สวัสดีสาวกนักกินทุกท่าน ถ้าพูดถึงบุฟเฟ่ต์สุกี้ญี่ปุ่น ร้าน Mo Mo Paradise ก็น่าจะเป็นร้านแรกๆที่ผุดขึ้นมาในหัวของหลายๆคน
และร้านดังกล่าวนี้ก็ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติของเนื้อและความเข้มข้นกลมกล่อมของน้ำซุปมาแต่ไหนแต่ไร ซึ่งกว่าตัวผมนั้นว่าจะลองหลายครั้งแล้ว
แต่ไม่ได้มีโอกาสเสียทีก็เพราะไปโดนสิ่งยั่วยุจากร้านอื่นๆเข้าเสียก่อน จนมาวันนี้ เพื่อนที่กลับจากต่างจังหวัดอยากกินบุฟเฟ่ต์พวกต้มๆ
ก็เลยได้ฤกษ์มาจัดร้านในตำนานนี้แหละ
ที่จริงผมกะจะกินที่สาขาเซ็นทรัลเวิร์ลแต่ด้วยจำนวนคิวที่ล้นร้าน จึงต้องถอยทัพมากินที่สาขา เดอะมาร์เก็ต ห้างใกล้ๆกันที่คนน้อยกว่า(แต่ก็ไม่นานหลังจากที่เข้าร้าน คนก็แน่นจนเต็ม)
ซึ่งการกินอาหารร้านนี้ แม้จะเป็นแนวสุกี้-ชาบูที่ดูเหมือนจะง่ายๆ และมีเมนูไม่มาก แต่ที่จริงนั้นมันอีกอะไรซับซ้อนกว่านั้นเยอะ ซึ่งก็เยอะพอที่จะทำให้ผมและเพื่อนพากันมองหน้าด้วยความก่งก๊ง ซึ่งก็โชคดีที่พนักงานของร้านคอยมาอธิบายเรื่องการกินต่างๆให้ ซึ่งผมก็จะรีวิวให้ฟังคราวๆตามนี้
ทางร้านมีบุฟเฟ่ต์ราคาเดียวนั่นคือ 560 บาท บวกค่าบริการอะไรแล้วก็ตกที่ 616 บาทต่อหัว ราคานี้รวมน้ำรีฟิลและของหวานแล้ว โดยเราจะสามารถเลือกน้ำซุปได้ 2 น้ำต่อ 1 หม้อ จากทั้งหมด 4 น้ำ ซึ่งรสที่ยอดนิยมที่สุดก็คือ สุกี้น้ำดำ กับชาบูน้ำใส อาหารดิบและไข่ไก่นั้นสั่งเอาที่พนักงาน
เขาจะยกมาให้ ส่วนพวกผัก น้ำจิ้ม ก็ตักเอาที่ สเตชั่น
หลังจ่กไปตักน้ำจิ้มและน้ำดื่ม กลับมาอาหารก็วางที่โต๊ะแล้ว พร้อมกับ ถ้วยกระเบื้องจานใหญ่ กับ ไหสีดำและน้ำตาลอย่างละสอง ซึ่งก็เหมือนเดิม เรียกพนักงานให้มาไกด์ เพื่อที่จะได้กินอย่างถูกต้องและอร่อยที่สุด
ไหสีดำนี้คือ น้ำซุปสุกี้ดำ เอาไว้เติมซุปในหม้อ และ น้ำเปล่าเพื่อไว้เจือจาง ซึ่งเนื้อที่จุ่มกินกับซุปสุกี้นี้ ไม่ต้องไปจิ้มกับซอสอื่นๆ
เพียงแค่จุ่มกับไข่ดิบแล้วยัดเข้าปากก็ฟินได้ยาวๆ
ส่วนไหสีน้ำตาลเป็น น้ำจิ้มพอนสึ กับ งา โดยพอนสึนั้นถ้าจะให้ดี น้องเขาแนะนำให้ ผสมกับขิงดองเปรี้ยว(ไอ้ผงสีชมพูอมแดงน่ะ)กับหอมสับ
จะได้ซอสเปรี้ยวรสนัวๆ ส่วนน้ำจิ้มงาก็ผสมกับกระเทียมก็จิ้มเนื้อกินได้แล้ว
และก็ยังมีโชยุหวานซึ่ง เอามาผสมพริกกระเทียมจิ้มกินกับเนื้อก็ได้ หรืออย่างที่นักกินหลายๆท่านเขาจะนิยมเอามาทำไข่ดองซีอิ๊วนั่นแล ซึ่งผมเองก็ทำตามนะ แต่รสชาติซอสมันค่อนข้างหนักเกินจนกลบความมันของไข่หมดอ่ะ
ไข่แดงลูกโตๆข้นๆ ไม่ได้ถ่ายตอนผสมซีอิ๊วนะ แต่ไม่ว่าจะผสมรึไม่ผสมก็กินกับเนื้อได้อร่อยพอๆกัน
หน้าค่าตาของเหล่าน้ำจิ้มที่ผสมเสร็จแล้ว
สาธยายมาพอควรละ มาลองชิมเนื้อกันเลยดีกว่า เริ่มจาก ไก่ไม้ไผ่ หรือที่เรารู้จักก็ ไก่เด้งนั่นแหละ รสชาติหลังจากลวกน้ำชาบู
ต่อให้ไม่จิ้มกับอะไรก็อร่อยเข้มแล้วนะ แต่ถ้ายิ่งไปลวกในซุปดำ หรือ น้ำจิ้มอื่นๆก็ยิ่งจะชูรสมากขึ้นไปอีก เด็ดตั้งแต่ชิ้นแรกเลย
สมแล้วที่เป็นร้านสุกี้ในตำนาน
มากินโมโม่ ก็ต้องเน้นหนักที่เนื้อ!! อันนี้ เนื้อยูเอสแองกัส ติดมันย่องๆสวยงาม เนื้อนุ่มและคุณภาพดี ลวกในน้ำดำแล้วจุ่มไข่อร่อยเหาะ
แต่แอบเศร้าหน่อยตรงนี้รสมันของวัวแทบไม่มี
ส่วนเนื้อออสเตรเลีย รสชาติอร่อยใช้ได้ มันวัวเจือจางกว่าแองกัสอีก บางชิ้นค่อนข้างจะแห้งๆไปหน่อยด้วย
สันคอหมูดำ อันนี้ถือว่ายอดเยี่ยมเลย เนื้อนุ่มมาก เด้งๆในลิ้น จิ้มกินกับอะไรก็อร่อยไปหมด แต่ถ้าจะให้เด็ดสุด ต้องจิ้มกับลวกในซุปชาบูแล้วจิ้มน้ำจิ้มงา
จะช่วยชูรสความหวานมันขึ้นมาก
สามชั้นหมู นี่คือเป้าหมายของการมากินชาบูในทุกๆครั้งของผม ไม่มีอะไรดีไปกว่า สามชั้นนุ่มๆ มันบางๆกลมกล่อม อีกแล้ว
โดยเฉพาะสามชั้นร้านนี้ คุณภาพเนื้อดีเยี่ยม
เนื้อเป็ด รสชาติเหมือนเป็ดพะโล้ที่รสชาติจางๆ ส่วนตัวแล้ว กินคู่กับพอนสึลงตัวที่สุด
สามชั้นอร่อยๆ
ฝั่งน้ำดำแห้งอย่างไว ต้องคอยเติมน้ำ
เนื้อวัวแม้จะแห้ง แต่ลวกกับซุปสุกี้ แล้วจุ่มไข่แล้วคีบกินหลายชิ้น อร่อยนัวข้นมาก
ฟาดเนื้อจนเอียนแล้ว ก็ต่อกันด้วยของหวาน ซึ่งของหวานที่นี่ก็เป็นที่เลื่องชื่อเช่นกัน โดยเฉพาะไอศครีม มาคราวนี้ก็พลาดไม่ได้
ลองมันทุกรสไปเลย (ยกเว้นมะม่วงเพราะหมด)
รสข้าวญี่ปุ่น รสชาติเหมือนนมถั่วเหลือง มันๆแอบจืดไปนิด ผมว่าธรรมดานะ
รสชาโคล ออกมันนม ได้รสสัมผัสสากที่ลิ้นและรสถ่านจางๆ
รสชาเขียว ข้นๆหวานๆกำลังดี รสชาเข้มไม่มากนัก อันนี้แจ่มสุด
เซอร์เบตบ๊วย รสเปรี้ยวและเค็มสดชื่นลงตัว เด็ดรองจากชาเขียว
ต่อด้วย ไดฟุกุ ที่ผมชื่นชอบ มี 4 รส จัดหมดเลยรสละลูก ไดฟุกุร้านนี้เด่นที่กลิ่นและเนื้อสัมผัสเด้งหนืด
ไส้ถั่วแดง รสชาติก็ไม่ว้าวมาก
ไส้คัสตาร์ด หอมหวานมากๆ คล้ายน้ำดอกไม้ในขนมไทยเลย
ไส้ชาเขียว ก็รสเข้มข้นและหอมพอๆกับคัสตาร์ด
ไส้สตรอเบอรี่ เปรี้ยวอมหวานกำลังพอเหมาะ และกลิ่นหอมเช่นกัน
ตัดเกรด
รสชาติอาหาร : *****
หมูอร่อยและคุณภาพดีสุดๆ เนื้อก็ดีแต่รสชาติยังไม่ถึง ที่เด็ดสุดก็เห็นจะเป็นน้ำซุปดำ แค่ลวกให้สุกพอเหมาะ จุ่มไข่สดๆ
ก็ได้รสชาติของชาบูขนาดแท้ ส่วนของหวานนั้น ไดฟุกุแป้งหนึบดี ไอศครีมรสชาเข้มดีมาก
อร่อยมากสุด : หมูสามชั้น
งานดีมากๆสำหรับ สามชั้นลวกของที่นี่ จุ่มน้ำซุปดำยิ่งอร่อยบรรลือโลกกันเลย
อร่อยน้อยสุด : ไอศครีมข้าวญี่ปุ่น
เหมือนกินไอศครีมนมถั่วเหลืองจืดๆ ไร้กลิ่นและเนื้อสัมผัสอื่น
บรรยากาศในร้าน : ****
นับว่ากว้างขวางพอดู ที่นั่งนั่งสบาย เข้าออกง่าย ไม่คับแคบ ติดตรงสเตชั่นน้ำจิ้มกับน้ำรีฟิลอยู่ตรงทางเดินตรงกลางร้านพอดี เลยดูวุ่นวายหน่อยๆ
การบริการ : *****
บริการดีสุดๆ จัดลำดับคิวได้ดี แนะนำเรื่องอาหารได้ละเอียดยิบ และเสิร์ฟอาหารครบถ้วนรวดเร็ว
ความหลากหลาย : **
ได้น้อยไปตามสภาพครับ เพราะร้านนี้เน้นชาบูล้วนๆ ยังดีที่มีของหวานหลากรสมาเสริม ลดความจำเจไปได้บ้าง
ราคา : ***1/2
ราคาพอจับต้องได้ แพงตามมาตรฐานร้านชาบูคุณภาพดี
การเข้าถึง : *****
ร้านอยู่ชั้น 3 ฝั่งด้านหน้าห้าง เพียงแค่ขึ้นบันไดเลื่อนไปก็เจอเลย
ความคุ้มค่า : *****
ด้วยราคานี้ แลกกับความอร่อยกลมกล่อมของชาบูญี่ปุ่นแท้ๆ คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปเป็นที่สุด เข้าใจเลยว่าทำไมคนถึงมากันเยอะ ขนาดว่า
มายังห้างที่ร้างๆอย่าง The Market นี้แล้วก็ยังมีคนต่อคิวเยอะอยู่ดี ใครที่จะตามมากินก็ เอาสักรอบบ่ายวันธรรมดาก็ดีครับ
ภาพรวม : ****1/2
ก่อนจากขอฝาก
เพจรีวิวของกระผมเอาไว้สักเล็กน้อย แวะเข้าชมกันได้ครับ ขอบพระคุณที่ติดตามอ่านกัน ขอให้แฮปปี้อิ่มพุงกันถ้วนหน้าครับ
[CR] BufFeast Review : "Mo Mo Paradise" ยืนหนึ่งเรื่องซุปสุกี้ เข้มข้นอร่อยเข้าเนื้อ @เดอะ มาร์เกต แบงคอก
และร้านดังกล่าวนี้ก็ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติของเนื้อและความเข้มข้นกลมกล่อมของน้ำซุปมาแต่ไหนแต่ไร ซึ่งกว่าตัวผมนั้นว่าจะลองหลายครั้งแล้ว
แต่ไม่ได้มีโอกาสเสียทีก็เพราะไปโดนสิ่งยั่วยุจากร้านอื่นๆเข้าเสียก่อน จนมาวันนี้ เพื่อนที่กลับจากต่างจังหวัดอยากกินบุฟเฟ่ต์พวกต้มๆ
ก็เลยได้ฤกษ์มาจัดร้านในตำนานนี้แหละ
ที่จริงผมกะจะกินที่สาขาเซ็นทรัลเวิร์ลแต่ด้วยจำนวนคิวที่ล้นร้าน จึงต้องถอยทัพมากินที่สาขา เดอะมาร์เก็ต ห้างใกล้ๆกันที่คนน้อยกว่า(แต่ก็ไม่นานหลังจากที่เข้าร้าน คนก็แน่นจนเต็ม)
ซึ่งการกินอาหารร้านนี้ แม้จะเป็นแนวสุกี้-ชาบูที่ดูเหมือนจะง่ายๆ และมีเมนูไม่มาก แต่ที่จริงนั้นมันอีกอะไรซับซ้อนกว่านั้นเยอะ ซึ่งก็เยอะพอที่จะทำให้ผมและเพื่อนพากันมองหน้าด้วยความก่งก๊ง ซึ่งก็โชคดีที่พนักงานของร้านคอยมาอธิบายเรื่องการกินต่างๆให้ ซึ่งผมก็จะรีวิวให้ฟังคราวๆตามนี้
ทางร้านมีบุฟเฟ่ต์ราคาเดียวนั่นคือ 560 บาท บวกค่าบริการอะไรแล้วก็ตกที่ 616 บาทต่อหัว ราคานี้รวมน้ำรีฟิลและของหวานแล้ว โดยเราจะสามารถเลือกน้ำซุปได้ 2 น้ำต่อ 1 หม้อ จากทั้งหมด 4 น้ำ ซึ่งรสที่ยอดนิยมที่สุดก็คือ สุกี้น้ำดำ กับชาบูน้ำใส อาหารดิบและไข่ไก่นั้นสั่งเอาที่พนักงาน
เขาจะยกมาให้ ส่วนพวกผัก น้ำจิ้ม ก็ตักเอาที่ สเตชั่น
หลังจ่กไปตักน้ำจิ้มและน้ำดื่ม กลับมาอาหารก็วางที่โต๊ะแล้ว พร้อมกับ ถ้วยกระเบื้องจานใหญ่ กับ ไหสีดำและน้ำตาลอย่างละสอง ซึ่งก็เหมือนเดิม เรียกพนักงานให้มาไกด์ เพื่อที่จะได้กินอย่างถูกต้องและอร่อยที่สุด
ไหสีดำนี้คือ น้ำซุปสุกี้ดำ เอาไว้เติมซุปในหม้อ และ น้ำเปล่าเพื่อไว้เจือจาง ซึ่งเนื้อที่จุ่มกินกับซุปสุกี้นี้ ไม่ต้องไปจิ้มกับซอสอื่นๆ
เพียงแค่จุ่มกับไข่ดิบแล้วยัดเข้าปากก็ฟินได้ยาวๆ
ส่วนไหสีน้ำตาลเป็น น้ำจิ้มพอนสึ กับ งา โดยพอนสึนั้นถ้าจะให้ดี น้องเขาแนะนำให้ ผสมกับขิงดองเปรี้ยว(ไอ้ผงสีชมพูอมแดงน่ะ)กับหอมสับ
จะได้ซอสเปรี้ยวรสนัวๆ ส่วนน้ำจิ้มงาก็ผสมกับกระเทียมก็จิ้มเนื้อกินได้แล้ว
และก็ยังมีโชยุหวานซึ่ง เอามาผสมพริกกระเทียมจิ้มกินกับเนื้อก็ได้ หรืออย่างที่นักกินหลายๆท่านเขาจะนิยมเอามาทำไข่ดองซีอิ๊วนั่นแล ซึ่งผมเองก็ทำตามนะ แต่รสชาติซอสมันค่อนข้างหนักเกินจนกลบความมันของไข่หมดอ่ะ
ไข่แดงลูกโตๆข้นๆ ไม่ได้ถ่ายตอนผสมซีอิ๊วนะ แต่ไม่ว่าจะผสมรึไม่ผสมก็กินกับเนื้อได้อร่อยพอๆกัน
หน้าค่าตาของเหล่าน้ำจิ้มที่ผสมเสร็จแล้ว
สาธยายมาพอควรละ มาลองชิมเนื้อกันเลยดีกว่า เริ่มจาก ไก่ไม้ไผ่ หรือที่เรารู้จักก็ ไก่เด้งนั่นแหละ รสชาติหลังจากลวกน้ำชาบู
ต่อให้ไม่จิ้มกับอะไรก็อร่อยเข้มแล้วนะ แต่ถ้ายิ่งไปลวกในซุปดำ หรือ น้ำจิ้มอื่นๆก็ยิ่งจะชูรสมากขึ้นไปอีก เด็ดตั้งแต่ชิ้นแรกเลย
สมแล้วที่เป็นร้านสุกี้ในตำนาน
มากินโมโม่ ก็ต้องเน้นหนักที่เนื้อ!! อันนี้ เนื้อยูเอสแองกัส ติดมันย่องๆสวยงาม เนื้อนุ่มและคุณภาพดี ลวกในน้ำดำแล้วจุ่มไข่อร่อยเหาะ
แต่แอบเศร้าหน่อยตรงนี้รสมันของวัวแทบไม่มี
ส่วนเนื้อออสเตรเลีย รสชาติอร่อยใช้ได้ มันวัวเจือจางกว่าแองกัสอีก บางชิ้นค่อนข้างจะแห้งๆไปหน่อยด้วย
สันคอหมูดำ อันนี้ถือว่ายอดเยี่ยมเลย เนื้อนุ่มมาก เด้งๆในลิ้น จิ้มกินกับอะไรก็อร่อยไปหมด แต่ถ้าจะให้เด็ดสุด ต้องจิ้มกับลวกในซุปชาบูแล้วจิ้มน้ำจิ้มงา
จะช่วยชูรสความหวานมันขึ้นมาก
สามชั้นหมู นี่คือเป้าหมายของการมากินชาบูในทุกๆครั้งของผม ไม่มีอะไรดีไปกว่า สามชั้นนุ่มๆ มันบางๆกลมกล่อม อีกแล้ว
โดยเฉพาะสามชั้นร้านนี้ คุณภาพเนื้อดีเยี่ยม
เนื้อเป็ด รสชาติเหมือนเป็ดพะโล้ที่รสชาติจางๆ ส่วนตัวแล้ว กินคู่กับพอนสึลงตัวที่สุด
สามชั้นอร่อยๆ
ฝั่งน้ำดำแห้งอย่างไว ต้องคอยเติมน้ำ
เนื้อวัวแม้จะแห้ง แต่ลวกกับซุปสุกี้ แล้วจุ่มไข่แล้วคีบกินหลายชิ้น อร่อยนัวข้นมาก
ฟาดเนื้อจนเอียนแล้ว ก็ต่อกันด้วยของหวาน ซึ่งของหวานที่นี่ก็เป็นที่เลื่องชื่อเช่นกัน โดยเฉพาะไอศครีม มาคราวนี้ก็พลาดไม่ได้
ลองมันทุกรสไปเลย (ยกเว้นมะม่วงเพราะหมด)
รสข้าวญี่ปุ่น รสชาติเหมือนนมถั่วเหลือง มันๆแอบจืดไปนิด ผมว่าธรรมดานะ
รสชาโคล ออกมันนม ได้รสสัมผัสสากที่ลิ้นและรสถ่านจางๆ
รสชาเขียว ข้นๆหวานๆกำลังดี รสชาเข้มไม่มากนัก อันนี้แจ่มสุด
เซอร์เบตบ๊วย รสเปรี้ยวและเค็มสดชื่นลงตัว เด็ดรองจากชาเขียว
ต่อด้วย ไดฟุกุ ที่ผมชื่นชอบ มี 4 รส จัดหมดเลยรสละลูก ไดฟุกุร้านนี้เด่นที่กลิ่นและเนื้อสัมผัสเด้งหนืด
ไส้ถั่วแดง รสชาติก็ไม่ว้าวมาก
ไส้คัสตาร์ด หอมหวานมากๆ คล้ายน้ำดอกไม้ในขนมไทยเลย
ไส้ชาเขียว ก็รสเข้มข้นและหอมพอๆกับคัสตาร์ด
ไส้สตรอเบอรี่ เปรี้ยวอมหวานกำลังพอเหมาะ และกลิ่นหอมเช่นกัน
ตัดเกรด
รสชาติอาหาร : *****
หมูอร่อยและคุณภาพดีสุดๆ เนื้อก็ดีแต่รสชาติยังไม่ถึง ที่เด็ดสุดก็เห็นจะเป็นน้ำซุปดำ แค่ลวกให้สุกพอเหมาะ จุ่มไข่สดๆ
ก็ได้รสชาติของชาบูขนาดแท้ ส่วนของหวานนั้น ไดฟุกุแป้งหนึบดี ไอศครีมรสชาเข้มดีมาก
อร่อยมากสุด : หมูสามชั้น
งานดีมากๆสำหรับ สามชั้นลวกของที่นี่ จุ่มน้ำซุปดำยิ่งอร่อยบรรลือโลกกันเลย
อร่อยน้อยสุด : ไอศครีมข้าวญี่ปุ่น
เหมือนกินไอศครีมนมถั่วเหลืองจืดๆ ไร้กลิ่นและเนื้อสัมผัสอื่น
บรรยากาศในร้าน : ****
นับว่ากว้างขวางพอดู ที่นั่งนั่งสบาย เข้าออกง่าย ไม่คับแคบ ติดตรงสเตชั่นน้ำจิ้มกับน้ำรีฟิลอยู่ตรงทางเดินตรงกลางร้านพอดี เลยดูวุ่นวายหน่อยๆ
การบริการ : *****
บริการดีสุดๆ จัดลำดับคิวได้ดี แนะนำเรื่องอาหารได้ละเอียดยิบ และเสิร์ฟอาหารครบถ้วนรวดเร็ว
ความหลากหลาย : **
ได้น้อยไปตามสภาพครับ เพราะร้านนี้เน้นชาบูล้วนๆ ยังดีที่มีของหวานหลากรสมาเสริม ลดความจำเจไปได้บ้าง
ราคา : ***1/2
ราคาพอจับต้องได้ แพงตามมาตรฐานร้านชาบูคุณภาพดี
การเข้าถึง : *****
ร้านอยู่ชั้น 3 ฝั่งด้านหน้าห้าง เพียงแค่ขึ้นบันไดเลื่อนไปก็เจอเลย
ความคุ้มค่า : *****
ด้วยราคานี้ แลกกับความอร่อยกลมกล่อมของชาบูญี่ปุ่นแท้ๆ คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปเป็นที่สุด เข้าใจเลยว่าทำไมคนถึงมากันเยอะ ขนาดว่า
มายังห้างที่ร้างๆอย่าง The Market นี้แล้วก็ยังมีคนต่อคิวเยอะอยู่ดี ใครที่จะตามมากินก็ เอาสักรอบบ่ายวันธรรมดาก็ดีครับ
ภาพรวม : ****1/2
ก่อนจากขอฝากเพจรีวิวของกระผมเอาไว้สักเล็กน้อย แวะเข้าชมกันได้ครับ ขอบพระคุณที่ติดตามอ่านกัน ขอให้แฮปปี้อิ่มพุงกันถ้วนหน้าครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น