ประเทศกำลังแย่ วัคซีนฉีดช้า ความเชื่อมั่นหดหาย แบบนี้เมื่อไรจะเปิดประเทศได้

อย่างที่เห็นกันตอนนี้ที่ประเทศเรากำลังแย่ เพราะติดเชื้อรายวันขึ้นหลัก 2,000+ ถึงแม้ ว่าวันสองวันนี้ลดลงต่ำกว่า สองพันบ้าง แต่ดูแล้วยังมีความเสี่ยงสูงมาก หากวัคซีนไม่ได้ฉีดกันทั่วถึงและช้าแบบนี้


หากตามที่อ้างอิงจากเพจดัง กว่าจะฉีดกันครบใช้เวลาอ้างอิงยาวนาน 7 ปีแบบนี้ ประเทศเราก็ยังติดเชื้อรายวันกว่าจะต่ำกว่า 1,000 ก็อีกนาน
แล้วแบบนี้ถามว่า เมื่อไรเศรษฐกิจไทยจะกลับมาเหมือนเดิม?
ก็ต้องย้อนถามว่า เมื่อไรประเทศจะเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาได้?
เพราะประเทศเราเป็นประเทศที่พึ่งพาธุรกิจท่องเที่ยวเป็นหลัก จะให้ฟื้นได้แบบก้าวกระโดดก็ต้องรับนักท่องเที่ยวเข้ามา ประเทศถึงจะไปต่อได้ เงินหมุนเวียนได้รวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าก็จับจ่ายกันมือหนักได้
แต่ตอนนี้คนไทยฉีดวัคซีนได้แค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมดในประเทศ ทำให้ความมั่นใจของนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเที่ยวประเทศไทยลดลงและไม่อยากเข้ามาเที่ยวประเทศเรา
ตอนนี้มีการวิจัย ทำแบบสอบถามนักท่องเที่ยวจีนว่า “มีปัจจัยอะไรที่จะทำให้กลับมาเยือนไทยอีกครั้ง”
ขอเอาข้อมูลที่น่าสนใจมาแชร์นะ
ขอบคุณข้อมูลจาก: marketingoops
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


เราคงรู้กันอยู่แล้วว่ากลุ่มนักท่องเที่ยว #คนจีน เป็นกลุ่มที่เข้ามาในประเทศไทยมากที่สุดมาโดยตลอด ดังนั้น พูดได้เต็มปากว่า นักท่องเที่ยวจีน เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวของไทยให้ฟื้นตัวมากขึ้น หลังจากที่โดนพิษ COVID-19 ไปเต็มๆ ลากยาวมาตั้งแต่ต้นปี 2020 ที่ผ่านมา
การสำรวจของ Thai-Chinese Intelligence Center (TCIC) หรือ ศูนย์ข้อมูลอัจฉริยะไทย-จีน ที่สอบถามนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนนวน 400 คนทางออนไลน์ ถึงเหตุผลจริงๆ ที่จะทำให้พวกเขาตัดสินใจเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเหมือนเดิม หรือ ไขข้อสงสัยว่า สถานการณ์ COVID-19 #ไทยแลนด์ ยังคงเป็น Top no.1 ของจุดหมายปลายทางอยู่หรือไม่สำหรับคนจีน
 
คนไทยต้องฉีดวัคซีนก่อน 70% ถึงกล้ามาเที่ยว
แต่ข้อมูลที่น่าสนใจมากที่สุดในการสำรวจครั้งนี้ นั่นก็คือ การฉีดวัคซีนสำหรับไทย เพราะคนจีนสวนใหญ่ (33%) มองว่า พวกเขาจะสบายใจมากกว่าถ้าเดินทางมาเที่ยว ในช่วงที่คนไทยอย่างน้อย 70% ได้รับวัคซีนป้องกัน COVID-19 เรียบร้อยแล้ว
ส่วนอีก 28% มองว่า ต้องอย่างน้อย 50% ของประชากรคนไทยที่ได้รับวัคซีน ในขณะที่มีแค่ 11% ของคนจีนที่มองว่า ไม่ใช่ปัจจัยเกี่ยวกับการตัดสินใจเข้ามาท่องเที่ยวในไทย

ส่วนจังหวัดที่ยังเป็น Top destination สำหรับคนจีนตลอดกาล ก็คือ กรุงเทพฯ (40%) ตามด้วย ภูเก็ต, พัทยา, เชียงใหม่ และ สมุย เป็นต้น

หากมองในภาพรวมมาดูกันหน่อยว่า คนจีน ยังมองว่าประเทศไหนที่น่าสนใจเดินทางมาท่องเที่ยว (overseas destination) นอกจากไทย ประมาณ 55% ที่บอกว่า ญี่ปุ่น ตามด้วย สิงคโปร์ และ เกาหลีใต้
 
 คนจีนส่วนใหญ่รอดูสถานการณ์อย่างน้อย 6 เดือน
ทีนี้มาดูกันว่า คนจีนส่วนใหญ่ใช้เวลาตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ (ไทย) นานกี่เดือน ซึ่งผลสำรวจของ TCIC พบว่า ประมาณ 36% ของคนจีนต้องการ make sure สถานการณ์อย่างน้อย 6 เดือนก่อนออกเดินทางไปต่างประเทศ ส่วนอีก 30% รอดูสถานการณ์อย่างน้อย 1 เดือน
ขณะที่มีแค่ 7% ที่พร้อมเดินทางเลยหากประเทศเป้าหมายอนุญาตให้เข้าประเทศได้ ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ยังต่ำ
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นที่น่าสนใจและมีผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวคนจีน เช่น การกักตัว (quarantine) โดย TCIT พบว่า คนจีนถึง 78% ที่ยอมรับมาตรการกักตัวน้อยกว่า 7 วัน ส่วนอีก 16% สามารถกักตัวได้สูงสุด 14 วันตามมาตรฐานสากล

ที่น่าสนใจอีกหนึ่งอย่างก็คือ ตามที่หน่วยงานของไทยเคยประกาศไว้ว่า นักท่องเที่ยวขาเข้า (inbound travelers) ต้องเปิดเผยแผนการท่องเที่ยวทั้งหมดตลอดที่อาศัยอยู่ในไทย ซึ่ง 85% ของคนจีนเห็นด้วย และพร้อมที่จะเปิดเผยไทมไลน์-แผนการท่องเที่ยวให้กับทางการไทยได้ทราบ
ขณะที่พฤติรรมการท่องเที่ยวของคนจีนค่อยๆ เปลี่ยนไป และชัดเจนขึ้นตั้งแต่ที่เกิดการแพร่ระบาด โดยคนจีนส่วนใหญ่เลือกที่จะท่องเที่ยวเป็น #กลุ่มเล็ก มากกว่ากลุ่มใหญ่แบบทัวร์ลงอย่างเมื่อก่อน
ที่น่าสนใจคือ จุดประสงค์ในการท่องเที่ยวของคนจีนครั้งนี้เปลี่ยนไปเล็กน้อย ถ้าเป็นเมื่อก่อนคือ ท่องเที่ยว+ช้อปปิ้ง แต่หลังจากนี้ คนจีนส่วนใหญ่ (97%) เลือกที่จะท่องเที่ยวเชิงพักผ่อนจริงๆ มากกว่าเพื่อศึกษา หรือเน้นที่การช้อปปิ้ง

สรุปได้ว่า ถึงแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะดีขึ้น มีการกระจายของวัคซีนอย่างทั่วถึง แต่จุดประสงค์ และวิธีคิดของนักท่องเที่ยวจีนได้เปลี่ยนไป ซึ่งธุรกิจจะต้องเข้าใจความต้องการของนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างจริงจัง และสร้างประสบการณ์แบบใหม่ตามดีมานด์จริง อย่างน้อยๆ ไทย ก็ยังคงอยู่ในใจของกลุ่มนักท่องเที่ยวคนจีนเสมอ ซึ่งสิ่งนี้คือข้อได้เปรียบของเรา

ตอนนี้วัคซีนคือสิ่งที่ประชาชนต้องการมากที่สุด รัฐบาลควรตั้งใจหา หรือไม่ก็ให้เอกชนนำเข้ามาได้เพื่อให้ทั่วถึงอย่างเร็วที่สุดเพื่อประเทศเดินต่อไปข้างหน้าได้ ไม่ว่าทั้งเรื่องชีวิตและเรื่องเศรษฐกิจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่