“โจ้ ยุทธพงศ์” จี้รัฐเร่งแก้ปัญหาโควิด-19 หาวัคซีนมาฉีดให้คนไทย
https://www.matichon.co.th/politics/news_2677673
“โจ้ ยุทธพงศ์” จี้รัฐเร่งแก้ปัญหาโควิด-19 หาวัคซีนมาฉีดให้คนไทย หากไม่แก้พร้อมอภิรายในสภา ลั่นชวนปชช.จับตาดูการพิจารณางบ 65 ครม. จะซื้อเรือดำน้ำอีกหรือไม่
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 เมษายน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นาย
ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคพท. แถลงข่าวถึงกรณีการระบาดของสถานการณ์โควิด-19 ระลอก 3 ภายหลังเทศกาลสงการณ์ที่มีการระบาดเพิ่มมากขึ้น ว่า ยอดคนติดเชื้อตั้งแต่วันที่ 14-18 คน รวม 5 วัน พบยอดผู้ติดเชื้อประมาณ 8,000 คน ซึ่งวันนี้การที่มียอดคนติดเชื้อเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่าการที่รัฐบาลไม่ได้ควบคุมตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ หลังจากเทศกาลสงกรานต์ได้มียอดคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ขณะเดียวกันก็มีการระบาดไปทั่วประเทศ โดยสาเหตุการระบาดหนักระลอกที่ 3 มาจากคลัสเตอร์ซอยทองหล่อ มาจากคริสตัลผับซอยทองหล่อ 25 และดิเอมเมอรัล ซอยทองหล่อ 13 จากการระบาดรอบนี้สาหัส หากวันนี้มีคนติดโควิดหรือหากใครมีอาการหนักต้องเข้าไอซียู ไม่มีโรงพยาบาลไหนรับรักษาได้เพราะเต็มจนล้น และต้องไปอยู่ที่โรงพยาบาลสนามอย่างเดียวตามที่ปรากฎตามสื่อ
นาย
ยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า เคยมีการพระราชฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อขอให้มีการตั้งสถานบริการในท้องที่กรุงเทพมหานคร ปี 2545 และได้มีการกำหนดโซนนิ่งสถานบริการที่จะตั้งในกรุงเทพฯ มีอยู่ทั้งหมด 3 แห่ง ได้แก่ย่านพัฒนพงษ์ อาร์ซีเอย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่และถนนรัชดาภิเษก ซึ่งหากจะเปิดสถานบริการต้องเปิดอยู่ในบริเวณโซนนิ่ง และซอยทองหล่ออยู่นอกโซนนิ่ง จากการตรวจสอบพบว่าคริสตัลผับและดิเอมเมอรัลผับไ่มีใบอนุญาตจากการประกอบกิจการ ซึ่งเรื่องนี้มีความความผิดปกติ ซึ่งเปิดมาหลายปีแล้วแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ทำไมถึงมีการปล่อยปะละเลยให้มีการเปิด ทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่พื้นที่ที่จะให้มีการเปิดพื้นที่เหล่านี้ได้ และยังมีการเปิดในช่วงที่ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ประกาศพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ฉุกเฉิน แต่ยังมีการปล่อยให้เปิดจนถึงเช้าและเปิดเกินเวลา
นาย
ยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า หากเปรียบกับการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบ 2 ที่ผ่านมา กรณีบ่อนระยอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพล.ต.ท.วีระ จิรวีระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) ย้ายให้ไปปฎิบัติหน้าที่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยขาดจากตำแหน่งเดิม ต่อมาได้มีการย้ายพล.ต.ต.ประพัทธ์ เขตพันธ์ กรณีที่มีการปล่อยปะละเลยเล่นการพนัน ผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นสาเหตุของการระบาดโควิด-19 ระลอก 2 ทั้งนี้การระบาดโควิด-19 ระลอก 3 เสียหายกว่ามากและเกิดขึ้นใจกลางกรุงเทพมหานคร แต่การลงโทษมีเพียงพล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ให้
พ.ต.อ.
ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผู้กำกับสน.ทองหล่อเด้งไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 โดยไม่ขาดจากตำแหน่งเดิม และไม่มีการตั้งกรรมการเดิม
“
จึงมีคำถามว่าทำไมผบ.ตร.ถึงเกรงใจทั้งที่มาตรฐานเดิม การระบาดของโควิด-19 ระลอกนี้สาหัส กระทบกับเศรษฐกิจ กระทบกับประชาชน เดือดร้อนทั้งประเทศแแต่การลงโทษเหมือนไม่กล้าลงโทษ ขณะเดียวกันหากผมเปรียบเทียบ หากใช้มาตรฐานเดียวกันกับบ่อนระยองก็ต้องเด้งผู้บัญชาการตำรวจนครบาลหรือน.1 แต่กับย้ายแค่ผู้กำกับสน.ทองหล่อไปช่วยราชการและไม่ได้ขาดจากตำแหน่งเดิม แต่กรณีบ่อนระยองถูกตั้งกรรรมการสอบวินัยร้ายแรง เพราะปล่อยปะละเลยให้มีบ่อนการพนันและเป็นสาเหตุของโควิด-19” นาย
ยุทธพงศ์ กล่าว
นาย
ยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า จึงมีข้อเรียกร้องไปถึงพล.อ.
ประยุทธ์ ที่ดูแลตำรวจโดยตรงว่าจะรับผิดชอบอย่างไรกับบ่อนระยองกับคริสตัลผับทองหล่อ และเรียกร้องไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.
สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ให้แต่งตั้งพล.ต.อ.
สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้มาเป็นประธานสอบสวนเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะได้ไม่ต้องไว้หน้าใคร และอยากเสนอแนวทาง 1. เรื่องวัคซีน ในขณะนี้ประเทศไทยเพิ่งฉีดวัคซีนไปทั้งหมด 523,000 โดส แต่ที่ฉีดครบ 2 โดส เพียงแค่ 81,429 คน และต้องไปดูสถิติว่าในโลกนี้ประเทศไทยอยู่ลำดับที่ 127 ของโลกในการฉีดวัคซีน มีประชากร 70 ล้านคน แต่ได้รับวัคซีนไปร้อยละ 0.73
นาย
ยุทธพงศ์ กล่าวด้วยว่า หากในประเทศอาเซียนประเทศสิงคโปรอยู่อันดับหนึ่ง ได้วัคซีน 19.39% อยู่อันดับที่ 33 ของโลก กัมพูชาได้อันดับที่ 75 ของโลก ได้รับวัคซีนไปแล้ว 7.32 % เมียนมาร์อยู่ที่ 106 แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์จัดการวัคซีนได้ล่าช้าและต้องรีบนำวัคซีนเข้ามาฉีดให้ประชาชนคนไทยโดยด่วน อย่างอิสลาเอลที่ได้วัคซีนเป็นประเทศที่ 5 ในขณะนี้ประกาศแล้วว่าตั้งแต่วันนี้ไปไม่ต้องใส่หน้ากากออกจากบ้านแล้ว และกระทรวงสาธารณสุขประกาศได้แจ้งว่าเราจะได้วัคซีนเดือนมิถุนายนเข้ามา 6 ล้านโดสและกรกฎาคมอีก 10 ล้านโดส ซึ่งอีกหนึ่งเดือนครึ่งอยากจะให้รัฐบาลเร่งนำวัคซีนเข้ามาแก้ปัญหา ขณะนี้ประชาชนก็พยายามที่จะปกป้องตัวเองแล้ว แต่หากมีคนติดไม่มีโรงบาลไหนที่รับรักษา และยาที่ใช้รักษาคนที่ป่วยเป็นโควิด-19 ที่ชื่อว่าฟาวิคพิราเวีย ซึ่งไทยมีอยู่ในสต็อกทั้งหมด 4 แสนเม็ด ซึ่งคนเป็นโควิดจะรับประทานครั้งละ 9 เม็ด สถานการณ์ตอนนี้ใช้ยาตัวนี้วันละ 2 หมื่นเม็ด รัฐบาลจึงต้องรีบนำเข้ายาตัวนี้ไม่เช่นนั้นจะขาดแคลน แสดงให้เห็นว่าเป็นความล้มเหลวของศบค. ในการบริหารจัดการเรื่องยา
นาย
ยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการสั่งปิดไม่ให้ขายอาหารเกินเวลาที่กำหนดในพื้นที่สีแดง และสีส้ม จะทำให้คนตกงานมากขึ้น จึงอยากเรียกร้องเรื่องเงินช่วยเหลือประชาชน ให้รัฐบาลเร่งเยียวยาประชาชน เพราะปากท้องคนรอไม่ได้ รัฐบาลจะช่วยอย่างไรต้องรีบดำเนินการ ซึ่งการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 64 ฝ่ายค้านจะใช้เวทีในการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 65 วาระ 1 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาวันที่ 27-28 พฤษภาคม นี้ อภิปรายถึงความล้มเหลวการแก้ปัญหาโควิด เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และสาธารณสุข พร้อมกับอยากวัดใจรัฐบาลว่าการพิจารณางบประมาณปี 65 ที่จะเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 10 พฤษภาคมนี้ ท่านจะซื้อเรือดำน้ำจีน 2 ลำ มูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาทอีกหรือไม่ ตนอยากเรียกร้องให้ประชาชนจับตาดู รัฐบาลอย่ามาพูดว่าไม่มีเงินถ้าจะซื้อเรือดำน้ำก็ขอเรียกร้องประชาชนออกมาไล่รัฐบาลเยอะๆ
ปธ.สอท.จี้รบ.จัดฉีดวัคซีนครอบคลุม 70% เร่งมาตรการเยียวยาต่อเนื่อง
https://www.matichon.co.th/economy/news_2677575
นาย
สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 เมษายนนี้ ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลมีกำหนดการประชุม เพื่อหารือในส่วนของมาตรการรับมือผลกระทบในการระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ขณะนี้เอกชนยังขอประเมินสถานการณ์การระบาดไวรัสก่อน ว่าจะรุนแรงแค่ไหน หลังจากนั้นจะพิจารณาข้อเสนอถึงรัฐบาลอีกครั้ง มองว่าสิ่งที่รัฐบาลควรเร่งดำเนินการมากที่สุดคือ การนำเข้าวัคซีนต้านไวรัส และการจัดทำแผนฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในประเทศ ต้องกำหนดระยะเวลา พื้นที่ และกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน รวมถึงเตรียมพร้อมในส่วนของอุปกรณ์ บุคลากร และโรงพยาบาลในการระดมฉีดวัคซีนด้วย
ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากเกิดการระบาดรอบใหม่นี้ รัฐบาลควรเร่งต่ออายุมาตรการเยียวยาประชาชนที่กำลังไปหมดลง อาทิ คนละครึ่ง เราชนะ ม.33 เรารักกัน เพราะมีความจำเป็นที่จะต้องลดภาระให้กับประชาชนต่อ
“
สิ่งสำคัญที่สุดในการแก้ปัญหาระยะยาว คือ รัฐบาลต้องเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด และให้จัดหาวัคซีนให้เพียงพอต่อจำนวนประชากรในประเทศ เร่งฉีดให้ได้ภายในไตรมาส 2 (เมษายน-มิถุนายน) และภายในไตรมาส 3 (กรกฎาคม-กันยายน2564) ต้องครอบคลุมประชากรคนไทยทั้งประเทศไม่น้อยกว่า 70% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน สร้างความเชื่อมั่น และรองรับการเปิดประเทศ เนื่องจากขณะนี้หลายประเทศที่เร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนไปแล้ว ได้เริ่มเฉลิมฉลองการเปิดประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศกันแล้ว ทำให้หากยิ่งฉีดวัคซีนได้เร็ว ก็ยิ่งเปิดประเทศได้เร็ว เศรษฐกิจก็จะฟื้นกลับมาได้เร็วตาม” นาย
สุพันธุ์ กล่าว
นาย
สุพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการคุมการระบาดโควิดที่รัฐประกาศออกมา และยืนยันว่าจะไม่มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์และเคอร์ฟิวนั้น ถือว่าเป็นผลดี ไม่สร้างความผิดหวังให้กับภาคเอกชน การแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้นในระลอกที่ 3 ถือว่าสถานการณ์ในตอนนี้ เป็นการเคอร์ฟิวไปในตัวอยู่แล้ว เนื่องจากประชาชนมีความกังวลและตื่นกลัวมากกว่าครั้งที่ผ่านมา ส่งผลให้อยู่บ้านมากขึ้น ป้องกันตัวเองมากขึ้น อีกทั้งเมื่อสถานบันเทิงปิด ห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารปิดเร็วขึ้น ประชาชนก็ไม่รู้จะออกไปที่ใดในช่วงเวลากลางคืน อยากให้รัฐบาลประเมินในเชิงลึกทุกๆ 3 วัน หากสถานการณ์ยังรุนแรงต่อไป อยากให้พิจารณามาตรการออกมาเพิ่มเติมอีก แบบไม่ต้องรอถึง 14 วัน
นาย
สุพันธุ์ กล่าวว่า การที่รัฐบาลประกาศพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือพื้นที่สีแดง 18 จังหวัด อาทิ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี นครปฐม ปทุมธานี ระยอง สมุทรปราการ และสมุทรสาคร ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจหลัก รวมถึงเป็นพื้นที่ในภาคการผลิตหลักๆ ด้วยนั้น ประเมินว่าผลกระทบจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้จากการชะลอตัวลงของการบริโภค อุปโภค และการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ปรับลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากคนกังวลติดเชื้อโควิด ก็พยายามอยู่บ้านให้ได้มากที่สุด
“
ตอนนี้ต้องดูว่าตามที่รัฐบาลประกาศให้ประชาชนทั่วไปจองฉีดวัคซีนในวันที่ 1 พฤษภาคมนั้น จะชัดเจนอย่างไร รวมทั้งประกาศนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็น 8 ชนิด อยากให้แจ้งให้ชัดว่า จะนำเข้ามาเพิ่มได้ภายในช่วงไหน ปริมาณเท่าไร แล้วเริ่มฉีดเมื่อไร เพราะปริมาณที่มีอยู่ในขณะนี้ เกรงว่า จะไม่เพียงพอต่อการฉีดให้ประชาชน” นาย
สุพันธุ์ กล่าว
JJNY : “โจ้”จี้รัฐหาวัคซีน│ปธ.สอท.จี้ฉีดวัคซีน เร่งเยียวยา│ญี่ปุ่นเจรจาไฟเซอร์ ขอซื้อเพิ่ม│สิริพงศ์ทวงถามหนี้สายสีเขียว
https://www.matichon.co.th/politics/news_2677673
“โจ้ ยุทธพงศ์” จี้รัฐเร่งแก้ปัญหาโควิด-19 หาวัคซีนมาฉีดให้คนไทย หากไม่แก้พร้อมอภิรายในสภา ลั่นชวนปชช.จับตาดูการพิจารณางบ 65 ครม. จะซื้อเรือดำน้ำอีกหรือไม่
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 เมษายน ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคพท. แถลงข่าวถึงกรณีการระบาดของสถานการณ์โควิด-19 ระลอก 3 ภายหลังเทศกาลสงการณ์ที่มีการระบาดเพิ่มมากขึ้น ว่า ยอดคนติดเชื้อตั้งแต่วันที่ 14-18 คน รวม 5 วัน พบยอดผู้ติดเชื้อประมาณ 8,000 คน ซึ่งวันนี้การที่มียอดคนติดเชื้อเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่าการที่รัฐบาลไม่ได้ควบคุมตั้งแต่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ หลังจากเทศกาลสงกรานต์ได้มียอดคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ ขณะเดียวกันก็มีการระบาดไปทั่วประเทศ โดยสาเหตุการระบาดหนักระลอกที่ 3 มาจากคลัสเตอร์ซอยทองหล่อ มาจากคริสตัลผับซอยทองหล่อ 25 และดิเอมเมอรัล ซอยทองหล่อ 13 จากการระบาดรอบนี้สาหัส หากวันนี้มีคนติดโควิดหรือหากใครมีอาการหนักต้องเข้าไอซียู ไม่มีโรงพยาบาลไหนรับรักษาได้เพราะเต็มจนล้น และต้องไปอยู่ที่โรงพยาบาลสนามอย่างเดียวตามที่ปรากฎตามสื่อ
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า เคยมีการพระราชฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อขอให้มีการตั้งสถานบริการในท้องที่กรุงเทพมหานคร ปี 2545 และได้มีการกำหนดโซนนิ่งสถานบริการที่จะตั้งในกรุงเทพฯ มีอยู่ทั้งหมด 3 แห่ง ได้แก่ย่านพัฒนพงษ์ อาร์ซีเอย่านถนนเพชรบุรีตัดใหม่และถนนรัชดาภิเษก ซึ่งหากจะเปิดสถานบริการต้องเปิดอยู่ในบริเวณโซนนิ่ง และซอยทองหล่ออยู่นอกโซนนิ่ง จากการตรวจสอบพบว่าคริสตัลผับและดิเอมเมอรัลผับไ่มีใบอนุญาตจากการประกอบกิจการ ซึ่งเรื่องนี้มีความความผิดปกติ ซึ่งเปิดมาหลายปีแล้วแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ทำไมถึงมีการปล่อยปะละเลยให้มีการเปิด ทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่พื้นที่ที่จะให้มีการเปิดพื้นที่เหล่านี้ได้ และยังมีการเปิดในช่วงที่ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ประกาศพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ฉุกเฉิน แต่ยังมีการปล่อยให้เปิดจนถึงเช้าและเปิดเกินเวลา
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า หากเปรียบกับการแพร่ระบาดโควิด-19 รอบ 2 ที่ผ่านมา กรณีบ่อนระยอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพล.ต.ท.วีระ จิรวีระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) ย้ายให้ไปปฎิบัติหน้าที่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยขาดจากตำแหน่งเดิม ต่อมาได้มีการย้ายพล.ต.ต.ประพัทธ์ เขตพันธ์ กรณีที่มีการปล่อยปะละเลยเล่นการพนัน ผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นสาเหตุของการระบาดโควิด-19 ระลอก 2 ทั้งนี้การระบาดโควิด-19 ระลอก 3 เสียหายกว่ามากและเกิดขึ้นใจกลางกรุงเทพมหานคร แต่การลงโทษมีเพียงพล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ให้
พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผู้กำกับสน.ทองหล่อเด้งไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 โดยไม่ขาดจากตำแหน่งเดิม และไม่มีการตั้งกรรมการเดิม
“จึงมีคำถามว่าทำไมผบ.ตร.ถึงเกรงใจทั้งที่มาตรฐานเดิม การระบาดของโควิด-19 ระลอกนี้สาหัส กระทบกับเศรษฐกิจ กระทบกับประชาชน เดือดร้อนทั้งประเทศแแต่การลงโทษเหมือนไม่กล้าลงโทษ ขณะเดียวกันหากผมเปรียบเทียบ หากใช้มาตรฐานเดียวกันกับบ่อนระยองก็ต้องเด้งผู้บัญชาการตำรวจนครบาลหรือน.1 แต่กับย้ายแค่ผู้กำกับสน.ทองหล่อไปช่วยราชการและไม่ได้ขาดจากตำแหน่งเดิม แต่กรณีบ่อนระยองถูกตั้งกรรรมการสอบวินัยร้ายแรง เพราะปล่อยปะละเลยให้มีบ่อนการพนันและเป็นสาเหตุของโควิด-19” นายยุทธพงศ์ กล่าว
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า จึงมีข้อเรียกร้องไปถึงพล.อ.ประยุทธ์ ที่ดูแลตำรวจโดยตรงว่าจะรับผิดชอบอย่างไรกับบ่อนระยองกับคริสตัลผับทองหล่อ และเรียกร้องไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ให้แต่งตั้งพล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลให้มาเป็นประธานสอบสวนเอาผิดเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะได้ไม่ต้องไว้หน้าใคร และอยากเสนอแนวทาง 1. เรื่องวัคซีน ในขณะนี้ประเทศไทยเพิ่งฉีดวัคซีนไปทั้งหมด 523,000 โดส แต่ที่ฉีดครบ 2 โดส เพียงแค่ 81,429 คน และต้องไปดูสถิติว่าในโลกนี้ประเทศไทยอยู่ลำดับที่ 127 ของโลกในการฉีดวัคซีน มีประชากร 70 ล้านคน แต่ได้รับวัคซีนไปร้อยละ 0.73
นายยุทธพงศ์ กล่าวด้วยว่า หากในประเทศอาเซียนประเทศสิงคโปรอยู่อันดับหนึ่ง ได้วัคซีน 19.39% อยู่อันดับที่ 33 ของโลก กัมพูชาได้อันดับที่ 75 ของโลก ได้รับวัคซีนไปแล้ว 7.32 % เมียนมาร์อยู่ที่ 106 แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์จัดการวัคซีนได้ล่าช้าและต้องรีบนำวัคซีนเข้ามาฉีดให้ประชาชนคนไทยโดยด่วน อย่างอิสลาเอลที่ได้วัคซีนเป็นประเทศที่ 5 ในขณะนี้ประกาศแล้วว่าตั้งแต่วันนี้ไปไม่ต้องใส่หน้ากากออกจากบ้านแล้ว และกระทรวงสาธารณสุขประกาศได้แจ้งว่าเราจะได้วัคซีนเดือนมิถุนายนเข้ามา 6 ล้านโดสและกรกฎาคมอีก 10 ล้านโดส ซึ่งอีกหนึ่งเดือนครึ่งอยากจะให้รัฐบาลเร่งนำวัคซีนเข้ามาแก้ปัญหา ขณะนี้ประชาชนก็พยายามที่จะปกป้องตัวเองแล้ว แต่หากมีคนติดไม่มีโรงบาลไหนที่รับรักษา และยาที่ใช้รักษาคนที่ป่วยเป็นโควิด-19 ที่ชื่อว่าฟาวิคพิราเวีย ซึ่งไทยมีอยู่ในสต็อกทั้งหมด 4 แสนเม็ด ซึ่งคนเป็นโควิดจะรับประทานครั้งละ 9 เม็ด สถานการณ์ตอนนี้ใช้ยาตัวนี้วันละ 2 หมื่นเม็ด รัฐบาลจึงต้องรีบนำเข้ายาตัวนี้ไม่เช่นนั้นจะขาดแคลน แสดงให้เห็นว่าเป็นความล้มเหลวของศบค. ในการบริหารจัดการเรื่องยา
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการสั่งปิดไม่ให้ขายอาหารเกินเวลาที่กำหนดในพื้นที่สีแดง และสีส้ม จะทำให้คนตกงานมากขึ้น จึงอยากเรียกร้องเรื่องเงินช่วยเหลือประชาชน ให้รัฐบาลเร่งเยียวยาประชาชน เพราะปากท้องคนรอไม่ได้ รัฐบาลจะช่วยอย่างไรต้องรีบดำเนินการ ซึ่งการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 64 ฝ่ายค้านจะใช้เวทีในการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 65 วาระ 1 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาวันที่ 27-28 พฤษภาคม นี้ อภิปรายถึงความล้มเหลวการแก้ปัญหาโควิด เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และสาธารณสุข พร้อมกับอยากวัดใจรัฐบาลว่าการพิจารณางบประมาณปี 65 ที่จะเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 10 พฤษภาคมนี้ ท่านจะซื้อเรือดำน้ำจีน 2 ลำ มูลค่า 2.5 หมื่นล้านบาทอีกหรือไม่ ตนอยากเรียกร้องให้ประชาชนจับตาดู รัฐบาลอย่ามาพูดว่าไม่มีเงินถ้าจะซื้อเรือดำน้ำก็ขอเรียกร้องประชาชนออกมาไล่รัฐบาลเยอะๆ
ปธ.สอท.จี้รบ.จัดฉีดวัคซีนครอบคลุม 70% เร่งมาตรการเยียวยาต่อเนื่อง
https://www.matichon.co.th/economy/news_2677575
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 เมษายนนี้ ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลมีกำหนดการประชุม เพื่อหารือในส่วนของมาตรการรับมือผลกระทบในการระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ขณะนี้เอกชนยังขอประเมินสถานการณ์การระบาดไวรัสก่อน ว่าจะรุนแรงแค่ไหน หลังจากนั้นจะพิจารณาข้อเสนอถึงรัฐบาลอีกครั้ง มองว่าสิ่งที่รัฐบาลควรเร่งดำเนินการมากที่สุดคือ การนำเข้าวัคซีนต้านไวรัส และการจัดทำแผนฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในประเทศ ต้องกำหนดระยะเวลา พื้นที่ และกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน รวมถึงเตรียมพร้อมในส่วนของอุปกรณ์ บุคลากร และโรงพยาบาลในการระดมฉีดวัคซีนด้วย
ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากเกิดการระบาดรอบใหม่นี้ รัฐบาลควรเร่งต่ออายุมาตรการเยียวยาประชาชนที่กำลังไปหมดลง อาทิ คนละครึ่ง เราชนะ ม.33 เรารักกัน เพราะมีความจำเป็นที่จะต้องลดภาระให้กับประชาชนต่อ
“สิ่งสำคัญที่สุดในการแก้ปัญหาระยะยาว คือ รัฐบาลต้องเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด และให้จัดหาวัคซีนให้เพียงพอต่อจำนวนประชากรในประเทศ เร่งฉีดให้ได้ภายในไตรมาส 2 (เมษายน-มิถุนายน) และภายในไตรมาส 3 (กรกฎาคม-กันยายน2564) ต้องครอบคลุมประชากรคนไทยทั้งประเทศไม่น้อยกว่า 70% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน สร้างความเชื่อมั่น และรองรับการเปิดประเทศ เนื่องจากขณะนี้หลายประเทศที่เร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนไปแล้ว ได้เริ่มเฉลิมฉลองการเปิดประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศกันแล้ว ทำให้หากยิ่งฉีดวัคซีนได้เร็ว ก็ยิ่งเปิดประเทศได้เร็ว เศรษฐกิจก็จะฟื้นกลับมาได้เร็วตาม” นายสุพันธุ์ กล่าว
นายสุพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการคุมการระบาดโควิดที่รัฐประกาศออกมา และยืนยันว่าจะไม่มีการใช้มาตรการล็อกดาวน์และเคอร์ฟิวนั้น ถือว่าเป็นผลดี ไม่สร้างความผิดหวังให้กับภาคเอกชน การแพร่ระบาดที่รุนแรงขึ้นในระลอกที่ 3 ถือว่าสถานการณ์ในตอนนี้ เป็นการเคอร์ฟิวไปในตัวอยู่แล้ว เนื่องจากประชาชนมีความกังวลและตื่นกลัวมากกว่าครั้งที่ผ่านมา ส่งผลให้อยู่บ้านมากขึ้น ป้องกันตัวเองมากขึ้น อีกทั้งเมื่อสถานบันเทิงปิด ห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารปิดเร็วขึ้น ประชาชนก็ไม่รู้จะออกไปที่ใดในช่วงเวลากลางคืน อยากให้รัฐบาลประเมินในเชิงลึกทุกๆ 3 วัน หากสถานการณ์ยังรุนแรงต่อไป อยากให้พิจารณามาตรการออกมาเพิ่มเติมอีก แบบไม่ต้องรอถึง 14 วัน
นายสุพันธุ์ กล่าวว่า การที่รัฐบาลประกาศพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือพื้นที่สีแดง 18 จังหวัด อาทิ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี นครปฐม ปทุมธานี ระยอง สมุทรปราการ และสมุทรสาคร ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจหลัก รวมถึงเป็นพื้นที่ในภาคการผลิตหลักๆ ด้วยนั้น ประเมินว่าผลกระทบจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนได้จากการชะลอตัวลงของการบริโภค อุปโภค และการใช้จ่ายของประชาชนในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ปรับลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากคนกังวลติดเชื้อโควิด ก็พยายามอยู่บ้านให้ได้มากที่สุด
“ตอนนี้ต้องดูว่าตามที่รัฐบาลประกาศให้ประชาชนทั่วไปจองฉีดวัคซีนในวันที่ 1 พฤษภาคมนั้น จะชัดเจนอย่างไร รวมทั้งประกาศนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็น 8 ชนิด อยากให้แจ้งให้ชัดว่า จะนำเข้ามาเพิ่มได้ภายในช่วงไหน ปริมาณเท่าไร แล้วเริ่มฉีดเมื่อไร เพราะปริมาณที่มีอยู่ในขณะนี้ เกรงว่า จะไม่เพียงพอต่อการฉีดให้ประชาชน” นายสุพันธุ์ กล่าว