ในฐานะที่เป็นหมอโรคติดเชื้อ และขอ declare ว่าไม่มี conflict of interest ใดๆ ไม่ได้เชียร์ใครและเป็นฝ่ายไหนๆ ขอมาพูดให้ข้อมูล
(ยาวมากถ้าอ่านไม่ไหว ค่อยๆนั่งพิจารณาได้)
1. สนับสนุนให้ทุกคนเข้าถึงและรับการฉีด vaccine covid ทุกๆคนถ้าไม่มีข้อห้ามในการฉีดวัคซีนของแต่ละบุคคล
2. จะใช้ชนิดและ/หรือยี่ห้อไหนก็ตาม ก็ไม่เป็นไร
แต่ขอให้ตั้งต้นว่าทุกคนควรจะฉีดถ้าทำได้
3. ความเป็นจริงของวัคซีนCOVID ที่ทุกคนต้องรู้คือ
- วัคซีนมีผล 3 อย่าง “กันตาย หรือ กันหนัก” , “กันติด” และ “กันหมู่” (ภูมิต้านทานหมู่)
- ไม่ใช่ทุกวัคซีนที่ทำได้ครบทั้ง 3 ผลลัพธ์ที่กล่าว
- แต่ทุกวัคซีนCovid สามารถ “กันตาย” หรือ “กันป่วยหนัก” ได้จริง ผ่อนหนักเป็นเบา ลดการลงปอด ลดการเข้า ICU ใส่ท่อช่วยหายใจได้จริง
- บางชนิดของวัคซีนมีผลในการ “กันติด” เชื้อ ซึ่งมากน้อยแตกต่างกันไปแล้วแต่ชนิด และลักษณะ platform วัคซีนที่ทีอยู่
- ภูมิต้านทานหมู่ (herd immunity) จะเกิดขึ้นได้เมื่อ ทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมากพอ และกระจายการฉีดวัคซีนในประชากรได้สูงพอเช่นกัน
-ยังไม่ใช่ทุกวัคซีนในขณะนี้ที่สามารถพิสูจน์ว่าจะสามารถสร้างภูมิต้านทานหมู่ได้จริง
ส่วนขยาย
- เท่าที่มีข้อมูล real world setting จริงๆ จะเป็น mRNA based vaccine อย่างของ Pfizer ที่ลงในวารสารการแพทย์ต่างๆ (NEJM, lancet) ว่าลดการเกิดผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้จริง และเป็นการแสดงถึงการสร้างภูมิต้านทานหมู่ได้จริง (Moderna เป็น mRNA เช่นกัน คาดว่าน่าจะมีผลลัพธ์ไปในทางเดียวกัน)
- AstraZeneca/Oxford ไม่ได้เป็นวัคซีนที่แย่หรือไม่ดีอย่างที่ถูกสื่อนำไปผูกกับปมการเมืองบางอย่างขนาดนั้น (แต่มันก็อาจจะไม่ใช่วัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แต่มันมีประสิทธิภาพที่ดีพอที่สามารถ “กันตาย” และพอ”กันติด” ได้จริงตามหลักฐานทางวิชาการตามวารสารการแพทย์)
- SinoVac ซึ่งเป็น old-primitive platform คือ ใช้วัคซีนเชื้อตาย (inactivated vaccine) ทำแบบเดียวกับที่ใช้ทำวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า อันนี้เราทราบดีว่าภูมิต้านทานจะสร้างได้สูงระดับหนึ่ง คือไม่ได้สูงมากแบบหรูหราหมาเห่า แต่สร้างได้ประมาณหนึ่งที่เพียงพอสำหรับ “กันตาย-กันหนัก” ได้ แต่เรื่อง “กันติด” นั้น อาจจะพอทำได้ระดับหนึ่งเท่านั้น
- SinoVac : ต้องยอมรับความจริงว่าข้อมูลงานวิจัยเช่น phase 3 นั้นมีน้อยสุด เพราะยังไม่เคยเห็น official press ใน วารสารการแพทย์ (มีแต่ preprint ที่อ้างว่ามีบางท่านได้อ่าน) และยังไม่มีข้อมูล phase 4 แต่พออนุมานข้อมูล real world setting ได้จากการดูยอดผู้ป่วยใหม่รายวัน กับผู้เสียชีวิตในประเทศชิลี หรือตุรกี เราต้องยอมรับว่า ยังไม่เห็นภาวะภูใิต้านทานหมู่จากการฉีดวัคซีนในประเทศเหล่านี้ในขณะนี้ (ยังต้องติดตามต่อไปในอีกระยะยาวว่าท้ายที่สุดแล้วจะเกิดหรือไม่) แต่ที่เห็นชัดเจนคือ ยอดผู้เสียชีวิตมีจำนวนคงที่ทั้งๆที่มียอดผู้ติดเชื้อวหม่รายวันสูงขึ้นเรื่อยๆ (เป็นการบอกว่ามีผล “กันตาย” จริง)
- ทุกวัคซีนถูกทำมาอย่างเร่งด่วนและเอามาใช้แบบฉุกเฉิน (emergency used) แม้แต่ของ Pfizer หรือ Moderna ก็ตามที แปลว่าทุกชนิดวัคซีน ทุกยี่ห้อก็ต้องคอยสอดส่องติดตามผลข้างเคียงของวัคซีนกันยาวๆ
ผลข้างเคียงเท่าที่มีรายงานตอนนี้
Moderna/Pfizer แพ้แบบรุนแรง (anaphylaxis) เดิมพบประมาณ 11 ในล้านคน ตอนนี้น่าจะอยู่แค่ 4-5 ในล้านคน
AstraZeneca/Oxford : VIPIT: Vaccine-Induced Prothrombotic Immune Thrombocytopenia(เกร็ดเลือดต่ำ), vaccine associated VTE ซึ่งทั้ง2อันพบได้น้อยมาก rare
ประมาณ 1 ใน 125000 ถึง 1 ในล้านคน
โอกาสพบในคนอายุน้อยมากกว่าในคนสูงอายุ
Sinovac ถ้าเอาตาม WHO จริงๆถือว่าผลข้างเคียงน้อยมาก ไม่มีแพ้รุนแรงหรืออาการทางระบบประสาทแบบที่มี report ในประเทศไทย
- ผลข้างเคียงของ SinoVac ที่พบในประเทศไทย ที่เกี่ยวกับอาการชา แขนขาอ่อนแรงคล้ายอาการกลุ่มอัมพฤกษ์ (stroke-like) ต้องยอมรับว่ายังสรุปไม่ได้ชัดเจนในตอนนี้ มีหลายทฤษฎีที่เป็นไปได้ ตั้งแต่ หลอดเลือดหดเกร็ง (vasospasm) หรือเป็น vaccine ที่ไปกระตุ้นให้เกิดอาการ migraine ที่ทำให้ชาครึ่งตัว เป็นต้น (ขอออกตัวว่าไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องประสาทวิทยา ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมสามารถแลกเปลี่ยนได้ครับ)
- ยังไม่ปรากฎว่าวัคซีนที่ฉีด sinoVac นั้นทำให้เป็นอัมพาตถาวร
- เรื่องที่ฉีดSinoVac แล้วตาย เอาจริงๆ ยังสรุปไม่ได้ว่าเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวจากวัคซีน (ควรต้องทำการชันสูตรอย่างละเอียดต่อไป)
ความเห็นเรื่อง SinoVac: ควรมีการจัดเก็บและตรวจสอบภาวะไม่พึงประสงค์ต่อเนื่องอย่างตรงไปตรงมา และทำให้ประชาชนรู้สึกว่า “โปร่งใส” “ตรวจสอบได้”
อุปสรรคในการฉีดวัคซีน covid ในไทย
- ชนิดของวัคซีนที่อาจจะไม่ได้มีตัวเลือกมากในขณะนี้ (ทราบว่ากำลังพยายาม dealเพิ่ม)
- ความน่าเชื่อถือของรัฐบาลและการทำงานของหน่วยราชการบางส่วน เชื่อว่ามีผลต่อความเชื่อมั่นในการฉีดวัคซีนจริงของประชาชน เพราะบางข้อมูลก็ดูไม่ตรงไปตรงมา ตอบคำถามข้อสงสัยคนทั่วไปไม่ได้ชัดเจน
- บางคนกลัวในความปลอดภัยของวัคซีน (กลัวมากขึ้นส่วนหนึ่งจากที่สื่อรายงานบางอย่างจนดูน่ากลัวเกินกว่าความเป็นจริงไปบ้าง)
สรุป
1. Vaccine มีประโยชน์ชัดเจน ไม่ว่ายังไงก็แนะนำให้ฉีดแน่นอน
2. ถ้าเราทำได้ เราควรใช้วัคซีนที่ดี ซึ่งคือ วัคซีนที่มีความปลอดภัยมากพอ มีประสิทธิภาพสูงพอ และสามารถกระจายการฉีดได้ในประชากรมากพอเพื่อสร้างภูมิต้านทานหมู่
3. กรณีที่เรามีแค่ตัวเลือกจำกัด ให้พิจารณาฉีดตัวใดก็ได้ที่เราโอเค เพื่ออย่างน้อยก็หวังผลเพื่อ “กันตาย กันหนัก” ไว้ก่อน
4. ประเทศควรจัดหา vaccine หลากหลายชนิด หลากหลาย platform เพื่อ personalize ให้กับแต่ละคนเพราะแต่ละคนมีข้อห้ามหรือข้อควรระวังในการได้วัคซีนแต่ละชนิดไม่เหมือนกัน
ถ้าคิดว่ากลัวปัญหาจากการฉีดวัคซีน (ไม่ว่าจะกลัวแพ้ กลัวอัมพาต กลัวเสียชีวิต)
เราเข้าใจในความกังวลของทุกๆท่าน และเราเคารพการตันสินใจของทุกคนจริงๆ
แต่อยากให้ทุกท่านมองอีกมุมด้วยว่า ในขณะนี้ที่มีการระบาดวงกว้างแบบยังไม่มีทีท่าจะดีขึ้นนั้น
เรามียอดผู้เสียชีวิตรายวัน20กว่าคนแล้วต่อวัน (และจะสูงขึ้นเรื่อยๆถ้ายังไม่วามารถควบคุมการระบาดได้) เรามีคนไข้ที่ล้น ICU แล้ว และโรงเรียนแพทย์ทุกที่ไม่สามารถจะรับเคสใน ICU ได้เพิ่มมากกว่านี้อีกแล้วเนื่องจากเตียงเต็ม การสร้าง ICU สนามนั้น เราสร้างได้ แต่เราสร้างคนไปดูแลคนไข้ ICU ไม่ได้ (เพราะการดู ICU 1 คนต้องใช้พยาบาลที่ชำนานในการดู ICU ต้องใช้แพทย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องคนไข้วิกฤติ จะเอาแพทย์หรือพยาบาลทั่วไปมาทำตรงนี้ก็ไม่ได้ผลที่ดี)
เราอาจจะลองคิดดูว่า เรารู้ว่าขึ้นเครื่องบินก็มีความเสี่ยงที่เครื่องบินจะตกได้ แต่เราก็รับในความเสี่ยงนั้นแล้วสัญจรต่อไปได้ ยังเลือกที่จะขึ้นบิน (ในสายการบินที่เรามั่นใจว่าปลอดภัย)
เราอาจจะต้องชั่งน้ำหนักดีๆระหว่าง
- ฉีดอะไรก็ได้ในตอนนี้ที่มีไปก่อน
- รอวัคซีนที่เราอยากได้ (ที่ไม่รู้ว่สรัฐบาลจะเอามาไหม และเอามาเมื่อไหร่) แล้วค่อยฉีด
- ไม่ฉีดเลยเพราะกลัวผลข้างเคียงวัคซีนมาก (จากที่ข่าวประโคมเกินจริง) แล้วลุ้นเอาว่าถ้าติดจะหนักและเข้า ICU (ทิพย์) ไหม และรับได้ไหมว่า ถ้าติดเชื้อ เรามีโอกาสเสียชีวิตได้จริง
หรือจริงๆ เราอาจจะไม่ต้องเถียงกันถ้าเราเอาวัคซีนที่ดีและหลากหลายเข้ามาได้เร็วและเปิดทางเลือกให้คนเลือกได้ เลือกที่ชอบ เลือกที่ดี เลือกที่คนมั่นใจและเชื่อมั่น เพื่อเพิ่มความอยากฉีดวัคซีนให้มากขึ้น
(ความยากสุด คือการ deal เข้ามาในประเทศตอนนี้ ว่าจะ deal ชนิดอื่นเพิ่มไหม มากกว่า ถ้ามีอุปสงค์อุปทาน ยังไงถ้าจะทำมันย่อมทำได้แหล่ะ เราเชื่อในคนที่ทำงานจริงเพื่อประเทศว่าสามารถอยู่แล้ว)
สุดท้ายผมขอฝากทุกๆคนว่า
-อย่าประโคมข่าวทำให้คนกลัวจะฉีดวัคซีนมากเกินจริง
-หมอและผู้เชี่ยวชาญบางคน ก็ต้องอย่าไปพูดสร้างความดีงามของบางชนิดวัคซีนเกินจริง หรืออวยเกินงาม ควรพูดเท่าที่เป็นจริงเท่านั้น
- แต่หมอและผู้เชี่ยวชาญบางคน ก็ไม่ควรไป devalue ลดทอนคุณค่าของบางวัคซีนจนเกินจริงเช่นกัน
แน่นอน ไม่ว่าจะเป็น Pfizer หรือ SinoVac ก็ไม่ควรจะต้องอวยหรือด่าวัคซีนทั้ง2ชนิดจนเกินความจริงครับ ควรให้ข้อมูลตามจริงทั้งดีและไม่ดีครับ
https://www.facebook.com/nungtoxic/posts/4052217581483543
[FB] ความเห็นจากอายุรแพทย์โรคติดเชื้อคนหนึ่ง เกี่ยวกับความกังวลในการรับวัคซีนโควิด-19
(ยาวมากถ้าอ่านไม่ไหว ค่อยๆนั่งพิจารณาได้)
1. สนับสนุนให้ทุกคนเข้าถึงและรับการฉีด vaccine covid ทุกๆคนถ้าไม่มีข้อห้ามในการฉีดวัคซีนของแต่ละบุคคล
2. จะใช้ชนิดและ/หรือยี่ห้อไหนก็ตาม ก็ไม่เป็นไร
แต่ขอให้ตั้งต้นว่าทุกคนควรจะฉีดถ้าทำได้
3. ความเป็นจริงของวัคซีนCOVID ที่ทุกคนต้องรู้คือ
- วัคซีนมีผล 3 อย่าง “กันตาย หรือ กันหนัก” , “กันติด” และ “กันหมู่” (ภูมิต้านทานหมู่)
- ไม่ใช่ทุกวัคซีนที่ทำได้ครบทั้ง 3 ผลลัพธ์ที่กล่าว
- แต่ทุกวัคซีนCovid สามารถ “กันตาย” หรือ “กันป่วยหนัก” ได้จริง ผ่อนหนักเป็นเบา ลดการลงปอด ลดการเข้า ICU ใส่ท่อช่วยหายใจได้จริง
- บางชนิดของวัคซีนมีผลในการ “กันติด” เชื้อ ซึ่งมากน้อยแตกต่างกันไปแล้วแต่ชนิด และลักษณะ platform วัคซีนที่ทีอยู่
- ภูมิต้านทานหมู่ (herd immunity) จะเกิดขึ้นได้เมื่อ ทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพมากพอ และกระจายการฉีดวัคซีนในประชากรได้สูงพอเช่นกัน
-ยังไม่ใช่ทุกวัคซีนในขณะนี้ที่สามารถพิสูจน์ว่าจะสามารถสร้างภูมิต้านทานหมู่ได้จริง
ส่วนขยาย
- เท่าที่มีข้อมูล real world setting จริงๆ จะเป็น mRNA based vaccine อย่างของ Pfizer ที่ลงในวารสารการแพทย์ต่างๆ (NEJM, lancet) ว่าลดการเกิดผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้จริง และเป็นการแสดงถึงการสร้างภูมิต้านทานหมู่ได้จริง (Moderna เป็น mRNA เช่นกัน คาดว่าน่าจะมีผลลัพธ์ไปในทางเดียวกัน)
- AstraZeneca/Oxford ไม่ได้เป็นวัคซีนที่แย่หรือไม่ดีอย่างที่ถูกสื่อนำไปผูกกับปมการเมืองบางอย่างขนาดนั้น (แต่มันก็อาจจะไม่ใช่วัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แต่มันมีประสิทธิภาพที่ดีพอที่สามารถ “กันตาย” และพอ”กันติด” ได้จริงตามหลักฐานทางวิชาการตามวารสารการแพทย์)
- SinoVac ซึ่งเป็น old-primitive platform คือ ใช้วัคซีนเชื้อตาย (inactivated vaccine) ทำแบบเดียวกับที่ใช้ทำวัคซีนโรคพิษสุนัขบ้า อันนี้เราทราบดีว่าภูมิต้านทานจะสร้างได้สูงระดับหนึ่ง คือไม่ได้สูงมากแบบหรูหราหมาเห่า แต่สร้างได้ประมาณหนึ่งที่เพียงพอสำหรับ “กันตาย-กันหนัก” ได้ แต่เรื่อง “กันติด” นั้น อาจจะพอทำได้ระดับหนึ่งเท่านั้น
- SinoVac : ต้องยอมรับความจริงว่าข้อมูลงานวิจัยเช่น phase 3 นั้นมีน้อยสุด เพราะยังไม่เคยเห็น official press ใน วารสารการแพทย์ (มีแต่ preprint ที่อ้างว่ามีบางท่านได้อ่าน) และยังไม่มีข้อมูล phase 4 แต่พออนุมานข้อมูล real world setting ได้จากการดูยอดผู้ป่วยใหม่รายวัน กับผู้เสียชีวิตในประเทศชิลี หรือตุรกี เราต้องยอมรับว่า ยังไม่เห็นภาวะภูใิต้านทานหมู่จากการฉีดวัคซีนในประเทศเหล่านี้ในขณะนี้ (ยังต้องติดตามต่อไปในอีกระยะยาวว่าท้ายที่สุดแล้วจะเกิดหรือไม่) แต่ที่เห็นชัดเจนคือ ยอดผู้เสียชีวิตมีจำนวนคงที่ทั้งๆที่มียอดผู้ติดเชื้อวหม่รายวันสูงขึ้นเรื่อยๆ (เป็นการบอกว่ามีผล “กันตาย” จริง)
- ทุกวัคซีนถูกทำมาอย่างเร่งด่วนและเอามาใช้แบบฉุกเฉิน (emergency used) แม้แต่ของ Pfizer หรือ Moderna ก็ตามที แปลว่าทุกชนิดวัคซีน ทุกยี่ห้อก็ต้องคอยสอดส่องติดตามผลข้างเคียงของวัคซีนกันยาวๆ
ผลข้างเคียงเท่าที่มีรายงานตอนนี้
Moderna/Pfizer แพ้แบบรุนแรง (anaphylaxis) เดิมพบประมาณ 11 ในล้านคน ตอนนี้น่าจะอยู่แค่ 4-5 ในล้านคน
AstraZeneca/Oxford : VIPIT: Vaccine-Induced Prothrombotic Immune Thrombocytopenia(เกร็ดเลือดต่ำ), vaccine associated VTE ซึ่งทั้ง2อันพบได้น้อยมาก rare
ประมาณ 1 ใน 125000 ถึง 1 ในล้านคน
โอกาสพบในคนอายุน้อยมากกว่าในคนสูงอายุ
Sinovac ถ้าเอาตาม WHO จริงๆถือว่าผลข้างเคียงน้อยมาก ไม่มีแพ้รุนแรงหรืออาการทางระบบประสาทแบบที่มี report ในประเทศไทย
- ผลข้างเคียงของ SinoVac ที่พบในประเทศไทย ที่เกี่ยวกับอาการชา แขนขาอ่อนแรงคล้ายอาการกลุ่มอัมพฤกษ์ (stroke-like) ต้องยอมรับว่ายังสรุปไม่ได้ชัดเจนในตอนนี้ มีหลายทฤษฎีที่เป็นไปได้ ตั้งแต่ หลอดเลือดหดเกร็ง (vasospasm) หรือเป็น vaccine ที่ไปกระตุ้นให้เกิดอาการ migraine ที่ทำให้ชาครึ่งตัว เป็นต้น (ขอออกตัวว่าไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องประสาทวิทยา ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมสามารถแลกเปลี่ยนได้ครับ)
- ยังไม่ปรากฎว่าวัคซีนที่ฉีด sinoVac นั้นทำให้เป็นอัมพาตถาวร
- เรื่องที่ฉีดSinoVac แล้วตาย เอาจริงๆ ยังสรุปไม่ได้ว่าเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวจากวัคซีน (ควรต้องทำการชันสูตรอย่างละเอียดต่อไป)
ความเห็นเรื่อง SinoVac: ควรมีการจัดเก็บและตรวจสอบภาวะไม่พึงประสงค์ต่อเนื่องอย่างตรงไปตรงมา และทำให้ประชาชนรู้สึกว่า “โปร่งใส” “ตรวจสอบได้”
อุปสรรคในการฉีดวัคซีน covid ในไทย
- ชนิดของวัคซีนที่อาจจะไม่ได้มีตัวเลือกมากในขณะนี้ (ทราบว่ากำลังพยายาม dealเพิ่ม)
- ความน่าเชื่อถือของรัฐบาลและการทำงานของหน่วยราชการบางส่วน เชื่อว่ามีผลต่อความเชื่อมั่นในการฉีดวัคซีนจริงของประชาชน เพราะบางข้อมูลก็ดูไม่ตรงไปตรงมา ตอบคำถามข้อสงสัยคนทั่วไปไม่ได้ชัดเจน
- บางคนกลัวในความปลอดภัยของวัคซีน (กลัวมากขึ้นส่วนหนึ่งจากที่สื่อรายงานบางอย่างจนดูน่ากลัวเกินกว่าความเป็นจริงไปบ้าง)
สรุป
1. Vaccine มีประโยชน์ชัดเจน ไม่ว่ายังไงก็แนะนำให้ฉีดแน่นอน
2. ถ้าเราทำได้ เราควรใช้วัคซีนที่ดี ซึ่งคือ วัคซีนที่มีความปลอดภัยมากพอ มีประสิทธิภาพสูงพอ และสามารถกระจายการฉีดได้ในประชากรมากพอเพื่อสร้างภูมิต้านทานหมู่
3. กรณีที่เรามีแค่ตัวเลือกจำกัด ให้พิจารณาฉีดตัวใดก็ได้ที่เราโอเค เพื่ออย่างน้อยก็หวังผลเพื่อ “กันตาย กันหนัก” ไว้ก่อน
4. ประเทศควรจัดหา vaccine หลากหลายชนิด หลากหลาย platform เพื่อ personalize ให้กับแต่ละคนเพราะแต่ละคนมีข้อห้ามหรือข้อควรระวังในการได้วัคซีนแต่ละชนิดไม่เหมือนกัน
ถ้าคิดว่ากลัวปัญหาจากการฉีดวัคซีน (ไม่ว่าจะกลัวแพ้ กลัวอัมพาต กลัวเสียชีวิต)
เราเข้าใจในความกังวลของทุกๆท่าน และเราเคารพการตันสินใจของทุกคนจริงๆ
แต่อยากให้ทุกท่านมองอีกมุมด้วยว่า ในขณะนี้ที่มีการระบาดวงกว้างแบบยังไม่มีทีท่าจะดีขึ้นนั้น
เรามียอดผู้เสียชีวิตรายวัน20กว่าคนแล้วต่อวัน (และจะสูงขึ้นเรื่อยๆถ้ายังไม่วามารถควบคุมการระบาดได้) เรามีคนไข้ที่ล้น ICU แล้ว และโรงเรียนแพทย์ทุกที่ไม่สามารถจะรับเคสใน ICU ได้เพิ่มมากกว่านี้อีกแล้วเนื่องจากเตียงเต็ม การสร้าง ICU สนามนั้น เราสร้างได้ แต่เราสร้างคนไปดูแลคนไข้ ICU ไม่ได้ (เพราะการดู ICU 1 คนต้องใช้พยาบาลที่ชำนานในการดู ICU ต้องใช้แพทย์ที่เชี่ยวชาญเรื่องคนไข้วิกฤติ จะเอาแพทย์หรือพยาบาลทั่วไปมาทำตรงนี้ก็ไม่ได้ผลที่ดี)
เราอาจจะลองคิดดูว่า เรารู้ว่าขึ้นเครื่องบินก็มีความเสี่ยงที่เครื่องบินจะตกได้ แต่เราก็รับในความเสี่ยงนั้นแล้วสัญจรต่อไปได้ ยังเลือกที่จะขึ้นบิน (ในสายการบินที่เรามั่นใจว่าปลอดภัย)
เราอาจจะต้องชั่งน้ำหนักดีๆระหว่าง
- ฉีดอะไรก็ได้ในตอนนี้ที่มีไปก่อน
- รอวัคซีนที่เราอยากได้ (ที่ไม่รู้ว่สรัฐบาลจะเอามาไหม และเอามาเมื่อไหร่) แล้วค่อยฉีด
- ไม่ฉีดเลยเพราะกลัวผลข้างเคียงวัคซีนมาก (จากที่ข่าวประโคมเกินจริง) แล้วลุ้นเอาว่าถ้าติดจะหนักและเข้า ICU (ทิพย์) ไหม และรับได้ไหมว่า ถ้าติดเชื้อ เรามีโอกาสเสียชีวิตได้จริง
หรือจริงๆ เราอาจจะไม่ต้องเถียงกันถ้าเราเอาวัคซีนที่ดีและหลากหลายเข้ามาได้เร็วและเปิดทางเลือกให้คนเลือกได้ เลือกที่ชอบ เลือกที่ดี เลือกที่คนมั่นใจและเชื่อมั่น เพื่อเพิ่มความอยากฉีดวัคซีนให้มากขึ้น
(ความยากสุด คือการ deal เข้ามาในประเทศตอนนี้ ว่าจะ deal ชนิดอื่นเพิ่มไหม มากกว่า ถ้ามีอุปสงค์อุปทาน ยังไงถ้าจะทำมันย่อมทำได้แหล่ะ เราเชื่อในคนที่ทำงานจริงเพื่อประเทศว่าสามารถอยู่แล้ว)
สุดท้ายผมขอฝากทุกๆคนว่า
-อย่าประโคมข่าวทำให้คนกลัวจะฉีดวัคซีนมากเกินจริง
-หมอและผู้เชี่ยวชาญบางคน ก็ต้องอย่าไปพูดสร้างความดีงามของบางชนิดวัคซีนเกินจริง หรืออวยเกินงาม ควรพูดเท่าที่เป็นจริงเท่านั้น
- แต่หมอและผู้เชี่ยวชาญบางคน ก็ไม่ควรไป devalue ลดทอนคุณค่าของบางวัคซีนจนเกินจริงเช่นกัน
แน่นอน ไม่ว่าจะเป็น Pfizer หรือ SinoVac ก็ไม่ควรจะต้องอวยหรือด่าวัคซีนทั้ง2ชนิดจนเกินความจริงครับ ควรให้ข้อมูลตามจริงทั้งดีและไม่ดีครับ
https://www.facebook.com/nungtoxic/posts/4052217581483543