ตัวเราเองทำงานที่ห้างสรรพสินค้าย่านลาดพร้าว ซึ่งตัวเลขความเสี่ยงเพิ่มขึ้นทุกวัน
โดยเพื่อนพนักงานหลายคนก็ป้องกันตัวเองทุกทางที่จะทำได้ เนื่องจากการทำงานบริการ
เมื่อห้างไม่ได้รับการสั่งปิดก็ต้องเดินทางมาทำงานกันหมด ซึ่งไม่ให้ทานอาหารในร้านอาหาร
แต่กับพนักงานในห้างต้องทานในห้องอาหารพนักงานซึ่ง จำนวนพนักงานมีเป็นพันคนต่อวัน
ซึ่งก็รับรองไม่ได้ว่ามีใครติดเชื้อไปแล้วมั้ง
นโยบายรับมือคือแบ่งรอบในการพัก แต่อย่างไร
จำนวนพนักงานก็มีจำนวนมากอยู๋ดี ซึ่งพนักงานทุกคนก็มีครอบครัวที่ต้องดูแล
และต้องเอาชีวิตแต่ละวันให้ได้ เงินเดือนและค่าคอมมิชชั่นขึ้นอยู่กับยอดขาย
แต่ตอนนี้เศรษฐกิจพังไปหมดแล้ว สวมหน้ากากอนามัย ให้สเปรย์ แอลกอฮอล์ฉีด เจลแอลกอฮอล์
การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ทุกคนทำหมด
แต่ก็ไม่สามารถรับรองได้ว่า จะมีคนติดเชื้อเมื่อไร ซึ่งสร้างความกังวลใจให้เรามาก
ที่บ้านมีคนแก่ถึงสามคน ถ้าเราติดเชื้อหรือต้องไปกักตัว ก็จะไม่สามารถดูแลผู้ใหญ่ในบ้านทั้งสามคนได้ ซึ่งอายุห้าสิบขึ้นทั้งหมดแล้ว
ถ้าเป็นไปได้ เราก็ซื้อประกันเกี่ยวกับโควิคเอาไว้แล้ว แต่ถ้าเลือกได้ ก็ไม่อยากติดเพราะไม่มีอะไรรับรองได้ว่า จะรักษาตัวได้หาย
นโยบายการฉีดวันซีนก็ยังไม่แน่นอน มาตราช่วยเหลือก็ไม่ถึงพวกเรา ขนาดประชาชนทั่วไป เค้ายังต้องรออยู่ที่บ้าน
การเมืองดี ประเทศเราคงมีวัดซีนฉีดไปนานแล้ว
ยี่ห้อที่รัฐบาลนำเข้ามาไม่สามารถรับรองได้ว่าจะปลอดภัย
หลายคนยังมีความกังวลและเกรงกลัวต่อการฉีดวัดซีนที่ทางรัฐบาลนำเข้ามา
ทางการแพทย์หลายคนไปฉีดก็มีอาการต่างๆที่พวกเราเห็นแล้วได้แต่กุมขมับ ว่าฉันเลือกอะไรได้มั้ง
ประเทศที่อยู่ทุกวันนี้ เหลืออะไรให้ไว้วางใจได้มั้ง
เหมือนระเบิดเวลาว่าจะแพร่เชื้อระบาดหนักหนาสาหัสเมื่อไร
ซึ่งก็มีประกัน สำหรับรับรองผลวัดซีนว่าถ้าแพ้จะมีเงินชดเชยให้
แต่ถ้าคนไทยเลือกได้ มีใครอยากจะไปเสี่ยงด้วยชีวิตตัวเองกันบ้าง
ทางรัฐบาลไม่ได้มีอะไรช่วยเหลือประชาชนที่เป็นรูปแบบที่ขัดเจน ความจริงที่เผชิญเหมือนประชาชนต้องไปช่วยเหลือตัวเอง
หาหน้ากากอนามัยมาสวมใส่เอง บริจาคความช่วยเหลือไปทางโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน โดนงบประมาณเหล่านี้
ไม่มีอะไรออกมาเลย เห็นเบิกงบมาตลอดเวลา แต่ผลที่ได้ไม่เคยไปตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด
อำนาจต่อสื่อในประเทศก็มีมากล้นชนิดที่ว่าสื่อไม่สามารถรายงานข่าวตามความจริงที่เกิดขึ้นได้
เพราะเกรงว่าจะทำให้ช่องมีปัญหากับทางการรัฐบาลไทย ซึ่งการเอาตัวเองรอดจากอำนาจต่างๆ คงเลี่ยงได้ยาก
สุดท้ายนี้ ประชาชนคนไทย เลือกอะไรให้กับชีวิตตนเองได้มั้ง จะอยู่รอดจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ไปได้ยังไง มีวิธีอะไรมั้ง
(การเมืองดี ฉันก็จะมีชีวิตอิสระเสรี มีทางเลือกมากมาย แต่ตอนนี้ฉันไม่มีสิทธิ์เลือก
หรือพูดอะไรต่อการเมืองเลย ถ้าพูดก็ต้องไปเข้าคุกตามน้องๆที่เข้าไปก่อนหน้านั้น)
นักวิชาการทั้งหลาย ได้ช่วยอะไรน้องๆได้มั้ง ไปนอนคุกกี่คน และอนาคตจะเป็นอย่างไร
COVID-19 แนวทางการป้องกันสำหรับพนงที่ต้องเดินทางไปทำงานที่ห้างสรรพสินค้า มีวิธียังไงมั้งคะ (ถ้าการเมืองดีเราจะรอดกันหมด)
โดยเพื่อนพนักงานหลายคนก็ป้องกันตัวเองทุกทางที่จะทำได้ เนื่องจากการทำงานบริการ
เมื่อห้างไม่ได้รับการสั่งปิดก็ต้องเดินทางมาทำงานกันหมด ซึ่งไม่ให้ทานอาหารในร้านอาหาร
แต่กับพนักงานในห้างต้องทานในห้องอาหารพนักงานซึ่ง จำนวนพนักงานมีเป็นพันคนต่อวัน
ซึ่งก็รับรองไม่ได้ว่ามีใครติดเชื้อไปแล้วมั้ง
นโยบายรับมือคือแบ่งรอบในการพัก แต่อย่างไร
จำนวนพนักงานก็มีจำนวนมากอยู๋ดี ซึ่งพนักงานทุกคนก็มีครอบครัวที่ต้องดูแล
และต้องเอาชีวิตแต่ละวันให้ได้ เงินเดือนและค่าคอมมิชชั่นขึ้นอยู่กับยอดขาย
แต่ตอนนี้เศรษฐกิจพังไปหมดแล้ว สวมหน้ากากอนามัย ให้สเปรย์ แอลกอฮอล์ฉีด เจลแอลกอฮอล์
การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ทุกคนทำหมด
แต่ก็ไม่สามารถรับรองได้ว่า จะมีคนติดเชื้อเมื่อไร ซึ่งสร้างความกังวลใจให้เรามาก
ที่บ้านมีคนแก่ถึงสามคน ถ้าเราติดเชื้อหรือต้องไปกักตัว ก็จะไม่สามารถดูแลผู้ใหญ่ในบ้านทั้งสามคนได้ ซึ่งอายุห้าสิบขึ้นทั้งหมดแล้ว
ถ้าเป็นไปได้ เราก็ซื้อประกันเกี่ยวกับโควิคเอาไว้แล้ว แต่ถ้าเลือกได้ ก็ไม่อยากติดเพราะไม่มีอะไรรับรองได้ว่า จะรักษาตัวได้หาย
นโยบายการฉีดวันซีนก็ยังไม่แน่นอน มาตราช่วยเหลือก็ไม่ถึงพวกเรา ขนาดประชาชนทั่วไป เค้ายังต้องรออยู่ที่บ้าน
การเมืองดี ประเทศเราคงมีวัดซีนฉีดไปนานแล้ว
ยี่ห้อที่รัฐบาลนำเข้ามาไม่สามารถรับรองได้ว่าจะปลอดภัย
หลายคนยังมีความกังวลและเกรงกลัวต่อการฉีดวัดซีนที่ทางรัฐบาลนำเข้ามา
ทางการแพทย์หลายคนไปฉีดก็มีอาการต่างๆที่พวกเราเห็นแล้วได้แต่กุมขมับ ว่าฉันเลือกอะไรได้มั้ง
ประเทศที่อยู่ทุกวันนี้ เหลืออะไรให้ไว้วางใจได้มั้ง
เหมือนระเบิดเวลาว่าจะแพร่เชื้อระบาดหนักหนาสาหัสเมื่อไร
ซึ่งก็มีประกัน สำหรับรับรองผลวัดซีนว่าถ้าแพ้จะมีเงินชดเชยให้
แต่ถ้าคนไทยเลือกได้ มีใครอยากจะไปเสี่ยงด้วยชีวิตตัวเองกันบ้าง
ทางรัฐบาลไม่ได้มีอะไรช่วยเหลือประชาชนที่เป็นรูปแบบที่ขัดเจน ความจริงที่เผชิญเหมือนประชาชนต้องไปช่วยเหลือตัวเอง
หาหน้ากากอนามัยมาสวมใส่เอง บริจาคความช่วยเหลือไปทางโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน โดนงบประมาณเหล่านี้
ไม่มีอะไรออกมาเลย เห็นเบิกงบมาตลอดเวลา แต่ผลที่ได้ไม่เคยไปตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด
อำนาจต่อสื่อในประเทศก็มีมากล้นชนิดที่ว่าสื่อไม่สามารถรายงานข่าวตามความจริงที่เกิดขึ้นได้
เพราะเกรงว่าจะทำให้ช่องมีปัญหากับทางการรัฐบาลไทย ซึ่งการเอาตัวเองรอดจากอำนาจต่างๆ คงเลี่ยงได้ยาก
สุดท้ายนี้ ประชาชนคนไทย เลือกอะไรให้กับชีวิตตนเองได้มั้ง จะอยู่รอดจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ไปได้ยังไง มีวิธีอะไรมั้ง
(การเมืองดี ฉันก็จะมีชีวิตอิสระเสรี มีทางเลือกมากมาย แต่ตอนนี้ฉันไม่มีสิทธิ์เลือก
หรือพูดอะไรต่อการเมืองเลย ถ้าพูดก็ต้องไปเข้าคุกตามน้องๆที่เข้าไปก่อนหน้านั้น)
นักวิชาการทั้งหลาย ได้ช่วยอะไรน้องๆได้มั้ง ไปนอนคุกกี่คน และอนาคตจะเป็นอย่างไร