[CR] รีวิว Groovin’ On รักนี้ต้องอิมโพรไวส์ ซีรีส์ไทยน้ำดี ฟีลกู๊ด เพลงเพราะ ดูแล้วอบอุ่นใจ

Groovin’ On รักนี้ต้องอิมโพรไวส์

ซีรีส์ไทยที่อยากแนะนำมากๆ เป็นซีรีส์ในดวงใจเรื่องนึงของผมในปีนี้เลย ใครที่รักในดนตรี รักในเสียงเพลงโดยเฉพาะเพลงแจ๊ซ ต้องห้ามพลาด Groovin’ On เรื่องนี้เลยทีเดียว

Groovin’ On เป็นเรื่องของอัลโต้ (เก้า จิรายุ) เด็กหนุ่มมือกีตาร์ผู้มากไปด้วยพรสวรรค์แต่เต็มไปด้วยอีโก้ ถึงขั้นที่ไม่มีใครอยากจะร่วมวงด้วย ไปเล่นที่ไหนวงก็แตกหมด อัลโต้มีความฝันที่จะไปเรียนต่อและใช้ชีวิตเป็นนักดนตรีที่ต่างประเทศ แต่แล้ววันหนึ่งความฝันก็ได้หยุดชะงักลง เมื่ออัลโตสอบชิงทุนได้ที่สอง และยังได้รับข่าวร้ายจากซอล (น้องสาวผู้ซึ่งมีความไม่ลงรอยกับพี่ชายเป็นอย่างมาก) ว่าพ่อประสพอุบัติเหตุเสียชีวิต ทำให้อัลโต้ต้องกลับไปบ้านที่เชียงใหม่ เพื่อไปรับช่วงธุรกิจของพ่อ ซึ่งก็คือบาร์แจ๊ส Out of the Blues ที่ที่เป็นจุดศูนย์กลางของเรื่องราวทั้งหมดในซีรีส์นี่เอง

ซีรีส์มีฉากหลังอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีส่วนผสมของวัฒนธรรมและศิลปะร่วมสมัยอย่างลงตัว โดยเชียงใหม่ถือเป็นแหล่งกำเนิดคนดนตรีแถวหน้าหลายๆคนของไทยเรา ที่นึกออกก็เช่น Etc, นิว จิ๋ว, Mild, Polycat, บี้ สุกฤษฎิ์, นท พนายางกูล และอีกมากมาย และเชียงใหม่ยังเป็นที่ๆรวมร้านอาหารและบาร์ที่มีดนตรีสดๆชื่อดังอยู่อีกหลายแห่ง รวมทั้งร้าน North Gate Jazz บาร์แจ๊สชื่อดังที่เป็นหนึ่งในสารตั้งต้นของการสร้างซีรีส์เรื่องนี้ด้วย

ในส่วนของนักแสดง ทางผู้กำกับได้มีการกำหนดสเปกเอาไว้เลยว่านักแสดงหลักทุกคนต้องเป็นคนดนตรีทั้งหมด เพราะฉะนั้น casting ที่ได้มาต้องบอกว่าเป็นเทพในวงการดนตรีบ้านเราจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเล็กอย่าง เก้า จิรายุ ซึ่งมีฝีมือการเล่นกีตาร์ที่ไม่ธรรมดา อีกทั้งยังร้องเพลงได้ดีอีกด้วย, อ๊ะอาย กรณิศ Divaรุ่นเล็ก สมาชิกวง 4EVE ในบท “ซอล” น้องสาวเจ้าอารมณ์ของอัลโต้พระเอกของเรา, มิลลี่ ศิริชฏา หรือ Millie Snow รับบท “ปุย” มือเปียโนของวง ผู้ซึ่งแอบรักอัลโต้มานานแสนนาน (คนนี้คือนักดนตรีมือพระกาฬคนนึงของเมืองไทยเราเลย ลองหาดูคลิปของน้องได้ใน youtube), และคนสุดท้าย พีท พีรพล น้องชายแท้ๆของตู่ ภพธร ในบท “นาย” เพื่อนสนิทของอัลโต้และเป็นมือกลองของวง จะมีก็แค่วาววา ณิชชา นักแสดงหลักคนเดียวที่ไม่ได้เป็นนักดนตรี แต่เป็นตัวละครสำคัญมากๆของเรื่องในบท “ขวัญ” ลูกค้าขาประจำตั้งแต่รุ่นพ่อ ที่มีส่วนสำคัญในการช่วยอัลโต้และซอลในการฟื้นฟูบาร์แจ๊สให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง

ส่วนทีมรุ่นใหญ่ที่ขนกันมาทั้งวงการเพลงนำโดย อิง อชิตะ ในบท “องอาจ” พ่อของอัลโต้และซอล ผู้เป็นเจ้าของบาร์ Out of the Blues, ครูกบ เสาวนิตย์ นักร้องระดับแถวหน้าของเมืองไทยในบท “แม่เมย์” แม่ของอัลโต้และซอล, พี่ปั๋ง ประกาศิต รับบท “น้าหมู” เพื่อนของพ่ออาจ และมือเบสในตำนานของวง และคนสุดท้าย สุดยอดมือกีตาร์แจ๊สอันดับต้นๆของประเทศ แมว จิรศักดิ์ ปานพุ่ม ในบท “อาธนิต” อดีตคู่หูของพ่ออาจที่ผันตัวมาเป็นไม้เบื่อไม้เมากับอัลโต้ นอกจากนี้ ยังมีศิลปินรับเชิญหลายๆคนที่เข้ามาแจมเป็น surprise ในหลายๆตอน

ในภาคดนตรีนั้นได้ทาง Spicy Disc มาดูแลเรียบเรียงเพลงทั้งหมดใหม่ให้เป็นสไตล์แจ๊ส โดยเพลงที่เอามาใช้หลักๆก็เป็นเพลงของทางค่ายนั่นแหละ ซึ่งงานดนตรีในซีรีส์ต้องบอกได้ว่าดีงาม ถือได้ว่าเป็นตัวชูโรงของเรื่องได้เลย เพลงทุกเพลงถูกใส่เข้ามาในจังหวะที่ลงตัว นักแสดงทุกคนถ่ายทอดอารมณ์ในแต่ละบทเพลงออกมาได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเพลงที่เป็นธีมหลักของเรื่องอย่างเพลง “แล้วคงพบกันอีก” ที่ทางทีมผู้สร้างได้หยิบเอาเพลงของ จรัล มโนเพ็ชร ศิลปินผู้เป็นตำนานของเชียงใหม่และของไทยมาทำใหม่ให้มีความเป็นแจ๊สร่วมสมัย เอาว่าแค่ฟังเพลงอย่างเดียวก็คุ้มค่ามากๆแล้ว

Groovin’ On จัดได้ว่าเป็นซีรีส์ feel good มากๆ เนื้อเรื่องอาจจะไม่ได้หวือหวาซับซ้อนอะไร ปมของเรื่องอยู่ที่การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับร้าน Out of the Blues และอุปสรรค์ต่างๆของวง ความสัมพันธ์ของพี่น้อง ครอบครัว เพื่อน ความรักสามเศร้า ซึ่งก็เป็นพล๊อตธรรมดาของละครทั่วๆไป แต่สิ่งที่ผมชอบมากๆก็คือเรื่องเพลง ทั้งเพลงที่นำมาเรียบเรียงและร้องใหม่ ที่ทำได้ดีมากและถูกนำมาใช้ในซีรีส์ได้อย่างถูกจังหวะและเวลา และงานดนตรีประกอบก็ทำได้ลงตัวเช่นกัน งานภาพดี ซีรีส์ถ่ายภาพได้สวย การจัดแสงจัดไฟในร้านสร้างบรรยากาศได้เหมาะกับการฟังดนตรีแจ๊สมากๆ ทีมงานใช้เสน่ห์ของเมืองเชียงใหม่ได้คุ้มค่า หลายๆสถานที่สำคัญถูกใช้เป็นฉากหลังประกอบการเล่าเรื่องได้อย่างเหมาะเจาะ ดูเสร็จแล้วอยากจะจองตั๋วเครื่องบินไปนั่งชิลฟังแจ๊สที่เชียงใหม่สักอาทิตย์นึง

มาถึงส่วนที่ไม่ชอบบ้าง ถ้าไม่นับเรื่องการแสดงที่บางคนยังมีความแข็งอยู่พอสมควร แต่ก็เพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้น ซึ่งพอจะเข้าใจเพราะงานแสดงอาจจะไม่ใช่ทางถนัดเท่ากับการร้องเพลงหรือเล่นดนตรี แต่นี่ก็เป็นเพียงส่วนน้อยมากๆ โดยรวมถือว่าแสดงได้ดี แต่ส่วนที่ผมติด ติดมาจริงๆสำหรับซีรีส์เรื่องนี้คือ กลิ่น Iteawon Class แรงมาก ไม่รู้ว่าเพราะความบังเอิญหรือพล๊อตที่มันคล้ายกัน ระหว่างที่ดูผมไม่สามารถสลัดภาพจำของซีรีส์เกาหลีสุดฮอทเรื่องนี้ได้เลย ทั้งตัวอัลโต้ที่ดูงึมๆคล้ายพัคเซรอย ทีมงานของพระเอกที่ดูออกแนว looser ที่มาช่วยกันกอบกู้ร้านที่กำลังจะเจ๊งให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง เรื่องรักสามเศร้าของพระเอกกับหนึ่งหญิงในทีมและอีกหนึ่งหญิงที่คอยช่วยเหลือพระเอก แม้กระทั่งซีนดาดฟ้า ที่เป็นที่ที่พระเอกมักจะไปยืนปล่อยใจคิดนู่นคิดนี่และเป็นที่ที่เกิดเหตุการณ์หลายๆอย่างที่ส่งผลต่อเนื้อเรื่องก็แทบจะเหมือนกัน ต้องขอยืมเพลงของน้องอิงค์มาซะหน่อย “ก็ไม่รู้เธอเผลอหรือว่าที่จริงแล้วเธอนะตั้งใจ” สำหรับส่วนนี้ แต่ยังไงก็ตาม หากมองข้ามเรื่องนี้ไปได้ ซีรีส์ Groovin’ On จัดว่าเป็นซีรีส์ที่คุ้มค่าแก่การดูมากๆ และอาจจะเป็นซีรีส์ในดวงใจของใครหลายๆคนได้อย่างไม่ยากเลยทีเดียว

Groovin’ On เป็น Original series ของ POPS สตรีมมิ่งแพลตฟอร์มน้องใหม่ มีทั้งหมด 12 ตอน (ออนแอร์ครบทุกตอนแล้ว) ตอนละประมาณ 40 นาที ดูฟรีได้เพลินๆทั้ง 12 ตอน

ล้อมวง rating : ให้ไปเลย 8 คะแนน (ขอหักคะแนนความ Itaewon ไป 1 คะแนน)

ฝากติดตามเพจน้องใหม่ "มาล้อมวงกัน" กด like กด share กดติดตามเป็นกำลังใจให้ผมด้วยครับ
https://www.facebook.com/maajoinme

ชื่อสินค้า:   POPS application
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่