ขอความช่วยเหลือ ผู้รู้กฏหมายเกี่ยวกับการยึดทรัพย์ค่ะ

เมื่อประมาณ 6 ปีที่แล้ว เราและแฟนเก่าที่คบกันมา 11 ปี คุยกันว่าเราจะแต่งงานกันในอีก 1 ปีถัดมา และประจวบเหมาะกับมีโครงการทาวน์เฮาส์ที่น่าสนใจมาเปิดขาย เราจึงตัดสินใจร่วมกันในการซื้อบ้านใหม่ โดยกู้ร่วมกัน แต่หลังจากนั้นไม่ถึงหนึ่งปี เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น คือเราเลิกกัน เขามีแฟนใหม่ และพาแฟนใหม่มาอยู่ที่บ้านหลังนั้นที่เราซื้อด้วยกัน เราจึงตัดสินใจหยุดจ่ายค่าผ่อนบ้าน และประกาศขาย ระหว่างที่มีการประกาศขาย เขาและแฟนใหม่ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นและทำการผ่อนต่อไป  มีนายหน้าติดต่อเราเข้ามาเรื่องการฝากขายบ้านอยู่ 2 ครั้ง เพื่อขอเอกสารในการประกาศขายบ้าน แต่ละครั้งใช้ห่างกันประมาณปีกว่า-2 ปี เราก็เข้าใจว่าบ้านหลังนั้นกำลังอยู่ระหว่างประกาศขาย จนกระทั้งล่วงเลยมา ปี 62-63 เราไม่ได้ติดต่อกับแฟนเก่าเลย (ปกติจะติดต่อกันแต่เรื่องบ้านเท่านั้น คุยกันปีละครั้ง หรือน้อยกว่านั้น) เข้าใจว่าช่วงนั้นโควิดระบาด คนคงไม่สนใจจะซื้อบ้านกัน
 
วันหนึ่ง เราได้รับข่าวว่า เราโดนฟ้องร้องให้ชำระหนี้เป็นจำนวนเงิน 1.5x ล้านบาท ตอนแรกเรางงว่าเกิดอะไรขึ้น มิจฉาชีพหรือเปล่า โทรสืบสาวเรื่องกับทางศาลแพ่ง และคู่กรณี ได้ความว่า แฟนเก่าเราไม่ผ่อนต่อ ปล่อยให้บ้านโดนยึด!

หลังจากเกิดการยึดบ้านหลังดังกล่าวนั้นแล้ว ธนาคารขายต่อให้กับบริษัทสินทรัพย์แห่งหนึ่ง ซึ่ง บริษัทนั้นนำบ้านออกขายทอดตลาดไปแล้วในราคาถูกมาก และเราโดนฟ้องร้องให้จ่ายส่วนต่าง 1.3x ล้านบาท รวมดอกเบี้ยแล้ว 1.5x ล้านบาท ณ ตอนนั้นเราช็อค สมองตันไปหมด ทำอะไรไม่ถูก เครียด ร้องไห้ ซึมเศร้า อยู่ดีๆเป็นหนี้ก้อนโตขนาดนี้ เราโทรถามกับทางบริษัทว่าเราทำอย่างไรได้บ้าง เราไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ ว่าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เราพอจะเอาบ้านคืนได้ไหม บริษัทบอกว่าไม่ได้แล้ว ไม่ทันแล้ว เนื่องจากบ้านถูกขายออกไปแล้ว เราทำได้แค่ใช้หนี้ส่วนต่าง

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เรารีบโทรคุยกับแฟนเก่า เขาได้แต่บอกว่าเขาปล่อย เขาไม่ทำอะไรทั้งนั้น ณ ตอนนี้ทุกสิ่งที่เขามี เขาใช้เป็นชื่อแฟนใหม่ของเขาทั้งหมด ไม่มีแม้กระทั้งบัญชีธนาคารที่เป็นชื่อตัวเอง (เขาได้เตรียมการก่อนปล่อยให้บ้านโดนยึด คือ เขาโอนทรัพย์สินทุกอย่างที่เป็นชื่อเขาเองไปเป็นชื่อคนอื่น เพื่อที่ธนาคารจะได้ไม่สามารถยึดทรัพย์เขาได้) ดังนั้นต่อให้เขาโดนฟ้องล้มละลาย เขาก็ไม่ต้องเสียอะไร และเขาจะไม่ยอมจ่ายหนี้ก้อนนี้แน่นอน นี่คือสิ่งที่เขาบอกเรา
 
เมื่อวางสาย เราคิดว่าเราคงต้องปล่อยทางนั้นไป เขาคงไม่รับผิดชอบอะไรแล้ว 
แต่เรา... เราจะปล่อยให้ตัวเองโดนฟ้องล้มละลายไม่ได้ เราเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องเลี้ยงดูแม่และน้อง เนื่องจากพ่อเราเพิ่งเสียชีวิตไป 
เมื่อตั้งสติได้ เราโทรไปเจรจากับทางบริษัท เล่าเหตุการณ์ให้ฟังทั้งหมดว่าเราไม่ได้มีเจตนาจะหนีหรือเบี้ยวหนี้แต่อย่างใด ตอนนี้สิ่งที่เราต้องการคือเราอยากแยกภาระหนี้ แยกชื่อของเราออกมาจากชื่อแฟนเก่า จะได้ชำระหนี้ได้แบบไม่ต้องมีอะไรเกี่ยวพันกัน บริษัทยื่นข้อเสนอให้เรา 2 ข้อ คือ 1) ให้เราจ่ายเป็นก้อน เขาจะไม่คิดดอก ยอด 1.3 ล้าน หารสอง ตีเป็นเลขกลมๆ คือเกือบ 7 แสน แล้วเขาจะเอาชื่อเราออกจากเรื่องนี้เลย (เราจะไปหาจากที่ไหน มันเยอะมาก) เราบอกว่ามันยากมาก เราขอผ่อนได้ไหม บริษัทบอกว่าสามารถทำได้ และนั่นคือข้อเสนอที่ 2) แต่.... ถ้าผ่อนชำระ เราจะเอาชื่อออกมาจากแฟนเก่าไม่ได้ ชื่อเราจะต้องเป็นหนี้ร่วมกับเขาอยู่อย่างนั้นในขณะที่ผ่อนไปเรื่อยๆ (แล้วถ้าวันหนึ่งเราผ่อนจ่ายไปถึงจำนวน 7.5 แสน ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของยอดหนี้ แล้วบริษัทมาบอกที่หลังว่าไม่สามารถเอาชื่อเราออกได้  เราจะทำอย่างไร ไม่ต้องจ่ายต่อจนครบ1.5 ล้าน หรือ??? )

เรื่องนี้ทำให้ชีวิตเราประสบปัญหาหลายๆ อย่าง เราทำธุรกรรมทางการเงินหลายๆ อย่างไม่ได้ เพราะชื่อเราติดบูโร ทั้งๆ ที่ประวัติทางการเงินด้านอื่นของเราไม่เคยมีปัญหา ไม่เคยมีประวัติเสียเลย

จากที่เล่ามาทั้งหมด เราจึงอยากขอความคิดเห็น ความช่วยเหลือ หรือแนวทางในการจัดการกับเรื่องนี้ เรารู้เรื่องกฏหมายน้อยมาก เรียกว่าแทบไม่รู้เลยก็คงได้ หากมีหนทางที่เราจะไม่ต้องจ่ายเงินก้อนนี้ได้มันคงจะดี เพราะมันเป็นการจ่ายเงินก้อนโตที่เสียเปล่ามาก ไม่ได้อะไรเลย หรือหากมีวิธีที่สามารถจ่ายได้น้อยกว่านี้ หรือผ่อน หรือเอาชื่อเราออกมาจากหนี้ก้อนนี้ได้ เราอยากขอความกรุณาผู้รู้ช่วยแนะนำ ถือว่าเมตตา ถือว่าทำบุญก็ได้ เพราะตอนนี้เราเองก็ไม่รู้จะพึ่งใคร ก็ได้แต่หวังพึ่งเพื่อนพันทิป หวังพึ่งพลังโซเชียล เพราะเพื่อนๆ ที่เรารู้จักก็ไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลย
 
ขอขอบพระคุณล่วงหน้านะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่