แคมป์ 0 องศาหน้าภูเขาไฟฟูจิ​ : Fumotoppara Camp Ground ประเทศญี่ปุ่น

People Who Camp x Mt. Fuji
แคมป์ 0 องศาหน้าภูเขาไฟฟูจิที่ Fumotoppara 
ลานกางเต็นท์กว้างใหญ่ที่จะทำให้คุณดูฟูจิซังทั้งวันทั้งคืนแบบเต็มๆตา

สวัสดีครับ เราสองคนเป็นคนไทยที่ทำงานอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น มีงานอดิเรกคือการออกไปท่องเที่ยว ปีนเขา และตั้งแคมป์
ตอนนี้กำลังทำเพจ People Who Camp - Japan ตั้งใจไว้เป็นที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการแคมป์ปิ้งที่ญี่ปุ่น รวมถึงรับพรีออเดอร์สินค้าแคมป์ปิ้งแบรนด์ญี่ปุ่น
ฝากติดตามทาง Facebook Page และ Instagram ด้วยนะครับ ^^

Facebook page: https://www.facebook.com/ppwc.japan
Instagram: https://www.instagram.com/peoplewhocamp_japan

วันนี้ขอนำเสนอแคมป์สุดฮิต Fumotoppara Camp Ground  จ.ชิสึโอกะ แคมป์วิวภูเขาไฟฟูจิยอดฮิตอันดับ 1 ของญี่ปุ่นครับ 

เราขับรถไปจากบ้าน 130 กม. รวมเวลาแวะซื้อของกินที่ซุปเปอร์ ใช้เวลา 3 ชม. ก็ถึงที่หมาย
มาที่ Fumoto ครั้งนี้ รู้สึกว่าเค้าทำดี+จริงจังขึ้นมากๆๆ ประมาณ 3 ปีก่อนผมเคยไปถ่ายรูปตอนกลางคืน
ตอนนั้นยังไม่มีกั้นรั้ว ไม่มีอาคาร Reception และทางเข้าที่จอดรถ อะไรเป็นสัดส่วนขนาดนี้


แคมป์ที่นี่มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล อ่านจากในเนตบอกว่ามีพื้นที่รวม 35ha (35,000ตรม.) กางเต็นท์ได้ถึง 1,500 เต็นท์!!
แต่ด้วยสถานกาณ์โควิด-19 ตอนนี้เค้าจำกัดจำนวนต่อวันอยู่

Facilities ต่างๆ ส่วนซักล้าง, ซิงค์น้ำ มีหลายจุด, ร้านขายของ ฟืน น้ำมัน เตาแก๊สต่างๆพร้อม, ที่ประทับใจที่สุดคือห้องน้ำใหม่มากๆ
เป็นอาคารไม้ เพดานสูง ชักโครกเป็น washlet แบบอุ่นนั่งแล้วไม่มีสะดุ้ง, อ่างล้างมือปูหินอ่อนอย่างดี! ไม่เคยเห็น campsite ที่ห้องน้ำหรูขนาดนี้   
แถมน่าจะวิวดีสุดในประเทศเลยด้วย (เชิญรับชมภาพประกอบ )


ภายในเป็นแบบ Free site คือกางตรงไหนก็ได้ตามใจไม่มีเส้นขีด เราก็ขับวนไปมา เล็งจุดที่คิดว่าดีที่สุด ไม่ใกล้-ไกลฟูจิกับห้องน้ำเกินไป..

วันนี้เราเช็คอากาศมาแล้วว่าสดใสแน่นอน 15-18 องศา ชิลๆ แต่ลืมเช็คลม!!
วันนั้นลมพัดแรงมากกก  กว่าจะกางเต็นท์เสร็จสุดทุลักทุเล กางไปขำไป+กลัวเสาเบี้ยว!
ต้องขึงเชือกตอกสมอกันอย่างแน่นหนา (แอบมองเต็นท์ไกลๆ คือกางไม่เสร็จสักทีกางอยู่ 2 ชม.ได้ สงสารเค้าเบาๆ
บางกลุ่มคือปลิวหลุดไปทั้ง Tarp และเสา เรานั่งๆอยู่ก็มีกลัวว่าอะไรจะพัดมาตกใส่หัวมั้ยนะ)

กางเต็นท์เสร็จ นั่งชมวิวเพลินๆในใจคิดว่า ตรงที่เรานี่แหละ เป๊ะปัง เห็นฟูจิหน้าตรงไม่มีใครบัง มันเลิศสุดแล้ว
แต่พอเดินไปห้องน้ำ มองไปจากหลายๆมุม อ้าว สวยทุกมุมเลย    
คือฟูจิมันใหญ่และเป็นมุมที่สมมาตรมากๆ มันเลยสวยไปหมด สรุปคือคิดไปเอง 555


กว่าจะได้ทำอาหารกลางวันก็ 3โมงกว่าแล้ว รองท้องไปด้วยมันเผา ที่ซื้อเข้ามารอเวลาลมสงบ
เมนูกลางวันเตรียมเส้นสปาเกตตี้มาด้วย แต่อิ่มคาร์บแล้วเลยเปลี่ยนแผนเป็น เบค่อนบรอคโคลี่ +สลัดไข่ต้ม  homemade ทาร์ทาร์ซอสที่พกมาจากบ้าน กินพร้อมชมวิวหลักล้านไปด้วย  


ระหว่างนั่งชมวิวรอเวลาอาหารเย็นมองไปรอบๆ เหมือนงานมอเตอร์โชว์ของเต็นท์หลากหลายยี่ห้อ เพลินตามากก
พอเริ่มเย็นอุณหภูมิก็ลดลงเรื่อยๆ จน 5โมง จาก 10กว่าๆ เหลืออยู่ 7องศา คิดในใจว่าคืนนี้จะรอดมั้ยนะ เพราะอุณหภูมิต่ำสุดคือ 0องศา



ข้าวเย็นทำเสร็จตอนทุ่มกว่าๆ มืดสนิทพอดี เมนูเป็นข้าวแกงกะหรี่เนื้อวากิว+ซุป+สลัด และเบียร์เย็นๆ
อากาศหนาวแบบวางจานถ่ายรูปแป๊ปเดียวข้าวเย็นหมดเลย 



ระหว่างนั่งชิลๆที่ไม่ชิล นอนเล่นอยู่ในเต็นท์ก็คือหนาวโคตรๆ  มีจุดที่คิดในใจว่า ตูมาทำอะไรที่นี่ 55555
(คือมันหนาวมาก จนเค้ามีกฎว่าห้ามติดเครื่องเปิดฮีทเตอร์นอนในรถ เพราะคงมีคนทำเยอะ แต่มี shelter หลังนึงให้อพยพไปนอนได้ถ้าเต็นท์พัง หรือไม่ไหวจริงๆ )

คืนนั้นฟ้าใสดาวสวย เราถ่ายรูปต็นท์กับดาวและฟูจิซังอยู่ถึงประมาณ 5ทุ่มก็เข้านอน ก่อนนอนก็ต้มน้ำเอาใส่ Yutampo ที่เป็นคล้ายๆถุงน้ำร้อนแต่ทำด้วยอลูมีเนียม แล้วเอาใส่ไว้ในถุงนอนเพิ่มความอุ่น



เรานอนไม่ค่อยจะหลับเลยเพราะมัน หนาว มากก !!  เอาตัวเองมาทรมานแท้แท๊ (เสียงสูง) 
เราตื่นตี 4 ครึ่งโผล่หน้ามาปะทะความหนาวและเต็นท์ที่แข็งกรอบ น้ำแข็งเกาะ อุณหภูมิตอนนั้นคือ 2 องศา เพื่อออกมารอพระอาทิตย์ขึ้นหลังฟูจิ ณ เวลา 5.08 น.



รีบต้มน้ำดื่มกาแฟให้ตัวอุ่น แล้วก็เริ่มทำอาหารเช้ากัน เมนูเช้านี้เป็นแซนด์วิชไก่เทริยากิชีส+veganแฮมเบิกชีส+ซุปข้าวโพด และสลัด
พอพระอาทิตย์ขึ้นก็เริ่มอุ่น แฮปปี้รู้สึกกลับมามีชีวิตอีกครั้ง 55 เลยมุดกลับเข้าเต็นท์ไปนอนต่อ (เอ๊ะ)
ทีนี้หลับสนิทต่างกับเมื่อคืนลิบลับเลย ตื่นมาเก็บข้าวของแล้วก็ออกเดินทางกลับ..



ขากลับเราไปแวะเที่ยวอีกนิดหน่อย
ที่แรก Makaino Farm   ขับรถไปแค่ 10นาที เป็นฟาร์มให้เข้าไปเที่ยวได้ มีค่าเข้า 800เยน (เด็ก 500เยน) 
เป็นที่เที่ยวที่เหมาะพาน้องๆหนูๆมาใกล้ชิดสัตว์ สัมผัสธรรมชาติ แนะนำเลยครับ แต่แน่นอนว่าเราไม่ได้เข้า
เพราะจะแวะไปกินซอฟต์ครีมนม ที่เวรี่นม ก็อร่อยแหละ แต่กินแล้วอิ่มเลย 55
ที่ชอบมากกว่าคือชีสเค้ก และ Baumkuchen ที่ซื้อกลับมากินเป็นอาหารเช้าที่บ้าน



อีกที่นึงคือทะเลสาบทานุกิ   ขับรถไปอีก 10นาที ก็ถึงทะเลสาบชื่อน่ารักพ้องเสียงกับตัวทานุกิ (แรคคูน) ที่นี่ก็วิวฟูจิเช่นกัน 
ตรงนี้ก็มีแคมป์ไซต์ที่สวยมากกก ว่าจะมาใหม่ช่วงเดือนหน้า (ถ้าจองได้) ไว้จะมารีวิวให้อ่านนะครับ

 

**ระหว่างขับกลับบังเอิญเจอตอนเค้าปล่อยวัวนมออกมากินหญ้าหน้าฟูจิ!!  เคยเห็นแต่ในรูปแล้วได้มาเจอจริงๆ ไทม์มิ่งพอดิบพอดี รีบจอดข้างทางลงไปถ่ายรัวๆ รุ่นพี่ที่เป็นเซียนฟูจิซังบอกว่าต้องอากาศดีเท่านั้นเค้าถึงจะปล่อยวัวออกมา ถือว่าโชคดีมากก



 จริงๆถ้ามีเวลาแถบนี้ยังเที่ยวรอบๆภูเขาไฟฟูจิได้อีกนานเลย (รอบๆทะเลสาบทั้ง 5) 
แต่เราต้องกลับกันแล้วเพราะมีงานที่รักรอเราอยู่

สรุปค่าใช้จ่าย (เยน) (2คน1คืน)
รถ Times car share 8,800
ประกัน 330 
ระยะทาง 5,168 (323km*16เยน) 
ทางด่วน 2,570+2,640 
Campsite 4,000 
ฟืน2ถุง (ใช้ไม่หมด) 1,000 
อาหารที่เตรียมไป 2,350 
ซุปเปอร์ 870
ขนมและน้ำตอนขากลับ 484
Baumkuchen+Cheesecake ที่ Makaino Farm1,130
Lunch ที่ Makaino Farm 1,940
Soft cream เวรี่นม 450
รวม 31,732 เยน (คนละ4,760บาท) 

Google Location
Fumotoppara Campground
0544-52-2112
https://goo.gl/maps/pDLxwatsusA4DmL8A

Makaino Farm
0544-54-0342
https://goo.gl/maps/UX6eQzqtABpDqZwHA

Lake Tanuki
https://goo.gl/maps/CnZvjKoGqFFhbufs5



ขอบคุณที่ตามอ่านมาจนจบนะครับ
ถ้ามีคำถามหรือข้อสงสัยอะไรเข้ามาพูดคุยและติดตามพวกเราใน Facebook Page หรือ Instagram ได้นะครับ ยิ้ม

Facebook page: https://www.facebook.com/ppwc.japan
Instagram: https://www.instagram.com/peoplewhocamp_japan
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่