สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
• เข้าสู่วงการภาพยนตร์และพบรักกับนางเอกในดวงใจ
จริง ๆ แล้วอาต้อย เศรษฐา รับเล่นภาพยนตร์ตั้งแต่ช่วงยังอยู่ในวง โดยมักจะรับบทสมทบเล็ก ๆ น้อย ๆ มาตั้งแต่หนังเรื่องโทน ส่วนใหญ่พระเอกในยุคนั้นภาพลักษณ์จะเป็นรูปหล่อบึกบึน เศรษฐาที่รูปร่างผอมบางสะโอดสะองจึงถูกวางเพียงพระรองเป็นส่วนใหญ่ แต่ด้วยการแสดงอันสมบทบาท ก็ทำให้เศรษฐาได้รับรางวัลตุ๊กตาทองพระสุรัสวดีรางวัลนักแสดงสมทบฝ่ายชายยอดเยี่ยม จากเรื่อง ฝ้ายแกมแพร (2518) ข้อดีของการรับบทพระรองของเศรษฐานั้น คือการสามารถรับบทบาทอันหลากหลายทั้งบทตลก บทตัวร้าย ไปจนถึงผู้ชายที่แสนดีแต่ผิดหวังในความรัก ทำให้เศรษฐาเป็นที่ต้องการของผู้สร้างที่ต้องการนักแสดงที่มีบทบาทไม่ซ้ำทาง เขาจึงได้ปรากฎตัวในหนังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบทตลกจาก พ่อม่ายทีเด็ด (2520) มนต์รักแม่น้ำมูล (2520) จากหนังรักโรแมนติกอย่าง รักคุณเข้าแล้ว (2520) บทตัวร้ายอย่างบทไอ้จ้อย ศัตรูคู่อาฆาตของไอ้ขวัญ ในหนังรักอมตะ แผลเก่า (2520) หรือหนังที่นำ 2 ศิลปินขวัญใจวัยรุ่นอย่าง เศรษฐา และ ดอน สอนระเบียบ แห่งวง พี.เอ็ม.ไฟว์ มาพบกันในหนัง เก้าล้านหยดน้ำตา (2520) เรียกได้ว่าเศรษฐารับได้ทุกบทบาท ไม่ว่าจะเป็นหนังแนวไหน
แต่มากกว่าที่เศรษฐาจะได้ประสบการณ์ทางการแสดงแล้ว ประสบการณ์ทางหัวใจก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เขาได้รับ เมื่อเขาได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับนางเอกนางฟ้า อย่าง อาเปี๊ยก-อรัญญา นามวงศ์ เขาเริ่มตั้งแต่เป็นตัวประกอบ จนได้เป็นพระเอกประกบคู่กันในหนัง ชื่นรัก (2522) ในยุคนั้นความรักของเศรษฐาเป็นที่กล่าวขวัญในฐานะคนเล็กผู้หมายปองดอกฟ้า เพราะอย่างที่ทราบกันว่า เศรษฐานั้นถึงแม้จะได้รับการต้อนรับในฐานะนักแสดงสมทบยอดฝีมือ แต่เมื่อเทียบชั้นพระเอกแล้วยังคงห่างไกลยิ่งกับสมบัติ เมทะนี ดาราคู่ขวัญคู่จิ้นกับอรัญญา ยิ่งเทียบกันไม่ได้เลย แต่การได้พิชิตใจนางฟ้าอย่างอรัญญาได้ ถือเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ในวงการบันเทิงยุคนั้นเลยทีเดียว โดยอาเปี๊ยกได้เล่าถึงสาเหตุในการตัดสินใจเลือกอาต้อย เพราะอาต้อยเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย และเป็นคนอารมณ์ดี แม้ทั้งสองจะไม่มีพิธีวิวาห์ แต่การอยู่ร่วมกันมานานกว่า 40 ปี ก็เป็นการบ่งชี้ว่า ที่ทำให้ทั้งสองครองรักกันอย่างยาวนานจวบจนปัจจุบัน โดยมีบุตรสาว น้องอีฟ พุทธธิดา เป็นพยานรัก และดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกันเสมอมา
• พิธีกรผู้ริเริ่มล่าฝัน
ความเป็นคนอารมณ์ดี และเป็นผู้ใหญ่ใจดีของวงการบันเทิง ทำให้อาต้อย เศรษฐา ได้รับโอกาสอันหลากหลายในวงการบันเทิง หนึ่งในนั้นคือการเป็นพิธีกรรายการเกมโชว์ ที่อยู่ในช่วงยุคบุกเบิกของวงการทีวีไทย โดยเฉพาะรายการ มาตามนัด รายการเกมโชว์เรตติ้งแรงที่แพร่ภาพทาง ททบ.5 เป็นรายการเกมโชว์ที่ออกอากาศช่วงไพรม์ไทม์ชนกับละครของช่อง 3 และช่อง 7 ได้อย่างสมศักดิ์ศรี เศรษฐาดำเนินรายการร่วมกับ ญาณี จงวิสุทธิ์ จนกลายเป็นพิธีกรคู่ขวัญ เศรษฐา-ญาณี และออกอากาศยาวนานตั้งแต่ปี 2529 จนถึงปี 2537 ถือเป็นหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์เกมโชว์ไทยยุคต้นที่ได้รับการกล่าวขวัญในแง่ของความสนุกและความบันเทิง เช่นเดียวกันกับรายการน่ารักน่าลุ้น รายการเกมโชว์ที่ครองใจคนไทยในช่วงเวลาเช้าวันอาทิตย์ ที่อาต้อย เศรษฐา รับไม้ต่อจาก นิรุตติ์ ศิริจรรยา สร้างความบันเทิงอย่างต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่ปี 2531-2537
เศรษฐาดำเนินรายการอีกหลายรายการ แต่ที่เป็นที่จดจำและกลับมาเป็นที่กล่าวถึงอีกครั้ง คือการเป็นพิธีกรรายการ True Academy Fantasia ปฏิบัติการล่าฝัน การแข่งขันร้องเพลงบวกกับเรียลิตีโชว์ที่เป็นกระแสในยุคนั้น ภาพลักษณ์ของบุคคลผู้ผ่านวงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน และการเป็นคุณลุงใจดี ทำให้อาต้อย เศรษฐา กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง โดยเศรษฐาเป็นพิธีกรบนเวทีโชว์มาอย่างยาวนานตั้งแต่ AF1 จนถึง AF12 จนเป็นหนึ่งในตำนานผู้บุกเบิกกระแสเรียลิตีโชว์อีกคน
• แม้โรคร้ายรุมเร้า_แต่ยังส่งผ่านกำลังใจไม่สิ้นสุด
อีกหนึ่งบทบาทที่สำคัญของเศรษฐาคือการเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ มูลนิธิสวัสดิการนักแสดงอาวุโส ที่ช่วยเหลือและดูแลศิลปินสูงอายุมากมาย และจัดกิจกรรมสานต่อเจตนารมณ์เพื่อเอาใจใส่นักแสดงที่ย่างก้าวเข้าสู่วัยชรามาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา
และด้วยระยะเวลายาวนานบนหนทางแห่งวงการบันเทิง เศรษฐาได้รับรางวัล ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทย-สากล) ในปี 2554 เพื่อเชิดชูคุณงามความดีและการสร้างสรรค์ผลงานให้กับวัฒนธรรมบันเทิงไทยที่เศรษฐามอบให้ตลอดมา
แม้ในปัจจุบัน อาต้อย เศรษฐาที่ส่งต่อกำลังใจให้กับศิลปินทุกยุคทุกสมัยมาอย่างยาวนานกำลังรักษาตัวจากโรคร้ายไม่ว่าจะเป็นมะเร็งปอดที่ตรวจเจอในปี 2562 และปัจจุบันที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 และกำลังอยู่ในการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดจากทางการแพทย์
เพราะชีวิตที่ผ่านเรื่องราวที่ไม่น่าเป็นไปได้มาตลอดในวงการบันเทิง ผู้ชายคนนี้เป็นหนึ่งในผู้สร้างวัฒนธรรมป็อปสู่ประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการริเริ่มวงสตริงคอมโบให้คนไทยได้รู้จักดนตรีไทย-สากล / ได้อยู่ในหน้าประวัติศาสตร์การเปลี่ยนผ่านของยุคภาพยนตร์ไทย จาก 16 มม. สู่ 35 มม. / ได้เป็นวงดนตรีที่ทำซาวนด์แทร็กประกอบหนัง และโกอินเตอร์อย่างเป็นทางการ / เป็นพิธีกรที่สร้างรอยยิ้มและความประทับใจมาตลอด สำหรับผู้ชายที่ชื่อ เศรษฐา ศิระฉายา แล้ว ไม่มีคำว่า “เป็นไปไม่ได้” ในหนทางชีวิตของเขาเลยสักครั้งเดียว เราจึงขอส่งใจให้อาต้อย เศรษฐาหายจากโรคร้ายและกลับมาแข็งแรงโดยเร็ววัน
เรื่อง : สกก์บงกช ขันทอง
ขอขอบพระคุณบทความจาก The people
จริง ๆ แล้วอาต้อย เศรษฐา รับเล่นภาพยนตร์ตั้งแต่ช่วงยังอยู่ในวง โดยมักจะรับบทสมทบเล็ก ๆ น้อย ๆ มาตั้งแต่หนังเรื่องโทน ส่วนใหญ่พระเอกในยุคนั้นภาพลักษณ์จะเป็นรูปหล่อบึกบึน เศรษฐาที่รูปร่างผอมบางสะโอดสะองจึงถูกวางเพียงพระรองเป็นส่วนใหญ่ แต่ด้วยการแสดงอันสมบทบาท ก็ทำให้เศรษฐาได้รับรางวัลตุ๊กตาทองพระสุรัสวดีรางวัลนักแสดงสมทบฝ่ายชายยอดเยี่ยม จากเรื่อง ฝ้ายแกมแพร (2518) ข้อดีของการรับบทพระรองของเศรษฐานั้น คือการสามารถรับบทบาทอันหลากหลายทั้งบทตลก บทตัวร้าย ไปจนถึงผู้ชายที่แสนดีแต่ผิดหวังในความรัก ทำให้เศรษฐาเป็นที่ต้องการของผู้สร้างที่ต้องการนักแสดงที่มีบทบาทไม่ซ้ำทาง เขาจึงได้ปรากฎตัวในหนังมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบทตลกจาก พ่อม่ายทีเด็ด (2520) มนต์รักแม่น้ำมูล (2520) จากหนังรักโรแมนติกอย่าง รักคุณเข้าแล้ว (2520) บทตัวร้ายอย่างบทไอ้จ้อย ศัตรูคู่อาฆาตของไอ้ขวัญ ในหนังรักอมตะ แผลเก่า (2520) หรือหนังที่นำ 2 ศิลปินขวัญใจวัยรุ่นอย่าง เศรษฐา และ ดอน สอนระเบียบ แห่งวง พี.เอ็ม.ไฟว์ มาพบกันในหนัง เก้าล้านหยดน้ำตา (2520) เรียกได้ว่าเศรษฐารับได้ทุกบทบาท ไม่ว่าจะเป็นหนังแนวไหน
แต่มากกว่าที่เศรษฐาจะได้ประสบการณ์ทางการแสดงแล้ว ประสบการณ์ทางหัวใจก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เขาได้รับ เมื่อเขาได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับนางเอกนางฟ้า อย่าง อาเปี๊ยก-อรัญญา นามวงศ์ เขาเริ่มตั้งแต่เป็นตัวประกอบ จนได้เป็นพระเอกประกบคู่กันในหนัง ชื่นรัก (2522) ในยุคนั้นความรักของเศรษฐาเป็นที่กล่าวขวัญในฐานะคนเล็กผู้หมายปองดอกฟ้า เพราะอย่างที่ทราบกันว่า เศรษฐานั้นถึงแม้จะได้รับการต้อนรับในฐานะนักแสดงสมทบยอดฝีมือ แต่เมื่อเทียบชั้นพระเอกแล้วยังคงห่างไกลยิ่งกับสมบัติ เมทะนี ดาราคู่ขวัญคู่จิ้นกับอรัญญา ยิ่งเทียบกันไม่ได้เลย แต่การได้พิชิตใจนางฟ้าอย่างอรัญญาได้ ถือเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ในวงการบันเทิงยุคนั้นเลยทีเดียว โดยอาเปี๊ยกได้เล่าถึงสาเหตุในการตัดสินใจเลือกอาต้อย เพราะอาต้อยเป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย และเป็นคนอารมณ์ดี แม้ทั้งสองจะไม่มีพิธีวิวาห์ แต่การอยู่ร่วมกันมานานกว่า 40 ปี ก็เป็นการบ่งชี้ว่า ที่ทำให้ทั้งสองครองรักกันอย่างยาวนานจวบจนปัจจุบัน โดยมีบุตรสาว น้องอีฟ พุทธธิดา เป็นพยานรัก และดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกันเสมอมา
• พิธีกรผู้ริเริ่มล่าฝัน
ความเป็นคนอารมณ์ดี และเป็นผู้ใหญ่ใจดีของวงการบันเทิง ทำให้อาต้อย เศรษฐา ได้รับโอกาสอันหลากหลายในวงการบันเทิง หนึ่งในนั้นคือการเป็นพิธีกรรายการเกมโชว์ ที่อยู่ในช่วงยุคบุกเบิกของวงการทีวีไทย โดยเฉพาะรายการ มาตามนัด รายการเกมโชว์เรตติ้งแรงที่แพร่ภาพทาง ททบ.5 เป็นรายการเกมโชว์ที่ออกอากาศช่วงไพรม์ไทม์ชนกับละครของช่อง 3 และช่อง 7 ได้อย่างสมศักดิ์ศรี เศรษฐาดำเนินรายการร่วมกับ ญาณี จงวิสุทธิ์ จนกลายเป็นพิธีกรคู่ขวัญ เศรษฐา-ญาณี และออกอากาศยาวนานตั้งแต่ปี 2529 จนถึงปี 2537 ถือเป็นหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์เกมโชว์ไทยยุคต้นที่ได้รับการกล่าวขวัญในแง่ของความสนุกและความบันเทิง เช่นเดียวกันกับรายการน่ารักน่าลุ้น รายการเกมโชว์ที่ครองใจคนไทยในช่วงเวลาเช้าวันอาทิตย์ ที่อาต้อย เศรษฐา รับไม้ต่อจาก นิรุตติ์ ศิริจรรยา สร้างความบันเทิงอย่างต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่ปี 2531-2537
เศรษฐาดำเนินรายการอีกหลายรายการ แต่ที่เป็นที่จดจำและกลับมาเป็นที่กล่าวถึงอีกครั้ง คือการเป็นพิธีกรรายการ True Academy Fantasia ปฏิบัติการล่าฝัน การแข่งขันร้องเพลงบวกกับเรียลิตีโชว์ที่เป็นกระแสในยุคนั้น ภาพลักษณ์ของบุคคลผู้ผ่านวงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน และการเป็นคุณลุงใจดี ทำให้อาต้อย เศรษฐา กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง โดยเศรษฐาเป็นพิธีกรบนเวทีโชว์มาอย่างยาวนานตั้งแต่ AF1 จนถึง AF12 จนเป็นหนึ่งในตำนานผู้บุกเบิกกระแสเรียลิตีโชว์อีกคน
• แม้โรคร้ายรุมเร้า_แต่ยังส่งผ่านกำลังใจไม่สิ้นสุด
อีกหนึ่งบทบาทที่สำคัญของเศรษฐาคือการเป็นหนึ่งในคณะกรรมการ มูลนิธิสวัสดิการนักแสดงอาวุโส ที่ช่วยเหลือและดูแลศิลปินสูงอายุมากมาย และจัดกิจกรรมสานต่อเจตนารมณ์เพื่อเอาใจใส่นักแสดงที่ย่างก้าวเข้าสู่วัยชรามาอย่างยาวนานนับตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา
และด้วยระยะเวลายาวนานบนหนทางแห่งวงการบันเทิง เศรษฐาได้รับรางวัล ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทย-สากล) ในปี 2554 เพื่อเชิดชูคุณงามความดีและการสร้างสรรค์ผลงานให้กับวัฒนธรรมบันเทิงไทยที่เศรษฐามอบให้ตลอดมา
แม้ในปัจจุบัน อาต้อย เศรษฐาที่ส่งต่อกำลังใจให้กับศิลปินทุกยุคทุกสมัยมาอย่างยาวนานกำลังรักษาตัวจากโรคร้ายไม่ว่าจะเป็นมะเร็งปอดที่ตรวจเจอในปี 2562 และปัจจุบันที่ตรวจพบเชื้อโควิด-19 และกำลังอยู่ในการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดจากทางการแพทย์
เพราะชีวิตที่ผ่านเรื่องราวที่ไม่น่าเป็นไปได้มาตลอดในวงการบันเทิง ผู้ชายคนนี้เป็นหนึ่งในผู้สร้างวัฒนธรรมป็อปสู่ประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการริเริ่มวงสตริงคอมโบให้คนไทยได้รู้จักดนตรีไทย-สากล / ได้อยู่ในหน้าประวัติศาสตร์การเปลี่ยนผ่านของยุคภาพยนตร์ไทย จาก 16 มม. สู่ 35 มม. / ได้เป็นวงดนตรีที่ทำซาวนด์แทร็กประกอบหนัง และโกอินเตอร์อย่างเป็นทางการ / เป็นพิธีกรที่สร้างรอยยิ้มและความประทับใจมาตลอด สำหรับผู้ชายที่ชื่อ เศรษฐา ศิระฉายา แล้ว ไม่มีคำว่า “เป็นไปไม่ได้” ในหนทางชีวิตของเขาเลยสักครั้งเดียว เราจึงขอส่งใจให้อาต้อย เศรษฐาหายจากโรคร้ายและกลับมาแข็งแรงโดยเร็ววัน
เรื่อง : สกก์บงกช ขันทอง
ขอขอบพระคุณบทความจาก The people
แสดงความคิดเห็น
"เศรษฐา ศิระฉายา" กับเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ ของชีวิตในวงการบันเทิง