ตามนั้นครับ จะวางตัวละครตัวนี้ ให้เป็น มือสังหารของนางเอก ทำเรื่องสกปรก ต่างๆนาๆให้นางเอก แต่พอเขียนแล้วมันขัด แปลกๆ
คิดว่า ตัวละครตัวนี้ใสซื่อเกินไปมั้ยครับ แก้หลายหนมากเลยครับ ติดตรงนี้นานแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ลุคชอบ ท้องฟ้าเวลานี้เป็นที่สุด ฟ้าสีแผดเป็นส้ม ระเบิดเป็นสีต่างกัน ลุคไม่เข้าใจศิลปะแลดนตรีมากนัก ลุงโอนัสเคยว่า หมาเห่ายังร้องเพราะกว่าเขาร้องเพลง แม้แต่ตีเข้าจังหวะ ยังไม่อาจเข้ากับผู้ใด หากแต่ดนตรีคงเหมือนดั่งฟ้าในตอนนี้ มันคงไพเราะยิ่งกว่าเสียงใดในโลกหล้า ด้วยอยู่กลางระหว่างยามค่ำและยามสว่าง ลุคคิดว่าไม่มีสิ่งใดจักเหมือนตนเองมากไปกว่านี้อีกแล้ว นี่เป็นอย่างหนึ่ง ที่ลุคคิดเข้าข้าง ว่าตนเองก็อาจจักงดงามได้เฉกเช่นเดียวกัน ร่างหนาแบมือออกแล้วกำเข้า เมื่ออยู่ที่สูงเช่นนี้แล้ว โลกทั้งใบก็เกือบเหมือนจะกำไว้ได้ในฝ่ามือเดียว เมื่อพลิกตัวลงตะแคง เสียงคุ้นเคยก็ดังขึ้นเหนือหัว
ลุครู้ได้ในทันที ว่าเป็นผู้ใด โดยไม่ต้องหันไปมองเสียด้วยซ้ำ
“เจ้านี่ชอบเสียจริงนะที่สูงเนี่ย ตัวก็สูงชะลูดปานต้นไม้ มิเบื่อหรอกรึ ”
ลุคตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นไปมอง “ข้าอยู่ถึงบนหลังคา เจ้ายังหาข้าเจออีกนะ”
เสียงสวบสาบจากเนื้อผ้าเสียดสีกัน ดังอยู่ข้างหู บ่งบอกให้รู้ว่าคู่สนทนา ตัดสินใจทรุดนั่งลงข้างกาย
“เจ้าเป็น ผู้คุ้มกันข้ามิใช่หรือไร ไฉนเจ้าจึงมิอยู่ข้างกายข้า ”
“เจ้าก็เป็นนางเอกของงานมิใช่รึ แล้วทำไมถึงไม่อยู่ที่งานเสียเล่า”
กลิ่นหอมเนื้อสาวจืดจาง ไล้จมูกเบาๆ ทำเอาหัวใจเต้นผิดจังหวะเล็กน้อย
“ ข้าคือตัวเอก ข้าจักเปิดตัวในเวลาที่เหมาะสมเอง อย่าได้กังวลแทนข้าไปเลย “
ลุคเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นดวงตาสีดำที่สุขสกาว ราวเอาดวงดาราทั้งฟ้า มาไว้ในดวงตาคู่เดียว กำลังจ้องมาที่เขา ใบหน้านั้นใกล้มาก มากเสียจนคนที่นอนอยู่แทบลืมหายใจ
“เจ้าใกล้ข้าไปแล้วนะ “ ลุคผุดนั่งแทบจะในทันที
“ ฮ่าๆ เจ้ายักษ์ขี้อายเอ๊ย รีบลุกซะจน เกือบชนหัวข้าแล้วนั่น “
นางหัวเราะลั่น ด้วยความถูกใจที่แกล้งคนตัวโตกว่าได้ นางตบบ่าคนร่างโตเบาๆ แล้วทรุดตัวลงนั่งข้างกาย
ลุคถอนหายใจ กี่ครั้งกี่คราเขาก็ไม่เคยเอาชนะนางได้เลย
“ นั่งแบบนั้น ชุดเจ้าไม่สกปรกรึ ฟิลเลีย“
นางอมยิ้มก่อนจะถอนหายใจ
“เจ้ายังนอนได้เลย ทำไมข้าจะนั่งมิได้ “
ลุคตอบโดยไม่ทันได้คิด
“ ข้าเป็นคนเถื่อน สกปรกมันเป็นเรื่องปกติ ”
ฟิลเลียขมวดคิ้วคู่งาม ก่อนจะเอ่ย
“ ไม่มีผู้ใด สกปรก เพราะเกิดมาเป็นสิ่งใดหรอก ข้าเตือนเจ้าหลายหนแล้ว หากเจ้าถือข้าเป็นเพื่อน เจ้าก็อย่าได้มาพูดเช่นนี้ ” ฟิลเลียบุ้ยคาง ให้ลุคมองตาม ด้านล่างหน้าประตูงานเลี้ยง มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง กำลังรอให้คนเฝ้าประตูตรวจสอบบัตรเชิญ ดูท่าจะเป็นคนรับใช้ผู้สูงส่ง จากที่ไหนสักที่
“ ลุคเจ้าดูนั่น เจ้าคนที่อยู่ตรงนั้น เจ้าว่า เขาสะอาดไหม “
ลุคเอียงคอมองตามนาง ก่อนจะบอกตามตรง
“ ก็คงสะอาดกระมัง เขามางานเลี้ยงของเจ้ามิใช่รึ “
นางยิ้มมุมปาก ก่อนจะหันมาถาม
“เจ้ามองเห็นชัดหรือ แน่ใจแค่ไหน มีรอยเปื้อนตรงไหนหรือไม่”
ลุคพยามเพ่งมอง
“ไม่แน่หรอก โพลเพล้ ใครจะไปเห็นกัน คงต้องไปใกล้กว่านี้“
ฟิลเลีย หัวเราะก่อนจะบอก
“เห็นไหมล่ะ เจ้ายักษ์ซื่อบื้อ เราจะรู้ได้ไงว่าคนไหนสกปรก คนไหนสะอาด เราไม่รู้หรอก นอกจากเราเข้าไปใกล้เค้ามากพอ เจ้าเกิดมาเป็นอะไร ไม่สำคัญ สำหรับข้า ข้าว่าเจ้าสะอาด มันก็คือสะอาด เข้าใจหรือไม่ “ นางหันหน้าหนีไปทางยอดหอคอย แล้วเอ่ยเบาแทบไม่ได้ยิน
“คนสกปรกมีข้าคนเดียวก็พอแล้ว”
ลุคเอียงคอมองด้วยความสงสัย
“เจ้าก็แต่งตัวสะอาดดีอยู่นะ “
ฟิลเลียหัวเราะลั่น
“เจ้ายักษ์ซื่อบื้อ เพราะแบบนี้ไง ข้าถึงรักเจ้า “
รักหรือ
แม้รู้ว่าไม่ควร แต่บางอย่างในอกก็ตื่นเต้นยินดี
นางอมยิ้ม ก่อนจะตบบ่าแล้วลุกขึ้นยืน
“เอาล่ะข้าสบายใจแล้ว ข้าคงต้องกลับไปเป็นแม่หญิงอีกครา “
ลุคหันหน้าไปมองร่างบอบบางที่กำลังยืดแขน เพื่อแก้ปวดเมื่อย
“ฟิลเลีย “
นางหันมาก่อนจะเอียงคอด้วยความสงสัย
“ว่าไง”
อย่าพึ่งไปได้หรือไม่ อยู่ข้างข้าสักประเดี๋ยวเถิด
“ เร็ก เป็นเพื่อนข้า เจ้าอย่ารังแกเขาได้ไหม”
นางขมวดคิ้วคู่งามเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ย
“ข้าจะพยาม ”
ร่างบอบบางหายลับไปทางที่จากมา
ลุคมองมือตัวเอง มือคู่นี้ใหญ่เสียเปล่า แต่กลับไขว่คว้าอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง
ขอคำแนะนำ เกี่ยวกับการเขียนนิยายหน่อยครับ
คิดว่า ตัวละครตัวนี้ใสซื่อเกินไปมั้ยครับ แก้หลายหนมากเลยครับ ติดตรงนี้นานแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้