เห็นคนไทยรุ่นเก่าตามต่างจังหวัด นิยมทำการเกษตรเยอะมาก แต่คนไทยรุ่นใหม่กลับแทบไม่มีใครทำการเกษตรกันแล้ว
เราขอยกตัวอย่างตระกูลของเราก็ได้
ตากับยาย เป็นคนอีสาน พื้นเพเป็นชาวไร่ชาวนามาตั้งแต่บรรพบุรุษ
มีลูก 4 คน
(ตากับยายเราเกิดในยุคสงครามโลกครั้งที่2
ส่วนลุงป้าน้าอา เกิดในยุคเจนx)
ตากับยายก็ทำไร่ทำนาส่งเสียเลี้ยงดูลูกทั้ง 4 คน มาโดยตลอด แต่มีกำลังส่งได้แค่ประถม มีคนนึงมีโอกาสจบสูงก็ ม.ปลาย ไม่มีใครจบ ป.ตรี สักคน
ด้วยสภาพสังคมชนบทสมัยนั้น ก็น่าจะเข้าใจกันดี
หลังจากที่ลูกทั้ง 4 คน เรียนจบก็ออกมาทำงานในเมืองใหญ่
เป็นลูกจ้าง รับจ้าง โรงงาน รปภ. แม่บ้าน
ทำงานเรื่อยๆจนสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้ในระดับนึง แล้วก็ออกมาแต่งงานมีลูกมีครอบครัว
จนปัจจุบันนี้ตากับยายเรามีหลานทั้งหมด 9 คน
เราคือ 1 ใน 9
ลุงป้าน้าอาของเราตอนนี้ก็มีกิจการเล็กๆ
(เปิดร้านอาหารตามสั่ง , เพาะพันธุ์ไม้ส่งขาย)
ลูกของตากับยายเราทั้ง 4 คน ปัจจุบันนี้ไม่มีใครทำไร่ทำนาทำสวนกันเลยสักคน
ส่วนรุ่นหลาน ต่างคนต่างก็มีการศึกษาที่สูงขึ้นกว่าคนรุ่นพ่อรุ่นแม่แล้ว
รุ่นหลานทั้ง 9 คน ปัจจุบันนี้ หลายคนจบ ป.ตรี กันไปแล้ว บางส่วนยังเรียนอยู่
-คนนึงทำงานราชการในอำเภอ
-คนนึงเป็นข้าราชครู
-คนนึงเป็นนักเคมีในนิคมฯ
-คนนึงพลาดท้องมีลูกตอนอายุ 18 ปัจจุบันนี้เปิดร้านขายของขนาดเล็กในห้างฯ
-คนนึงทำงานฝ่ายผลิตในนิคมฯ
-คนนึงเทรดหุ้น
ที่เหลือยังเรียนอยู่
สรุปปัจจุบันนี้ หลานทั้ง 9 คน ไม่มีใครเป็นชาวไร่ชาวนาเหมือนคนรุ่นก่อนๆแล้ว
ทั้งๆที่ตากับยายเรามีที่ดินเกือบ 100 ไร่
จากที่เราพูดมาคือตัวอย่างในตระกูลของเรานะ
ครอบครัวคนอื่นๆในต่างจังหวัดภาคอีสานแถวบ้านเรา
โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่แทบไม่มีใครทำไร่ทำสวนเหมือนคนรุ่นก่อนๆแล้ว
เพราะต่างคนต่างมีการศึกษาที่สูงขึ้น
หรือคนแถวบ้านเราหลายคนเรียนจบแค่ ม.3 ม.6
ก็ออกไปทำงานในนิคมอุตสาหกรรมกันก็เยอะ
บางคนก็ทำงานบริการในห้างสรรพสินค้า
คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่เริ่มไม่ทำการเกษตรกันแล้ว
แบบนี้อนาคตประเทศไทยจะเกิดวิกฤตขาดแคลนแรงงานเกษตรไหมครับ แล้วจะเป็นอย่างไร
แล้วอนาคตใครจะมาปลูกข้าว ปลูกผัก ให้เรากิน
คิดว่าอนาคตประเทศไทย จะขาดแคลนแรงงานภาคการเกษตรหรือไม่
เราขอยกตัวอย่างตระกูลของเราก็ได้
ตากับยาย เป็นคนอีสาน พื้นเพเป็นชาวไร่ชาวนามาตั้งแต่บรรพบุรุษ
มีลูก 4 คน
(ตากับยายเราเกิดในยุคสงครามโลกครั้งที่2
ส่วนลุงป้าน้าอา เกิดในยุคเจนx)
ตากับยายก็ทำไร่ทำนาส่งเสียเลี้ยงดูลูกทั้ง 4 คน มาโดยตลอด แต่มีกำลังส่งได้แค่ประถม มีคนนึงมีโอกาสจบสูงก็ ม.ปลาย ไม่มีใครจบ ป.ตรี สักคน
ด้วยสภาพสังคมชนบทสมัยนั้น ก็น่าจะเข้าใจกันดี
หลังจากที่ลูกทั้ง 4 คน เรียนจบก็ออกมาทำงานในเมืองใหญ่
เป็นลูกจ้าง รับจ้าง โรงงาน รปภ. แม่บ้าน
ทำงานเรื่อยๆจนสามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้ในระดับนึง แล้วก็ออกมาแต่งงานมีลูกมีครอบครัว
จนปัจจุบันนี้ตากับยายเรามีหลานทั้งหมด 9 คน
เราคือ 1 ใน 9
ลุงป้าน้าอาของเราตอนนี้ก็มีกิจการเล็กๆ
(เปิดร้านอาหารตามสั่ง , เพาะพันธุ์ไม้ส่งขาย)
ลูกของตากับยายเราทั้ง 4 คน ปัจจุบันนี้ไม่มีใครทำไร่ทำนาทำสวนกันเลยสักคน
ส่วนรุ่นหลาน ต่างคนต่างก็มีการศึกษาที่สูงขึ้นกว่าคนรุ่นพ่อรุ่นแม่แล้ว
รุ่นหลานทั้ง 9 คน ปัจจุบันนี้ หลายคนจบ ป.ตรี กันไปแล้ว บางส่วนยังเรียนอยู่
-คนนึงทำงานราชการในอำเภอ
-คนนึงเป็นข้าราชครู
-คนนึงเป็นนักเคมีในนิคมฯ
-คนนึงพลาดท้องมีลูกตอนอายุ 18 ปัจจุบันนี้เปิดร้านขายของขนาดเล็กในห้างฯ
-คนนึงทำงานฝ่ายผลิตในนิคมฯ
-คนนึงเทรดหุ้น
ที่เหลือยังเรียนอยู่
สรุปปัจจุบันนี้ หลานทั้ง 9 คน ไม่มีใครเป็นชาวไร่ชาวนาเหมือนคนรุ่นก่อนๆแล้ว
ทั้งๆที่ตากับยายเรามีที่ดินเกือบ 100 ไร่
จากที่เราพูดมาคือตัวอย่างในตระกูลของเรานะ
ครอบครัวคนอื่นๆในต่างจังหวัดภาคอีสานแถวบ้านเรา
โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่แทบไม่มีใครทำไร่ทำสวนเหมือนคนรุ่นก่อนๆแล้ว
เพราะต่างคนต่างมีการศึกษาที่สูงขึ้น
หรือคนแถวบ้านเราหลายคนเรียนจบแค่ ม.3 ม.6
ก็ออกไปทำงานในนิคมอุตสาหกรรมกันก็เยอะ
บางคนก็ทำงานบริการในห้างสรรพสินค้า
คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่เริ่มไม่ทำการเกษตรกันแล้ว
แบบนี้อนาคตประเทศไทยจะเกิดวิกฤตขาดแคลนแรงงานเกษตรไหมครับ แล้วจะเป็นอย่างไร
แล้วอนาคตใครจะมาปลูกข้าว ปลูกผัก ให้เรากิน