สร้างรัก...บทที่ 2

บทที่ 2
 
 
         วันที่สองของการทำงานปัถยาก็มาเช้าไม่ต่างจากวันแรก แต่วันนี้หญิงสาวไม่ต้องนั่งรอให้มีคนมาเปิดออฟฟิศให้เหมือนวันก่อน เพราะก้องภพได้ให้กุญแจออฟฟิศกับเธอแล้ว เมื่อมาถึงไซต์งานเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยสาวก็เดินขึ้นบันไดมุ่งหน้าไปยังออฟฟิศทันที ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้ไขกุญแจ ประตูบานใหญ่ก็ถูกกระชากเปิดโดยบุคคลด้านใน เผยให้เห็นร่างสูงใหญ่ของชวกรที่ยืนเป็นยักษ์ปักหลั่นเช่นเคย
 
         “สวัสดีค่ะนายช่าง” ปัถยากล่าวทักทายพร้อมกับรอยยิ้มเช่นเคย 
 
         ด้วยใบหน้าที่ดูเฉยเมยไร้ความรู้สึก บวกกับท่าทางนิ่งๆ ไม่แยแสต่อคนรอบข้างและท่าทางดูจริงจังตลอดเวลาของเขา ทำให้หญิงสาวไม่กล้าเรียกเขาว่า ‘พี่’ เหมือนเรียกคนอื่นๆ จึงเรียกเขาว่า ‘นายช่าง’ เหมือนกับคนงานแทน ซึ่งเขาเองก็ดูจะไม่ได้ใส่ใจว่าเธอจะเรียกเขาแปลกแยกจากคนอื่นๆ
 
         “สวัสดี” ชวกรตอบรับสั้นๆ พร้อมขยับเปิดทางให้หญิงสาวเข้ามาด้านในออฟฟิศ 
 
         เมื่อเข้ามาแล้วปัถยาก็นำกระเป๋าสัมภาระไปเก็บในลิ้นชักโต๊ะของตนเองที่อยู่มุมทางเข้าห้องครัว
 
         “นายช่างคะ กิจกรรมเซฟตีทอล์กจัดตรงไหนเหรอคะ” 
 
         เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยคนใหม่ถามถึงสถานที่สำหรับหนึ่งในงานที่อยู่ในความรับผิดชอบของตน ซึ่งเป็นกิจกรรมการรวมตัวกันของผู้ปฏิบัติงานเพื่อพูดคุยในเรื่องความปลอดภัยก่อนเริ่มทำงาน ด้วยเมื่อวานกวีแจ้งเธอแค่ว่าทุกเช้าวันอังคารและวันศุกร์มีกิจกรรมเซฟตีทอล์กก่อนเริ่มงานแต่ไม่ได้บอกสถานที่
 
         “บริเวณหน้าแรมพ์ของโซนเอ ที่พี่โจ้พาคุณไปดูเมื่อวาน จำได้ไหม”
 
         “อ๋อ จำได้ค่ะ”
 
         “คุณจะลงไปเลยไหม หรือว่าจะกินข้าวก่อน” ชวกรถามพลางมองไปที่ถุงกับข้าวที่หญิงสาวหิ้วมาวางไว้บนโต๊ะ ปัถยายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลาก่อนให้คำตอบชายหนุ่ม
 
         “รุ้งขอกินข้าวก่อนละกันค่ะ เดี๋ยวตามลงไป”
 
         “ผมลงไปรอข้างล่างละกัน” ชายหนุ่มบอกขณะเดินไปหยิบหมวกนิรภัยและเสื้อสะท้อนแสงที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของตัวเองที่อยู่ถัดไปจากโต๊ะของปัถยา ก่อนจะเดินออกจากออฟฟิศไป
 
         ระหว่างปัถยากินข้าวคนอื่นๆ ก็เริ่มทยอยมาจนครบทุกคน หลังกินข้าวเสร็จหญิงสาวก็สวมเสื้อสะท้อนแสงสวมหมวกนิรภัยแล้วลงไปข้างล่างพร้อมกับก้องภพที่ถือโทรโข่งไปด้วย และตามด้วยโฟร์แมนอีกสามคน ไปสมทบกับชวกรที่ลงไปเรียกคนงานมารวมตัวกันสำหรับกิจกรรมเซฟตีทอล์กประจำสัปดาห์
 
         “มากันครบรึยัง รีบจัดแถวเร็ว วันนี้ผมมีสาวสวยมาแนะนำให้รู้จัก” 
 
         ก้องภพส่งเสียงผ่านเครื่องโทรโข่ง และเมื่อได้ยินคำว่า ‘สาวสวย’ คนงานนับร้อยที่นั่งกันอย่างกระจัดกระจายต่างรีบวิ่งมารวมตัวกัน และเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในพริบตา จากนั้นก้องภพก็ให้เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยคนใหม่แนะนำตัวให้คนงานได้รู้จัก
 
         “สวัสดีค่ะพี่ๆ พนักงานทุกคน ดิฉันชื่อปัถยา ชื่อเล่นรุ้งค่ะ เป็นเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยคนใหม่ของที่นี่ ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” หญิงสาวกล่าวจบก็ส่งยิ้มหวานให้กับคนงานทุกคนที่มีทุกเพศทุกวัย
 
         “ทุกคนได้รู้จักน้องเขาแล้วนะ ต่อไปน้องเขาจะเข้ามาดูแลงานด้านความปลอดภัยแทนคุณสุชาติที่ลาออกไป เวลาน้องเขาบอกเขาเตือนอะไรก็ฟังน้องเขาด้วย ใครดื้อใครไม่ทำตามผมให้สิทธิ์น้องเขาจัดการได้เต็มที่”
 
         ผู้จัดการโครงการกำชับคนงานของตนก่อนจะให้ปัถยาพูดคุยกับคนงานต่อ ซึ่งหญิงสาวก็พูดเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงานโดยทั่วไป ซึ่งในขณะพูดคุยคนงานต่างก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี มีการซักถามข้อสงสัย มีการโต้ตอบเมื่อหญิงสาวตั้งคำถาม เมื่อเรื่องที่เตรียมมาได้พูดไปจนหมดแล้ว และถึงเวลาเริ่มทำงานของคนงานแล้ว ปัถยาจึงจบกิจกรรมของวันนี้เพียงเท่านี้ โดยก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงานก็ไม่ลืมที่จะเปิดโอกาสให้คนงานได้ซักถามในเรื่องที่สงสัย 
 
         “ใครมีคำถามอะไรอีกไหมคะ” เซฟตีสาวสวยกรอกเสียงลงไปในเครื่องโทรโข่ง ก่อนสายตาจะหยุดอยู่ที่คนงานวัยรุ่นคนหนึ่งที่ยกมือขึ้นเป็นสัญญาณว่ามีข้อสงสัย
 
         “เซฟตีมีแฟนหรือยังครับ” 
 
         ชายหนุ่มตะโกนถามเสียงดัง ซึ่งเป็นคำถามที่เรียกเสียงฮือฮาได้ดีทีเดียว และดูเหมือนคำถามนี้จะตรงใจใครหลายๆ คนในที่นี้เสียด้วย สังเกตจากชายหนุ่มแทบทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนงานหรือสตาฟของทุกบริษัทภายในโครงการ ทุกคนต่างลุ้นรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ ยกเว้นโฟร์แมนหน้ายักษ์ ที่ไม่ได้สนใจจะอยู่รอฟังคำตอบเหมือนคนอื่นๆ เพราะมันไม่ได้สำคัญอะไรกับชีวิตเขา อีกอย่างคำตอบนี้เขารู้อยู่แล้วจากเหตุการณ์เมื่อวานตอนเย็น แต่แล้วสิ่งที่เขาได้ยินจากปากหญิงสาวกลับทำให้เขาต้องชะงักเท้าที่กำลังก้าวเดินออกจากลานกิจกรรม ก่อนจะหันกลับไปมองเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยคนใหม่อย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
 
         “ยังไม่มีค่ะ” ปัถยาตอบเสียงดังฟังชัด แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีใครเชื่อสักเท่าไร ด้วยรูปร่างหน้าตาที่เข้าขั้นสวย ไหนจะความมีอัธยาศัยนั่นอีก  
 
         จบประโยคของปัถยาชวกรถึงกับแค่นยิ้ม พลางคิดในใจ 
 
         “ผู้หญิงก็เป็นแบบนี้กันทุกคนสินะ พออยู่ลับหลังแฟน ใครถามก็ต้องบอกว่าโสดไว้ก่อน เมื่อวานยังเห็นมารับกันถึงหน้าไซต์งาน ทั้งยังส่งสายตาหวานซึ้งให้กันอีกตั้งนานสองนาน เธอคงจะเหมือนกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาเคยรู้จัก ผู้หญิงที่ทำให้เขาต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ สภาพที่มีชีวิตแต่ไร้หัวใจ” 


         “พูดจริงหรือพูดเล่นเนี่ยน้องรุ้ง ที่ว่ายังไม่มีแฟน” วิษณุ โฟร์แมนงานตกแต่งภายในอีกคนหนึ่งของบริษัทออกปากถามขณะเดินตามหญิงสาวเข้าไปในไซต์งาน
 
         “จริงสิคะพี่นุ ทำไมถึงคิดว่ารุ้งพูดเล่นล่ะคะ”
 
         “ก็น้องรุ้งน่ารักขนาดนี้ จะเป็นไปได้ยังไงที่ยังไม่มีแฟน แล้วเมื่อวานพี่เห็นน้องรุ้งขึ้นรถไปกับผู้ชายคนหนึ่ง พี่นึกว่าเขาเป็นแฟนน้องรุ้งซะอีก” ชายหนุ่มพูดไปตามที่คิด และเมื่อได้ฟังคำตอบของเพื่อนร่วมงาน ปัถยาถึงกับหัวเราะออกมาเบาๆ
 
         “อ๋อ คนนั้นเพื่อนรุ้งเองค่ะ เรียนด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก พอดีเขามาทำธุระแถวนี้เลยแวะมารับรุ้งน่ะค่ะ” หญิงสาวเลี่ยงที่จะบอกความจริงกับเพื่อนร่วมงาน เมื่อเห็นว่าไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่จะต้องนำเรื่องส่วนตัวมาป่าวประกาศให้คนอื่นรับรู้ 
 
         “งั้นพี่ก็จีบน้องรุ้งได้น่ะสิ” วิษณุพูดหยอกทีเล่นทีจริง ขณะคนถูกถามทำหน้าเหลอหลาไม่รู้ว่าชายหนุ่มแค่ล้อเล่นหรือหมายความตามที่พูดจริงๆ เมื่อเห็นสีหน้าของหญิงสาว คนขี้แกล้งก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
 
         “ดูทำหน้าสิ พี่พูดเล่น พี่มีแฟนแล้ว และรักแฟนมากด้วย” เมื่อได้ยินคำบอกเล่าของอีกฝ่ายปัถยาถึงยิ้มออก และทำทีเป็นถอนหายใจอย่างโล่งอก
 
         “ทีหลังอย่าล้อเล่นแบบนี้อีกนะคะพี่นุ รุ้งตกใจหมด ทำตัวไม่ถูกเลย” ถึงแม้ปัถยาจะเป็นคนอัธยาศัยดี เข้ากับคนได้ง่าย แต่เมื่อไหร่ที่มีคนมาบอกว่าชอบหรือจะจีบเธอ โดยที่เธอไม่ได้มีใจตรงกับคนคนนั้น เธอจะรู้สึกอึดอัด วางตัวไม่ค่อยถูก และจะพยายามเลี่ยงการเผชิญหน้ากับคนคนนั้นทันที
 
         “โอเค ต่อไปพี่จะไม่ทำให้น้องรุ้งตกใจ แล้วน้องรุ้งจะไปตรงไหน ให้พี่ไปเป็นเพื่อนไหม”
 
         “รุ้งว่าจะเข้าไปดูในโซนซีค่ะ แล้วค่อยไล่ออกมาโซนบีและเอ เผื่อในที่ประชุมเขาถามอะไรเกี่ยวกับหน้างาน”
 
         “จริงสิ วันนี้มีประชุมความปลอดภัย เตรียมข้อมูลไปดีๆ นะน้องรุ้ง เดี๋ยวพี่ก้องแกเล่นงานเอา แกยิ่งมีอคติกับบริษัทเราอยู่ด้วย” วิษณุเตือนเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยคนใหม่ที่ยังไม่รู้ฤทธิ์เดชของศรันย์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยของบริษัทที่ปรึกษา 
 
         “มีอะไรถามพวกพี่ๆ ได้ทุกคนนะ”
 
         “ขอบคุณค่ะพี่นุ งั้นรุ้งเข้าไปดูข้างในก่อนนะคะ ชักช้าเดี๋ยวไม่ทันประชุม” 
 
         พูดจบปัถยาก็เดินเข้าไปยังโซนด้านในทันที เมื่อเดินดูและเก็บข้อมูลหน้างานได้พอสมควรหญิงสาวก็กลับขึ้นออฟฟิศ เพื่อเตรียมตัวเข้าประชุมประจำสัปดาห์ โดยกวี เป็นคนรับหน้าที่พาปัถยาเข้าประชุม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่