JJNY : หมอช็อก! แฉกลาง CH│พท.แนะ6ทางออกฉีดวัคซีนใหม่│ชี้ระลอก3ซ้ำเติมหนัก│ไทยแพ้เสียตลาดข้าวขาว- ข้าวนึ่งให้อินเดีย

หมอช็อก! แฉกลาง CH คนไข้มาตรวจโควิด รพ.ดัง ย่านทองหล่อ หลังพี่สาวไปบ่อน
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6375453
 
 
หมอช็อก! แฉกลาง CH คนไข้มาตรวจโควิด รพ.ดัง ย่านทองหล่อ หลังพี่สาวไปบ่อน ไขข้อข้องใจ โรงพยาบาลเอกชน ไม่รับตรวจโควิด เพราะเบิกยารักษาจากรัฐยากมาก
 
วานนี้ (2 พ.ค.) ข่าวสดออนไลน์ จัดคลับเฮาส์ประจำสัปดาห์ เป็นครั้งที่ 4 โดยใช้ชื่อหัวข้อว่า “เมื่อประชาชน ต้องช่วยกัน ฝ่าฟันวิกฤต” โดยมีแขกรับเชิญทั้งหมด 4 คน ซึ่งเป็นภาคประชาชนที่ร่วมกลุ่มกันช่วยเหลือประชาชนด้วยกันเอง ในภาวะวิกฤต ประกอบด้วย ดวงฤทธิ์ บุนนาค จาก ต้องรอด Up for Thai , ปนัดดา วงษ์ผู้ดี จาก องค์กรทำดี , ณวัฒน์ อิสรไกรศีล จากโครงการ “เป็นโควิดต้องมีที่รักษา” และ คริส โปตระนันทน์ : โครงการเส้นด้าย โดยถ่ายทอดผ่านทั้งเฟซบุ๊ก และยูทูป มีผู้สนใจรับฟังจำนวนมาก โดยช่วงท้ายมีการให้ผู้รับฟังผ่านทางคลับเฮาส์ ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นและสอบถาม
 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
 
ช่วงท้าย ผู้ที่ใช้ชื่อว่า “หมอพิม” ซึ่งเป็นแพทย์ที่ รพ.แห่งหนึ่งย่านทองหล่อ ใกล้กับพื้นคลัสเตอร์การระบาดระลอก 3 ได้บอกเล่าและเปิดเผยกับทางข่าวสด ระบุว่า โรงพยาบาลตนเอง เป็น รพ.ขนาดเล็กขนาด 80 เตียง และมีวอร์ดโควิด เพียง 10 เตียงเท่านั้น โดยเมื่อก่อนวันที่ 26 เม.ย. ประสบปัญหาเรื่องยา ฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งเป็นยารักษา โควิด 19 (ซี่งประเทศไทย ต้องนำเข้ามาจากญี่ปุ่น 2 ล้านเม็ดในล็อตล่าสุด) ซึ่งขนาดผู้ป่วยที่มีอาการ ทาง รพ.เอกชนจะไปเบิกยาจากภาครัฐมารักษา ก็เป็นเรื่องที่ยากมากๆ และผ่านหลายขั้นตอนอย่างยิ่ง และนี่เป็นข้อจำกัดว่าทำไม รพ.เอกชน ถึงมีปัญหาเรื่องการรับผู้ป่วยโควิดมารักษายัง รพ.ของตน เพราะรัฐมีมาตรการให้ตรวจที่ไหน รักษาที่นั่น ซึ่งบางครั้งทาง รพ.เอกชนไม่พร้อมจริงๆด้วยเหตุผลดังกล่าว

แพทย์รายดังกล่าว ยังกล่าวถึงกรณีวัคซีน ระบุว่า มีผลข้างเคียงเยอะมาก และประเทศไทยมีวัคซีนเพียงแค่ 2 ตัว ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะแพ้อย่างรุนแรง ถ้าคุณไม่มีแพทย์ฉุกเฉินไว้รองรับ คุณไม่ได้อย่างแน่นอน สมมติว่าวันนี้จะฉีด 100 คน ถ้ามีผลข้างเคียงอย่างหนัก 3 คน ถ้าไม่เตรียมการดีๆ ทำไม่ได้ แล้วโรงพยาบาลที่จะมีแพทย์เฉพาะในการรักษาผลข้างเคียงวัคซีนที่เกิดขึ้นตามที่เป็นข่าวมาก่อนหน้า ก็ไม่ใช่ว่าจะมีทุกโรงพยาบาล โรงพยาบาลเอกชนหลายที่ ยังคงใช้หมอจากภายนอกมาช่วยรักษาอาการดังกล่าว อย่างเช่น รพ.ตัวเอง ก็ดีลร่วมกับ รพ.รัฐ ดังนั้น วันละหลายหมื่นถึงแสน เป็นไปได้ยาก และมีผลข้างเคียง ก็ดูแลไม่ได้

แพทย์รายดังกล่าว ยังเปิดเผยอีกว่า วันนี้ตนเองช็อกมาก รพ.ตนเองเปิดให้ตรวจแล้ว และมีคนจองมาได้ แล้วมาตรวจ ปรากฎว่า ผู้มาตรวจรายนั้นแจ้งว่า พี่สาวของเขาติดโควิดวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยติดจากบ่อนการพนัน ซึ่งตนเองก็ถามกลับว่าไปบ่อนครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ จะได้ประเมินได้ว่ามีความเสี่ยงตั้งแต่วันไหน โดยคนไข้ตอบว่า ไม่รู้เลย ก็ยังคงไปบ่อนทุกวัน ซึ่งตนก็ช็อกไปใหญ่ แต่ตนเองก็ไม่ได้ใช้เวลาถามต่อเพิ่มเติม โดยแทพย์รายดังกล่าว ยังฝากเรื่องดังกล่าวให้ ส.ส.พรรครัฐบาล และฝ่ายค้าน ตามกรณีอีกด้วย
 

 
“เพื่อไทย” ชี้ระบบ "หมอพร้อม" ล่มเพราะรัฐบาลไม่พร้อม พร้อมแนะ 6 ทางออกวางระบบฉีดวัคซีนใหม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_2702400
 
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงปัญหาการลงทะเบียนรับวัคซีนผ่านระบบ “หมอพร้อม” เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ว่า 
   
ถือเป็นอีกครั้งที่รัฐแสดงให้เห็นถึงการบริหารจัดการที่ไม่มีความพร้อมเหมือนชื่อของระบบที่ตั้งไว้ เนื่องจากระบบไม่สามารถรองรับการใช้งานพร้อมกันจำนวนมากได้ ซึ่งเป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกในหลายโครงการของรัฐ สร้างความเบื่อหน่ายและเพิ่มภาระให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก ยิ่งในขณะนี้ที่ประชาชนผู้สูงอายุในหลายพื้นที่ มีปัญหาเรื่องความเชื่อมั่นในการรับวัคซีนอยู่แล้ว การจัดการยิ่งต้องแม่นยำและสร้างความมั่นใจ จึงอยากเสนอแนะรัฐบาลให้ปรับแผนการฉีดวัคซีนใหม่ ดังนี้ 
 
1. ประกาศให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อดึงทุกภาคส่วนมาร่วมกันประชาสัมพันธ์ 
2. เปิดลงทะเบียนเป็นการทั่วไปสำหรับคนทุกกลุ่ม 
3. นำข้อมูลทั้งหมดมาแยกกลุ่มที่ต้องฉีดก่อนหลัง ตามลำดับความสำคัญที่ได้วางแผนไว้ หากยังไม่ถึงคิวให้ขึ้นสถานะเป็น “รอนัดหมาย” ไว้ 
4. วางแผนการกระจายวัคซีน เตรียมสรรพกำลังให้พร้อม ทั้งสถานที่และบุคลากรในการฉีด 
5. ติดตามผลหลังการฉีดจากระบบที่ลงทะเบียนไว้ 
และ 6.เรียกกลุ่มถัดไป มาฉีดตามลำดับ โดยส่งแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ต้องการฉีดในระบบได้เลย
 
นายชนินทร์ กล่าวอีกว่า ยังเรียกร้องให้รัฐบาลนำฐานข้อมูลประชาชนที่มีอายุมากกว่า 60 ปี หรือผู้มีโรคประจำตัว 7 โรคเสี่ยง ซึ่งมีอยู่ในระบบอยู่แล้ว นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ด้วยการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ไม่ต้องรอให้ประชาชนลงทะเบียนข้อมูลเดิมบ่อยครั้งเหมือนอยู่ในประเทศที่ไม่รู้จักคำว่าเทคโนโลยี หากยังคิดจัดการแบบราชการในอดีต ยืนอยู่ตรงข้ามกับความเป็นมืออาชีพ จะมีกลุ่มเสี่ยงที่ตกหล่นจากการลงทะเบียนอีกจำนวนมาก และอาจไม่สามารถคลี่คลายสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ได้โดยเร็ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่