แมวปิฬาร์กับหนูแจ๋ว
แมวปิฬาร์หายหน้าไปหลายปี ต้องนำมาออกหน้าเวทีบ้าง ตามประสาคนรักแมว
......
“นังปิฬาร์ แกตาย!”
เสียงหนูแจ๋วร้องลั่นบ้าน เครียดตั้งแต่เช้า ซึ่งดูเป็นเรื่องผิดปกติมาก เพราะตามหลักสากล แจ๋วคนรับใช้ประจำบ้านของคุณนายใจดี ต้องเรียกแมวของคุณนายใจดีว่า คุณปิฬาร์ ไม่ใช่ นังปิฬาร์
มีบางอย่างผิดปกติ ใช่แล้ว ...เป็นแบบนั้น เพราะคุณผู้ชาย และคุณนายใจดี พากันเที่ยวทะเลตั้งแต่บ่ายวาน และจะกลับเย็นนี้ ทำให้บ้านหลังใหญ่ ตกอยู่ในเงื้อมมือของคน ซึ่งก็คือหนูแจ๋ว สาวรับใช้จากแผ่นดินที่ราบสูง และแมวประจำบ้าน แมวปิฬาร์ ตัวขาวน่ารักนั่นเอง
แมวปิฬาร์ มองหนูแจ๋วอย่างไม่เข้าใจ ว่าทำไมต้องออกอาการตั้งแต่เช้า ทั้งที่ปิฬาร์ ยังไม่ได้ทำอะไรให้เดือดร้อนเลยสักนิด ก็แค่วิ่งชนแก้วบนโต๊ะหล่นลงมาแตก สามใบ ลากผ้าขี้ริ้วที่หนูแจ๋วไปทั่วบ้าน ตะกายชั้นวางของ จนข้าวของหล่น กระจัดกระจายทั่วบ้านเท่านั้น
แล้วหนูแจ๋วจะมาโวยวายอะไร มันก็หน้าที่ใครหน้าที่มัน หน้าที่ทำข้าวของพัง มันหน้าที่ของแมวอยู่แล้ว หนูแจ๋วไม่ต้องมาช่วย โน้น...เศษแก้วเศษขยะ หนูแจ๋วไปเก็บเลย ให้มันรู้บ้าง ว่าใครเป็นคน ใครเป็นแมว
หนูแจ๋วควงไม้กวาด แต่ไม่มีวันเสียละ นี่แมวนะไม่ใช่คน ปิฬาร์วิ่งพรวดเดียว เข้าไปซ่อนอยู่ใต้มุมใต้บันได เพราะรู้ว่าปลอดภัยที่สุด มีข้าวของมากมาย ถูกทิ้งลืมในแดนสนธยา ใต้บันได หนูแจ๋วไม่กล้ามุดตามมาแน่ และก็เป็นอย่างนั้นจริง เสียงหนูแจ๋วบ่น ๆ ๆ และบ่น อย่างดุเดือด และก็ห่างหายไป คนอะไร มาบ่นแมว ใช้ไม่ได้
เมื่อโลกกลับสู่สันติสุข แมวตัวขาวก็ค่อย ๆ โผล่มาออกมาอย่างระมัดระวัง ปลอดภัย ไม่มีหมาหรือคน
เสียงเพลงดังมาจากห้องครัว จากวิทยุทรานซิสเตอร์ของหนูแจ๋ว อย่างไม่ต้องสงสัย ความสุขอย่างหนึ่งของเด็กสาวรับใช้ คือการฟังเพลงหมอลำนี่เอง ฟังแล้วมีความสุขที่สุด
คุณนายใจดี เคยคุยกับคุณผู้ชาย ทำให้รู้ว่า หนูแจ๋ว เป็นเด็กอีสาน จังหวัดกาฬสินธ์ุ เรียนจบ ปอ 4 (ฟังมาถึงตอนนี้ แมวปิฬาร์เหยียดหยามมาก ถึงมากที่สุด คนอะไร เรียนจบ ปอ 4) ฐานะทางบ้านยากจน เลยต้องเอาลูกมาฝากทำงาน เพื่อเก็บเงินสร้างตัว ที่บ้านคุณนายใจดี ซึ่งใจดีสมชื่อ ปิฬาร์รักคุณนายใจดีมากที่สุด รักเหมือนมารดาแมว เพราะปิฬาร์ไม่เคยได้รับความรักความอบอุ่นจากมารดาแมวเลย ความรักที่ให้คุณนายใจดีไม่สูญเปล่า ทั้งคุณนายใจดี และคุณผู้ชายรักปิฬาร์ทั้งนั้น
โถ...ทำไมจะไม่รักละ ก็ปิฬาร์น่ารักขนาดนี้ ขนสีขาวสวยงาม สะอาดสะอ้านตาอย่างที่สุด อ้อนเก่ง ตัวนิ่ม ขนฟู เสียงร้องเมี๊ยว ๆ ฟังแล้ว ใคร ๆ ก็ อยากกอดอยากฟัดอยากกัด (อันหลังไม่ค่อยชอบนะ) ปิฬาร์คือขวัญใจของคนในบ้าน กินดีอยู่ดี นอนดี ทุกอย่างดี
หนูแจ๋วก็รู้บทบาทและหน้าที่ของตัวเองดี นี่มันแมวคุณนาย เราเป็นเด็กรับใช้ ต้องเรียกแมวประจำบ้านว่า ‘คุณปิฬาร์’ เสมอ ฟังทีไร รู้สึกว่า ตัวยืด ยาว ออกไปอีกตั้งเยอะ ทำให้ต้องเดินเชิดหน้ารอบบ้านหลายรอบ นี่คุณปิฬาร์นะ
ค่อย ๆ เดินออกมาจากใต้บันไดอย่างระมัดระวัง ไม่ใช่กลัวใคร แต่จินตนาการไปเองว่า กำลังอยู่ในป่าดงดิบ เต็มไปด้วยอันตราย แมวก็จินตนาการเป็นเหมือนกัน ไปดูสิว่า หนูแจ๋ว ทำอะไรอยู่
นั่นไง ...อย่างที่คิด หนูแจ๋วกำลังทำอาหาร เปิดเพลงหมอลำซิ่งไปด้วย เด้อนางเดอ เด้อ ๆ นางเดอ...ถึงเป็นแมวก็รู้ว่าเป็นหมอลำซิ่ง เพราะหนูแจ๋วเปิดฟังทุกวัน แถมออกลีลาเต้นอย่างมัน ไปตามเพลงอีกต่างหาก
ตอนนี้ก็เหมือนกัน หนูแจ๋วง่วนกับกระทะ คงทำอาหารเช้า คงทำให้ตัวเองนั่นละ เพราะไม่มีใครอยู่บ้าน แหม... เห็นแล้วหมั่นใส้มาก หาเรื่องแกล้งดีกว่า ว่าแล้วปิฬาร์ก็วิ่งไปแกล้งชนวิทยุหมอลำซิ่งทันที
เพล้ง!
“ว้าย...”
วิทยุหล่นจากโต๊ะทำครัว ลงมานอนแอ้งแม้งบนพื้น พร้อมกับเสียงร้องอย่างตกใจของหนูแจ๋ว เสียงหมอลำขาดหาย เท่านั้นยังไม่พอ มีของแถมด้วยการที่แมวสีขาว วิ่งไปพันกับสายไฟของพัดลม ล้มโครมลงอีกต่างหาก
“แกอีกแล้วเหรอ อี่ปิฬาร์ หนอย” หนูแจ๋วร้องด่า หันไปหยิบไม้กวาด แต่ช้าเกินไป ปิฬาร์เผ่นขึ้นไปบนชั้นทำอาหาร วิ่งชนขวดเครื่องปรุง ชนอะไรต่อมิอะไรล้มโครมคราม แจกันมุมห้องล้มแตกระจาย สนุกสนานสุดขีด ก่อนวิ่งออกมาตั้งหลักนอกห้องครัว โดยมีหนูแจ๋วถือไม้กวาดไล่มาติด ๆ แต่ก็หยุดชะงัก
ใช่เลย ...หนูแจ๋วไม่กล้าฆาตกรรมแมว ที่รักของคุณผู้หญิง ปีฬาร์ได้ทีเลยเดินสามรอบ ก่อนล้มตัวลงนอนกลางห้องอย่างไม่หวั่นเกรง ใจวัดใจ มาสิ มาตีสิ
“แกนะแก...คอยดูเถอะ” เด็กสาวบ้านนา ชี้หน้าแมว แบบอาฆาตมาดร้าย ก่อนหันหลังเดินไปทำงานบ้านต่อไป ไม่อยากเสียเวลากับแมวจอมป่วน เห็นไหมละ ในที่สุดแมวก็เหนือกว่า
หลังจากไปด้อมๆ มอง ๆ เห็นหนูแจ๋วทำอาหารเสร็จ วางบนโต๊ะ จากนั้นหันไปล้างจานชาม นี่ละ สิ่งที่รอคอย ไม่รอช้า ขณะที่หนูแจ๋วกำลังมีสมาธิกับการล้างถ้วยชาม จนฟองสีขาวก่อตัวสูงขึ้นในอ่างล้างอย่างมหัศจรรย์ ปีฬาร์รีบเสนอหน้า กระโดดขึ้นไปวิ่งเล่นในอ่างล้างทันที คงไม่ต้องบอกถึงสภาพทารุณจิตใจ ถ้วยชามล้มโครมคราม เสียงหวีดร้องของหนูแจ๋ว ทำให้นึกถึงฉากหนังสยองขวัญ ห้องครัวเลอะเทอะไปทันทีแบบมหาวินาศ ปิฬาร์วิ่งหน้าเริดออกมาห้องรับแขกอย่างรู้เชิง
“มันจะมากไปแล้วนะ” หนูแจ๋วเดินออกมาจากห้องครัว ในสภาพเสื้อผ้าเปียกปอน มือซ้ายถือมีดทำครัวมาด้วย สายตาลุกแววดุดัน เหมือนคนบ้า “อีปิฬาร์แกต้องตาย แมวผีบ้า แมวจกตับจกไตจกไส้จกพุง ปอบทังดาก อูคีกูนี”
ปืฬาร์ใจหายวาบ นี่มันอาการผีเข้าอย่างไม่ต้องสงสัย ปอบแมว หรือผีแมวเป้าแมวโพง ตัวไหนมาสิงสู่
ไม่รอช้า ปิฬาร์วิ่งหนีขึ้นบ้านชั้นสองทันที จะต้องหลบในห้องนอนของคุณนายใจดี แหล่งหลบภัยที่ดีที่สุด ในใจก็นึกภาพหนูแจ๋วเดินโงนเงน เงื้อมีดในมือ ตามบันไดขึ้นมา สายตาแข็งกร้าวแบบคนถูกผีสิง โอย ...ไม่ไหวแล้ว ปิฬาร์กลัว
แต่ประตูห้องของคุณนายใจดีปิด แต่แน่ละ คุณยายใจดีไม่อยู่ ก็ต้องปิดห้อง ปิฬาร์ใจหายวาบ หายนะชัด ๆ งานเข้า! หนีไปไหนดี...
หน้าต่าง เหลือทางหน้าต่าง ปิฬาร์กระโดดออกทางหน้าต่างทันที ตายเป็นตาย
เสียงดังโครม แมวตัวขาวกระเด็นกลับมากลิ้งบนพื้น บ้าอะไรกัน... หน้าต่างปิดสนิท เอาอีกแล้ว ทำไมปิดซับปิดซ้อนแบบนี้ ผลของการชนกระจก ทำให้แมวตัวเก่งสมองมึนงง โลกหมุนคว้างไปชั่วขณะ ก่อนดับวูบลง
“นี่แจ๋ว มาดูนี่ ลูกแมวที่ไหนไม่รู้ โดนหมาไล่มานอนอยู่ในบ้านเรา”
“ไหนคะ คุณยาย ว้ายตายแล้ว น่ารักจัง ยังตัวเด็กอยู่เลย แจ๋วว่าเราน่าจะเลี้ยงไว้นะคะ น่าสงสารจัง ให้แจ๋วเลี้ยงนะคะ คุณนายขา”
“จะดีหรือแจ๋ว”
“ดีสิจ๊ะ แจ๋วว่าเราน่าจะเลี้ยงน้องแมวไว้นะคะ เราไม่เคยเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเลย”
“แน่ใจนะแจ๋ว”
“แน่ใจสิคะ คุณนาย แจ๋วรับรอง”
เสียงดังแว่วในความรู้สึก เหมือนจริงเหมือนฝัน มืออุ่น ๆ ลูบไล้ไปมา ทำให้รู้สึกถึงความรัก ความอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก สายตาพร่ามัวมองเห็นคนสองสามคนรายรอบ ใช่แล้ว ปิฬาร์จำได้ สายตาของคุณนายใจดี สายตาของคุณผู้ชาย และสายตาของหนูแจ๋ว
“ไม่เป็นนะ เจ้าแมว แกจะอยู่ในบ้านนี้ อยู่ด้วยกันนะ....”
อบอุ่นเหลือเกิน หลับตานอนอย่างมีความสุข นานแค่ไหนแล้วนะ... ปิฬาร์อยากร้องไห้ กับความรู้สึกแบบนี้
สายตาที่เต็มไปด้วยความรักความอบอุ่นของหนูแจ๋ว สองมือปกป้องอุ้มชู จนกลายเป็นแมวขาวตัวโต น่ารักน่ากอด เบาะนุ่ม ๆ ที่เคยนอนเคียงข้างกันในห้องเล็ก ๆ แต่อบอุ่น ทำไมลืมเลือนความรักงดงามไปได้นะ นอนเตียงเดียวกัน... ผ้าห่มผืนเดียวกัน ...ใครกัน... ที่อุ้มปิฬาร์เดินไปรอบหมู่บ้านอย่างตื่นเต้นดีใจ คอยป้อนน้ำป้อนข้าว อ้อมแขนที่ปกป้องลูกแมวตัวน้อยตลอดมา วิ่งเตะหมาที่บังอาจมาเห่า
ภาพที่ลืมเลือนวิ่งผ่านมาอีกครั้ง ตอกย้ำและซ้ำเติม ความรู้สึกที่จากหายไปนาน
“เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไปนะ” เสียงนุ่ม ๆ ของหนูแจ๋ว กระซิบข้างหูลูกแมวหลงทาง เป็นเสียงแห่งความสุข ที่ได้มีเจ้าแมวตัวน้อยมาเป็นสมาชิกของครอบครัว หลายคืนที่หนูแจ๋วร้องหมอลำกล่อมนอน
ปิฬาร์ลืมตาโพลง มองไปมาอย่างไม่แน่ใจ ท่าทางคงสลบไปพักหนึ่ง มองไปทางบันได ไม่มีภาพของหนูแจ๋วกับมีดในมือ หนูแจ๋วคงทำร้ายแมวไม่ได้ ถึงจะเป็นเด็กบ้านนอก โดนแมวแกล้งขนาดไหน ก็มีความอดทนอดกลั้น มีเรื่องกัน มันไม่ยากหรอก ถ้าคิดจะมี ลองเดินลงไปอย่างแผ่วเบา หนูแจ๋วหายไปไหน
อ้อ - นั่นไง อยู่ในห้องเล็ก ชั้นล่าง ที่แปลกคือ เธอกำลังเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋า ด้วยอาการเก็บสิ่งของไป ร้องไห้ไป ทำให้หัวใจตกวูบ
“ขอโทษนะ คุณนายคุณผู้ชาย” เด็กสาวบ้านนาปาดน้ำตา “แจ๋วต้องขอลาแล้วละ ปิฬาร์ชอบแกล้งแจ๋ว แจ๋วรักคุณนาย รักคุณผู้ชายใจดี แต่แจ๋วทนไม่ไหวแล้ว อยู่ไปก็กลัวเผลอตัวฆ่าแมว มีทางเดียว แจ๋วขอจากไปดีกว่านะคะ เพื่อสันติสุขของบ้านและชาวโลก”
หนูแจ๋วร้องไห้ไป เก็บเสื้อผ้า ปิฬาร์ใจหายวาบ เรื่องไปกันใหญ่แล้ว ภาพที่หนูแจ๋วเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋า มันดูสะทกสะท้อนใจเหลือเกิน ทำไมต้องมาผละหนีจาก ต้องไม่ใช่แบบนี้!!
“เมี๊ยว” ร้องแบบไม่รู้ตัว น้ำตาซึม หนูแจ๋วสะดุ้ง มือคว้าหนังสืออ่านเล่น เรื่องหนูหิ่น เหวี่ยงใส่ทันที แบบปฏิกิริยารวดเร็วไม่ต้องคิด ปิฬาร์มองเห็นหนังสือเล่มนั้นลอยมา แต่ไม่ยอมหลับ หลับตา โดนหนังสือกลางแสกหน้าอย่างจัง แต่ไม่.. ปิฬาร์ไม่เจ็บ ไม่สลบ สิ่งที่ทำคือกระโดดเข้าหาหนูแจ๋ว ม้วนตัวลงนอนตัก จ้องหน้า เหมือนที่เคยทำมาก่อน เมื่อนานมาแล้ว ร้องเมี๊ยว ๆ มองหน้า เสียงอ้อน ๆ
หนูแจ๋วชะงัก จับคอปิฬาร์ ทำท่าจะเหวี่ยง แต่ก็หยุดนิ่ง
“เมี้ยว”
ปิฬาร์เลียมือ ของหนูแจ๋ว อย่างไม่กลัวการทำร้าย เลียหน้าด้วยก็ได้ ปิฬาร์รักแจ๋วนะ ไม่เอานะ...อย่าทิ้งกันไปเลย หนูแจ๋วจ๋า ปิฬาร์ผิดไปแล้ว ให้อภัยด้วยนะ อย่าหนีไปไหนเลย อยู่ด้วยกัน ปิฬาร์จะไม่ดื้อไม่แกล้งพี่แจ๋วอีกแล้วนะ อยู่ด้วยกันนะ เมี๊ยว!!”
ทั้งคนทั้งแมว นิ่งงันไปพักหนึ่ง มีเพียงเสียงลมหายใจของคนและแมว เป็นการวัดใจกันอย่างแท้จริง
“เอาสิ อยากฆ่าแมวก็ทำเลย ถ้าจะทำให้พี่แจ๋วสบายใจ” ปิฬาร์หลับตารับชะตากรรม สงสัยต้องขึ้นไปสวรรค์ของแมวแล้ว เจ็บแต่จบ... เจ็บแต่จบ ....เจ็บแต่จบ....จบแบบตาย
ช่วงเย็นของวันนั้น คุณนายใจดีและคุณผู้ชาย มองอย่างไม่เข้าใจ เพราะสิ่งแรกที่มองเข้ามาในบ้าน หลังจากจอดรถคือ ภาพที่หนูแจ๋ว สาวรับใช้คนเก่ง กำลังวิ่งเล่นกับแมวปิฬาร์ ด้วยท่าทางมีความสุข อย่างที่ไม่ได้เห็นมานานแล้ว ทั้งคนทั้งแมวดูรักและเข้ากันได้ดี สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนที่ผ่านมาพบเห็น
นี่คืออีกส่วนหนึ่ง ของแมวปิฬาร์ เจ้าเหมียวจอมซน
จบ
แมวปิฬาร์......กับหนูแจ๋ว
แมวปิฬาร์กับหนูแจ๋ว
แมวปิฬาร์หายหน้าไปหลายปี ต้องนำมาออกหน้าเวทีบ้าง ตามประสาคนรักแมว
......
“นังปิฬาร์ แกตาย!”
เสียงหนูแจ๋วร้องลั่นบ้าน เครียดตั้งแต่เช้า ซึ่งดูเป็นเรื่องผิดปกติมาก เพราะตามหลักสากล แจ๋วคนรับใช้ประจำบ้านของคุณนายใจดี ต้องเรียกแมวของคุณนายใจดีว่า คุณปิฬาร์ ไม่ใช่ นังปิฬาร์
มีบางอย่างผิดปกติ ใช่แล้ว ...เป็นแบบนั้น เพราะคุณผู้ชาย และคุณนายใจดี พากันเที่ยวทะเลตั้งแต่บ่ายวาน และจะกลับเย็นนี้ ทำให้บ้านหลังใหญ่ ตกอยู่ในเงื้อมมือของคน ซึ่งก็คือหนูแจ๋ว สาวรับใช้จากแผ่นดินที่ราบสูง และแมวประจำบ้าน แมวปิฬาร์ ตัวขาวน่ารักนั่นเอง
แมวปิฬาร์ มองหนูแจ๋วอย่างไม่เข้าใจ ว่าทำไมต้องออกอาการตั้งแต่เช้า ทั้งที่ปิฬาร์ ยังไม่ได้ทำอะไรให้เดือดร้อนเลยสักนิด ก็แค่วิ่งชนแก้วบนโต๊ะหล่นลงมาแตก สามใบ ลากผ้าขี้ริ้วที่หนูแจ๋วไปทั่วบ้าน ตะกายชั้นวางของ จนข้าวของหล่น กระจัดกระจายทั่วบ้านเท่านั้น
แล้วหนูแจ๋วจะมาโวยวายอะไร มันก็หน้าที่ใครหน้าที่มัน หน้าที่ทำข้าวของพัง มันหน้าที่ของแมวอยู่แล้ว หนูแจ๋วไม่ต้องมาช่วย โน้น...เศษแก้วเศษขยะ หนูแจ๋วไปเก็บเลย ให้มันรู้บ้าง ว่าใครเป็นคน ใครเป็นแมว
หนูแจ๋วควงไม้กวาด แต่ไม่มีวันเสียละ นี่แมวนะไม่ใช่คน ปิฬาร์วิ่งพรวดเดียว เข้าไปซ่อนอยู่ใต้มุมใต้บันได เพราะรู้ว่าปลอดภัยที่สุด มีข้าวของมากมาย ถูกทิ้งลืมในแดนสนธยา ใต้บันได หนูแจ๋วไม่กล้ามุดตามมาแน่ และก็เป็นอย่างนั้นจริง เสียงหนูแจ๋วบ่น ๆ ๆ และบ่น อย่างดุเดือด และก็ห่างหายไป คนอะไร มาบ่นแมว ใช้ไม่ได้
เมื่อโลกกลับสู่สันติสุข แมวตัวขาวก็ค่อย ๆ โผล่มาออกมาอย่างระมัดระวัง ปลอดภัย ไม่มีหมาหรือคน
เสียงเพลงดังมาจากห้องครัว จากวิทยุทรานซิสเตอร์ของหนูแจ๋ว อย่างไม่ต้องสงสัย ความสุขอย่างหนึ่งของเด็กสาวรับใช้ คือการฟังเพลงหมอลำนี่เอง ฟังแล้วมีความสุขที่สุด
คุณนายใจดี เคยคุยกับคุณผู้ชาย ทำให้รู้ว่า หนูแจ๋ว เป็นเด็กอีสาน จังหวัดกาฬสินธ์ุ เรียนจบ ปอ 4 (ฟังมาถึงตอนนี้ แมวปิฬาร์เหยียดหยามมาก ถึงมากที่สุด คนอะไร เรียนจบ ปอ 4) ฐานะทางบ้านยากจน เลยต้องเอาลูกมาฝากทำงาน เพื่อเก็บเงินสร้างตัว ที่บ้านคุณนายใจดี ซึ่งใจดีสมชื่อ ปิฬาร์รักคุณนายใจดีมากที่สุด รักเหมือนมารดาแมว เพราะปิฬาร์ไม่เคยได้รับความรักความอบอุ่นจากมารดาแมวเลย ความรักที่ให้คุณนายใจดีไม่สูญเปล่า ทั้งคุณนายใจดี และคุณผู้ชายรักปิฬาร์ทั้งนั้น
โถ...ทำไมจะไม่รักละ ก็ปิฬาร์น่ารักขนาดนี้ ขนสีขาวสวยงาม สะอาดสะอ้านตาอย่างที่สุด อ้อนเก่ง ตัวนิ่ม ขนฟู เสียงร้องเมี๊ยว ๆ ฟังแล้ว ใคร ๆ ก็ อยากกอดอยากฟัดอยากกัด (อันหลังไม่ค่อยชอบนะ) ปิฬาร์คือขวัญใจของคนในบ้าน กินดีอยู่ดี นอนดี ทุกอย่างดี
หนูแจ๋วก็รู้บทบาทและหน้าที่ของตัวเองดี นี่มันแมวคุณนาย เราเป็นเด็กรับใช้ ต้องเรียกแมวประจำบ้านว่า ‘คุณปิฬาร์’ เสมอ ฟังทีไร รู้สึกว่า ตัวยืด ยาว ออกไปอีกตั้งเยอะ ทำให้ต้องเดินเชิดหน้ารอบบ้านหลายรอบ นี่คุณปิฬาร์นะ
ค่อย ๆ เดินออกมาจากใต้บันไดอย่างระมัดระวัง ไม่ใช่กลัวใคร แต่จินตนาการไปเองว่า กำลังอยู่ในป่าดงดิบ เต็มไปด้วยอันตราย แมวก็จินตนาการเป็นเหมือนกัน ไปดูสิว่า หนูแจ๋ว ทำอะไรอยู่
นั่นไง ...อย่างที่คิด หนูแจ๋วกำลังทำอาหาร เปิดเพลงหมอลำซิ่งไปด้วย เด้อนางเดอ เด้อ ๆ นางเดอ...ถึงเป็นแมวก็รู้ว่าเป็นหมอลำซิ่ง เพราะหนูแจ๋วเปิดฟังทุกวัน แถมออกลีลาเต้นอย่างมัน ไปตามเพลงอีกต่างหาก
ตอนนี้ก็เหมือนกัน หนูแจ๋วง่วนกับกระทะ คงทำอาหารเช้า คงทำให้ตัวเองนั่นละ เพราะไม่มีใครอยู่บ้าน แหม... เห็นแล้วหมั่นใส้มาก หาเรื่องแกล้งดีกว่า ว่าแล้วปิฬาร์ก็วิ่งไปแกล้งชนวิทยุหมอลำซิ่งทันที
เพล้ง!
“ว้าย...”
วิทยุหล่นจากโต๊ะทำครัว ลงมานอนแอ้งแม้งบนพื้น พร้อมกับเสียงร้องอย่างตกใจของหนูแจ๋ว เสียงหมอลำขาดหาย เท่านั้นยังไม่พอ มีของแถมด้วยการที่แมวสีขาว วิ่งไปพันกับสายไฟของพัดลม ล้มโครมลงอีกต่างหาก
“แกอีกแล้วเหรอ อี่ปิฬาร์ หนอย” หนูแจ๋วร้องด่า หันไปหยิบไม้กวาด แต่ช้าเกินไป ปิฬาร์เผ่นขึ้นไปบนชั้นทำอาหาร วิ่งชนขวดเครื่องปรุง ชนอะไรต่อมิอะไรล้มโครมคราม แจกันมุมห้องล้มแตกระจาย สนุกสนานสุดขีด ก่อนวิ่งออกมาตั้งหลักนอกห้องครัว โดยมีหนูแจ๋วถือไม้กวาดไล่มาติด ๆ แต่ก็หยุดชะงัก
ใช่เลย ...หนูแจ๋วไม่กล้าฆาตกรรมแมว ที่รักของคุณผู้หญิง ปีฬาร์ได้ทีเลยเดินสามรอบ ก่อนล้มตัวลงนอนกลางห้องอย่างไม่หวั่นเกรง ใจวัดใจ มาสิ มาตีสิ
“แกนะแก...คอยดูเถอะ” เด็กสาวบ้านนา ชี้หน้าแมว แบบอาฆาตมาดร้าย ก่อนหันหลังเดินไปทำงานบ้านต่อไป ไม่อยากเสียเวลากับแมวจอมป่วน เห็นไหมละ ในที่สุดแมวก็เหนือกว่า
หลังจากไปด้อมๆ มอง ๆ เห็นหนูแจ๋วทำอาหารเสร็จ วางบนโต๊ะ จากนั้นหันไปล้างจานชาม นี่ละ สิ่งที่รอคอย ไม่รอช้า ขณะที่หนูแจ๋วกำลังมีสมาธิกับการล้างถ้วยชาม จนฟองสีขาวก่อตัวสูงขึ้นในอ่างล้างอย่างมหัศจรรย์ ปีฬาร์รีบเสนอหน้า กระโดดขึ้นไปวิ่งเล่นในอ่างล้างทันที คงไม่ต้องบอกถึงสภาพทารุณจิตใจ ถ้วยชามล้มโครมคราม เสียงหวีดร้องของหนูแจ๋ว ทำให้นึกถึงฉากหนังสยองขวัญ ห้องครัวเลอะเทอะไปทันทีแบบมหาวินาศ ปิฬาร์วิ่งหน้าเริดออกมาห้องรับแขกอย่างรู้เชิง
“มันจะมากไปแล้วนะ” หนูแจ๋วเดินออกมาจากห้องครัว ในสภาพเสื้อผ้าเปียกปอน มือซ้ายถือมีดทำครัวมาด้วย สายตาลุกแววดุดัน เหมือนคนบ้า “อีปิฬาร์แกต้องตาย แมวผีบ้า แมวจกตับจกไตจกไส้จกพุง ปอบทังดาก อูคีกูนี”
ปืฬาร์ใจหายวาบ นี่มันอาการผีเข้าอย่างไม่ต้องสงสัย ปอบแมว หรือผีแมวเป้าแมวโพง ตัวไหนมาสิงสู่
ไม่รอช้า ปิฬาร์วิ่งหนีขึ้นบ้านชั้นสองทันที จะต้องหลบในห้องนอนของคุณนายใจดี แหล่งหลบภัยที่ดีที่สุด ในใจก็นึกภาพหนูแจ๋วเดินโงนเงน เงื้อมีดในมือ ตามบันไดขึ้นมา สายตาแข็งกร้าวแบบคนถูกผีสิง โอย ...ไม่ไหวแล้ว ปิฬาร์กลัว
แต่ประตูห้องของคุณนายใจดีปิด แต่แน่ละ คุณยายใจดีไม่อยู่ ก็ต้องปิดห้อง ปิฬาร์ใจหายวาบ หายนะชัด ๆ งานเข้า! หนีไปไหนดี...
หน้าต่าง เหลือทางหน้าต่าง ปิฬาร์กระโดดออกทางหน้าต่างทันที ตายเป็นตาย
เสียงดังโครม แมวตัวขาวกระเด็นกลับมากลิ้งบนพื้น บ้าอะไรกัน... หน้าต่างปิดสนิท เอาอีกแล้ว ทำไมปิดซับปิดซ้อนแบบนี้ ผลของการชนกระจก ทำให้แมวตัวเก่งสมองมึนงง โลกหมุนคว้างไปชั่วขณะ ก่อนดับวูบลง
“นี่แจ๋ว มาดูนี่ ลูกแมวที่ไหนไม่รู้ โดนหมาไล่มานอนอยู่ในบ้านเรา”
“ไหนคะ คุณยาย ว้ายตายแล้ว น่ารักจัง ยังตัวเด็กอยู่เลย แจ๋วว่าเราน่าจะเลี้ยงไว้นะคะ น่าสงสารจัง ให้แจ๋วเลี้ยงนะคะ คุณนายขา”
“จะดีหรือแจ๋ว”
“ดีสิจ๊ะ แจ๋วว่าเราน่าจะเลี้ยงน้องแมวไว้นะคะ เราไม่เคยเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเลย”
“แน่ใจนะแจ๋ว”
“แน่ใจสิคะ คุณนาย แจ๋วรับรอง”
เสียงดังแว่วในความรู้สึก เหมือนจริงเหมือนฝัน มืออุ่น ๆ ลูบไล้ไปมา ทำให้รู้สึกถึงความรัก ความอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก สายตาพร่ามัวมองเห็นคนสองสามคนรายรอบ ใช่แล้ว ปิฬาร์จำได้ สายตาของคุณนายใจดี สายตาของคุณผู้ชาย และสายตาของหนูแจ๋ว
“ไม่เป็นนะ เจ้าแมว แกจะอยู่ในบ้านนี้ อยู่ด้วยกันนะ....”
อบอุ่นเหลือเกิน หลับตานอนอย่างมีความสุข นานแค่ไหนแล้วนะ... ปิฬาร์อยากร้องไห้ กับความรู้สึกแบบนี้
สายตาที่เต็มไปด้วยความรักความอบอุ่นของหนูแจ๋ว สองมือปกป้องอุ้มชู จนกลายเป็นแมวขาวตัวโต น่ารักน่ากอด เบาะนุ่ม ๆ ที่เคยนอนเคียงข้างกันในห้องเล็ก ๆ แต่อบอุ่น ทำไมลืมเลือนความรักงดงามไปได้นะ นอนเตียงเดียวกัน... ผ้าห่มผืนเดียวกัน ...ใครกัน... ที่อุ้มปิฬาร์เดินไปรอบหมู่บ้านอย่างตื่นเต้นดีใจ คอยป้อนน้ำป้อนข้าว อ้อมแขนที่ปกป้องลูกแมวตัวน้อยตลอดมา วิ่งเตะหมาที่บังอาจมาเห่า
ภาพที่ลืมเลือนวิ่งผ่านมาอีกครั้ง ตอกย้ำและซ้ำเติม ความรู้สึกที่จากหายไปนาน
“เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไปนะ” เสียงนุ่ม ๆ ของหนูแจ๋ว กระซิบข้างหูลูกแมวหลงทาง เป็นเสียงแห่งความสุข ที่ได้มีเจ้าแมวตัวน้อยมาเป็นสมาชิกของครอบครัว หลายคืนที่หนูแจ๋วร้องหมอลำกล่อมนอน
ปิฬาร์ลืมตาโพลง มองไปมาอย่างไม่แน่ใจ ท่าทางคงสลบไปพักหนึ่ง มองไปทางบันได ไม่มีภาพของหนูแจ๋วกับมีดในมือ หนูแจ๋วคงทำร้ายแมวไม่ได้ ถึงจะเป็นเด็กบ้านนอก โดนแมวแกล้งขนาดไหน ก็มีความอดทนอดกลั้น มีเรื่องกัน มันไม่ยากหรอก ถ้าคิดจะมี ลองเดินลงไปอย่างแผ่วเบา หนูแจ๋วหายไปไหน
อ้อ - นั่นไง อยู่ในห้องเล็ก ชั้นล่าง ที่แปลกคือ เธอกำลังเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋า ด้วยอาการเก็บสิ่งของไป ร้องไห้ไป ทำให้หัวใจตกวูบ
“ขอโทษนะ คุณนายคุณผู้ชาย” เด็กสาวบ้านนาปาดน้ำตา “แจ๋วต้องขอลาแล้วละ ปิฬาร์ชอบแกล้งแจ๋ว แจ๋วรักคุณนาย รักคุณผู้ชายใจดี แต่แจ๋วทนไม่ไหวแล้ว อยู่ไปก็กลัวเผลอตัวฆ่าแมว มีทางเดียว แจ๋วขอจากไปดีกว่านะคะ เพื่อสันติสุขของบ้านและชาวโลก”
หนูแจ๋วร้องไห้ไป เก็บเสื้อผ้า ปิฬาร์ใจหายวาบ เรื่องไปกันใหญ่แล้ว ภาพที่หนูแจ๋วเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋า มันดูสะทกสะท้อนใจเหลือเกิน ทำไมต้องมาผละหนีจาก ต้องไม่ใช่แบบนี้!!
“เมี๊ยว” ร้องแบบไม่รู้ตัว น้ำตาซึม หนูแจ๋วสะดุ้ง มือคว้าหนังสืออ่านเล่น เรื่องหนูหิ่น เหวี่ยงใส่ทันที แบบปฏิกิริยารวดเร็วไม่ต้องคิด ปิฬาร์มองเห็นหนังสือเล่มนั้นลอยมา แต่ไม่ยอมหลับ หลับตา โดนหนังสือกลางแสกหน้าอย่างจัง แต่ไม่.. ปิฬาร์ไม่เจ็บ ไม่สลบ สิ่งที่ทำคือกระโดดเข้าหาหนูแจ๋ว ม้วนตัวลงนอนตัก จ้องหน้า เหมือนที่เคยทำมาก่อน เมื่อนานมาแล้ว ร้องเมี๊ยว ๆ มองหน้า เสียงอ้อน ๆ
หนูแจ๋วชะงัก จับคอปิฬาร์ ทำท่าจะเหวี่ยง แต่ก็หยุดนิ่ง
“เมี้ยว”
ปิฬาร์เลียมือ ของหนูแจ๋ว อย่างไม่กลัวการทำร้าย เลียหน้าด้วยก็ได้ ปิฬาร์รักแจ๋วนะ ไม่เอานะ...อย่าทิ้งกันไปเลย หนูแจ๋วจ๋า ปิฬาร์ผิดไปแล้ว ให้อภัยด้วยนะ อย่าหนีไปไหนเลย อยู่ด้วยกัน ปิฬาร์จะไม่ดื้อไม่แกล้งพี่แจ๋วอีกแล้วนะ อยู่ด้วยกันนะ เมี๊ยว!!”
ทั้งคนทั้งแมว นิ่งงันไปพักหนึ่ง มีเพียงเสียงลมหายใจของคนและแมว เป็นการวัดใจกันอย่างแท้จริง
“เอาสิ อยากฆ่าแมวก็ทำเลย ถ้าจะทำให้พี่แจ๋วสบายใจ” ปิฬาร์หลับตารับชะตากรรม สงสัยต้องขึ้นไปสวรรค์ของแมวแล้ว เจ็บแต่จบ... เจ็บแต่จบ ....เจ็บแต่จบ....จบแบบตาย
ช่วงเย็นของวันนั้น คุณนายใจดีและคุณผู้ชาย มองอย่างไม่เข้าใจ เพราะสิ่งแรกที่มองเข้ามาในบ้าน หลังจากจอดรถคือ ภาพที่หนูแจ๋ว สาวรับใช้คนเก่ง กำลังวิ่งเล่นกับแมวปิฬาร์ ด้วยท่าทางมีความสุข อย่างที่ไม่ได้เห็นมานานแล้ว ทั้งคนทั้งแมวดูรักและเข้ากันได้ดี สร้างรอยยิ้มให้กับทุกคนที่ผ่านมาพบเห็น
นี่คืออีกส่วนหนึ่ง ของแมวปิฬาร์ เจ้าเหมียวจอมซน
จบ