คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 20
ก็แบกมาตลอดตั้งแต่เดบิวต์จนถึงปัจจุบันนะคะ ทั้งในแง่รายได้ ชื่อเสียง และเครดิต
คำว่าแบกค่ายเราไม่ได้ใช้ความรู้สึก แต่วัดตามตัวเลขและสถิติที่จับต้องได้ Bighit ได้ขึ้นเป็นค่ายระดับท็อปตั้งแต่ 2018 กำไรหลักพันล้านและตอนนั้นมีแค่ BTS วงเดียว จากค่ายเล็กๆ ใกล้ล้มละลายที่ไม่มีใครรู้จัก ก็กลายเป็นค่ายที่สื่อจับตามองเพราะสามารถปั้นวงแค่วงเดียวแต่ทำรายได้และสถิติสูงกว่าค่าย Big3 ที่ครองตลาดเคป็อปมาเป็นสิบๆ ปี แม้แต่วงที่เดบิวต์ใหม่คนก็ยังให้ความสนใจเพราะเป็นวงน้องของ BTS ไม่ใช่เพราะมากจากค่ายใหญ่
ฺBighit กลายเป็นค่ายที่มีคนรู้จักเพราะวง BTS เป็นข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ แม้แต่สื่อเกาหลีและสื่อนอกก็ยังเขียนข่าวถึง Bighit และต้องพ่วงสถานะ "ต้นสังกัดของ BTS" ด้วย ค่ายพึ่งพา BTS 100% มาเป็นระยะเวลา 6 ปี พอปี 2019 เดบิวต์วงน้องใหม่ แต่ BTS ยังทำรายได้สูงกว่าปีก่อนๆ และยังแบกค่ายอยู่เกิน 90% แม้แต่ในปี 2020 รายได้หลักจากการทัวร์คอนเสิร์ตหายไปเยอะมาก (เกินหมื่นล้านบาท) แต่กำไรยังมากกว่าปี 2019 จากยอดอัลบั้ม ยอดวิว ยอดสตรีม งานพรีเซนเตอร์ค่าตัวเก้าหลักของบริษัทระดับท็อปของโลก Bighit เข้าตลาดหุ้นและลงทุนในธุรกิจอื่นเยอะมาก (ซึ่งเงินลงทุนก็ได้มาจาก BTS ทั้งนั้น) รวมถึงมีเครดิตมากพอที่จะซื้อค่ายอื่นๆ เข้ามาอยู่ในเครือด้วย พูดได้เต็มปากว่า Bighit (HYPE) มีวันนี้เพราะ BTS แค่วงเดียว
ที่บอกว่า BTS แบกบริษัทอยู่ เพราะต่อให้ Bighit ไม่ซื้อวงอื่นมาอยู่ในเครือเดียวกันและยังเป็นแค่ Bighit Ent. ต่อไป ก็ยังจะมีรายได้ถึง 85% ของรายได้ที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน ซึ่งก็ยังมากกว่า Big3 สามค่ายรวมกันอยู่ดี นี่ยังไม่ได้พูดถึงแง่รายได้ ค่าเช่าตึกปีละ 500 ล้านบาท ค่ามัดจำ ค่ารีโนเวทที่ทำมาตั้งแต่ 2019 ซึ่งตอนนั้นมีรายได้จาก BTS แค่วงเดียวเหมือนกัน และเครดิตของค่ายที่ช่วยสร้างคอนเนคชั่น ทั้งในเกาหลีและนอกเกาหลีก็มาจาก BTS ทั้งนั้น การที่วงได้รับเชิญไปงานรายการทีวีและงานประกาศรางวัลใหญ่ๆ ของอเมริกาเพราะเป็น BTS ไม่ใช่เพราะอาศัยคอนเนคชั่นของค่าย ไม่เกี่ยวเลยว่าตอนนี้จะมีศิลปินในเครือเยอะแค่ไหน ในเมื่อรายได้และอำนาจต่อรองของค่ายขึ้นอยู่กับ BTS แทบทั้งหมดแบบนี้
จริงๆ เรากล้าพูดว่าพาวเวอร์ของ BTS ในตอนนี้สูงกว่า Bighit มาก ตัววงอยู่ได้ด้วยชื่อเสียงของตัวเองโดยไม่ต้องรอให้ค่ายวิ่งหางานหรือป้อนงานให้ มีแบรนด์มากมายที่พร้อมจ่ายค่าพรีเซนเตอร์ ล่าสุดที่ไปออกวาไรตี้ของเกาหลีในรอบ 3-4 ปี ศิลปินก็บอกว่าค่ายมาถามเองเลยว่าอยากไปรายการไหนมากที่สุด หมายความว่ารายการดังๆ มีที่ว่างให้ BTS แน่นอน มีช้อยส์ที่ศิลปินเป็นฝ่าย "เลือก" นั่นคือสิ่งที่เราเรียกว่าอำนาจต่อรองที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะ Bighit แน่นอน
ส่วนความสำเร็จของวงอื่นๆ ในบริษัท เราไม่เคยเคลมวงที่ Bighit ซื้อมาทีหลังอยู่แล้ว แต่วงที่เดบิว์กับค่ายโดยตรง ได้รับความสนใจจากการอยู่ค่ายเดียวกับ BTS มีคอนเทนต์ลงในช่องที่มียอดซับนอนมา 40-50 ล้าน ซึ่งก็เหมือนกับศิลปินค่ายใหญ่วงอื่นๆ ปัญหาคือถ้า Bighit ยังไม่สามารถสร้างวงที่ทำรายได้และมีกระแสได้เกินครึ่งหนึ่งเท่ากับที่ BTS ทำไว้ ยังไงก็หลุดจากคำว่า "ค่าย BTS" ไม่ได้ เพราะฉะนั้น ทั้งในแง่รายได้และชื่อเสียงระดับโลกในตอนนี้ การเคลมว่า BTS สร้าง Bighit และตอนนี้ก็แบกทั้งบริษัทคงไม่ใช่คำพูดที่เกินจริง และถ้าใครจะแย้งแฟคท์ข้อนี้ ก็ควรแย้งด้วยข้อมูลที่จับต้องได้น่าจะชัดเจนกว่า
คำว่าแบกค่ายเราไม่ได้ใช้ความรู้สึก แต่วัดตามตัวเลขและสถิติที่จับต้องได้ Bighit ได้ขึ้นเป็นค่ายระดับท็อปตั้งแต่ 2018 กำไรหลักพันล้านและตอนนั้นมีแค่ BTS วงเดียว จากค่ายเล็กๆ ใกล้ล้มละลายที่ไม่มีใครรู้จัก ก็กลายเป็นค่ายที่สื่อจับตามองเพราะสามารถปั้นวงแค่วงเดียวแต่ทำรายได้และสถิติสูงกว่าค่าย Big3 ที่ครองตลาดเคป็อปมาเป็นสิบๆ ปี แม้แต่วงที่เดบิวต์ใหม่คนก็ยังให้ความสนใจเพราะเป็นวงน้องของ BTS ไม่ใช่เพราะมากจากค่ายใหญ่
ฺBighit กลายเป็นค่ายที่มีคนรู้จักเพราะวง BTS เป็นข้อเท็จจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ แม้แต่สื่อเกาหลีและสื่อนอกก็ยังเขียนข่าวถึง Bighit และต้องพ่วงสถานะ "ต้นสังกัดของ BTS" ด้วย ค่ายพึ่งพา BTS 100% มาเป็นระยะเวลา 6 ปี พอปี 2019 เดบิวต์วงน้องใหม่ แต่ BTS ยังทำรายได้สูงกว่าปีก่อนๆ และยังแบกค่ายอยู่เกิน 90% แม้แต่ในปี 2020 รายได้หลักจากการทัวร์คอนเสิร์ตหายไปเยอะมาก (เกินหมื่นล้านบาท) แต่กำไรยังมากกว่าปี 2019 จากยอดอัลบั้ม ยอดวิว ยอดสตรีม งานพรีเซนเตอร์ค่าตัวเก้าหลักของบริษัทระดับท็อปของโลก Bighit เข้าตลาดหุ้นและลงทุนในธุรกิจอื่นเยอะมาก (ซึ่งเงินลงทุนก็ได้มาจาก BTS ทั้งนั้น) รวมถึงมีเครดิตมากพอที่จะซื้อค่ายอื่นๆ เข้ามาอยู่ในเครือด้วย พูดได้เต็มปากว่า Bighit (HYPE) มีวันนี้เพราะ BTS แค่วงเดียว
ที่บอกว่า BTS แบกบริษัทอยู่ เพราะต่อให้ Bighit ไม่ซื้อวงอื่นมาอยู่ในเครือเดียวกันและยังเป็นแค่ Bighit Ent. ต่อไป ก็ยังจะมีรายได้ถึง 85% ของรายได้ที่มีอยู่ ณ ปัจจุบัน ซึ่งก็ยังมากกว่า Big3 สามค่ายรวมกันอยู่ดี นี่ยังไม่ได้พูดถึงแง่รายได้ ค่าเช่าตึกปีละ 500 ล้านบาท ค่ามัดจำ ค่ารีโนเวทที่ทำมาตั้งแต่ 2019 ซึ่งตอนนั้นมีรายได้จาก BTS แค่วงเดียวเหมือนกัน และเครดิตของค่ายที่ช่วยสร้างคอนเนคชั่น ทั้งในเกาหลีและนอกเกาหลีก็มาจาก BTS ทั้งนั้น การที่วงได้รับเชิญไปงานรายการทีวีและงานประกาศรางวัลใหญ่ๆ ของอเมริกาเพราะเป็น BTS ไม่ใช่เพราะอาศัยคอนเนคชั่นของค่าย ไม่เกี่ยวเลยว่าตอนนี้จะมีศิลปินในเครือเยอะแค่ไหน ในเมื่อรายได้และอำนาจต่อรองของค่ายขึ้นอยู่กับ BTS แทบทั้งหมดแบบนี้
จริงๆ เรากล้าพูดว่าพาวเวอร์ของ BTS ในตอนนี้สูงกว่า Bighit มาก ตัววงอยู่ได้ด้วยชื่อเสียงของตัวเองโดยไม่ต้องรอให้ค่ายวิ่งหางานหรือป้อนงานให้ มีแบรนด์มากมายที่พร้อมจ่ายค่าพรีเซนเตอร์ ล่าสุดที่ไปออกวาไรตี้ของเกาหลีในรอบ 3-4 ปี ศิลปินก็บอกว่าค่ายมาถามเองเลยว่าอยากไปรายการไหนมากที่สุด หมายความว่ารายการดังๆ มีที่ว่างให้ BTS แน่นอน มีช้อยส์ที่ศิลปินเป็นฝ่าย "เลือก" นั่นคือสิ่งที่เราเรียกว่าอำนาจต่อรองที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะ Bighit แน่นอน
ส่วนความสำเร็จของวงอื่นๆ ในบริษัท เราไม่เคยเคลมวงที่ Bighit ซื้อมาทีหลังอยู่แล้ว แต่วงที่เดบิว์กับค่ายโดยตรง ได้รับความสนใจจากการอยู่ค่ายเดียวกับ BTS มีคอนเทนต์ลงในช่องที่มียอดซับนอนมา 40-50 ล้าน ซึ่งก็เหมือนกับศิลปินค่ายใหญ่วงอื่นๆ ปัญหาคือถ้า Bighit ยังไม่สามารถสร้างวงที่ทำรายได้และมีกระแสได้เกินครึ่งหนึ่งเท่ากับที่ BTS ทำไว้ ยังไงก็หลุดจากคำว่า "ค่าย BTS" ไม่ได้ เพราะฉะนั้น ทั้งในแง่รายได้และชื่อเสียงระดับโลกในตอนนี้ การเคลมว่า BTS สร้าง Bighit และตอนนี้ก็แบกทั้งบริษัทคงไม่ใช่คำพูดที่เกินจริง และถ้าใครจะแย้งแฟคท์ข้อนี้ ก็ควรแย้งด้วยข้อมูลที่จับต้องได้น่าจะชัดเจนกว่า
สุดยอดความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น
BTS แบกทั้งบริษัทอยู่จริงมั้ย?