"รักนี้ต้องอิมโพรไวส์" ความฝัน ความรัก และดนตรีแจ๊ส

"Groovin'On รักนี้ต้องอิมโพรไวส์" สารภาพเลยว่าแค่เห็นชื่อเรื่องก็สะดุดตาแล้ว เพราะส่วนตัวชอบหนังหรือซีรีส์เกี่ยวกับดนตรีอยู่แล้ว พอเห็นชื่อเรื่องปุ๊บรู้เลยว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับดนตรีแน่ๆ และที่ว้าวกว่าคือสิ่งที่อยู่ใน Teaser และ Trailer ซึ่งทาง popsthailand ปล่อยลงยูทูป ที่ทำให้เราตั้งหน้าตั้งตารอซีรีส์เรื่องนี้

อย่างแรก "นักแสดง" คือเกือบทุกคนเป็นนักร้อง นักดนตรีทั้งสิ้น (ยกเว้นนางเอก) ตรงคอนเซปซีรีส์ดนตรีก็ต้องเอานักร้อง นักดนตรีมาเล่นสิ อย่างที่สองคือ "เคมี" ของพระเอกและนางเอกของเรื่องซึ่งก็คือ เก้า จิรายุ กับ วาววา ณิชชา (น้องนิ่มจากร้อยเล่ห์มารยาหรือนังรสจากมายาเสน่หาที่เพิ่งลาจอไป) ซึ่งนอกจากเคมีที่ดีของพระนางที่เป็นการพบกันครั้งแรกของทั้งคู่แล้ว เรื่องนี้ก็เป็นการหวนคืนบทนางเอกเรื่องแรกหลังจากที่หายไป 3 ปี นับตั้งแต่ละครเรื่องไข่มุกมังกรไฟด้วยเช่นกัน และอย่างสุดท้าย "เสียงร้อง" ในท้ายทีเซอร์ (มีทีเซอร์ที่ตัดมาก่อนตัวอย่างเต็มตัวนี้) ซึ่งนั่นก็คือเสียงร้องเพราะๆของ อ๊ะอาย กรณิศ เป็นการการันตีอย่างหนึ่งว่า นอกจากเสียงดนตรีแล้วเราจะได้ฟังเสียงร้องเพราะๆ จากนักร้องที่แสดงในซีรีส์เรื่องนี้ด้วย และนอกจากจะมีนักร้อง นักดนตรี นักแสดง รุ่นใหม่แล้วเรายังจะได้เห็น นักร้อง นักดนตรี ในยุค ... 90's เช่น พี่อิงค์ อชิตะ, พี่กบ เสาวนิตย์, พี่แมว จิรศักดิ์ และ พี่ปั๋ง ประกาศิต มาฝากเสียงร้อง เสียงดนตรี เพราะๆ ในเรื่องนี้อีกด้วย

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ความฝัน ความรัก และดนตรีแจ๊ส กับ 6 ตอนที่ผ่านมา(ครึ่งเรื่องพอดี)
"ความฝัน" ด้วยความที่ตัวละคร "อัลโต้ (เก้า จิรายุ)" ซึ่งเป็นพระเอกของเรื่องนี้ มีอีโก้ที่สูงเสียดฟ้า ชนิดที่ว่าสูงพอๆกับความหมายของชื่อตัวเอง ต้องมาบริหารบาร์แจ๊สเล็กๆที่เชียงใหม่ มีหรือที่จะยอมให้ร้านนี้หยุดอยู่แค่นี้ ตอบให้เลยว่าไม่มีทาง!! แต่ทว่าด้วยความที่ทั้งชีวิตเล่นมาแต่ดนตรี และสมาชิกของร้านเกือบทั้งหมดเป็นนักดนตรี ไม่ว่าจะเป็น นาย (พีท พีรพล), ปุย (มิลลี่ สโนว์), น้าหมู (ปั๋ง ประกาศิต) หรือแม้กระทั่ง ซอล (อ๊ะอาย กรณิศ) ที่แม้จะช่วยพ่อดูแลร้านมาแต่ก็ยังเด็กอยู่แถมไม่ถูกกับพี่ชายไปอีก ความฝันที่จะบริหารร้านให้ดังไกลระดับโลกเลยเป็นเหมือนความฝันลมๆแล้งๆ แต่โชคยังดีที่มีสาวปริศนาจากกรุงเทพ ผู้เป็นลูกค้าขาประจำ อย่าง "ขวัญ (วาววา ณิชชา)" มาคอยช่วย
"ความรัก" สำหรับเรื่องนี้เส้นเรื่องของความรักไม่ใช่แกนหลักในการเดินเรื่อง แต่ก็เป็นสิ่งสำคัญระหว่างทาง ที่ทุกๆตัวละครต้องคอยเก็บเกี่ยวไม่ใช่แค่ประสบการณ์ด้านดนตรีและความสำเร็จของร้านแต่เพียงเท่านั้น แม้เส้นเรื่องของความรักจะไม่ได้หวือหวาหรือสลักสำคัญอะไรแต่ก็มีโมเม้นต์น่ารักๆของพระนาง และคู่รอง ที่เคมีดีมากๆทั้งสองคู่ให้ได้เห็นอยู่เยอะพอสมควร ด้วยความที่คนเขียนบทตั้งตัวละครอัลโต้ให้มีอีโก้สูงมากๆ มีความหยิ่งทะนงมากๆ คาแรกเตอร์ของขวัญจึงถูกจัดวางไว้ให้ขวัญเป็นคนเข้มแข็งแต่อ่อนหวาน ชนิดที่ว่ากำแพงของอัลโต้จะสูงแค่ไหนเจอขวัญเข้าไปต้องพังทลาย ยิ่งเป็นส่วนเสริมเคมีของคู่พระนางเข้าไปอีก
"ดนตรีแจ๊ส" ดนตรีแจ๊สเป็นสิ่งที่โยงสิ่งต่างๆและตัวละครทุกตัวในเรื่องเข้าหากัน ดนตรีแจ๊สมันมีเสน่ห์ตรงที่มันเป็นดนตรีแห่งการอิมโพรไวส์ เพลงเดียวกัน เปลี่ยนคนเล่น มู้ด โทน และโน๊ต ของเพลงเปลี่ยนทันที (ไม่ได้สันทัดเรื่องดนตรีแจ๊สแต่เท่าที่ฟัง เพลงแล้วคงพบกันอีก ที่วงสองวงเล่น มู้ดแอนด์โทนของเพลงคือเปลี่ยนเยอะมากๆ) นอกจากนี้ยังมีการนำเพลงที่ฮิตๆกัน มาทำให้เป็น pops jazz อีกด้วย เช่นเพลง คำบางคำ ของ วง Sqweez Animal เป็นต้น ซึ่งอ๊ะอาย ถ่ายทอดเอาไว้ได้ไพเราะ และเรียกน้ำตาได้ดีมากๆเลยทีเดียว

"อยู่บนที่สูงที่บนสุดแล้วยังไง มันไม่ใช่ความหมาย
ไม่ต้องเป็นเหมือนใครจะตีกรอบไว้ทำไม ลองให้รู้ไปเลย
ผิดถูกจะได้รู้ได้พิสูจน์ว่าความจริง เราทำได้แค่ไหน
ก็ว่ากันไปเพราะชีวิตเรา มันต้องอิมโพรไวส์กันหน่อย"
- ก้าวต่อไป Ost. รักนี้ต้องอิมโพรไวส์ -

นอกจากนี้ซีรีส์เรื่องนี้ยังสอดแทรกข้อคิดดีๆไว้ ในทุกๆตอน ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของความฝัน การหาแรงบันดาลใจ การลองผิดลองถูก และอื่นๆ เรียกได้ว่าใครที่กำลังมองหาซีรีส์น้ำดี feel good เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาด เพราะนอกจากจะได้ฟังเพลงเพราะๆ ได้ข้อคิดดีๆและได้ร่วมลุ้นร่วมเอาใจช่วยไปกับคู่พระนางและสมาชิกคนอื่นๆในร้าน out of the blues แล้ว งานภาพในเรื่องนี้สวยงามมากๆโทนสีเหมือนหลุดออกมาจากกล้องฟิล์มเลย 
ปล. สำหรับใครที่ดูแล้วร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้น้า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่