[CR] road trip เที่ยวทะเลใต้ แบบไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็หยุดพัก (EP.1)

สวัสดีค่าาา วันนี้เรากลับมาเจอกันอีกแล้ว คราวนี้เราจะมีรีวิวทริปเที่ยวภาคใต้แบบเต็มๆของเรากันค่ะ คราวที่แล้วตัดส่วนของหมู่เกาะอ่างทองมารีวิวก่อน เพราะเป็นสถานที่ที่ประทับใจที่สุด ซึ่งทริปนี้เราคาดว่าจะไปเที่ยวทั้งหมด 5 จังหวัด ใช้ระยะเวลาทั้งหมด 11 วัน แต่แผนที่แน่นอนเราไม่มี เจอที่ไหนอยากเที่ยวเราก็แวะไปเรื่อยๆ มันก็สนุกดีนะ กับการเดินทางท่องเที่ยวแบบนี้ แต่บางครั้งเราก็ต้องลำบากเพราะความไม่มีแผนของเรานั่นละ แต่ก็ถือว่ามันเป็นการเพิ่มรสชาติของการเดินทาง ได้ประสบการณ์ และความสนุกไปอีกแบบ เอาละเรามาเริ่มออกเดินทางกันเลยดีกว่า

วันออกเดินทางเราตั้งใจไว้ว่าจะออกจากบ้านประมาณ 6 โมงเช้า แบบสายสุดๆ ก็ไม่เกิน 7 โมงเช้า เพื่อจะไปให้ถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไม่เกิน  4 โมงเย็น จะได้ทันไปหาที่ถ่ายรูปดูพระอาทิตย์ตกสวยๆ ที่ชายหาดที่ไหนสักที่ และแล้วพอถึงเช้าวันเดินทาง ทุกอย่างก็เป็นไปตามคาด คือเราตื่นสาย ตื่นมาก็ 7 โมงกว่าแล้ว กว่าจะลุกจากที่นอนได้ กว่าจะเตรียมตัวเสร็จ สรุปว่าเราได้ออกจากบ้านประมาณ 9 โมง แต่ก็ยังไม่เลยแผนการณ์ที่วางไว้ไปเท่าไร (แค่ 2 ชั่วโมงเองงง) พอเราออกจากบ้านซึ่งอยู่แถวสายไหม ปรากฏว่าวันนี้รถติดมาก บนทางด่วนก็ติดแบบสุดๆ เวลาที่วางไว้ก็สายออกไปเรื่อยๆ ความหวังเรื่องนั่งดูพระอาทิตย์ตกน้ำริมชายหาดคงหมดหวัง และเลือนลางไปทุกที เราจึงตั้งแผนกันขึ้นมาใหม่ ว่าคืนนี้หาที่นอนแถวประจวบแล้วกัน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ (แผนเราเปลี่ยนได้เสมอ 555+) เมื่อมีแผนใหม่ที่เราคิดกันมาอย่างดีในเวลาไม่ถึง 1 นาที เราก็มุ่งหน้าฝ่าฟันรถติดกันต่อไป และแล้วเมื่อเราเริ่มหลุดออกจาก กทม. ดินแดนที่เราใช้ชีวิตดีๆ แบบลงตัว รถก็เริ่มเบาบางลงไปบ้าง เราจึงขับรถกันได้สบายขึ้น ระหว่างทางเราก็แวะหาอะไรกินไปเรื่อย เรียกได้ว่าแทบจะแวะเข้าไปกันทุกปั้มน้ำมันเลยทีเดียว ขับไปพักไป ขับกันมาอีกสักพักใหญ่ๆ ก็เลยทางแยกที่จะเข้าเข้าหัวหิน แต่เราไม่ได้เข้า รถก็เริ่มจะไม่มีแล้ว จะมีส่วนใหญ่ก็เป็นรถบรรทุก ทำให้เรามีความหวังกับการไปทันหาที่ดูพระอาทิตย์ตกขึ้นมาอีกครั้ง แต่อีกไม่นานเท่าไรนัก สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นมาอีกครั้ง คือรถติดมาก เรียกได้ว่าติดสลับกับหยุดนิ่งเลยทีเดียว เมื่อรถติดมาได้เกือบๆ 2 กม. เราก็รู้ถึงสาหาเหตุที่รถติด นั่นก็คือมีด่านตรวจอยู่ข้างหน้า ทันทีที่เราขับรถผ่านไปที่ด่านก็โดนเรียกให้จอด และแจ้งว่าเราขับรถเร็วเกินกำหนด ก็เสียค่าปรับกันไปตามระเบียบ 500 บาท หลังจากเสียค่าปรับไปทำให้เราหมดงบในการแวะหาอะไรกินข้างทางแล้ว 555+ ซึ่งข้อดีก็คือทำให้เราถึงจุดหมายได้เร็วขึ้น ประมาณบ่ายสามโมงกว่าๆ เราก็ได้ที่พักในคืนแรกของเรา นั่นก็คือบ้านทางสาย ซึ่งอยู่ที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เราลองแวะเข้าไปดูและเห็นว่าที่นี่บรรยากาศดี เงียบสงบมาก บวกกับยังมีที่ให้เรานอนในคืนนี้ด้วย ต้องบอกก่อนว่าเราไปเที่ยวกันในช่วงวันธรรมดา ไม่ใช่วันหยุด จึงทำให้คนยังน้อย และหาที่พักได้ค่อนข้างง่าย ก่อนเข้าพักเราก็หารีวิวอ่านกันนิดหน่อย จากนั้นเราจึงตกลงพักที่นี่ ในราคาคืนละ 700 บาท/คน รวมอาหารเย็น และอาหารเช้า คืนนี้เราจึงจ่ายค่าที่พักไปทั้งหมด 1,400 บาท และไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารเย็น ที่พักที่นี่เป็นที่พักแบบบ้านไม้ไผ่เป็นหลังๆ ไม่มีแอร์ มีพัดลมให้ 1 ตัว ห้องน้ำในตัว เป็นห้องน้ำแบบ open ไม่มีหลังคา อาบน้ำไปดูดาวไปด้วย ได้บรรยากาศแบบสุดๆ กลางคืนก็อากาศเย็นสบายๆ ได้ลมที่พัดมาจากทะเล เข้ามาทางหน้าต่างที่อยู่ติดที่นอนพอดี แต่ก็มีเหนียวตัวอยู่บ้าง
รูปบ้านพักตอนกลางคืน
รูปภายในและภายนอกห้องพัก
หน้าต่างที่อยู่ริมเตียง
เมื่อจัดการเรื่องที่พักเรียบร้อย เราก็ออกมาเดินเล่นริมชายหาดกัน ชายหาดที่นี่เงียบสงบ แทบจะเป็นหาดส่วนตัวเลย ในที่สุดวันนี้เราก็มาทันดูพระอาทิตย์ตก แต่หาดที่นี่มองไม่เห็นพระอาทิตย์ตก T_T ยังไงก็อดดูอยู่ดี แต่อย่างน้อยก็ได้ถ่ายรูปกับแสงยามเย็นสวยๆ ก็ยังดี เรานั่งสูดอากาศริมทะเล พร้อมทั้งชื่นชมความสวยงามของทะเลในยามเย็น
พระอาทิต์ตกด้านหลังของหาด
เจ้าหมาสองตัวนี้กำลังเล่นน้ำกันอยู่ที่ชายหาด พอเห็นเราสองคนก็รีบวิ่งมาหา ซึ่งเมื่อเรามองดูหมาสองตัวนี่แล้วก็รู้สึกว่าชีวิตน่าอิจฉามาก พอตกเย็นก็ชวนกันออกมาเล่นน้ำกันริมทะเล พอเริ่มใกล้มืดก็พากันเดินเข้าบ้านที่อยู่ใกล้ๆ 
จนเวลาเกือบๆ จะหกโมงเย็น ก็ได้เวลากินข้าวเย็น ตามที่ทางที่พักได้นัดไว้แล้ว เราจึงเดินไปที่ด้านหน้าที่พักตามที่ได้นัดกันไว้ เมื่อพี่เจ้าหน้าที่เห็นเราก็นำรถมอเตอร์ไซต์พ่วงข้างมารับเรา และพาเราไปยังร้านหมูกระทะซึ่งอยู่ห่างจากที่พักประมาณ 5 นาที เมื่อถึงร้านแล้วพี่เค้าก็พาเราเข้าไป และบอกว่าถ้าเสร็จเมื่อไรก็ให้แจ้งพนักงานได้เลย เดี๋ยวมารับกลับ จากนั้นเราก็เริ่มกินกันเต็มที่ ซึงร้านหมูกระทะที่นี้ก็เหมือนร้านหมู่กระทะทั่วๆ ไป ไม่ได้มีอะไรพิเศษ หรือแตกต่างออกไป เมื่ออิ่มเรียบร้อยแล้วทางที่พักก็มารับกลับ หลังจากถึงที่พักเรียบร้อยแล้ว เราก็ทำการอาบน้ำอาบท่ากันเรียบร้อย ก็มานั่งเล่นกันที่ชายหาด เพื่อเสพบรรยากาศตอนค่ำคืนที่เงียบสงบ และฟังเสียงคลื่นของทะเลกันอีกสักพัก ประมาณสามทุ่มเราก็เริ่มง่วงแล้วซึ่งถือว่าวันนี้เราง่วงนอนเร็วมาก ปกติแล้วอยู่บ้านเวลาที่เรานอนเร็วที่สุดก็ประมาณเที่ยงคืน วันนี้เราคงล้าและหมดแรงกับการเดินทาง เราจึงชวนกันเข้านอน ซึ่งคืนนี้การนอนของเราไม่เหมือนกับที่เราเคยนอนมา คือต้องกางมุ้ง และเปิดพัดลมแทนแอร์ ทำให้เรารู้สึกแปลกๆ เพราะว่าไม่คุ้นเคยกับการนอนแบบนี้อยู่บ้าง แต่ก็หลับกันได้อย่างง่ายดาย
เช้านี้เราตื่นกันเกือบๆ แปดโมงเช้า เมื่อตื่นขึ้นมาก็เห็นแสงจากข้างนอกที่รอดเข้ามาตามช่องของไม้ไผ่ เรานอนบิดไปมาบนที่นอนสักพัก ก็ชวนกันลุกขึ้นไปเดินเล่นชายหาดเพื่อเสพบรรยากาศของท้องทะเลยามเช้า  (ความจริงมันสายแล้ว) 
จากนั้นประมาณ 9 โมงเช้าจึงเดินไปทานอาหารเช้าที่ทางที่พักได้เตรียมไว้ให้ เช้านี้ก็มีข้าวต้มหมูสับ โอวัลติล กาแฟ และปลาท่องโก๋ เมื่อเรากินข้าวกันอิ่มเรียบร้อย ก็กลับห้องพักเพื่อเก็บของเตรียมเดินทางต่อ ประมาณ 10 โมงเช้าเราก็ทำการคืนห้องพัก และออกเดินทาง ที่แรกที่เราคิดว่าจะไปต่อก็คือ พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ เนื่องจากว่าตอนที่เราอยู่ที่หาดบ้านทางสายเรามองเห็นวัดนี้อยู่บนยอดเขา และเห็นว่าสวยดี จึงลองหาจากแผนที่ ซึ่งเราขับรถอีกประมาณ 10 นาทีก็ถึง เลยลองแวะไปดู พอแวะไปถึง และเห็นด้านหน้าวัด ปรากฏว่าเราจำได้ว่าวัดนี้เราเคยแวะมาเที่ยวชมแล้วครั้งหนึ่ง เราจึงวนรถออก และตั้งใจที่จะมุ่งหน้าไปยัง จังหวัดชุมพรต่อไป ซึ่งเราก็ตั้งใจไว้ว่าจะไปหาถนนเรียบชายหาดสวยๆ แล้วจอดรถถ่ายรูปเล่นกัน ณ ตรงไหนสักแห่งของจังหวัดชุมพร ระหว่างที่ขับรถไป ก็หาสถานที่ใน google ไปด้วย แล้วก็คิดว่าจะไปที่ถนนเรียบชายหาด  ชพ.4004 ซึ่งต้องขับรถอีกประมาณสองชั่วโมง เมื่อคิดได้ดังนั้นก็มุ่งหน้าไปยังถนน ชพ.4004 ตามเส้นทางบน google map แต่ก็ไม่ค่อยเชื่อ map เท่าไรนัก เพราะเราอยากไปหาสถานที่เที่ยวใหม่ๆ ด้วย เราจึงเลี้ยวรถขับลัดเลาะไปตามถนนชนบท มากกว่าที่จะเชื่อแผนที่บนโทรศัพท์มือถือ และสุดท้ายเราก็หลงทาง ต้องกลับมาเปิดแผนที่ดูอีกครั้ง รอบนี้จากจุดที่เราอยู่ แผนที่เลยพาเราไปทางลัด ซึ่งเป็นถนนลูกลัง ลัดเลาะไปตามสวนปาล์ม ทางค่อนข้างจะไม่เรียบเท่าไร แต่วิวดีมาก แต่ก็ออกจะน่ากลัวสักเล็กน้อย สำหรับแขกผู้มาเยือนอย่างเรา เพราะมองไปแล้วไม่เห็นอะไรเลยนอกจากต้นปาล์ม และก็ดูเหมือนว่าต้องขับต่อไปอีกสิบกว่ากิโลเมตร ถึงจะถึงทางออกที่เป็นถนนลาดยาง เราก็ขับรถกันไปต่อเรื่อยๆ และเมื่อเจอชาวบ้านที่ออกมาดูแลสวนเราก็ถามทางเค้าไปเรื่อยๆ พี่ๆ ชาวบ้านแถวนี้ก็ใจดีบอกทางให้ แต่ก็ทำหน้างงๆ คงคิดว่าเราเข้ามาได้ยังไง จนในที่สุดเราก็ออกมาถึงถนนเรียบชายหาด ตามที่เราตั้งเป้าหมายไว้แต่แรก การหลงทางครั้งนี้ก็ดูน่าตื่นเต้นอยู่สักเล็กน้อย แต่ก็แลกมากับวิวสวนปาล์มเขียวๆ ในแบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ก็ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่า เมื่อเราออกมาสู่ถนนเรียบชายหาดได้ เราก็ขับรถกันไปตามทางเรื่อยๆ เพื่อหาที่สวยๆ นั่งดูวิวกัน ซึ่งก็มีหลายที่อยู่ที่ดูแล้วพอจะเอารถไปจอดข้างทางแล้วนั่งเล่นริมชายหาดได้ แต่ว่าพื้นที่จะเป็นทราย เราก็เลยไม่กล้าที่จะเข้าไปเท่าไรนักเพราะกลัวว่าถ้าเข้าไปแล้วรถจะติดหล่ม แล้วในที่สุดเราก็เห็นป้ายจุดชมวิวแหลมแท่น เราจึงขับรถตามป้ายไปอย่างไม่ลังเล ไม่นานนักเราก็ถึงจุดชมวิวแหลมแท่น ซึ่งตอนนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวเลยแม้แต่คนเดียว เราจึงจอดรถนั่งดูวิว และพักผ่อนกันอยู่ตรงนี้สักพัก และหาเป้าหมายในการเดินทางต่อไป

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
อันนี้เป็นวีดีโอของเราค่ะ เก็บภาพบรรยากาศมาฝากค่ะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ยังไม่จบนะคะ ต่อใน Comment เลยค่าาาา

ตอนต่อไป EP. 2
ตอนต่อไป EP. 3
ตอนต่อไป EP. 4
สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดในทริปนี้
ชื่อสินค้า:   บ้านทางสาย ประจวบคีรีขันธ์
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่