกว่า แฟนบ้านไม่ค่อยมีฐานนะ ส่วนเราก็พอมีพอกินไม่ถึงกับรวย แต่ไม่มีภาระใดใด ส่วนแฟนมีภาระที่บ้าน และส่งรถใช้กินใช้อยู่ ส่วนเราไม่มีภาระวันๆไม่ค่อยใช้เงินเพราะอยู่บ้านแม่ก็ทำกับข้าวให้กินทุกวันส่วนตัวขายของออนไลน์ ส่วนแฟนตอนนี้ตกงานมาพักใหญ่ๆตั้งแต่โควิต ปีที่แล้ว ตั้งแต่ปีที่แล้ว เวลาแฟนไม่มีเงินแล้วไปไหนมาไหนหรือกินข้าวเราก็เป็นคนจ่ายเวลาไปไหนมาไหน ส่วนก่อนหน้านี้ที่คบกันตั้งแต่แรก ส่วนมากเราจ่ายอยู่ดี แฟนจะจ่ายอยู่ไม่ถึง 10 ครั้ง พอมาเมื่อต้นปี เราก็ไม่ได้จ่ายให้เพราะเราก็เริ่มขายของไม่ค่อยได้ ก็คือต่างคนต่างรับผิดชอบตัวเอง แฟนก็ได้เอาทองของแฟนที่มีเก็บไว้ 10 บาทไปขายเพื่อเอาเงินประทังชีวิต และแฟนก็ได้คุยกับเราว่าอยากทำธุรกิจร่วมกับเรา และเราคุยกันตกลงเรื่องนี้ไว้นานมากแล้ว เมื่อ1-2 ปีก่อน เคยคิดไว้ว่าจะทำร่วมกัน แต่ยังไม่มีโอกาส จนเพื่อนของพ่อแฟน เขาสนใจจะทำร่วมด้วย ธุรกิจนี่ต้องลงทุน 1 ล้านบ้าน เพื่อนพ่อแฟนเขาสนใจหุ้นด้วย600,000 แฟนเลยมาชวนเราลงหุ้นด้วย ซึ่งเราก็สนใจมานานแล้ว แฟนก็บอกให้เรา ลงหุ้นด้วยกันกับแฟน คือลง เงิน400,000 บาท ( แต่แฟนจะช่วยออก 100,000) เหมือนประมาน ว่า เราลง 300,000 แฟน ลง 100,000 แต่ได้กำไร มา คือแบ่งเรากับแฟนแบ่งเท่ากัน เราก็งง ๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร เราเลยถามแฟนว่า แล้วทำไม แฟนไม่ลง 200,000 เรา 200,000 ละได้เท่าๆกัน ได้กำไรมาก็แบ่งเท่ากัน แฟนได้บอกเราว่า ถ้าแฟนลงหมด แล้วจะเอาเงินที่ไหนกิน ที่ไหนใช้ มีค่าใช้จ่ายหลายอย่าง เราก็เลยแอบเก็บมาคิดว่า แฟนเอาเปรียบเราไหมค่ะ แล้วเรามีความคิดอีกอย่างคือ ถ้าเราจะทำสัญญากับแฟน จะน่าเกลียดไหมค่ะ เพราะไม่มั่นใจว่า ในอนาคตเราจะคบกันไหม เรากลัววันนึงเราจะเลิกกัน เราเลยมีความคิดว่า เราอยากทำสัญญากับแฟนไว้ว่า เราลงทุนเท่านี้ๆ ถ้าเราเลิกกัน คือเรามีสิทขอเงินคืนที่ลงไปได้ไหมค่ะ จะดูน่าเกลียดไหมค่ะ